แอป Miro ระบบคลาวด์

การใช้มาตรฐานภาษามาร์กอัปเพื่อยืนยันความปลอดภัย (SAML) 2.0 ช่วยให้คุณกำหนดค่าการลงชื่อเพียงครั้งเดียว (SSO) ให้กับแอประบบคลาวด์บางแอปได้ โดยหลังจากตั้งค่า SSO แล้ว ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้แอปด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบ Google Workspace ของตนเองผ่าน SSO ได้

ใช้ SAML เพื่อตั้งค่า SSO สำหรับ Miro

ขยายทั้งหมด  |  ยุบทั้งหมด

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูงสำหรับงานนี้

ขั้นตอนที่ 1: ตั้ง Google เป็นผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว SAML
  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู จากนั้น แอปจากนั้นแอปในเว็บและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  3. คลิกเพิ่มแอปจากนั้นค้นหาแอป
  4. ในส่วนป้อนชื่อแอป ให้ป้อน Miro
  5. ในผลการค้นหา ให้ชี้ไปที่เว็บ Miro (SAML) แล้วคลิกเลือก
  6. ในหน้าต่างรายละเอียดผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวของ Google ให้ดำเนินการต่อไปนี้สำหรับตัวเลือกที่ 2: คัดลอก URL ของ SSO, รหัสเอนทิตี และใบรับรอง
    1. ถัดจาก URL ของ SSO ให้คลิกคัดลอก แล้วบันทึก URL 
    2. คลิกคัดลอก ข้างใบรับรอง แล้วบันทึกใบรับรอง 
      คุณต้องมีรายละเอียดเหล่านี้เพื่อตั้งค่าใน Miro ให้เสร็จสิ้น
  7. คลิกต่อไป
    ในหน้ารายละเอียดของผู้ให้บริการ ระบบจะกำหนดค่ารายละเอียดสำหรับ Miro ไว้โดยค่าเริ่มต้น
  8. (ไม่บังคับ) หากต้องการกำหนดค่า SSO ด้วยการรองรับที่อยู่ของข้อมูล Miro ให้เพิ่มรหัสขององค์กรลงใน ACS URL และรหัสเอนทิตี โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อ SSO ที่มีที่อยู่ของข้อมูล
  9. คลิกต่อไป
  10. ในหน้าต่างการแมปแอตทริบิวต์ ให้คลิกเลือกช่อง แล้วแมปแอตทริบิวต์ไดเรกทอรีของ Google ต่อไปนี้กับแอตทริบิวต์ Miro ที่ตรงกัน โดยต้องระบุแอตทริบิวต์ firstName และ lastName
    แอตทริบิวต์ไดเรกทอรี Google แอตทริบิวต์แอป
    Basic Information > First Name firstName*
    Basic Information > Last Name lastName*
  11. (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มการแมปอีก ให้คลิกเพิ่มการแมป แล้วเลือกช่องที่ต้องการแมป
  12. (ไม่บังคับ) หากต้องการป้อนชื่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับแอปนี้ ให้ทำดังนี้
    1. สำหรับการเป็นสมาชิกกลุ่ม (ไม่บังคับ) ให้คลิกค้นหากลุ่ม แล้วป้อนตัวอักษรของชื่อกลุ่มอย่างน้อย 1 ตัว จากนั้นเลือกชื่อกลุ่ม
    2. เพิ่มกลุ่มอีกตามต้องการ (สูงสุด 75 กลุ่ม)
    3. ป้อนชื่อแอตทริบิวต์กลุ่มที่เกี่ยวข้องของผู้ให้บริการสำหรับแอตทริบิวต์แอป

    ไม่ว่าคุณจะป้อนชื่อกลุ่มกี่รายการก็ตาม คำตอบของ SAML จะรวมเฉพาะกลุ่มที่ผู้ใช้เป็นสมาชิกอยู่เท่านั้น (ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม) โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการเป็นสมาชิกกลุ่ม

