การวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ช่วยให้คุณแก้ปัญหาข้อมูลออฟไลน์ที่นําเข้ามายัง Google ได้ หน้าการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์เป็นแหล่งที่ให้คุณดูข้อมูลสรุปเกี่ยวกับ Conversion และการปรับที่นำเข้าได้ในที่เดียว ในหน้าการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ คุณจะประเมินได้ว่าข้อมูลที่อัปโหลดมีข้อผิดพลาดที่ทําให้ไม่สามารถรายงาน Conversion ออฟไลน์หรือไม่ การวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ช่วยให้คุณตรวจสอบคุณภาพและประวัติของข้อมูลออฟไลน์ได้
ดูการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์
หากต้องการดูการวินิจฉัย Conversion ออฟไลน์ ให้ไปที่หน้าสรุป Conversion ของบัญชี
- ดูคอลัมน์สถานะของการกระทําที่ถือเป็น Conversion โดยใช้ข้อมูลออฟไลน์
- วางเมาส์เหนือคุณภาพของข้อมูลออฟไลน์ เคล็ดลับเครื่องมือจะปรากฏพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพของข้อมูล Conversion
- คลิกไปที่การวินิจฉัย
ในหน้านี้
ประโยชน์
- แหล่งข้อมูลรวม: คุณสามารถดูข้อมูลการวินิจฉัยของ Conversion และการปรับที่นําเข้าได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะนําเข้าด้วยวิธีใดก็ตาม
- แหล่งที่มาเดียว: คุณจะเห็น "คุณภาพของข้อมูล" โดยรวม 1 รายการที่มี "การแจ้งเตือน" แบบจัดลําดับความสําคัญเพื่อช่วยคุณระบุปัญหาและตำแหน่งที่ต้องแก้ไข
- ขั้นตอนการแก้ปัญหา: การแจ้งเตือนจะแสดงการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนเพื่อช่วยคุณแก้ไขปัญหา
- การตรวจสอบความถูกต้อง: ประวัติจะแสดงเหตุการณ์ที่คุณอัปโหลดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและจํานวนเหตุการณ์ที่มีข้อผิดพลาด
คุณภาพของข้อมูลและการแจ้งเตือน
คุณภาพของข้อมูลจะสรุปประสิทธิภาพของข้อมูลออฟไลน์ที่คุณป้อนไว้ในบัญชี ความมีประสิทธิภาพนี้วัดจากความถูกต้องของรูปแบบและความสามารถใช้งานข้อมูล ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องหมายความว่า เหตุการณ์ออฟไลน์ที่คุณป้อนได้รับการจัดรูปแบบอย่างถูกต้อง ส่วนข้อมูลที่ใช้งานได้หมายความว่า Google Ads ประมวลผลข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
อ่านวิธีตรวจสอบว่าข้อมูลมีรูปแบบที่ถูกต้องและใช้งานได้ในส่วนการปรับปรุงการวินิจฉัย Conversion ออฟไลน์ด้านล่าง
ประเภทคุณภาพของข้อมูล
คุณภาพของข้อมูลการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์มี 4 ประเภท ได้แก่ ดีมาก ดี ต้องดำเนินการ และไม่มีข้อมูลล่าสุด
ดีมาก
"ดีมาก" หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ Conversion ออฟไลน์อย่างน้อย 90% มีรูปแบบที่ถูกต้องและใช้งานได้ คุณจะไม่เห็นการแจ้งเตือนใดๆ ที่ระดับคุณภาพของข้อมูลนี้ เนื่องจากถือว่าการอัปโหลดได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเต็มที่แล้ว
ดี
"ดี" หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ Conversion ออฟไลน์ 70-90% มีรูปแบบที่ถูกต้องและใช้งานได้ คุณจะยังคงเห็นการแจ้งเตือนที่ระดับคุณภาพของข้อมูลนี้ แต่การอัปโหลดอยู่ในสถานะที่ดีและการแจ้งเตือนเป็นการปรับปรุงที่ไม่ส่งผลต่อการรายงาน Conversion มากนัก
ต้องดำเนินการ
