ส่งคืนตำแหน่งที่ระบบพบสตริงเป็นครั้งแรกในข้อความ โดยพิจารณารูปแบบตัวอักษร
ตัวอย่างการใช้งาน
FIND("n",A2)
FIND("wood","How much wood can a woodchuck chuck",14)
รูปแบบคำสั่ง
FIND(search_for, text_to_search, [starting_at])
-
search_for
เป็นสตริงที่ต้องหาภายในtext_to_search
-
text_to_search
เป็นข้อความที่จะค้นหารายการแรกของsearch_for
-
starting_at
- [ ไม่บังคับ -1
โดยค่าเริ่มต้น ] - อักขระภายในtext_to_search
ซึ่งใช้เริ่มการค้นหา
หมายเหตุ
FIND
จะพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ ซึ่งหมายความว่าต้องพิมพ์อักขระตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ให้ถูกต้อง เช่น "abc" จะไม่ตรงกับ "ABC" หากไม่ต้องการพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ ให้ใช้ฟังก์ชันSEARCH
- ตรวจสอบว่าเรียงลำดับ
search_for
และtext_to_search
อย่างถูกต้อง มิเช่นนั้น ระบบอาจแสดงข้อผิดพลาด#VALUE!
อาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชันนี้จะเรียงลำดับต่างจากฟังก์ชันข้อความอื่นๆ เช่นSPLIT
และSUBSTITUTE
- ขอแนะนำให้ใช้ฟังก์ชัน เช่น
IFERROR
เพื่อตรวจสอบกรณีที่ไม่มีผลลัพธ์ตรงกับการค้นหา - หากไม่พบรูปแบบที่ต้องการ ระบบจะแสดงผล #VALUE!
ดูเพิ่มเติม
SUBSTITUTE
: แทนที่ข้อความที่มีอยู่ด้วยข้อความใหม่ในสตริง
SPLIT
: แบ่งข้อความตามอักขระหรือสตริงที่ระบุ และวางส่วนย่อยแต่ละส่วนในเซลล์แยกต่างหากในแถว
SEARCH
: ส่งคืนตำแหน่งที่ระบบพบสตริงเป็นครั้งแรกในข้อความ โดยละเว้นรูปแบบตัวอักษร
IFERROR
: แสดงผลอาร์กิวเมนต์แรกหากไม่ใช่ค่าที่ผิดพลาด หรือมิฉะนั้นแสดงผลอาร์กิวเมนต์ที่สองหากมี หรือเว้นว่างไว้หากไม่มีอาร์กิวเมนต์ที่สอง