วิธีการเบื้องต้น
ขั้นตอนแรกในการตั้งค่าการติดตามเว็บไซต์คือการสร้างพร็อพเพอร์ตี้ Analytics สร้างพร็อพเพอร์ตี้ Analytics 1 รายการในแต่ละเว็บไซต์ที่คุณต้องการติดตาม
การสร้างพร็อพเพอร์ตี้ Analytics จะสร้างรหัสติดตามและข้อมูลโค้ดติดตาม JavaScript ขั้นตอนถัดไปในการตั้งค่าการติดตามเว็บไซต์คือการทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- เพิ่มข้อมูลโค้ดติดตามทั้งหมดลงในหน้าเว็บแต่ละหน้าที่คุณต้องการติดตาม เพิ่มข้อมูลโค้ดติดตามไว้หลังจากแท็กเปิด
<head>
ในแต่ละหน้า
หรือ - ป้อนรหัสติดตามลงในช่องที่ต้องการรหัสติดตามของ Google Analytics (ในบริการเว็บโฮสติ้งบางส่วน คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มข้อมูลโค้ดติดตามทั้งหมดลงในหน้าเว็บแต่ละหน้าในไซต์ แต่ให้ป้อนรหัสติดตามลงในช่องแทน ถ้าช่องนี้มีอยู่ โดยปกติแล้วจะอยู่ในส่วน "ผู้ดูแลระบบ" หรือ "Analytics" ของเว็บโฮสติ้ง หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่าน "บริการเว็บโฮสติ้ง" ภายในดูการตั้งค่าของประเภทพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณกำลังติดตามด้านล่าง)
ค้นหารหัสติดตามและข้อมูลโค้ดติดตามของคุณ
วิธีการค้นหารหัสติดตามและข้อมูลโค้ด
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ
- เลือกบัญชีจากเมนูในคอลัมน์บัญชี
- เลือกพร็อพเพอร์ตี้จากเมนูในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้
- ในพร็อพเพอร์ตี้ คลิกข้อมูลการติดตาม > โค้ดติดตาม
- รหัสติดตามและหมายเลขพร็อพเพอร์ตี้จะแสดงที่ด้านบนสุดของหน้า
- วิธีการเพิ่มโค้ดติดตามเวอร์ชัน analytics.js มีอยู่ในเว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเรา
ดูการตั้งค่าของประเภทพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณกำลังติดตาม
มีหลายวิธีในการรวบรวมข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้ออนไลน์ใน Analytics ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการติดตามเว็บไซต์ แอป หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบางประเภท วิธีการต่อไปนี้จะอธิบายวิธีตั้งค่าโค้ดติดตามสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ประเภทต่างๆ
- เว็บไซต์แบบคงที่
เว็บไซต์แบบคงที่อิงตาม HTML ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบไดนามิก และไม่ได้สร้างโดยใช้ภาษาในการเขียนโปรแกรมอย่างเช่น Python, Ruby หรือ PHP
- ค้นหาข้อมูลโค้ดติดตาม JavaScript สำหรับพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ แล้วคัดลอกทั้งหมด อย่าทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับข้อมูลโค้ด
- วางข้อมูลโค้ดทั้งหมดลงใน HTML ของหน้าเว็บ หลังแท็กเปิด
<head>
หากคุณต้องการส่งข้อมูลจากหน้าเว็บหน้าเดียวไปยังพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการ คุณสามารถติดตามหน้าเว็บโดยใช้บัญชีหลายบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการภายในบัญชีเดียว
- เว็บไซต์แบบไดนามิก
เว็บไซต์แบบไดนามิกเป็นแบบที่มีการสร้าง HTML โดยใช้ภาษาในการเขียนโปรแกรมอย่างเช่น Python, Ruby หรือ PHP คุณสามารถใช้เทมเพลตหรือคำสั่งรวมเพื่อใส่โค้ดติดตามลงในหน้าเว็บแต่ละหน้าแบบไดนามิกได้
