เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพ Performance Max เพื่อสร้างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า (Lead Generation)

Performance Max ใช้ AI ของ Google เพื่อช่วยเพิ่ม Conversion และมูลค่าผ่านการเสนอราคา การกําหนดเป้าหมาย ครีเอทีฟโฆษณา และการระบุแหล่งที่มา แคมเปญประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทํางานกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดและช่องทางสื่อที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอแนะนำให้ใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ในการตั้งค่าแคมเปญ Performance Max เพื่อสร้างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้ประสบความสําเร็จและได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

บทความนี้จะอธิบายแนวทางปฏิบัติแนะนําสําหรับแคมเปญ Performance Max เพื่อสร้างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

ดูแนวทางปฏิบัติแนะนําเพิ่มเติมได้จากบทความต่อไปนี้


การตั้งค่าแคมเปญ

  • ระยะเวลาแคมเปญ: ใช้งานแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์เพื่อให้ AI ของ Google เรียนรู้และดูแลจัดการข้อมูลมากพอที่จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
  • การเลือกเป้าหมาย Conversion: ใช้เป้าหมาย Conversion การสร้างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า เช่น "รายชื่อติดต่อ" "ส่งข้อมูลในโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม" "นัดหมาย" "ลงชื่อสมัครใช้" "ขอการเสนอราคา" "โอกาสในการขายที่นำเข้า" "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์" หรือ "ผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้า" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันกิจกรรมที่ไม่ถูกต้อง เป้าหมาย Conversion เป็นหนึ่งในสัญญาณที่เราใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันของเรา

การเสนอราคาและการทำงานอัตโนมัติ

  • การเสนอราคาตามมูลค่า: หากคุณกําลังติดตามมูลค่าโอกาสในการขาย ให้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาตามมูลค่าเพื่อประเมินมูลค่า Conversion ออฟไลน์และออนไลน์อย่างถูกต้อง และเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสูงสุด
หมายเหตุ: เมื่อใช้ OCI ให้นําเข้า Conversion ที่มีการกำหนดมูลค่าและใช้ tROAS ที่สัมพันธ์กัน
  • การเสนอราคาตาม Conversion: หากคุณให้ความสําคัญกับโอกาสในการขายต่างๆ เท่ากัน ให้ใช้ Smart Bidding ที่อิงตาม Conversion เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้สูงสุด
    • เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดจะเพิ่มจํานวน Conversion ให้มากที่สุดภายในงบประมาณที่ระบุ
    • เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุดด้วย CPA เป้าหมายจะทำให้ได้ Conversion มากที่สุดขณะที่คง CPA เป้าหมายไว้
  • การกําหนดเป้าหมาย: หากคุณใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบเพิ่มจํานวน Conversion สูงสุดหรือ CPA เป้าหมาย (tCPA) ให้เลือกการกระทําที่ถือเป็น Conversion ซึ่งอยู่ท้ายสุดของ Funnel และมีความถี่เพียงพอ เช่น ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์หรือผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้า จากนั้นตั้งค่า tCPA เป็นค่าที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับจํานวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าประเภทนี้ ทําเครื่องหมาย Conversion ที่สร้างให้เป้าหมายหลักเป็น "หลัก" และ Conversion จากผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอื่นๆ (เป้าหมาย) เป็น "การสังเกตการณ์เท่านั้น"
  • กฎมูลค่า Conversion: กฎมูลค่า Conversion ช่วยให้คุณกำหนดมูลค่า Conversion ได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณปรับมูลค่าของเหตุการณ์ Conversion ได้แบบเรียลไทม์ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ อุปกรณ์ และกลุ่มเป้าหมายในการเสนอราคาตามเวลาจริงในการประมูล
  • Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับโอกาสในการขาย: เราขอแนะนําให้ใช้ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับโอกาสในการขาย (ECL) ECL ช่วยปรับปรุงคุณภาพโอกาสในการขายด้วยการนําเข้าข้อมูล Conversion ที่ถูกต้องจากเหตุการณ์ออฟไลน์ไปยังบัญชีของคุณ จากนั้นคุณจะสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญผ่านการทำงานอัตโนมัติได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขายและโซลูชันการนําเข้า Conversion ออฟไลน์อื่นๆ

