การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ

เรียนรู้ว่าการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับช่วยรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยได้อย่างไร

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับเป็นฟีเจอร์ของ Google Ads Data Manager ที่ช่วยให้นักการตลาดใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งสำหรับการจับคู่โดยใช้การประมวลผลข้อมูลที่เป็นความลับ บทความนี้จะอธิบายวัตถุประสงค์ของการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับและวิธีใช้ฟีเจอร์นี้

บทความนี้ประกอบด้วย

เกี่ยวกับการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับเป็นฟีเจอร์ของ Google Ads Data Manager ที่ช่วยให้ลูกค้าจับคู่ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งแบบออฟไลน์กับข้อมูลของ Google ได้โดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลที่เป็นความลับ ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อนำความโปร่งใสที่เพิ่มเข้ามาสำหรับผู้ลงโฆษณาเข้ามาไว้ในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ Google ใช้เพื่อรวบรวมและประมวลผลข้อมูล

Google จะรวบรวม ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลตามข้อกำหนดในการให้บริการของเราเสมอ การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าใจคุณสมบัติในการจัดการข้อมูลของ Google

วิธีการทำงานของการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับเป็นฟีเจอร์การประมวลผลข้อมูลที่ระบุส่วนที่ทับซ้อนกันระหว่างรายการกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างและอัปโหลดกับข้อมูลของ Google โดยใช้สภาพแวดล้อมการดำเนินการที่เชื่อถือได้ (TEE) การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับจะนำตัวระบุที่ไม่ได้ใช้ออกจากรายการกลุ่มเป้าหมายที่อัปโหลดไปยังโซลูชันกลุ่มเป้าหมายและการวัดผลของ Google ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นโดยที่ผู้ลงโฆษณาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในฐานะผู้ลงโฆษณา คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพื่อที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ หากคุณใช้ข้อมูลของคุณกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าผ่าน "การเชื่อมต่อโดยตรง" ใน Google Ads Data Manager หรือตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย ระบบจะประมวลผลข้อมูลของคุณโดยใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับโดยอัตโนมัติ

ระบบจะจับคู่ข้อมูลโดยใช้กระบวนการเดียวกันกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าโดยทั่วไป: อินพุตคือไฟล์ข้อมูลรายชื่อลูกค้าที่คุณสร้างโดยใช้ข้อมูลติดต่อที่ลูกค้าให้ไว้ และเอาต์พุตของการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับคือรายชื่อผู้ใช้ Google ที่ตรงกันในรูปแบบของรายการกลุ่มเป้าหมายในบัญชี Google Ads คุณสามารถใช้รายชื่อนี้กับแคมเปญได้ตามต้องการสำหรับกรณีการใช้งานต่างๆ เช่น เข้าถึงลูกค้าใหม่ ดึงดูดให้ลูกค้าเหล่านี้กลับมามีส่วนร่วม หรือค้นหาลูกค้าใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกลุ่มเดิมทั้งใน Search, Shopping, Gmail, YouTube และ Display

การรองรับการเข้ารหัสที่ไม่บังคับ

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับให้การรับประกันตามมาตรการด้านเทคนิคที่ตรวจสอบได้สำหรับการจำกัดข้อมูลขณะประมวลผลข้อมูล นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อการรับประกันเพิ่มเติมในการควบคุมการเข้าถึงและการประมวลผล การเข้ารหัสข้อมูลช่วยให้คุณระบุเงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลได้ รวมถึงการรับประกันตามมาตรการด้านเทคนิคว่าระบบสามารถใช้เฉพาะการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับเพื่อประมวลผลข้อมูลเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องทำการเข้ารหัสเพื่อใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ หากองค์กรกำหนดให้ใช้การเข้ารหัส โปรดดูคู่มือการตั้งค่าการเข้ารหัสเพื่อเรียนรู้วิธีเตรียมสภาพแวดล้อมและเข้ารหัสข้อมูล

คำถามที่พบบ่อย

ฉันจะใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับได้ที่ไหนใน Google Ads

ปัจจุบันการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับพร้อมให้บริการสําหรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเมื่อคุณใช้ตัวเลือก "การเชื่อมต่อโดยตรง" เพื่อเชื่อมต่อแหล่งข้อมูล

แหล่งข้อมูล Google Ads Data Manager ใดบ้างที่รองรับการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ

แหล่งข้อมูลทั้งหมดที่ Ads Data Manager รองรับสําหรับการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับที่รองรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า หากต้องการดูรายการทั้งหมด โปรดไปที่หน้าแหล่งข้อมูลที่รองรับ

ฉันจะทราบได้อย่างไรว่ามีการใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับอยู่หรือไม่

เมื่อเห็นป้ายการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ หมายความว่าระบบจะประมวลผลข้อมูลโดยใช้ Confidential Computing หากไม่เห็นป้าย แสดงว่าการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับอาจไม่พร้อมใช้งานสำหรับกรณีการใช้งานที่คุณเลือก

When you see this badge, it means that your data will be  processed using confidential matching.

