ระบุผลลัพธ์ของแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ที่ใช้ Smart Bidding

ขณะประเมินประสิทธิภาพโดยรวม โปรดอย่าเน้นที่กลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มหรือช่วงเวลาสั้นๆ (เช่น ประสิทธิภาพในวันใดวันหนึ่ง ยอดที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น) มากเกินไป โดยเฉพาะหากคุณกําหนดเป้าหมายที่ระดับแคมเปญ  ตรวจสอบว่าสามารถบรรลุ CPA เป้าหมายหรือ ROAS เป้าหมายได้จริงตามข้อมูลเฉลี่ยที่ผ่านมาของแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์

ตัวอย่าง

ในแผนภูมิด้านล่าง กลุ่มโฆษณา C มีประสิทธิภาพสูงกว่า CPA เป้าหมาย ในขณะที่กลุ่มโฆษณา A และ B มีประสิทธิภาพตาม CPA เป้าหมาย เนื่องจากแคมเปญนี้บรรลุเป้าหมาย คุณจึงไม่ควรหยุดกลุ่มโฆษณา C ชั่วคราว เพราะหากหยุดกลุ่มโฆษณา C ไว้ชั่วคราว ประสิทธิภาพโดยรวมจะลดลง Smart Bidding จะเรียนรู้คุณลักษณะเด่นของกลุ่มโฆษณา C เพื่อช่วยให้แคมเปญได้ CPA ที่สูงกว่าเป้าหมายในราคาเสนอที่ลดลง

คุณสามารถรวมกลุ่มโฆษณา C กับกลุ่มโฆษณาอื่นๆ เพื่อให้ Smart Bidding เพิ่มประสิทธิภาพตามการเข้าชมได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถจ่ายสําหรับ Conversion ได้เมื่อใช้แคมเปญ CPA เป้าหมายที่มีสิทธิ์

ความแม่นยําและปริมาณ Conversion ของ Smart Bidding

Smart Bidding มีแนวโน้มที่จะให้ประสิทธิภาพตาม CPA เป้าหมายหรือ ROAS เป้าหมาย หากคุณประเมินจากระยะเวลาที่มีปริมาณ Conversion มากกว่า แผนภูมิด้านล่างแสดงความแม่นยําที่คาดการณ์ โดยมีปริมาณ Conversion ตามระยะเวลาหรือลำดับชั้นของแคมเปญที่ประเมิน

 

ตัวอย่าง

หากกลุ่มโฆษณา 1 กลุ่มจากแคมเปญขนาดใหญ่มี Conversion เพียง 15 ครั้งในช่วงเวลาที่วิเคราะห์ CPA รายวันของกลุ่มโฆษณานั้นก็อาจจะไม่แน่นอน แต่แคมเปญโดยรวมอาจมี CPA ตรงตามเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายวัน แผนภูมินี้ไม่สามารถใช้เปรียบเทียบกับระยะเวลาที่นานกว่านี้ (เช่น ตลอดเวลาที่เผยแพร่แคมเปญหรือเป็นเวลาหลายเดือน)

คุณควรเน้นที่แนวโน้มประสิทธิภาพแคมเปญโดยรวมมากกว่ากลุ่มโฆษณากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือช่วงวันที่สั้นๆ ที่มีความไม่แน่นอนสูง เพราะอัลกอริทึมได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองและบรรลุเป้าหมายของแต่ละกลุ่มโฆษณาในระยะยาว และเนื่องจากการประมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประสิทธิภาพของ CPA และ ROAS ก็อาจผันผวนได้

Smart Bidding และขนาดของแคมเปญ c scale

อัลกอริทึมการเสนอราคาแบบเป็นโปรแกรมของเราออกแบบมาเพื่อให้แคมเปญได้รับปริมาณ Conversion มากที่สุดตามเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ เป้าหมายด้าน CPA (ซึ่งก็คือ CPA เป้าหมาย) และเป้าหมายด้าน ROAS (ซึ่งก็คือ ROAS เป้าหมาย) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในตลาด (เช่น จากพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป) ปริมาณ Conversion และค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพื่อให้อัลกอริทึมการเสนอราคาแบบเป็นโปรแกรมของเราสร้างผลลัพธ์ได้ตามเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ คุณสามารถปรับขนาดแคมเปญได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

• เพิ่มเป้าหมายด้าน CPA หรือลดเป้าหมายด้าน ROAS: วิธีนี้จะช่วยให้อัลกอริทึมเสนอราคาที่สูงขึ้นในการประมูลแต่ละครั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลที่จะทำให้เกิด Conversion
• ขยายการกําหนดเป้าหมาย: อัลกอริทึมจะสามารถเพิ่ม Conversion ได้หากมีการแสดงผลให้เสนอราคามากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของอัตรา Conversion หรือราคาเสนอจะส่งผลต่อขนาดของแคมเปญอย่างไร

โดยทั่วไปแล้วการเสนอราคาและขนาดของแคมเปญ รวมถึงอัตรา Conversion และขนาดของแคมเปญมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก ราคาเสนอหรืออัตรา Conversion จะสูงขึ้นในแคมเปญที่มีขนาดใหญ่กว่า และจะมีอัตราต่ำลงในแคมเปญที่มีขนาดเล็กกว่า 

การเปลี่ยนจาก CPA เป้าหมายหรือ ROAS เป้าหมายไปใช้การเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดจะไม่เพิ่มขนาดของแคมเปญหากมีเป้าหมายประสิทธิภาพแบบเดิม เช่น การเปลี่ยนจาก CPA เป้าหมายไปใช้การเพิ่มจํานวน Conversion สูงสุดจะไม่เพิ่มขนาดแคมเปญหากมี CPA เท่าเดิม ทั้งนี้คุณอาจได้ปริมาณ Conversion สูงขึ้น แต่ CPA จะสูงตามไปด้วยและมีประสิทธิภาพน้อยลง คุณสามารถบรรลุเป้าหมายเดิมได้โดยคง CPA เป้าหมายไว้และเพิ่มเป้าหมายด้าน CPA แทน