  13. คลิกเสร็จสิ้น
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Miro เป็นผู้ให้บริการ SAML 2.0
  1. เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ในโหมดไม่ระบุตัวตน แล้วไปที่หน้าการลงชื่อเข้าใช้ Miro หรือ URL เฉพาะสำหรับพื้นที่ทำงานที่อยู่ของข้อมูล จากนั้นลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ Miro
  2. ที่ด้านบน ให้คลิกรูปโปรไฟล์ จากนั้นการตั้งค่า
  3. ในส่วนบัญชี ให้คลิกการผสานเข้ากับ Enterprise
  4. คลิก Turn on SSO to set up SCIM provisioning
  5. ในส่วน Single sign-on ให้ตรวจสอบว่า SSO/SAML เปิดอยู่
  6. ในช่อง SAML Sign-in URL ให้วาง URL ของ SSO ที่บันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบนในหน้านี้
  7. ในช่อง Key x509 Certificate ให้วางใบรับรองที่คุณบันทึกไว้ 
  8. เพิ่มชื่อโดเมนและยืนยัน โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อ Verifying your SSO domains
  9. (ไม่บังคับ) หากต้องการกำหนดการตั้งค่า SSO ขั้นสูง ให้ทำตามขั้นตอนในหัวข้อ Optional advanced SSO settings
    เราขอแนะนำให้เปิดการสร้างบัญชีอัตโนมัติ สำหรับผู้ใช้ใหม่เพื่อสร้างผู้ใช้และช่วยให้ผู้ใช้เริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อ How to enable Just-in-Time provisioning
  10. คลิกบันทึก
ขั้นตอนที่ 3: เปิดแอปสำหรับผู้ใช้

ก่อนเริ่มต้น: หากต้องการเปิดหรือปิดบริการสำหรับผู้ใช้บางราย ให้ใส่บัญชีในหน่วยขององค์กร (เพื่อควบคุมการเข้าถึงตามแผนก) หรือใส่บัญชีในกลุ่มที่มีสิทธิ์เข้าถึง (เพื่อควบคุมการเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ในแผนกต่างๆ)

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู จากนั้น แอปจากนั้นแอปในเว็บและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  3. คลิก Miro
  4. คลิกสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้
  5. หากต้องการเปิดหรือปิดบริการให้ทุกคนในองค์กร ให้คลิกเปิดสำหรับทุกคนหรือปิดสำหรับทุกคน แล้วคลิกบันทึก

  6. (ไม่บังคับ) วิธีเปิดหรือปิดบริการสำหรับหน่วยขององค์กร
    1. เลือกหน่วยขององค์กรทางด้านซ้าย
    2. หากต้องการเปลี่ยนสถานะบริการ ให้เลือกเปิดหรือปิด
    3. เลือกการตั้งค่าแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้
      • หากตั้งค่าสถานะบริการเป็นรับค่า และคุณต้องการคงการตั้งค่าที่อัปเดตแล้วไว้ แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป ให้คลิกลบล้าง
      • หากตั้งค่าสถานะบริการเป็นลบล้าง ให้คลิกรับค่าเพื่อเปลี่ยนกลับเป็นการตั้งค่าเดียวกันกับระดับบนสุด หรือคลิกบันทึกเพื่อคงการตั้งค่าใหม่ แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป
        หมายเหตุ: ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร
  7. หากต้องการเปิดบริการให้กับกลุ่มผู้ใช้ในหน่วยขององค์กร ให้เลือกกลุ่มที่มีสิทธิ์เข้าถึง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเปิดบริการให้กับกลุ่ม
  8. ตรวจสอบว่ารหัสอีเมลของบัญชีผู้ใช้ Miro ตรงกับรหัสในโดเมนหลักบัญชี Google Workspace ของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันว่า SSO ใช้ได้

Miro รองรับ SSO ทั้งจากผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวและผู้ให้บริการ

ยืนยัน SSO จากผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู จากนั้น แอปจากนั้นแอปในเว็บและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  3. คลิก Miro
  4. คลิกทดสอบการเข้าสู่ระบบผ่าน SAML ในส่วน Miro ระบบจะเปิด Miro ขึ้นมาในแท็บใหม่ หากไม่เปิด ให้แก้ปัญหาข้อความแสดงข้อผิดพลาดแล้วลองอีกครั้ง โปรดดูรายละเอียดการแก้ปัญหาที่หัวข้อข้อความแสดงข้อผิดพลาดของแอป SAML

ยืนยัน SSO จากผู้ให้บริการ

  1. ปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ทั้งหมด
  2. ไปที่หน้าลงชื่อเข้าใช้ของ Miro หรือ URL เฉพาะสำหรับพื้นที่ทำงานที่อยู่ข้อมูลแล้วลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ Miro
  3. คลิกลงชื่อเข้าใช้ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว
  4. ป้อนอีเมล Google Workspace แล้วคลิก Continue to SSO
    ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าลงชื่อเข้าใช้ของ Google
  5. เลือกบัญชีและป้อนรหัสผ่าน
หลังจากตรวจสอบสิทธิ์ข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว ระบบจะเปิด Miro ขึ้นมา
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่าการจัดสรรผู้ใช้
ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูง คุณสามารถจัดสรรผู้ใช้ในแอปโดยอัตโนมัติได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อกำหนดค่าการจัดสรรผู้ใช้ Miro


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
18319200375480434835
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false