ตรวจสอบประสิทธิภาพของการทดสอบวิดีโอ

หลังจากที่สร้างการทดสอบวิดีโอแล้ว คุณจะติดตามประสิทธิภาพใน Google Ads และค้นหาโฆษณาวิดีโอที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในกลุ่มทดสอบได้ การทําความเข้าใจว่าโฆษณาใดมีประสิทธิภาพดีกว่าในการทดสอบจะช่วยให้คุณตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบว่าควรใช้และจัดสรรงบประมาณให้กับแคมเปญใดมากกว่ากัน

บทความนี้อธิบายวิธีตรวจสอบและทําความเข้าใจประสิทธิภาพของการทดสอบวิดีโอ

 


วิธีการ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. ในหมวดหมู่เมนู ให้คลิกแคมเปญในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกการทดสอบ แล้วคลิกการทดสอบวิดีโอ
  4. เลือกการทดสอบเพื่อดูผลลัพธ์ ขณะอยู่ระหว่างดําเนินการ (เป็นแนวทาง) หรือเมื่อเสร็จสมบูรณ์ (สรุปได้)

ผลลัพธ์ที่เป็นแนวทางเทียบกับผลลัพธ์ที่สรุปได้

คุณสามารถดูผู้ชนะที่คาดไว้ของกลุ่มทดสอบในขณะที่การทดสอบวิดีโอยังทำงานและรวบรวมข้อมูลอยู่ เพื่อให้ทราบผลลัพธ์ที่เป็นแนวทางก่อน เราขอแนะนําให้รอจนกระทั่งการทดสอบเสร็จสมบูรณ์และให้ผลลัพธ์ที่สรุปได้ แต่หากคุณไม่มีเวลาและพอใจกับผลลัพธ์ที่เป็นแนวทาง ก็เริ่มดูผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ที่การทดสอบถึงเกณฑ์ความเชื่อมั่น 70% นอกจากนี้ คุณยังสามารถรอจนกระทั่งการทดสอบมีระดับความเชื่อมั่นถึง 80% (ยังถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่เป็นแนวทาง) หรือรอจนกระทั่งมีระดับความเชื่อมั่นถึง 95% (ผลลัพธ์ในขั้นตอนนี้ถือเป็นผลลัพธ์ที่สรุปได้)

เกณฑ์ความเชื่อมั่น 70% หรือที่เรียกว่า "ช่วงความเชื่อมั่น" หมายความว่าหากทําการทดสอบนี้ซ้ำ คุณจะได้ผลลัพธ์เดียวกันนี้ 70% ของจำนวนครั้งทั้งหมด หากคุณเลือกที่จะรอผลลัพธ์ที่สรุปได้ ช่วงความเชื่อมั่นจะอยู่ที่ 95%

 


การตีความผลลัพธ์

  • เมื่อประเมินผลลัพธ์ ให้เน้นดูข้อมูลสีเขียวและสีแดงสําหรับเมตริกความสําเร็จ รวมถึงเมตริกอื่นๆ ในตารางการรายงาน เนื่องจากจะช่วยให้คุณพบความแตกต่างด้านประสิทธิภาพอย่างมีนัยสําคัญระหว่างกลุ่มทดสอบต่างๆ
  • หากต้องการเริ่มคํานวณความแตกต่างระหว่างกลุ่มทดสอบกับกลุ่มควบคุมสําหรับเมตริก Conversion แต่ละรายการ (ยกเว้น Brand Lift แบบสัมบูรณ์) คุณต้องมี Conversion อย่างน้อย 100 รายการ ส่วนเมตริกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคลิกหรือการดู ไม่มีการกำหนดจํานวนการกระทำขั้นต่ำ
เมตริก เกณฑ์การกระทำ ความหมาย
อัตราการคลิกผ่าน (CTR) ไม่มีข้อกำหนด กลุ่มที่มีอัตราการคลิกผ่านสูงสุด
อัตรา Conversion Conversion 100 รายการขึ้นไป กลุ่มที่มีอัตรา Conversion สูงสุด
Conversion Conversion 100 รายการขึ้นไป กลุ่มที่มีจํานวน Conversion สูงสุด
ต้นทุนต่อคลิก (CPC) ไม่มีข้อกำหนด กลุ่มที่มีต้นทุนต่อคลิกต่ำที่สุด
ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM) ไม่มีข้อกำหนด กลุ่มที่มีต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้งต่ำที่สุด
ต้นทุนต่อการดู (CPV) ไม่มีข้อกำหนด กลุ่มที่มีต้นทุนต่อการดูต่ำที่สุด
อัตราการดูวิดีโอ ไม่มีข้อกำหนด กลุ่มที่มีอัตราการดูสูงสุด