หากต้องการตรวจสอบว่ามีการใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับกับการเชื่อมต่อหรือไม่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อค้นหาป้ายการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ

การจับคู่ข้อมูลลูกค้า

จากหน้า "ตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย"

  1. ใน Google Ads ให้เลือกไอคอนเครื่องมือ ไอคอนเครื่องมือ ในแผงการนำทางด้านซ้าย
  2. เลือกคลังที่ใช้ร่วมกัน แล้วคลิกตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย
  3. เลือกชื่อกลุ่มเป้าหมายในส่วน "กลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ"
  4. คลิกไอคอนเมนู 3 จุด 3 dot icon แล้วเลือกแก้ไขรายการ
  5. คลิกจัดการในส่วน "การเชื่อมต่อ"
  6. ในส่วน "จัดการการเชื่อมต่อ" หากมีการใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ คุณจะเห็นป้ายการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับที่มุมขวาบน

จากหน้า "Data Manager"

  1. ใน Google Ads ให้เลือกไอคอนเครื่องมือ ไอคอนเครื่องมือ ในแผงการนำทางด้านซ้าย
  2. คลิก Data Manager
  3. ในส่วน "ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อ" ให้คลิกจัดการและลิงก์ในการเชื่อมต่อที่ต้องการตรวจสอบ
  4. ในส่วน "จัดการการเชื่อมต่อ" หากมีการใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ คุณจะเห็นป้ายการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับที่มุมขวาบน

Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว

จากหน้า "Conversion"

  1. ใน Google Ads ให้เลือกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย ในแผงการนำทางด้านซ้าย
  2. เลือก Conversion แล้วคลิกการตั้งค่า
  3. เลือก Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว
  4. หากมีการใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ คุณจะเห็นป้ายการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับในส่วน Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว

ข้อมูลการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับได้รับการจัดเก็บไว้ที่ใด

ดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลของ Google ได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติมเรื่องการป้องกันเกี่ยวกับการโอนข้อมูลระหว่างประเทศและข้อกำหนดการประมวลผลข้อมูลโฆษณาใน Google

ฉันจะลบข้อมูลของลูกค้าได้อย่างไร

ผู้ลงโฆษณาจะควบคุมข้อมูลผู้ใช้ที่จะอัปโหลด และสามารถลบ/นําข้อมูลผู้ใช้ออกได้ทุกเมื่อ ผู้ลงโฆษณายังเป็นผู้ตัดสินใจเลือกประเภทแคมเปญที่จะใช้กับกลุ่มเป้าหมายตามการจับคู่ข้อมูลลูกค้าในบัญชี Google Ads ของตนอีกด้วย ผู้ลงโฆษณาอาจนํากลุ่มเป้าหมายในการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเดิมออกและ/หรือแทนที่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวโดยการอัปโหลดกลุ่มเป้าหมายใหม่ Google Ads Data Manager รองรับการตั้งเวลารีเฟรชกลุ่มเป้าหมายเป็นประจํา (รวมถึงรายวัน รายสัปดาห์ และเฉพาะกิจ)

ผู้ใช้ Google สามารถจัดการการตั้งค่าโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้ใน "ศูนย์โฆษณาของฉัน" หากคุณได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลของผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจง แต่ Google ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้รายนั้น ผู้ใช้ดังกล่าวจะไม่มีสิทธิ์ใช้การจับคู่ข้อมูลลูกค้า Google จะไม่รวมผู้ใช้ดังกล่าวไว้ในรายการกลุ่มเป้าหมาย

นโยบายการจับคู่ข้อมูลลูกค้ากําหนดให้ผู้ลงโฆษณาต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ในการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้กับ Google ตามที่กฎหมายกําหนด ซึ่งสอดคล้องกับภาระหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ในสหภาพยุโรป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบในการจับคู่ข้อมูลลูกค้าได้ที่บทความเกี่ยวกับกระบวนการจับคู่ข้อมูลลูกค้า - ความช่วยเหลือของ Google Ads

