เปิดรายการทีวีและภาพยนตร์โดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผล

เปิดและควบคุมรายการทีวีและภาพยนตร์ในจอแสดงผล Google Nest หรือในทีวีที่มี Chromecast หรือ Google Cast โดยใช้เพียงเสียงของคุณ

ปัจจุบันคุณใช้ได้เฉพาะพาร์ทเนอร์บางรายในการเปิดรายการและภาพยนตร์ในจอแสดงผล Nest หรือทีวีโดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผล แต่คุณเปิดวิดีโอ YouTube ในทีวีโดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home ได้

พาร์ทเนอร์ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง

หมายเหตุ: นี่เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วน พาร์ทเนอร์บางรายอาจไม่พร้อมให้บริการในภูมิภาคของคุณ โปรดไปที่เว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์เพื่อตรวจสอบความพร้อมให้บริการในภูมิภาคที่คุณอาศัยอยู่

พาร์ทเนอร์ เนื้อหาที่รองรับ ต้องลิงก์กับแอปของพาร์ทเนอร์ อุปกรณ์ที่รองรับ
Star+ รายการทีวี ภาพยนตร์ ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
Disney+ รายการทีวี ภาพยนตร์ ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
Netflix รายการทีวี ภาพยนตร์

ใช่

หมายเหตุ: แพ็กเกจพื้นฐานแบบมีโฆษณาไม่รองรับการแคสต์จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ การแคสต์เสียงในแพ็กเกจพื้นฐานแบบมีโฆษณาใช้ได้ใน Android TV และอุปกรณ์ Chromecast พร้อม Google TV ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Netflix

Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
Hulu รายการทีวีและภาพยนตร์จากการสมัครใช้บริการระดับพื้นฐาน ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
Paramount+ รายการทีวี ภาพยนตร์ ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
YouTube TV ช่องรายการทีวีสด รายการทีวี ภาพยนตร์ กีฬา ไม่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
Sling TV ช่องรายการทีวีสด รายการทีวี ภาพยนตร์ กีฬา ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
STARZ รายการทีวี ภาพยนตร์

ใช่

หมายเหตุ: ปัจจุบันมีเฉพาะผู้ใช้โดยตรงของ STARZ เท่านั้นที่แคสต์เสียงโดยใช้ลำโพงและจอแสดงผลได้ ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเคเบิล 

Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest
CW [CWTV] รายการทีวี ภาพยนตร์ ไม่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast

Max

รายการทีวี ภาพยนตร์

ใช่

Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast
Viki รายการทีวี ภาพยนตร์ ใช่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast
Crackle รายการทีวี ภาพยนตร์ ไม่ คุณเพลิดเพลินกับเนื้อหาได้โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast
Red Bull ​รายการทีวี ภาพยนตร์ ไม่ Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast
Google TV รายการทีวี ภาพยนตร์

ไม่ เนื้อหาจาก Google TV จะพร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อคุณตั้งค่าลำโพงหรือจอแสดงผล 

Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast
Apple TV รายการทีวี ภาพยนตร์ ใช่ Chromecast ที่มี Google TV

ขั้นตอนที่ 1 ลิงก์ทีวีโดยใช้แอป Google Home

หมายเหตุ: ขั้นตอนนี้ใช้ได้เฉพาะกับ Chromecast, Cast และ Android TV เท่านั้น

อุปกรณ์แคสต์ต่อไปนี้เปิดรายการทีวีและภาพยนตร์ได้โดยใช้คำสั่งเสียงกับลำโพงหรือจอแสดงผล

  1. Chromecast
  2. ทีวีที่ใช้ได้กับ Cast
  3. Android TV
    หมายเหตุ: คุณจะต้องตั้งค่า Google Assistant ใน Android TV

สำคัญ: สมาร์ททีวีบางรุ่นอาจดูเหมือนว่ารองรับเทคโนโลยี Cast (เพราะฟังก์ชันคล้ายกับการแคสต์) แต่จริงๆ แล้วไม่ได้รองรับเทคโนโลยี Cast สมาร์ททีวีที่รองรับเทคโนโลยี Cast

