ปัจจุบันคุณใช้ได้เฉพาะพาร์ทเนอร์บางรายในการเปิดรายการและภาพยนตร์ในจอแสดงผล Nest หรือทีวีโดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผล แต่คุณเปิดวิดีโอ YouTube ในทีวีโดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home ได้
พาร์ทเนอร์ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
หมายเหตุ: นี่เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วน พาร์ทเนอร์บางรายอาจไม่พร้อมให้บริการในภูมิภาคของคุณ โปรดไปที่เว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์เพื่อตรวจสอบความพร้อมให้บริการในภูมิภาคที่คุณอาศัยอยู่
พาร์ทเนอร์ | เนื้อหาที่รองรับ | ต้องลิงก์กับแอปของพาร์ทเนอร์ | อุปกรณ์ที่รองรับ |
Star+ | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
Disney+ | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
Netflix | รายการทีวี ภาพยนตร์ |
ใช่ หมายเหตุ: แพ็กเกจพื้นฐานแบบมีโฆษณาไม่รองรับการแคสต์จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ การแคสต์เสียงในแพ็กเกจพื้นฐานแบบมีโฆษณาใช้ได้ใน Android TV และอุปกรณ์ Chromecast พร้อม Google TV ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Netflix |
Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
Hulu | รายการทีวีและภาพยนตร์จากการสมัครใช้บริการระดับพื้นฐาน | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
Paramount+ | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
YouTube TV | ช่องรายการทีวีสด รายการทีวี ภาพยนตร์ กีฬา | ไม่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
Sling TV | ช่องรายการทีวีสด รายการทีวี ภาพยนตร์ กีฬา | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
STARZ | รายการทีวี ภาพยนตร์ |
ใช่ หมายเหตุ: ปัจจุบันมีเฉพาะผู้ใช้โดยตรงของ STARZ เท่านั้นที่แคสต์เสียงโดยใช้ลำโพงและจอแสดงผลได้ ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเคเบิล |
Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast, จอแสดงผล Nest |
CW [CWTV] | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ไม่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast |
รายการทีวี ภาพยนตร์ |
ใช่ |
Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast | |
Viki | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ใช่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast |
Crackle | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ไม่ คุณเพลิดเพลินกับเนื้อหาได้โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast |
Red Bull | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ไม่ | Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast |
Google TV | รายการทีวี ภาพยนตร์ |
ไม่ เนื้อหาจาก Google TV จะพร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อคุณตั้งค่าลำโพงหรือจอแสดงผล |
Chromecast, ทีวีที่ใช้ได้กับ Google Cast |
Apple TV | รายการทีวี ภาพยนตร์ | ใช่ | Chromecast ที่มี Google TV |
ขั้นตอนที่ 1 ลิงก์ทีวีโดยใช้แอป Google Home
หมายเหตุ: ขั้นตอนนี้ใช้ได้เฉพาะกับ Chromecast, Cast และ Android TV เท่านั้น
อุปกรณ์แคสต์ต่อไปนี้เปิดรายการทีวีและภาพยนตร์ได้โดยใช้คำสั่งเสียงกับลำโพงหรือจอแสดงผล
- Chromecast
- ทีวีที่ใช้ได้กับ Cast
- Android TV
หมายเหตุ: คุณจะต้องตั้งค่า Google Assistant ใน Android TV
สำคัญ: สมาร์ททีวีบางรุ่นอาจดูเหมือนว่ารองรับเทคโนโลยี Cast (เพราะฟังก์ชันคล้ายกับการแคสต์) แต่จริงๆ แล้วไม่ได้รองรับเทคโนโลยี Cast สมาร์ททีวีที่รองรับเทคโนโลยี Cast
ลิงก์ทีวีกับลำโพงหรือจอแสดงผลลิงก์อุปกรณ์
หมายเหตุ: ขั้นตอนต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องทำถ้าคุณเพียงแค่ต้องการควบคุมทีวีด้วยโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต แต่หากต้องการใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงหรือจอแสดงผลเพื่อควบคุมทีวี ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
- เปิดแอป Google Home .