"ต้องดำเนินการ" หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ Conversion ออฟไลน์ต่ำกว่า 70% มีรูปแบบที่ถูกต้องและใช้งานได้ คุณจะต้องตรวจสอบข้อมูลที่ป้อนเพื่อให้แน่ใจว่า Google Ads สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามข้อกําหนดการจัดรูปแบบ ระดับคุณภาพของข้อมูลนี้แสดงการแจ้งเตือนที่ควรมีการแก้ไขและอาจส่งผลต่อการรายงาน Conversion เป็นอย่างมาก
ไม่มีข้อมูลล่าสุด
"ไม่มีข้อมูลล่าสุด" หมายความว่าไม่ได้รับเหตุการณ์ใดๆ ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา หรืออาจหมายความว่าข้อมูลที่นำเข้ามีปัญหาอื่นก็ได้ ต้องดําเนินการกับข้อมูลนี้ทันทีเพื่อไม่ให้กระทบต่อการรายงาน Conversion และผลการเสนอราคา
การแจ้งเตือน
การแจ้งเตือนจะบอกให้คุณทราบหากข้อมูลที่นําเข้ามีข้อผิดพลาด และจัดกลุ่มตามประเภทของข้อผิดพลาด ข้อผิดพลาดแต่ละประเภทจะจัดเรียงตามปริมาณข้อมูลที่ได้รับผลกระทบจากมากไปน้อย
การแจ้งเตือนจะระบุว่าข้อมูลได้รับผลกระทบเนื่องจากมีรูปแบบไม่ถูกต้องหรือใช้งานไม่ได้ ข้อผิดพลาดที่เป็นไปได้มีทั้ง Conversion ซ้ำที่มีการกระทําเดียวกัน การกระทําที่ถือเป็น Conversion ซึ่งไม่เป็นไปตามนโยบาย หรือการกระทําที่ถือเป็น Conversion ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ประวัติ
แผงประวัติจะแสดงเหตุการณ์ที่อัปโหลดและเหตุการณ์ที่มีข้อผิดพลาดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณสามารถตั้งค่าให้แผงประวัติแสดงแนวโน้มตามวันหรือตามงานได้
ในการตั้งค่า "ตามวัน" คุณจะเห็นแนวโน้มคุณภาพของข้อมูลทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพร้อมเปอร์เซ็นต์ข้อผิดพลาด และจะระบุความผิดปกติและปัญหาที่อาจส่งผลต่อการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่า "ตามวัน" จะแสดงประวัติแนวโน้มในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ในการตั้งค่า "ตามงาน" คุณจะเห็นคุณภาพของข้อมูลและข้อผิดพลาดของแต่ละงาน งานหมายถึงกลุ่มเหตุการณ์ Conversion ออฟไลน์อย่างน้อย 1 รายการที่อัปโหลดไปยัง Google Ads และแสดงโดยเรียงจากรายการล่าสุดที่ด้านขวาไปรายการเก่าสุดที่ด้านซ้าย การตั้งค่า "ตามงาน" สามารถแสดงงาน 7 รายการล่าสุดที่คุณอัปโหลดลงในบัญชี
ปรับปรุงการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์
ประสิทธิภาพของการวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูล หากไม่มีข้อมูลคุณภาพสูง การวินิจฉัยข้อมูลออฟไลน์ก็อาจไม่สําเร็จ ซึ่งจะไม่มีประโยชน์สำหรับใช้วางแผนระยะยาว ข้อมูลออฟไลน์วัดจากความถูกต้องของรูปแบบ ความสามารถใช้งานข้อมูล และการปฏิบัติตามมาตรการด้านความเป็นส่วนตัว
รูปแบบถูกต้อง
ข้อมูลออฟไลน์ที่มีรูปแบบถูกต้องหมายความว่าคุณจัดรูปแบบข้อมูลได้ถูกต้องเมื่อป้อนลงในบัญชี ตัวอย่างเช่น คุณต้องแฮชข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้เมื่อป้อนข้อมูล หากข้อมูลที่เพิ่มมีรูปแบบไม่ถูกต้อง Google จะไม่ใช้ข้อมูลดังกล่าว
ใช้งานได้
ข้อมูลออฟไลน์ที่ใช้งานได้หมายความว่า Google Ads สามารถประมวลผลข้อมูลที่คุณป้อนได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น คุณต้องตรวจสอบว่าระบบสามารถติดตามเหตุการณ์ออฟไลน์ที่ป้อนได้อย่างถูกต้องเพื่อให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำ
มาตรการด้านความเป็นส่วนตัว
ตรวจสอบว่าข้อมูลที่ป้อนเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google Ads ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้แอป ข้อมูลออฟไลน์ต้องเป็นไปตามนโยบายความโปร่งใสในการติดตามแอป