ลิงก์ทีวีกับลำโพงหรือจอแสดงผล

ลิงก์อุปกรณ์

 หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องทำถ้าคุณเพียงแค่ต้องการควบคุมทีวีด้วยโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต แต่หากต้องการใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงหรือจอแสดงผลเพื่อควบคุมทีวี ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home.
  2. ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่ออยู่กับ Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ Google 
  3. ตรวจสอบว่ามือถือหรือแท็บเล็ตลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับอุปกรณ์ Google
    1. แตะบัญชีของคุณที่ด้านขวาบน
    2. หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะลูกศรลง ข้างบัญชี Google จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
  4. แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
  5. แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้  การตั้งค่า  หรือเพิ่มเติม More menu  การตั้งค่า 
  6.  ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า จากนั้น การจดจำและการแชร์
  7. ที่ด้านบนของหน้า ให้มองหาแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า "เปิดใช้การควบคุมด้วยเสียงและอื่นๆ"
    • หากเห็นแบนเนอร์ ให้แตะและทำตามขั้นตอนเพื่อลิงก์ทีวี
    • หากไม่เห็นแบนเนอร์ แต่เห็นอีเมลของคุณแสดงอยู่ใต้ "บัญชีที่ลิงก์" แสดงว่ามีการลิงก์ทีวีไว้แล้ว

หมายเหตุ: หากได้รับข้อความ "เกิดข้อผิดพลาดขณะลิงก์อุปกรณ์" ให้รีเซ็ตอุปกรณ์ Chromecast เป็นค่าเริ่มต้น

​ยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง, จอแสดงผล, Chromecast หรือ Pixel Tablet
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า จากนั้น นำอุปกรณ์ออก
อุปกรณ์แคสต์ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงสำหรับรายการทีวีและภาพยนตร์

อุปกรณ์แคสต์ต่อไปนี้เปิดรายการทีวีและภาพยนตร์โดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผลได้

  1. Chromecast
  2. ทีวีที่ใช้ได้กับ Cast
  3. Android TV
    หมายเหตุ: คุณต้องตั้งค่า Google Assistant ใน Android TV

สำคัญ: สมาร์ททีวีบางรุ่นอาจดูเหมือนว่ารองรับเทคโนโลยี Cast (เพราะฟังก์ชันการทำงานคล้ายกับการแคสต์) แต่อันที่จริงไม่ได้รองรับเทคโนโลยี Cast สมาร์ททีวีที่รองรับเทคโนโลยี Cast

ขั้นตอนที่ 2 ลิงก์แอปวิดีโอกับบัญชี Google 

ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้เพื่อดูเนื้อหาจาก Google TV ในบัญชีที่ลิงก์ซึ่งใช้เพื่อตั้งค่าลำโพงหรือจอแสดงผล ลิงก์แอปวิดีโอ

แอปวิดีโอบางแอปกำหนดให้คุณลิงก์บัญชีของแอปกับบัญชี Google วิธีการมีดังนี้

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง, จอแสดงผล, Chromecast หรือ Pixel Tablet
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะบัญชีของคุณ
  4. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น

  5. ที่ด้านขวาล่าง ให้แตะการตั้งค่า
  6. ในส่วนบริการ ให้แตะวิดีโอ
  7. ใต้แอปวิดีโอที่ต้องการเชื่อมต่อ ให้แตะลิงก์
  8. ทำตามขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ให้เสร็จ

หมายเหตุ: สำหรับ Netflix หากคุณมีโปรไฟล์ส่วนตัวในบัญชี Netflix ให้ลิงก์โปรไฟล์นั้นและตั้งค่า Voice Match เพื่อเล่นเนื้อหาต่อจากจุดที่ดูค้างไว้ได้

ยกเลิกการลิงก์แอปวิดีโอ
  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะบัญชีของคุณ
  3. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น

  4. ที่ด้านขวาล่าง ให้แตะการตั้งค่า
  5. ในส่วนบริการ ให้แตะวิดีโอ
  6. ข้างแอปวิดีโอที่ต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ ให้แตะยกเลิกการลิงก์

หมายเหตุ: การลิงก์บัญชีกับ Hulu จะลิงก์กับโปรไฟล์หลักของบัญชี ข้อจำกัดใดๆ ที่เกี่ยวกับ "ความเหมาะสมสำหรับเด็ก" จากโปรไฟล์รองจะไม่มีผล

ขั้นตอนที่ 3 ควบคุม Android TV โดยใช้คำสั่งเสียง

ต่อไปนี้เป็นวิธีพูดกับ Google Assistant ในลำโพงหรือจอแสดงผลเพื่อเปิดรายการทีวีและภาพยนตร์

จอแสดงผล Nest

หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ พูดว่า "Ok Google" จากนั้น
เปิดแอป

"เปิด YouTube"
"เปิด Netflix"