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่ออยู่กับ Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ Google
- ตรวจสอบว่ามือถือหรือแท็บเล็ตลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับอุปกรณ์ Google
- แตะบัญชีของคุณที่ด้านขวาบน
- หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะลูกศรลง ข้างบัญชี Google จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
- แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้ การตั้งค่า หรือเพิ่มเติม การตั้งค่า
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า การจดจำและการแชร์
- ที่ด้านบนของหน้า ให้มองหาแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า "เปิดใช้การควบคุมด้วยเสียงและอื่นๆ"
- หากเห็นแบนเนอร์ ให้แตะและทำตามขั้นตอนเพื่อลิงก์ทีวี
- หากไม่เห็นแบนเนอร์ แต่เห็นอีเมลของคุณแสดงอยู่ใต้ "บัญชีที่ลิงก์" แสดงว่ามีการลิงก์ทีวีไว้แล้ว
หมายเหตุ: หากได้รับข้อความ "เกิดข้อผิดพลาดขณะลิงก์อุปกรณ์" ให้รีเซ็ตอุปกรณ์ Chromecast เป็นค่าเริ่มต้น
ยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์
- ตรวจสอบว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง, จอแสดงผล, Chromecast หรือ Pixel Tablet
- เปิดแอป Google Home
- แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- แตะการตั้งค่า นำอุปกรณ์ออก
อุปกรณ์แคสต์ต่อไปนี้เปิดรายการทีวีและภาพยนตร์โดยใช้ลำโพงหรือจอแสดงผลได้
- Chromecast
- ทีวีที่ใช้ได้กับ Cast
- Android TV
หมายเหตุ: คุณต้องตั้งค่า Google Assistant ใน Android TV
สำคัญ: สมาร์ททีวีบางรุ่นอาจดูเหมือนว่ารองรับเทคโนโลยี Cast (เพราะฟังก์ชันการทำงานคล้ายกับการแคสต์) แต่อันที่จริงไม่ได้รองรับเทคโนโลยี Cast สมาร์ททีวีที่รองรับเทคโนโลยี Cast
ขั้นตอนที่ 2 ลิงก์แอปวิดีโอกับบัญชี Google
ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้เพื่อดูเนื้อหาจาก Google TV ในบัญชีที่ลิงก์ซึ่งใช้เพื่อตั้งค่าลำโพงหรือจอแสดงผล ลิงก์แอปวิดีโอแอปวิดีโอบางแอปกำหนดให้คุณลิงก์บัญชีของแอปกับบัญชี Google วิธีการมีดังนี้
- ตรวจสอบว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง, จอแสดงผล, Chromecast หรือ Pixel Tablet
- เปิดแอป Google Home
- แตะบัญชีของคุณ
-
ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
- ที่ด้านขวาล่าง ให้แตะการตั้งค่า
- ในส่วนบริการ ให้แตะวิดีโอ
- ใต้แอปวิดีโอที่ต้องการเชื่อมต่อ ให้แตะลิงก์
- ทำตามขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ให้เสร็จ
หมายเหตุ: สำหรับ Netflix หากคุณมีโปรไฟล์ส่วนตัวในบัญชี Netflix ให้ลิงก์โปรไฟล์นั้นและตั้งค่า Voice Match เพื่อเล่นเนื้อหาต่อจากจุดที่ดูค้างไว้ได้
- เปิดแอป Google Home
- แตะบัญชีของคุณ
-
ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
- ที่ด้านขวาล่าง ให้แตะการตั้งค่า
- ในส่วนบริการ ให้แตะวิดีโอ