ครีเอทีฟโฆษณา

  • ใช้ครีเอทีฟโฆษณาใหม่ๆ: ครีเอทีฟโฆษณาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และให้คุณปรับแต่งแคมเปญเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือข้อเสนอใหม่ๆ เน้นที่การให้เนื้อหาที่ไม่ซ้ำกันและใช้เนื้อหาใหม่เป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
  • เชื่อมโยงชิ้นงานกับสัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย: เพิ่มกลุ่มชิ้นงานอีกหากต้องการปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายอื่น คุณอาจสังเกตเห็นว่าสัญญาณของกลุ่มเป้าหมายไม่จํากัดการกําหนดเป้าหมายและกลุ่มชิ้นงานจะแสดงโดยไม่จำกัดอยู่แค่กลุ่มเป้าหมาย อย่าลืมให้เนื้อหาไม่ซ้ำกันที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและเชื่อมโยงชิ้นงานกับสัญญาณกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • เพิ่มชิ้นงานอีก: เราขอแนะนําให้เพิ่มชิ้นงานใหม่ๆ หรืออัปเดตชิ้นงานที่มีอยู่เมื่อข้อความทางการตลาดเปลี่ยนแปลงไป เพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมีชิ้นงานมาก ระบบจะยิ่งสร้างรูปแบบโฆษณาที่เป็นไปได้หลากหลายมากขึ้นสําหรับช่องทางและผู้ใช้ต่างๆ

โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • ข้อมูล: ขอเฉพาะข้อมูลที่จําเป็นจริงๆ เท่านั้น คําถามเพิ่มเติมจะลดอัตราการกรอกแบบฟอร์มจนเสร็จ ซึ่งก็จะทำให้ CPA เพิ่มขึ้น
  • CTA: คำกระตุ้นให้ดำเนินการ (CTA) ควรนําผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์เพื่อกรอกแบบฟอร์ม หรือให้ผู้ใช้กรอกแบบฟอร์มจากรูปแบบโฆษณานั้น (Discovery, YouTube, ส่วนขยายสำหรับ Search) โดยตรง
  • คำถาม: ใช้คำถามวัดคุณสมบัติและอุปสรรค (เช่น reCAPTCHA) ภายในโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม หากคุณใช้โฆษณาแบบกรอกฟอร์มของ Google ให้เลือกคำถามวัดคุณสมบัติเพื่อช่วยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าก่อนส่งแบบฟอร์ม
หมายเหตุ: วิธีนี้จะช่วยเพิ่มคุณภาพของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในระยะสั้น แต่อาจทําให้ต้นทุนต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า (CPL) เพิ่มขึ้น

การรายงาน

  • คุณภาพของโฆษณา: คุณดูคุณภาพของโฆษณาได้โดยคลิกโฆษณาในเมนูแบบเลื่อนลง "แคมเปญ" จากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย แล้วดูที่คอลัมน์ "คุณภาพของโฆษณา" เมตริกมีตั้งแต่ "แย่" ไปจนถึง "ยอดเยี่ยม" ใช้ตัวบ่งชี้ "คุณภาพของโฆษณา" เพื่อดูว่ากลุ่มชิ้นงานพร้อมรับความสำเร็จหรือไม่

สัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย

  • สัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย: Performance Max ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google ใช้รายการกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสัญญาณเพื่อให้ AI ของ Google เรียนรู้และปรับปรุงผลลัพธ์ของแคมเปญได้เร็วขึ้น ใช้รายการรีมาร์เก็ตติ้ง ความตั้งใจที่กำหนดเอง การจับคู่ข้อมูลลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันเป็นสัญญาณ
  • ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่มีอยู่: ใช้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่มีอยู่และเร่งการทำงานอัตโนมัติให้เร็วขึ้นด้วยการจับคู่ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจากบุคคลที่หนึ่ง รายการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนซึ่งทำให้ AI ของ Google รู้ว่าลูกค้าเดิมเป็นใครและจะเข้าถึงลูกค้าเหล่านั้นพร้อมลูกค้าที่คล้ายกันได้อย่างไร นอกจากนี้ คุณยังใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าในการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันโดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาลูกค้าที่คล้ายกับลูกค้าเดิมได้อีกด้วย

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
8154245933442571888
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false