เปิดซีรีส์ รายการทีวี หรือภาพยนตร์

หมายเหตุ: สำหรับซีรีส์ แต่ละเซสชันมักจะเริ่มต่อจากจุดที่หยุดดูในเซสชันก่อน 

ตอนนี้ยังไม่รองรับการขอดูตอนหรือซีซันที่เจาะจงของซีรีส์ 

"ดู <Orange is the New Black> ใน <พาร์ทเนอร์>"
เล่นตอนถัดไปหรือตอนก่อนหน้า "ตอนถัดไป"
"ตอนก่อนหน้า"
หยุดชั่วคราว เล่นต่อ หรือหยุด "หยุดชั่วคราว"
"เล่นต่อ"
"หยุด"

ข้ามกลับ 

"ย้อนกลับไปตรง <เวลา>"
"กรอกลับไปตรง <เวลา>"
"ข้ามกลับไปตรง <เวลา>"

เปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ

ปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ

"เปิดคำบรรยาย"
"เปิดคำบรรยายวิดีโอ"
"เปิดซับไทเทิล"
"เปิดแคปชัน"

"ปิดคำบรรยาย"
"ปิดคำบรรยายวิดีโอ"
"ปิดซับไทเทิล"
"ปิดแคปชัน"

เปิดคำบรรยาย <ภาษา>

หมายเหตุ: ภาษาที่รองรับขึ้นอยู่กับบริการเนื้อหา (เช่น YouTube หรือ Netflix) และชื่อวิดีโอ

"เปิดคำบรรยายภาษาสเปน"

เปิดเสียงพากย์

หมายเหตุ: เสียงพากย์จะเปลี่ยนเป็นภาษาที่คุณเลือก CBS [CBS All Access] และ STARZ ไม่รองรับเสียงพากย์

"เปิดเสียงพากย์"
"เปิดใช้เสียงพากย์"
"เปิดเสียงพากย์ให้ที"

เปลี่ยนเสียงพากย์เป็นภาษาที่คุณต้องการ

"เปลี่ยนเป็นภาษา <เยอรมัน>"
"เปลี่ยนภาษาเป็น <สเปน>"
"เปิดเสียงพากย์ภาษา <ฝรั่งเศส>"
"เล่นเป็นภาษา <อังกฤษ>"

Chromecast

หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ พูดว่า "Ok Google" แล้วต่อด้วย
เปิดแอป "เปิด [ชื่อแอป] ในทีวี"
"เริ่ม [ชื่อแอป] ในทีวี"
เปิดช่องที่ต้องการ "เปิด [ช่อง] ในทีวี"
"เปลี่ยนเป็นช่อง [ช่อง]"
ค้นหาและเล่นเนื้อหา "ค้นหาภาพยนตร์ [ประเภท]"
"เปิดอัลบั้ม [ชื่ออัลบั้ม]"
"เปิดเพลงของ [ชื่อศิลปิน]"

เปิดซีรีส์ รายการทีวี หรือภาพยนตร์

หมายเหตุ: สำหรับซีรีส์ แต่ละเซสชันมักจะเริ่มต่อจากจุดที่หยุดดูในเซสชันก่อน สำหรับ CW แต่ละเซสชันจะเริ่มจากตอนที่ออกอากาศล่าสุด

ไม่รองรับคําขอดูตอนหรือซีซันที่เจาะจงของซีรีส์

"ดู [ซีรีส์] ใน [ชื่อทีวี]"
"ดู [ซีรีส์] จาก [บริการ] ใน [ชื่อทีวี]"
"ดู [รายการทีวี] ใน [ชื่อทีวี]"
"ดู [รายการทีวี] ใน [บริการ] ทาง [ชื่อทีวี]"
"เปิด [ภาพยนตร์] ใน [ชื่อทีวี]"
"เปิด [ภาพยนตร์] ใน [บริการ] ทาง [ชื่อทีวี]"

เล่นตอนถัดไปหรือตอนก่อนหน้า

หมายเหตุ: บางบริการไม่รองรับคําขอดูตอนถัดไปหรือก่อนหน้า

"ตอนถัดไปใน [ชื่อทีวี]"
"ตอนก่อนหน้าใน [ชื่อทีวี]"

หยุดชั่วคราว เล่นต่อ หรือหยุด "หยุดชั่วคราวใน [ชื่อทีวี]"
"เล่นต่อใน [ชื่อทีวี]"
"หยุดเล่นใน [ชื่อทีวี]"
ข้ามกลับ "ย้อนกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]"
"กรอกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]"
"ย้อนกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]"

เปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ

 

 

ปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ

"เปิดคำบรรยาย"
"เปิดคำบรรยายวิดีโอ"
"เปิดซับไทเทิล"
"เปิดแคปชัน"

"ปิดคำบรรยาย"
"ปิดคำบรรยายวิดีโอ"
"ปิดซับไทเทิล"
"ปิดแคปชัน"

เปิดคําบรรยายเป็นภาษาที่ต้องการ

หมายเหตุ: ภาษาที่รองรับขึ้นอยู่กับบริการเนื้อหาและชื่อวิดีโอ

"เปิดคําบรรยายภาษา [ภาษา]"

เปิดเสียงพากย์

หมายเหตุ: เสียงพากย์จะเปลี่ยนเป็นภาษาที่คุณเลือก บางบริการไม่รองรับการพากย์

"เปิดเสียงพากย์"
"เปิดใช้เสียงพากย์"
"เปิดเสียงพากย์ให้ที"

เปลี่ยนเสียงพากย์เป็นภาษาที่คุณต้องการ "เปลี่ยนภาษาเป็น [ภาษา]"
"เปลี่ยนเป็นภาษา [ภาษา]"
"เปิดใช้เสียงพากย์ [ภาษา]"
"เล่นเป็นภาษา [ ภาษา]"

Android TV

หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ พูดว่า "Ok Google" แล้วต่อด้วย

เปิดหรือปิด

"เปิดทีวี"

"ปิดทีวี"

เปิดแอป "เปิด <YouTube> ในทีวี"
เปิด Netflix "เปิด <Stranger Things> ในทีวี"

ควบคุมสื่อ

หมายเหตุ: คำสั่ง "ถัดไป ก่อนหน้า และกรอ" ใช้ได้เฉพาะในแอปที่พร้อมใช้งาน Cast เท่านั้น

"เปิด <ในทีวี>"
"หยุดชั่วคราว <ในทีวี>"
"เล่นต่อ <ในทีวี>"
"หยุด <ในทีวี>"

"ตอนถัดไป <ในทีวี>"
"ตอนก่อนหน้า <ในทีวี>"
"กรอไปข้างหน้า 30 วินาที <ในทีวี>"

หากคุณลิงก์อุปกรณ์แคสต์ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไว้เพียงเครื่องเดียว ก็ไม่ต้องพูดชื่ออุปกรณ์ในคำสั่งเสียง แต่พูดว่า "Ok Google ... <ในทีวี>" หรือ "Ok Google ... <ใน Chromecast>" แทนได้

เคล็ดลับการเล่นเนื้อหาในทีวี

เนื้อหาใน Google TV ที่คุณควบคุมได้ด้วยเสียง 

  • ภาพยนตร์ที่ซื้อหรือเช่า
  • ตอนและซีซันของรายการทีวีที่ซื้อ
  • เนื้อหาที่แชร์ผ่านการแชร์กับครอบครัว

วิธีง่ายๆ ในการควบคุมสื่อด้วยเสียง

เมื่อคุณเปิดรายการทีวีหรือภาพยนตร์โดยใช้เสียง เช่น "Ok Google ดู Orange is the New Black ในทีวี" คำสั่งควบคุมทั้งหมดต่อจากนั้น (หยุดชั่วคราว ถัดไป ฯลฯ) จะควบคุมทีวีเครื่องนั้น คุณไม่จำเป็นต้องระบุทีวีอีกหลังจากที่เริ่มดูไปแล้ว

ใช้เสียงควบคุมสื่อที่แคสต์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต

หากเริ่มเปิดรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในทีวีแล้วเมื่อแคสต์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต คุณจะต้องพูดเพิ่มว่า <ในทีวี> ก่อน โดยจะพูดเพียงครั้งเดียวและหลังจากนั้นก็ไม่ต้องพูดว่า <ในทีวี> อีก

ควบคุมทีวีเมื่อมีสื่อเปิดอยู่ในลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home

เมื่อมีสื่อเล่นอยู่ในลำโพงหรือจอแสดงผลพร้อมกันกับอุปกรณ์ระยะไกล คำสั่งเพื่อการควบคุมทั้งหมดจะควบคุมลำโพงหรือจอแสดงผล ไม่ใช่อุปกรณ์ระยะไกล หากต้องการควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล คุณต้องพูดว่า "Ok Google .... <ในอุปกรณ์>" ทุกครั้ง