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับให้การรับประกันตามมาตรการด้านเทคนิคใดบ้าง

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับปฏิบัติตามข้อกําหนดการประมวลผลข้อมูลเดียวกันกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับจะประมวลผลข้อมูลในสภาพแวดล้อมการดำเนินการที่เชื่อถือได้ (TEE) ซึ่งจะจํากัดวิธีใช้ข้อมูลและผู้ที่เข้าถึงข้อมูลได้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความโปร่งใสให้กับกระบวนการผ่านการรับรองแบบเข้ารหัส องค์กรของคุณเลือกที่จะเข้ารหัสและแชร์ข้อมูล (ไม่บังคับ) ได้ หากเลือกดำเนินการดังกล่าว คุณจะได้รับการรับรองที่รับประกันว่าเราจะใช้เฉพาะตรรกะการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับในการจับคู่ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ โปรดติดต่อผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้า

Flow of data into TEE and out into an audience list in Google Ads.

สภาพแวดล้อมการดำเนินการที่เชื่อถือได้ (TEE) คืออะไร

สภาพแวดล้อมการดำเนินการที่เชื่อถือได้เป็นการกําหนดค่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์แบบพิเศษที่ใช้รูทของความน่าเชื่อถือของฮาร์ดแวร์เพื่อรักษาความลับของการประมวลผลข้อมูลและป้องกันการสังเกตการณ์หรือการดัดแปลง TEE อนุญาตให้บุคคลภายนอกตรวจสอบได้ว่าซอฟต์แวร์ทํางานตามที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์กล่าวอ้างไว้ทุกประการ โดยแก่นแท้แล้ว TEE คือโครงสร้างพื้นฐานเช่นเดียวกับเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงที่ให้สภาพแวดล้อมแยกต่างหากเพื่อประมวลผลข้อมูลอย่างเช่น ข้อมูลส่วนบุคคล  

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับสร้างขึ้นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ Confidential Space ซึ่งเป็น TEE ของ Google Cloud คุณสามารถอ่านรีวิวอิสระเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Confidential Space โดย NCC Group ได้ที่นี่ และอ่านรายละเอียดเจาะลึกเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเทคโนโลยีที่สำคัญได้ในเอกสารประกอบของ Cloud

แหล่งข้อมูล Google Ads Data Manager ใดบ้างที่รองรับการเข้ารหัส

บทความการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับด้วยการเข้ารหัสให้ภาพรวมเกี่ยวกับวิธีเข้ารหัสข้อมูลโดยใช้ไฟล์ค่าที่คั่นด้วยคอมมา (CSV)

การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับจะยอมรับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใดก็ตามที่ Data Manager รองรับ แต่คุณต้องสามารถจัดเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในแหล่งข้อมูลที่ต้องการใช้ได้ บางแหล่งข้อมูลอาจไม่อนุญาตให้คุณอัปโหลดช่องที่กำหนดเองซึ่งจําเป็นสําหรับจัดเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในระเบียนที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ การใช้การเข้ารหัสอาจมีความซับซ้อนหรือไม่สามารถทำได้หากแหล่งข้อมูลที่ต้องการไม่ใช่ที่เก็บข้อมูลออบเจ็กต์ Google Cloud Storage เป็นหนึ่งในตัวอย่างของที่เก็บข้อมูลออบเจ็กต์ที่รองรับพื้นที่เก็บข้อมูลที่เข้ารหัส

การรับรองคืออะไร

การรับรองเป็นฟีเจอร์ Confidential Computing ซึ่งช่วยให้ TEE พิสูจน์ได้ว่ากำลังเรียกใช้ซอฟต์แวร์หนึ่งๆ อยู่ด้วยการสร้างลายเซ็นแบบเข้ารหัส ในกรณีของการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ ลูกค้าอาจเข้ารหัสข้อมูลของตนและกำหนดให้มีการรับรองจาก TEE ที่เรียกใช้การจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับก่อนที่จะอนุญาตให้มีการถอดรหัสและประมวลผลข้อมูล

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองได้ที่ภาพรวมความปลอดภัยของ Confidential Space

ฉันจะตรวจสอบโค้ดเพื่อยืนยันวิธีประมวลผลข้อมูลใน TEE ได้อย่างไร

หากต้องการตรวจสอบโค้ดที่ประมวลผลข้อมูลสำหรับการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับ โปรดไปที่หน้าการจับคู่ข้อมูลแบบเป็นความลับใน GitHub

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
6681734751009807304
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
false
true
true
true
false
false
false
false