สําหรับทุกเมตริก

  • ทันทีที่ความแตกต่างจากกลุ่มควบคุมมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่เลือก (70%, 80% หรือ 95%) คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ ในกรณีที่คุณมี
    • "ประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน": ที่ระดับความเชื่อมั่นนี้ ยังไม่มีหลักฐานทางสถิติว่ากลุ่มทดสอบจะมีประสิทธิภาพดีกว่าหรือแย่กว่ากลุ่มควบคุมสําหรับเมตริกนี้
    • ค่าสีเขียว: ที่ระดับความเชื่อมั่นนี้ มีหลักฐานทางสถิติว่ากลุ่มทดสอบมีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มควบคุมสำหรับเมตริกนี้
    • ค่าสีแดง: ที่ระดับความเชื่อมั่นนี้ มีหลักฐานทางสถิติว่ากลุ่มทดสอบมีประสิทธิภาพแย่กว่ากลุ่มควบคุมสำหรับเมตริกนี้
  • สําหรับเมตริก Conversion: หากคุณเลือกเมตริก Conversion และแคมเปญในการทดสอบไม่ได้รับ Conversion อย่างน้อย 100 รายการ ข้อความเกี่ยวกับ "การรวบรวมข้อมูล" (หากการทดสอบยังทํางานอยู่) หรือ "ข้อมูลไม่เพียงพอ" (หากการทดสอบสิ้นสุดแล้ว) จะปรากฏ
  • หมายเหตุ: หากมีการแบ่งงบประมาณให้กับกลุ่มทดสอบเท่าๆ กัน แต่แคมเปญหนึ่งมีการแสดงผลมากกว่าอีกแคมเปญ ก็หมายความว่าแคมเปญทั้งสองไม่ได้เข้าร่วมในการประมูลเดียวกันและชนะประมูลด้วยราคาเสนอต่างกัน แคมเปญที่ชนะการประมูลมากกว่าด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าจะมีการแสดงผลมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้การทดสอบจะช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้ในกลุ่มทดสอบหนึ่งจะไม่ทับซ้อนกับผู้ใช้ในอีกกลุ่มทดสอบเท่านั้น

 


แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • นำผลลัพธ์ที่ได้ไปดำเนินการจริง: หากพบผลลัพธ์ที่มีนัยสําคัญทางสถิติในกลุ่มทดสอบหนึ่ง คุณอาจเพิ่มผลลัพธ์ให้สูงสุดได้ด้วยการหยุดกลุ่มทดสอบอื่นไว้ชั่วคราว แล้วเปลี่ยนมาใช้งบประมาณทั้งหมดกับกลุ่มทดสอบที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่า
  • ต่อยอดจากสิ่งที่เรียนรู้มา: เช่น หากคุณพบว่าชิ้นงานวิดีโอที่ปรับแต่งให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ มีประสิทธิภาพดีกว่าชิ้นงานทั่วไปซึ่งแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มเหมือนๆ กัน ให้ใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนาชิ้นงานวิดีโอในอนาคต
  • ผลลัพธ์ที่ยังไม่ได้สรุปก็อาจเป็นข้อมูลเชิงลึกได้: เช่น คุณอาจมีครีเอทีฟโฆษณา 2 รายการที่มีประสิทธิภาพเท่ากันในการทดสอบ แต่ครีเอทีฟโฆษณารายการหนึ่งมีค่าใช้จ่ายในการผลิตน้อยกว่าอีกรายการ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10745422625647579585
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false