เกี่ยวกับ "เปลี่ยนไปใช้ DDA" (การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล)

ใช้หน้า "เปลี่ยนไปใช้ DDA" ในรายงานการระบุแหล่งที่มาใน Google Ads เพื่อเปลี่ยนการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่มีสิทธิ์จากรูปแบบการระบุแหล่งที่มาซึ่งอิงตามกฎ (เช่น "คลิกสุดท้าย") ไปใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลอย่างรวดเร็ว

เกี่ยวกับการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล

การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลจะให้เครดิตสําหรับ Conversion ตามวิธีที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับโฆษณาต่างๆ และตัดสินใจเป็นลูกค้า โดยจะใช้ข้อมูลจากบัญชีเมื่อเป็นไปได้ เพื่อตัดสินว่าคีย์เวิร์ด โฆษณา และแคมเปญใดมีผลต่อเป้าหมายธุรกิจมากที่สุด การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลพิจารณาจากเว็บไซต์ การเข้าชมร้านค้า และ Conversion ของ Google Analytics ซึ่งมาจากโฆษณา Search (รวมถึง Shopping) โฆษณา YouTube, โฆษณา Display และโฆษณา Demand Gen

หมายเหตุ: การรองรับการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลสําหรับแคมเปญ Demand Gen จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ประโยชน์

เมื่อเปลี่ยนจากรูปแบบที่อิงตามกฎไปใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล คุณจะทําสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ดูว่าคีย์เวิร์ด โฆษณา กลุ่มโฆษณา และแคมเปญใดมีบทบาทสำคัญที่สุดในการช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายธุรกิจ
  • เพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอโดยอิงตามข้อมูลด้านประสิทธิภาพของบัญชีนั้นๆ

เปลี่ยนการกระทําที่ถือเป็น Conversion โดยอัตโนมัติ

ระบบอาจเลือกการกระทําที่ถือเป็น Conversion บางรายการให้เปลี่ยนไปใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลโดยอัตโนมัติ หากมีสิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบในบัญชี Google Ads คุณจะได้รับอีเมลแจ้งก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง 30 วัน คุณจะปล่อยให้การเปลี่ยนเกิดขึ้นตามกําหนดเวลาโดยไม่ดำเนินการใดๆ หรือจะไปที่หน้า "เปลี่ยนไปใช้ DDA" เพื่อเลือกไม่ใช้หรือตั้งค่าให้การเปลี่ยนเกิดเร็วขึ้นก็ได้

หมายเหตุ: หน้า "เปลี่ยนไปใช้ DDA" มีเฉพาะการกระทำที่ถือเป็น Conversion ซึ่งการระบุแหล่งที่มาใน Google Ads รองรับอยู่เท่านั้นในปัจจุบัน

วิธีการ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงการวัดในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกการระบุแหล่งที่มา
  4. เลือกแท็บเปลี่ยนไปใช้ DDA ที่ด้านบนของหน้า
  5. หากต้องการเปลี่ยนรูปแบบการระบุแหล่งที่มาของการกระทําที่ถือเป็น Conversion หนึ่งๆ ให้คลิกเปลี่ยนเลยในแถวนั้น
  6. วิธีเปลี่ยนรูปแบบการระบุแหล่งที่มา
    1. สำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion หลายรายการพร้อมกัน ให้เลือกช่องที่อยู่หน้าการกระทําที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการ แล้วเลือกเปลี่ยนรูปแบบการระบุแหล่งที่มาเป็น DDA จากเมนูแบบเลื่อนลง "แก้ไข" ที่ด้านบนของตาราง
    2. สำหรับการกระทําที่ถือเป็น Conversion ทั้งหมดที่มีสิทธิ์ ให้เลือกช่องที่อยู่หน้าส่วนหัวของคอลัมน์ "การกระทำที่ถือเป็น Conversion" แล้วเลือกเปลี่ยนรูปแบบการระบุแหล่งที่มาเป็น DDA จากเมนูแบบเลื่อนลง "แก้ไข" ที่ด้านบนของตาราง
  7. อ่านป๊อปอัปการยืนยัน แล้วคลิกเสร็จสิ้น

หากต้องการจัดการประสิทธิภาพของบัญชีในเชิงรุก ให้อ่านแนวทางปฏิบัติแนะนำในการจัดการการเปลี่ยนรูปแบบการระบุแหล่งที่มา


สถานะการมีสิทธิ์

คอลัมน์สถานะ "การมีสิทธิ์ใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล (DDA)" แสดงให้เห็นว่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการมีสิทธิ์ใช้รูปแบบที่อิงตามข้อมูลหรือไม่

การกระทําที่ถือเป็น Conversion บางประเภทต้องมีการโต้ตอบกับโฆษณา 3,000 ครั้งและ Conversion 300 รายการในช่วง 30 วันจึงจะมีสิทธิ์ใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล การกระทําที่ถือเป็น Conversion เหล่านี้ต้องสร้างการโต้ตอบกับโฆษณา 2,000 ครั้งและ Conversion 200 รายการทุก 30 วันเพื่อให้มีสิทธิ์ใช้งานต่อ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
3470026286713528375
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false