- ข้างแอปวิดีโอที่ต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ ให้แตะยกเลิกการลิงก์
หมายเหตุ: การลิงก์บัญชีกับ Hulu จะลิงก์กับโปรไฟล์หลักของบัญชี ข้อจำกัดใดๆ ที่เกี่ยวกับ "ความเหมาะสมสำหรับเด็ก" จากโปรไฟล์รองจะไม่มีผล
ขั้นตอนที่ 3 ควบคุม Android TV โดยใช้คำสั่งเสียง
ต่อไปนี้เป็นวิธีพูดกับ Google Assistant ในลำโพงหรือจอแสดงผลเพื่อเปิดรายการทีวีและภาพยนตร์
จอแสดงผล Nest
หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ | พูดว่า "Ok Google" จากนั้น |
เปิดแอป |
"เปิด YouTube" |
เปิดซีรีส์ รายการทีวี หรือภาพยนตร์ |
"ดู <Orange is the New Black> ใน <พาร์ทเนอร์>" |
เล่นตอนถัดไปหรือตอนก่อนหน้า | "ตอนถัดไป" "ตอนก่อนหน้า" |
หยุดชั่วคราว เล่นต่อ หรือหยุด | "หยุดชั่วคราว" "เล่นต่อ" "หยุด" |
ข้ามกลับ |
"ย้อนกลับไปตรง <เวลา>" "กรอกลับไปตรง <เวลา>" "ข้ามกลับไปตรง <เวลา>" |
เปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ ปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ |
"เปิดคำบรรยาย" "ปิดคำบรรยาย" |
เปิดคำบรรยาย <ภาษา> หมายเหตุ: ภาษาที่รองรับขึ้นอยู่กับบริการเนื้อหา (เช่น YouTube หรือ Netflix) และชื่อวิดีโอ |
"เปิดคำบรรยายภาษาสเปน" |
เปิดเสียงพากย์ หมายเหตุ: เสียงพากย์จะเปลี่ยนเป็นภาษาที่คุณเลือก CBS [CBS All Access] และ STARZ ไม่รองรับเสียงพากย์ |
"เปิดเสียงพากย์" |
เปลี่ยนเสียงพากย์เป็นภาษาที่คุณต้องการ |
"เปลี่ยนเป็นภาษา <เยอรมัน>" |
Chromecast
หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ | พูดว่า "Ok Google" แล้วต่อด้วย |
---|---|
เปิดแอป | "เปิด [ชื่อแอป] ในทีวี" "เริ่ม [ชื่อแอป] ในทีวี" |
เปิดช่องที่ต้องการ | "เปิด [ช่อง] ในทีวี" "เปลี่ยนเป็นช่อง [ช่อง]" |
ค้นหาและเล่นเนื้อหา | "ค้นหาภาพยนตร์ [ประเภท]" "เปิดอัลบั้ม [ชื่ออัลบั้ม]" "เปิดเพลงของ [ชื่อศิลปิน]" |
เปิดซีรีส์ รายการทีวี หรือภาพยนตร์ หมายเหตุ: สำหรับซีรีส์ แต่ละเซสชันมักจะเริ่มต่อจากจุดที่หยุดดูในเซสชันก่อน สำหรับ CW แต่ละเซสชันจะเริ่มจากตอนที่ออกอากาศล่าสุด ไม่รองรับคําขอดูตอนหรือซีซันที่เจาะจงของซีรีส์ |
"ดู [ซีรีส์] ใน [ชื่อทีวี]" |
เล่นตอนถัดไปหรือตอนก่อนหน้า หมายเหตุ: บางบริการไม่รองรับคําขอดูตอนถัดไปหรือก่อนหน้า |
"ตอนถัดไปใน [ชื่อทีวี]" |
หยุดชั่วคราว เล่นต่อ หรือหยุด | "หยุดชั่วคราวใน [ชื่อทีวี]" "เล่นต่อใน [ชื่อทีวี]" "หยุดเล่นใน [ชื่อทีวี]" |
ข้ามกลับ | "ย้อนกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]" "กรอกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]" "ย้อนกลับไป [เวลา] ใน [ชื่อทีวี]" |
เปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ
ปิดคำบรรยายหรือคำบรรยายวิดีโอ |
"เปิดคำบรรยาย" "ปิดคำบรรยาย" |
เปิดคําบรรยายเป็นภาษาที่ต้องการ หมายเหตุ: ภาษาที่รองรับขึ้นอยู่กับบริการเนื้อหาและชื่อวิดีโอ |
"เปิดคําบรรยายภาษา [ภาษา]" |