- ค้นหาข้อมูลโค้ดติดตาม JavaScript สำหรับพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ แล้วคัดลอกทั้งหมด อย่าทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับข้อมูลโค้ด
- วางข้อมูลโค้ดทั้งหมดลงในไฟล์รวมของตัวเอง จากนั้นเพิ่มคำสั่งรวมลงในส่วนหัวของหน้าเว็บ เพื่อให้ข้อมูลโค้ดปรากฏหลังแท็กเปิด
</head>
วิธีการทำงานหากใช้ PHP
คัดลอกข้อมูลโค้ดติดตาม JavaScript แล้วใส่ลงในไฟล์ที่ชื่อว่า
analyticstracking.php
จากนั้นก็รวมไฟล์analyticstracking.php
ลงในหน้าเทมเพลต PHP แต่ละหน้า เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ไว้หลังจากแท็กเปิด<body>
ในหน้าเทมเพลตแต่ละหน้า<?php include_once("analyticstracking.php") ?>
โปรดทราบว่าคุณสามารถใช้ Google Tag Manager เพื่ออัปเดตโค้ดติดตามสำหรับเว็บไซต์แบบไดนามิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- บริการเว็บโฮสติ้ง (คุณไม่ได้จัดการซอร์สโค้ด)
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางรายหรือแพลตฟอร์มโฮสติ้ง (เช่น Wordpress, GoDaddy, Wix, Weebly และอื่นๆ) จะทำให้การติดตั้งโค้ดติดตาม Analytics ง่ายขึ้นด้วยการนำเสนอปลั๊กอินที่จะติดตั้งข้อมูลโค้ดในหน้าเว็บโดยอัตโนมัติ โปรดตรวจสอบวิธีการของแพลตฟอร์มในการเพิ่มรหัสติดตาม Analytics ของคุณ
วิธีการใช้งาน Analytics สำหรับผู้ให้บริการทั่วไปบางรายมีดังนี้
เมื่อคุณใช้ปลั๊กอินเพื่อรวบรวมข้อมูล คุณอาจไม่สามารถเพิ่มการตั้งค่าการกำหนดค่าเพื่อปรับแต่งข้อมูลที่ต้องการติดตามได้ หากคุณมีข้อกำหนดพิเศษในการติดตามข้อมูล โปรดดูวิธีการเริ่มต้นใช้งาน Analytics
- เว็บไซต์ที่ใช้ Google Tag Manager
Google Tag Manager เป็นเครื่องมือฟรีที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดการแท็กการติดตามไซต์และการวิเคราะห์หลายรายการ หากต้องการใช้ Google Tag Manager เพื่อติดตั้งโค้ดติดตาม Analytics โปรดอ่านบทความการตั้งค่าและติดตั้ง Google Tag Manager
- แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
อ่านเกี่ยวกับ Analytics สำหรับแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือระบบ CRM
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ระบบออนไลน์ที่ใช้ ณ จุดขาย หรือคอนโซลวิดีโอเกม หรือจากระบบ CRM หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ คุณจะต้องใช้ Analytics Measurement Protocol
ตรวจสอบว่าโค้ดติดตามทำงานอยู่
เมื่อคุณติดตั้งโค้ดติดตาม Analytics สำเร็จแล้ว ระบบอาจใช้เวลานานถึง 24 ชั่วโมงเพื่อให้ข้อมูลอย่างเช่น ข้อมูลอ้างอิงการเข้าชม ลักษณะเฉพาะของผู้ใช้ และข้อมูลการท่องเว็บปรากฏในรายงานของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตรวจสอบการตั้งค่าการติดตามเว็บได้ทันที
แก้ปัญหาการตั้งค่าโค้ดติดตาม
หากคุณไม่เห็นข้อมูลใดๆ หรือไม่เห็นข้อมูลที่คาดไว้ สามารถใช้เครื่องมือแก้ไขปัญหาการตั้งค่าโค้ดติดตามเพื่อระบุและแก้ไขปัญหาได้
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ไซต์ Google Developers เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของข้อมูลโค้ดติดตาม