ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 การรายงานจะจัดการซื้อซ้ำจากลูกค้าใหม่ไว้ในหมวดหมู่ "ใหม่"
นับจากนี้ไป เราจะจัดหมวดหมู่ Conversion ที่ตามมาของลูกค้าใหม่ซึ่งอยู่ในกรอบเวลา Conversion เป็น "ใหม่" หากคุณกำหนดการตั้งค่าการนับ Conversion ให้นับ "ทุก" Conversion หากคุณกำหนดการตั้งค่าการนับ Conversion ให้นับ "1" Conversion การรายงานจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการซื้อซ้ำทั้งหมดจะไม่รวมอยู่ในการรายงานตามปกติเช่นเดิม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดูการรายงานการได้ลูกค้าใหม่
เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ใช้แคมเปญ Performance Max หรือ Search เพื่อช่วยให้คุณได้ลูกค้าใหม่ คุณสามารถเลือกเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญให้เสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่ หรือเสนอราคาสําหรับลูกค้าใหม่เป็นการเฉพาะก็ได้
ตัวอย่างสถานการณ์ทั่วไปที่อาจพบและขั้นตอนการแก้ปัญหา หากคุณไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่
ในหน้านี้
ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดไว้
ในบางครั้ง แคมเปญ Performance Max หรือ Search ที่ใช้เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่อาจแสดงโฆษณาน้อยกว่าที่คาดไว้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าแคมเปญไม่ถูกต้อง ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 1 จาก 3: ยืนยันการตั้งค่าแคมเปญ
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแคมเปญแบบเลื่อนลงในหมวดหมู่เมนู
- คลิกแคมเปญ
- ในหน้า "แคมเปญ" ให้ค้นหาแคมเปญ Performance Max หรือ Search ที่ต้องการแก้ไข
- คลิกไอคอนรูปเฟือง ที่อยู่ข้างชื่อแคมเปญเพื่อเปิดแผง "การตั้งค่า"
- ขยายส่วน "การได้ลูกค้าใหม่" และตรวจสอบว่าเลือก "เสนอราคาสําหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น" ไว้แล้ว
- ขยายส่วน "การได้ลูกค้าใหม่" แล้วตรวจสอบว่า
- เลือกช่อง "ปรับการเสนอราคาเพื่อช่วยให้คุณได้รับลูกค้าใหม่" ไว้แล้ว
- หากคุณเลือก "เสนอราคาสําหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น" และกังวลว่าจะไม่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ เราขอแนะนําให้เลือก "เสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่ (แนะนํา)" แทน เนื่องจากตัวเลือกนี้จะไม่จํากัดการเข้าถึงของแคมเปญ
- หากคุณกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพหลังจากเลือก "เสนอราคาสําหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น" ให้พิจารณาเลือก "เสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่ (แนะนํา)" การเสนอราคาที่สูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่จะไม่จำกัดการเข้าถึงของแคมเปญ
ขั้นตอนที่ 2 จาก 3: ยืนยันการตั้งค่า Conversion
หมายเหตุ: หน้า "สรุป" อาจปรากฏแตกต่างกันไปตามวิธีตั้งค่า Conversion โปรดอ่านรายละเอียดต่อไปนี้ก่อนเริ่ม
- เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่จะอยู่ที่ด้านบนของหน้าหากมีการตั้งค่า Conversion การซื้อไว้
- เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่จะอยู่ที่ด้านล่างของหน้าหากไม่ได้ตั้งค่า Conversion การซื้อไว้
- เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่จะไม่ปรากฏในหน้า "Conversion" หากไม่ได้ตั้งค่าเป้าหมายอย่างถูกต้อง
- คลิกไอคอนเป้าหมาย จากแผงการนำทางด้านซ้าย
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
- คลิกสรุป
- สําหรับผู้ลงโฆษณาที่ไม่ใช่ร้านค้าปลีก ให้ยืนยันว่า Conversion การซื้อที่ระบุไว้อยู่ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา หรือมีการเพิ่มรายชื่อผู้ใช้สำหรับลูกค้าเดิมอยู่แล้ว คุณต้องใช้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งเหล่านี้เพื่อเปิดใช้เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่
- หากตั้งค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่อย่างถูกต้องแล้ว โปรดยืนยันเวลาที่เพิ่มเป้าหมายลงในแคมเปญ
- แคมเปญ Performance Max และ Search ต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ในการปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสําคัญที่ทําในแคมเปญ แคมเปญของคุณอาจใช้เวลาสักพักในการปรับให้เข้ากับการกำหนดเป้าหมายและการตั้งค่าการเพิ่มประสิทธิภาพใหม่นี้
- หากไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่า ให้ยืนยันว่าแคมเปญ Search หรือแคมเปญ Performance Max ได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 3 จาก 3: ตรวจสอบอัตราการจับคู่รายชื่อลูกค้า
เราขอแนะนําให้ผู้ลงโฆษณาใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเพื่อเสริมการตรวจหาอัตโนมัติและใช้พารามิเตอร์ลูกค้าใหม่เทียบกับลูกค้าเดิมในแท็กเครื่องมือวัด Conversion เพื่อให้เป้าหมาย NCA แม่นยํามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อตรวจหาลูกค้าใหม่เทียบกับลูกค้าเดิม
สําหรับผู้ลงโฆษณาที่เลือกใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งในแคมเปญ NCA การจับคู่ข้อมูลลูกค้าเป็นหนึ่งในวิธีการระบุรายชื่อลูกค้าโดยใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง เมื่อผู้ลงโฆษณาใช้การจับคู่ข้อมูลลูกค้า เราต้องการให้ผู้ลงโฆษณาระบุข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีอัตราการจับคู่สูง ซึ่งจะช่วยให้เราตรวจจับได้อย่างแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ว่าผู้ใช้เป็นผู้ใช้ใหม่หรือผู้ใช้เดิม อัตราการจับคู่หมายถึงเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ตรงกันในกลุ่มเป้าหมายตามการจับคู่ข้อมูลลูกค้าบุคคลที่หนึ่งกับผู้ใช้ Google หลังจากกรองผู้ใช้ที่เลือกไม่เข้าร่วมการแชร์ข้อมูลออกแล้ว คุณสามารถตรวจสอบอัตราการจับคู่ข้อมูลลูกค้าของผู้ลงโฆษณาได้โดยตรงในตัวจัดการกลุ่มเป้าหมายของ Google Ads หรือใน Google Ads Data Manager (โดยการเพิ่มในคอลัมน์อัตราการจับคู่)
หากต้องการเพิ่มอัตราการจับคู่ เราขอแนะนําให้ทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําในการระบุคีย์การจับคู่หลายรายการ ซึ่งรวมถึงอีเมลหลายรายการ (หากมี) หมายเลขโทรศัพท์ และรหัสไปรษณีย์
ลูกค้าที่กลับมาหรือลูกค้าที่ไม่ทราบมีสัดส่วนสูง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ระบบรายงานลูกค้าว่าไม่รู้จักหรือเป็นลูกค้าที่กลับมา และวิธีแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวได้ที่หัวข้อวัดแคมเปญเป้าหมายวงจรลูกค้า