เปิดเสียงพากย์ หมายเหตุ: เสียงพากย์จะเปลี่ยนเป็นภาษาที่คุณเลือก บางบริการไม่รองรับการพากย์ |
"เปิดเสียงพากย์" |
เปลี่ยนเสียงพากย์เป็นภาษาที่คุณต้องการ | "เปลี่ยนภาษาเป็น [ภาษา]" "เปลี่ยนเป็นภาษา [ภาษา]" "เปิดใช้เสียงพากย์ [ภาษา]" "เล่นเป็นภาษา [ ภาษา]" |
Android TV
หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้ | พูดว่า "Ok Google" แล้วต่อด้วย |
เปิดหรือปิด |
"เปิดทีวี" "ปิดทีวี" |
เปิดแอป | "เปิด <YouTube> ในทีวี" |
เปิด Netflix | "เปิด <Stranger Things> ในทีวี" |
ควบคุมสื่อ หมายเหตุ: คำสั่ง "ถัดไป ก่อนหน้า และกรอ" ใช้ได้เฉพาะในแอปที่พร้อมใช้งาน Cast เท่านั้น |
"เปิด <ในทีวี>" "ตอนถัดไป <ในทีวี>" |
หากคุณลิงก์อุปกรณ์แคสต์ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไว้เพียงเครื่องเดียว ก็ไม่ต้องพูดชื่ออุปกรณ์ในคำสั่งเสียง แต่พูดว่า "Ok Google ... <ในทีวี>" หรือ "Ok Google ... <ใน Chromecast>" แทนได้
เคล็ดลับการเล่นเนื้อหาในทีวี
เนื้อหาใน Google TV ที่คุณควบคุมได้ด้วยเสียง
- ภาพยนตร์ที่ซื้อหรือเช่า
- ตอนและซีซันของรายการทีวีที่ซื้อ
- เนื้อหาที่แชร์ผ่านการแชร์กับครอบครัว
วิธีง่ายๆ ในการควบคุมสื่อด้วยเสียง
เมื่อคุณเปิดรายการทีวีหรือภาพยนตร์โดยใช้เสียง เช่น "Ok Google ดู Orange is the New Black ในทีวี" คำสั่งควบคุมทั้งหมดต่อจากนั้น (หยุดชั่วคราว ถัดไป ฯลฯ) จะควบคุมทีวีเครื่องนั้น คุณไม่จำเป็นต้องระบุทีวีอีกหลังจากที่เริ่มดูไปแล้ว
ใช้เสียงควบคุมสื่อที่แคสต์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
หากเริ่มเปิดรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในทีวีแล้วเมื่อแคสต์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต คุณจะต้องพูดเพิ่มว่า <ในทีวี> ก่อน โดยจะพูดเพียงครั้งเดียวและหลังจากนั้นก็ไม่ต้องพูดว่า <ในทีวี> อีก
ควบคุมทีวีเมื่อมีสื่อเปิดอยู่ในลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home
เมื่อมีสื่อเล่นอยู่ในลำโพงหรือจอแสดงผลพร้อมกันกับอุปกรณ์ระยะไกล คำสั่งเพื่อการควบคุมทั้งหมดจะควบคุมลำโพงหรือจอแสดงผล ไม่ใช่อุปกรณ์ระยะไกล หากต้องการควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล คุณต้องพูดว่า "Ok Google .... <ในอุปกรณ์>" ทุกครั้ง
หากหยุดเล่นเนื้อหาในลำโพงหรือจอแสดงผลโดยพูดว่า "Ok Google หยุด" แต่ต้องการเริ่มควบคุมอุปกรณ์ระยะไกลที่กำลังเล่นอยู่ คุณต้องพูดคำว่า <ในอุปกรณ์> เพิ่มในคำสั่งถัดไปที่ใช้กับอุปกรณ์ระยะไกลเครื่องนี้ เช่น "Ok Google วิดีโอถัดไป <ในทีวี>"
การควบคุมรายการทีวีและภาพยนตร์ด้วยวิธีอื่นๆ
จากแอป Google Home- ตรวจสอบว่ามือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ระยะไกล
- เปิดแอป Google Home
- แตะเซสชันสื่อในปัจจุบันสำหรับรายการต่อไปนี้
- ตัวควบคุมการเล่น
- การควบคุมระดับเสียง
- ระบบควบคุมอุปกรณ์การเล่น
แก้ปัญหา
หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาต่อไปนี้
- ตรวจดูว่าคุณได้ลิงก์อุปกรณ์อย่างถูกต้องแล้ว ซึ่งรวมถึง
- ตรวจดูว่าอุปกรณ์แคสต์รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและใช้ Cast เวอร์ชัน 1.32 ขึ้นไป
- ตรวจดูว่าคุณได้ลิงก์อุปกรณ์ผ่านแอป Google Home โดยทำดังนี้
- เปิดแอป Google Home
- แตะบัญชีของคุณ
-
ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
-
แตะการตั้งค่า ในส่วนบริการ ให้แตะใช้กับ Google ได้
- รายการอุปกรณ์ที่ลิงก์ไว้ทั้งหมดควรปรากฏขึ้นมา
- ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลและ Chromecast หรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ Cast
เมื่อตั้งชื่ออุปกรณ์ โปรดทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อให้การเล่นในทีวีเป็นไปอย่างถูกต้อง
- ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผล, Chromecast หรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ Cast ให้แตกต่างกัน และอย่าใช้คำเดียวกันในชื่ออุปกรณ์ วิธีนี้ช่วยให้ลำโพงและจอแสดงผลเข้าใจคำสั่งของคุณได้อย่างถูกต้องและเปิดเนื้อหาในอุปกรณ์ที่ถูกต้อง
- ดี
- ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลว่า "ห้องนั่งเล่น"
- ตั้งชื่อ Chromecast ว่า "ทีวีครอบครัว"
- ตกลง
- ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผลว่า "Home ห้องนั่งเล่น"
- ตั้งชื่อ Chromecast ว่า "ทีวีห้องนั่งเล่น"
- ดี
- ตรวจดูว่าชื่อที่ตั้งออกเสียงได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้อีโมจิหรือสัญลักษณ์พิเศษ
- วิธีเปลี่ยนชื่อ Chromecast หรือลําโพงและจอแสดงผล
- เปิดแอป Google Home
- แตะรายการโปรด หรืออุปกรณ์
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้ ที่มุมขวาบน แตะการตั้งค่า ข้อมูลอุปกรณ์ ชื่ออุปกรณ์
- ลบชื่อปัจจุบันแล้วพิมพ์ชื่อใหม่ แตะบันทึก
- ตั้งชื่อลำโพงหรือจอแสดงผล, Chromecast หรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ Cast ให้แตกต่างกัน และอย่าใช้คำเดียวกันในชื่ออุปกรณ์ วิธีนี้ช่วยให้ลำโพงและจอแสดงผลเข้าใจคำสั่งของคุณได้อย่างถูกต้องและเปิดเนื้อหาในอุปกรณ์ที่ถูกต้อง
- ตรวจสอบว่าได้ลิงก์บัญชีของผู้ให้บริการสื่อแล้ว
- Make sure you're not trying to play content on Android TV. This is not supported yet.
- ลองระบุผู้ให้บริการที่เจาะจงในคำขอ เช่น "เปิด <The Crown> <จาก Netflix> <ในทีวี>"
- หากได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดอย่างเช่น "ฉันเปิดวิดีโอได้แค่ในอุปกรณ์ที่ใช้ Chromecast หรือทีวีที่พร้อมใช้งาน Cast เท่านั้น" ให้ลองเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดวิดีโอในทีวีโดยใช้อุปกรณ์ Google Nest และ Homeเปิดเสียงในลำโพงและทีวีจากอุปกรณ์ Google Nest และ Home
ควบคุมเนื้อหาที่มีการจำกัด
ฟังวิทยุ
ฟังพอดแคสต์
ควบคุมระดับเสียงของอุปกรณ์ Google Nest และ Home