หากหยุดเล่นเนื้อหาในลำโพงหรือจอแสดงผลโดยพูดว่า "Ok Google หยุด" แต่ต้องการเริ่มควบคุมอุปกรณ์ระยะไกลที่กำลังเล่นอยู่ คุณต้องพูดคำว่า <ในอุปกรณ์> เพิ่มในคำสั่งถัดไปที่ใช้กับอุปกรณ์ระยะไกลเครื่องนี้ เช่น "Ok Google วิดีโอถัดไป <ในทีวี>"

การควบคุมรายการทีวีและภาพยนตร์ด้วยวิธีอื่นๆ

จากแอป Google Home
  1. ตรวจสอบว่ามือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ระยะไกล
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะเซสชันสื่อในปัจจุบันสำหรับรายการต่อไปนี้
    • ตัวควบคุมการเล่น
    • การควบคุมระดับเสียง
    • ระบบควบคุมอุปกรณ์การเล่น

แก้ปัญหา

หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาต่อไปนี้

  1. ตรวจดูว่าคุณได้ลิงก์อุปกรณ์อย่างถูกต้องแล้ว ซึ่งรวมถึง
    1. ตรวจดูว่าอุปกรณ์แคสต์รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและใช้ Cast เวอร์ชัน 1.32 ขึ้นไป
    2. ตรวจดูว่าคุณได้ลิงก์อุปกรณ์ผ่านแอป Google Home โดยทำดังนี้
      1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
      2. แตะบัญชีของคุณ
      3. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น

      4. แตะการตั้งค่าจากนั้น ในส่วนบริการ จากนั้นให้แตะใช้กับ Google ได้ 
      5. รายการอุปกรณ์ที่ลิงก์ไว้ทั้งหมดควรปรากฏขึ้นมา
  2. ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลและ Chromecast หรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ Cast

    เมื่อตั้งชื่ออุปกรณ์ โปรดทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อให้การเล่นในทีวีเป็นไปอย่างถูกต้อง

    1. ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผล, Chromecast หรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ Cast ให้แตกต่างกัน และอย่าใช้คำเดียวกันในชื่ออุปกรณ์ วิธีนี้ช่วยให้ลำโพงและจอแสดงผลเข้าใจคำสั่งของคุณได้อย่างถูกต้องและเปิดเนื้อหาในอุปกรณ์ที่ถูกต้อง
      1. ​ดี
        • ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลว่า "ห้องนั่งเล่น"
        • ตั้งชื่อ Chromecast ว่า "ทีวีครอบครัว"
      2. ตกลง
        • ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลว่า "Home ห้องนั่งเล่น"
        • ตั้งชื่อ Chromecast ว่า "ทีวีห้องนั่งเล่น"
    2. ตรวจดูว่าชื่อที่ตั้งออกเสียงได้ง่าย
    3. หลีกเลี่ยงการใช้อีโมจิหรือสัญลักษณ์พิเศษ
    4. วิธีเปลี่ยนชื่อ Chromecast หรือลําโพงและจอแสดงผล
      1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
      2. แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
      3. แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้ จากนั้น ที่มุมขวาบน แตะการตั้งค่า  จากนั้น ข้อมูลอุปกรณ์ จากนั้น ชื่ออุปกรณ์ 
      4. ลบชื่อปัจจุบันแล้วพิมพ์ชื่อใหม่ แตะบันทึก
  3. ตรวจสอบว่าได้ลิงก์บัญชีของผู้ให้บริการสื่อแล้ว
  4. Make sure you're not trying to play content on Android TV. This is not supported yet. 
  5. ลองระบุผู้ให้บริการที่เจาะจงในคำขอ เช่น "เปิด <The Crown> <จาก Netflix> <ในทีวี>"
  6. หากได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดอย่างเช่น "ฉันเปิดวิดีโอได้แค่ในอุปกรณ์ที่ใช้ Chromecast หรือทีวีที่พร้อมใช้งาน Cast เท่านั้น" ให้ลองเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดวิดีโอในทีวีโดยใช้อุปกรณ์ Google Nest และ Home
เปิดเสียงในลำโพงและทีวีจากอุปกรณ์ Google Nest และ Home
ควบคุมเนื้อหาที่มีการจำกัด
ฟังวิทยุ
ฟังพอดแคสต์
ควบคุมระดับเสียงของอุปกรณ์ Google Nest และ Home

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
Android iPhone และ iPad
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก