[UA] รายงานอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ

อีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพช่วยให้คุณได้รับรายงานที่เจาะลึกและนำมาใช้งานได้จริงจำนวนมาก คุณจะดูรายงานบางส่วนตัวไปนี้ได้ตลอดเวลาเมื่อคุณเปิดใช้อีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

บทความนี้ประกอบด้วย

ข้อกำหนดเบื้องต้น

  1. ติดแท็กพร็อพเพอร์ตี้ของคุณด้วย ec.js
  2. เปิดอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

ดูรายงานอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ

วิธีเข้าถึงรายงานอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ:
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Analytics
  2. ไปที่ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
  3. เปิดรายงาน
  4. เลือก Conversion > อีคอมเมิร์ซ

ข้อมูลที่มี

รายงานภาพรวมจะให้คุณดูสถานะโดยรวมของธุรกิจ รวมทั้งให้เมตริกที่เกี่ยวข้องใน 3 หมวดหมู่

รายได้และอัตรา Conversion

  • รายได้ (รายได้รวมจากการทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ โดยอาจรวมภาษีและค่าขนส่ง)
  • อัตรา Conversion ของอีคอมเมิร์ซ (อัตราส่วนของธุรกรรมต่อเซสชันแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์)

ธุรกรรม

  • ธุรกรรม (จำนวนการทำธุรกรรมที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในเว็บไซต์ของคุณ)
  • มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย (มูลค่าการสั่งซื้อแต่ละรายการโดยเฉลี่ย)
  • จำนวนเฉลี่ย (จำนวนโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ที่ขายต่อธุรกรรม)

การตลาด

จำนวนการแสดงผลสำหรับการโปรโมตภายใน

จำนวนการทำธุรกรรมทั้งหมด รายได้ทั้งหมด และมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยสำหรับ:

  • แคมเปญ
  • รหัสคูปองคำสั่งซื้อ
  • แอฟฟิลิเอต

นอกจากเมตริกรวมแล้ว คุณยังดูเมตริกรายได้แบบแยกแต่ละผลิตภัณฑ์ หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ได้

ใช้กราฟด้านบนของรายงานในการเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

ภาพรวมอีคอมเมิร์ซ

รายงานภาพรวมจะแสดงสรุปเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้

  • รายได้
  • อัตรา Conversion ของอีคอมเมิร์ซ
  • ธุรกรรม
  • มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย
  • การตลาด (แคมเปญ การโปรโมตภายใน รหัสคูปองคำสั่งซื้อ แอฟฟิลิเอต)
  • รายการที่ขายดี (ตามผลิตภัณฑ์ หมวดหมู่ และยี่ห้อ)

การวิเคราะห์พฤติกรรมการช็อปปิ้ง

รายงานการวิเคราะห์พฤติกรรมการช็อปปิ้งจะให้คุณดูจำนวนเซสชันที่มีช่องทางการซื้อแต่ละขั้นตอน จำนวนเซสชันที่มีการดำเนินการจากขั้นตอนหนึ่งไปยังอีกขั้นตอนหนึ่ง และจำนวนการออกจากช่องทางในแต่ละขั้นตอน ในช่องทางที่แสดงให้เห็นว่ามีการยกเลิก (ลูกศรสีแดงที่ด้านล่างของขั้นตอน) ผู้ใช้ไม่มีการดำเนินการขั้นตอนเพิ่มเติมในช่องทางในเซสชันเดียวกัน ผู้ใช้จะเข้าไปยังช่องทางนั้นอีกครั้งเมื่อใดก็ได้ (แสดงเป็นแถบสีน้ำเงินที่แยกออกมาที่ด้านบนของขั้นตอน) ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นในเซสชันหนึ่งแล้วกลับมาซื้อในเซสชันต่อมา ภาพแสดงช่องทางจะนับผู้ใช้เป็นการกลับเข้ามาใหม่ในขั้นตอนการเช็คเอาต์

คุณจะประเมินประสบการณ์การช็อปปิ้งของผู้ใช้ตั้งแต่การแสดงผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการทำธุรกรรมได้

Analytics จะพิจารณาขั้นตอนของ Funnel ตามการติดแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดแท็กช่องทางการช็อปปิ้งของคุณ

ใช้ภาพแสดงช่องทางในการระบุจุดแข็งและจุดอ่อนในช่องทางการซื้อของคุณ โปรดดูตัวอย่างการวิเคราะห์ในการประเมินประสิทธิภาพของช่องทางการซื้อ

นอกจากความสามารถในการแสดงจำนวนเซสชันในช่องทางต่างๆ แล้ว คุณยังใช้การแสดงผลในการสร้างกลุ่มของเซสชัน ตัวอย่างเช่น จำนวนเซสชันที่มีการดูผลิตภัณฑ์ หรือจำนวนเซสชันที่มีการออกจากช่องทางขณะเช็คเอาต์ได้ เพียงคลิกขั้นตอนของช่องทางหรือลูกศรการหยุดกลางคันเพื่อสร้างกลุ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างกลุ่มจากช่องทางของคุณ

นอกเหนือจากช่องทาง ตารางยังช่วยคุณในการประเมินจำนวนมิติข้อมูลและเมตริกในบริบทของเซสชันโดยทั่วไป หรือเซสชันที่ผู้ใช้ออกจากช่องทางการซื้อ

วิธีที่มิติข้อมูลขั้นตอนการช็อปปิ้งสำหรับอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพจับคู่กับเมตริกขั้นตอนของช่องทาง
มิติข้อมูลขั้นตอนการช็อปปิ้ง เมตริกขั้นตอนของช่องทาง
ALL_VISITS เซสชันทั้งหมด
NO_SHOPPING_ACTIVITY ไม่มีกิจกรรมการช็อปปิ้ง
ออกจากขั้นตอนแรกโดยไม่มีการส่งรายละเอียด การเพิ่ม การเช็คเอาต์ หรือการซื้อพร้อมกับ Hit
PRODUCT_VIEW เซสชันที่มีการดูผลิตภัณฑ์
มีการส่งรายละเอียดอย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit
NO_CART_ADDITION ไม่มีการเพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง
มีการส่งรายละเอียดอย่างน้อย 1 รายการ แต่ไม่มีการเพิ่ม การเช็คเอาต์ หรือการซื้อพร้อมกับ Hit
ADD_TO_CART เซสชันที่มีการเพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง
ADD_TO_CART_WITHOUT_VIEW เซสชันที่มีการเพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง (ส่วนแบ่งด้านบนสุด)
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งรายละเอียดพร้อมกับ Hit
ADD_TO_CART_WITH_VIEW เซสชันที่มีการเพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง (ส่วนแบ่งด้านล่างสุด)
มีการส่งรายละเอียดอย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit รวมขั้นตอนก่อนหน้าและปัจจุบัน
CART_ABANDONMENT การละทิ้งรถเข็นช็อปปิ้ง
มีการส่งการเพิ่มอย่างน้อย 1 รายการ แต่ไม่มีการเช็คเอาต์หรือการซื้อพร้อมกับ Hit
CHECKOUT เซสชันที่มีการเช็คเอาต์
CHECKOUT_WITHOUT_CART_ADDITION เซสชันที่มีการเช็คเอาต์ (ส่วนแบ่งด้านบนสุด)
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเพิ่มพร้อมกับ Hit
CHECKOUT_WITH_CART_ADDITION เซสชันที่มีการเช็คเอาต์ (ส่วนแบ่งด้านล่างสุด)
มีการส่งการเพิ่มอย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit รวมขั้นตอนก่อนหน้าและปัจจุบัน
CHECKOUT_ABANDONMENT การละทิ้งที่การเช็คเอาต์
มีการส่งการเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการ แต่ไม่มีการซื้อพร้อมกับ Hit
TRANSACTION เซสชันที่มีธุรกรรม
มีการส่งการซื้ออย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit
TRANSACTION_WITHOUT_CHECKOUT เซสชันที่มีธุรกรรม (ส่วนแบ่งด้านบนสุด)
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเช็คเอาต์พร้อมกับ Hit

การวิเคราะห์พฤติกรรมการเช็คเอาต์

รายงานการวิเคราะห์พฤติกรรมการเช็คเอาต์จะให้คุณดูว่ามีผู้ใช้ผ่านไปถึงกระบวนการเช็คเอาต์มากน้อยเพียงใด ภาพ Funnel การชําระเงินจะแสดงจำนวนผู้ใช้ที่ไปยังอีกขั้นตอนจากขั้นตอนหนึ่ง รวมถึงจำนวนผู้ใช้ที่ออกจากกระบวนการในแต่ละขั้นตอน และจำนวนผู้ใช้ที่เข้าสู่กระบวนการในแต่ละขั้นตอน

Analytics จะพิจารณาขั้นตอนของ Funnel ตามการติดแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดแท็กช่องทางการเช็คเอาต์ของคุณ

ใช้ภาพแสดงช่องทางในการระบุจุดแข็งและจุดอ่อนในช่องทางเช็คเอาต์ของคุณ โปรดดูตัวอย่างการวิเคราะห์ในประสิทธิภาพของช่องทางการเช็คเอาต์

นอกจากความสามารถในการแสดงจำนวนเซสชันในช่องทางต่างๆ คุณยังใช้การแสดงผลในการสร้างกลุ่มของเซสชันเหล่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น เซสชันที่มีขั้นตอนที่ 1 เซสชันที่มีผู้ใช้ไปยังขั้นตอนที่ 2 จากขั้นตอนที่ 1 เซสชันที่มีการออกจากช่องทางในขั้นตอนสุดท้าย หรือเซสชันที่มีการเข้าสู่ช่องทางในขั้นตอนสุดท้าย เพียงคลิกขั้นตอนของช่องทาง การเปลี่ยน ลูกศรการหยุดกลางคัน หรือทางเข้าในขั้นตอนที่ระบุ (แถบบนสุดในขั้นตอน) เพื่อสร้างกลุ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างกลุ่มจากช่องทางของคุณ

นอกเหนือจากช่องทาง ตารางยังช่วยคุณในการประเมินจำนวนมิติข้อมูลและเมตริกในบริบทของเซสชันโดยทั่วไป หรือเซสชันที่ผู้ใช้ออกจากช่องทางการเช็คเอาต์

วิธีที่มิติข้อมูลพฤติกรรมการเช็คเอาต์สำหรับอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพจับคู่กับเมตริกขั้นตอนของช่องทาง
มิติข้อมูลพฤติกรรมการเช็คเอาต์ เมตริกขั้นตอนของช่องทาง
CHECKOUT_1 ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 1 เช่น การเรียกเก็บเงิน
ส่งพร้อมกับ Hit: การเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่มีขั้นตอน = 1 หรือการเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่ไม่มีการระบุขั้นตอน
CHECKOUT_1_ABANDONMENT การละทิ้งขั้นตอนการเช็คเอาต์ 1 เช่น การออกจากการเรียกเก็บเงิน
ส่งพร้อมกับ Hit: การเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่ไม่มีการระบุขั้นตอน หรือที่มีการระบุขั้นตอนที่ 1 แต่ไม่มีขั้นตอนการเช็คเอาต์หรือการซื้อที่ตามมา
CHECKOUT_2_WITHOUT_CHECKOUT ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 2 (ส่วนแบ่งด้านบนสุด) เช่น การจัดส่ง
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเช็คเอาต์ที่มีขั้นตอน = 1 พร้อมกับ Hit
CHECKOUT_2 ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 2 (ส่วนแบ่งด้านล่างสุด) เช่น การจัดส่ง
มีการส่งการเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit รวมขั้นตอนก่อนหน้าและปัจจุบัน
CHECKOUT_2_ABANDONMENT การละทิ้งขั้นตอนการเช็คเอาต์ 2 เช่น การออกจากการจัดส่ง
ส่งพร้อมกับ Hit: การเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่มีขั้นตอน = 2 แต่ไม่มีขั้นตอนการเช็คเอาต์หรือการซื้อที่ตามมา
CHECKOUT_3_WITHOUT_CHECKOUT ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 3 (ส่วนแบ่งด้านบนสุด) เช่น การชำระเงิน
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเช็คเอาต์ที่มีขั้นตอน = 2 พร้อมกับ Hit
CHECKOUT_3 ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 3 (ส่วนแบ่งด้านล่างสุด) เช่น การชำระเงิน
มีการส่งการเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit รวมขั้นตอนก่อนหน้าและปัจจุบัน
CHECKOUT_3_ABANDONMENT การละทิ้งขั้นตอนการเช็คเอาต์ 3 เช่น การออกจากการชำระเงิน
ส่งพร้อมกับ Hit: การเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่มีขั้นตอน = 3 แต่ไม่มีขั้นตอนการเช็คเอาต์หรือการซื้อที่ตามมา
CHECKOUT_4_WITHOUT_CHECKOUT ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 4 (ส่วนแบ่งด้านบนสุด) เช่น การตรวจสอบ
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเช็คเอาต์ที่มีขั้นตอน = 3 พร้อมกับ Hit
CHECKOUT_4 ขั้นตอนการเช็คเอาต์ 4 (ส่วนแบ่งด้านล่างสุด) เช่น การตรวจสอบ
มีการส่งการเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit รวมขั้นตอนก่อนหน้าและปัจจุบัน
CHECKOUT_4_ABANDONMENT การละทิ้งขั้นตอนการเช็คเอาต์ 4 เช่น การออกจากการตรวจสอบ
ส่งพร้อมกับ Hit: การเช็คเอาต์อย่างน้อย 1 รายการที่มีขั้นตอน = 4 แต่ไม่มีขั้นตอนการเช็คเอาต์หรือการซื้อที่ตามมา
TRANSACTION เซสชันที่มีธุรกรรม
มีการส่งการซื้ออย่างน้อย 1 รายการพร้อมกับ Hit
TRANSACTION_WITHOUT_CHECKOUT เซสชันที่มีธุรกรรม (ส่วนแบ่งด้านบนสุด)
เข้าสู่ช่องทางที่ขั้นตอนนี้ ไม่มีการส่งการเช็คเอาต์ที่มี ขั้นตอน = 4 พร้อมกับ Hit

ช่องทางพฤติกรรมการช็อปปิ้งและพฤติกรรมการเช็คเอาต์

ส่วนนี้จะอธิบายวิธีที่รายงานพฤติกรรมการช็อปปิ้งและพฤติกรรมการเช็คเอาต์จัดการกับผู้ใช้ที่วนกลับมายังหน้าต่างๆ ในช่องทาง ผู้ใช้ที่ข้ามหน้าในช่องทาง และผู้ใช้ที่ไม่มาตามลำดับของช่องทาง

ตัวอย่างสำหรับช่องทางที่มี 3 หน้า: หน้า A > หน้า B > หน้า C

วนกลับ

หน้า A > หน้า B > หน้า C > หน้า B > หน้า C

ผู้ใช้วนจากหน้า C กลับไปยังหน้า B ต่อเนื่องไปตามลำดับของช่องทางและเปิดหน้า B และ C หลายครั้ง

รายงานแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ผ่านช่องทางตั้งแต่ต้นจนจบเนื่องจากผู้ใช้ไม่ได้ข้ามหน้าใดๆ ในการเข้าชมครั้งนั้น

ระบบจะนับผู้ใช้ผู้นั้นเพียงครั้งเดียวสำหรับแต่ละหน้าเนื่องจากช่องทางแสดงจำนวนการเข้าชมขณะที่มีการเปิดแต่ละหน้า

ข้ามหน้า

หน้า A > หน้า C

ผู้ใช้ไม่ได้เปิดหน้า B

รายงานแสดงว่าผู้ใช้ข้ามหน้า B

ไม่มาตามลำดับของช่องทาง

หน้า B > หน้า A > หน้า C

รายงานแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ผ่านช่องทางตั้งแต่ต้นจนจบเนื่องจากผู้ใช้เปิดทั้ง 3 หน้าในการเข้าชมครั้งเดียว ไม่ว่าผู้ใช้จะเปิดตามลำดับใดก็ตาม

ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์

ตัวกรองการค้นหาและแทนที่ไม่สามารถใช้ได้ในมิติข้อมูลระดับผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเองหรือมาตรฐาน

รายงานประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จะให้คุณดูประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จาก 2 มุมมองที่แตกต่างกัน

  • สรุป: ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในแง่ของรายได้ ราคา และปริมาณ ใช้เมตริกพฤติกรรมการช็อปปิ้ง 2 รายการ
  • พฤติกรรมการช็อปปิ้ง: ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในแง่ของการมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้ (เช่น การดูผลิตภัณฑ์และรายละเอียด การเพิ่มและนำผลิตภัณฑ์ออกจากรถเข็น การเช็คเอาต์)

มุมมองสรุปจะแสดงเมตริกต่อไปนี้

  • ประสิทธิภาพการขาย
    • รายได้ของผลิตภัณฑ์ (รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ)
    • การซื้อที่ไม่ซ้ำ
    • ปริมาณ (จำนวนหน่วยที่ขายได้)
    • ราคาเฉลี่ย (รายได้เฉลี่ยต่อผลิตภัณฑ์)
    • จำนวนเฉลี่ย
    • จำนวนเงินคืนสำหรับผลิตภัณฑ์ (จำนวนเงินที่คืนให้กับผู้ใช้)
  • พฤติกรรมการช็อปปิ้ง
    • อัตรารถเข็นช็อปปิ้งต่อรายละเอียด (จำนวนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มต่อจำนวนการดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์)
    • อัตราการซื้อต่อรายละเอียด (จำนวนของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อต่อจำนวนการดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์)

มุมมองพฤติกรรมการช็อปปิ้งจะรวมเมตริกต่อไปนี้

  • ประสิทธิภาพการขาย
    • จำนวนการดูรายการผลิตภัณฑ์
    • การดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์
    • การเพิ่มผลิตภัณฑ์ (ใส่รถเข็น)
    • การนำผลิตภัณฑ์ออก (จากรถเข็น)
    • การเช็คเอาต์ผลิตภัณฑ์
    • การซื้อที่ไม่ซ้ำ
  • พฤติกรรมการช็อปปิ้ง
    • อัตรารถเข็นช็อปปิ้งต่อรายละเอียด (จำนวนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มต่อจำนวนการดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์)
    • อัตราการซื้อต่อรายละเอียด (จำนวนของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อต่อจำนวนการดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์)

มิติข้อมูลหลักที่ใช้ได้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์, SKU ของผลิตภัณฑ์, หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์, แบรนด์ผลิตภัณฑ์ และขั้นตอนการช็อปปิ้ง

ใช้กราฟด้านบนของรายงานในการเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

ประสิทธิภาพการขาย

รายงานประสิทธิภาพการขายจะให้คุณประเมินการขายโดยใช้มิติข้อมูลหลัก 2 รายการ ได้แก่

  • ธุรกรรม (วันที่, เวลา, รหัสธุรกรรม)
  • วันที่ (ข้อมูลธุรกรรมสะสมตามวันที่)

รายงานประสิทธิภาพการขายประกอบด้วยเมตริกต่อไปนี้

  • รายได้ (รายได้ทั้งหมดจากธุรกรรมอีคอมเมิร์ซขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ซึ่งอาจรวมภาษีและค่าจัดส่ง)
  • ภาษี (การเรียกเก็บเงินภาษีทั้งหมดสำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ)
  • ค่าจัดส่ง (การเรียกเก็บเงินในการจัดส่งทั้งหมดสำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ)
  • จำนวนเงินคืน (จำนวนเงินคืนสำหรับธุรกรรมหนึ่ง)
  • ปริมาณ (จำนวนหน่วยที่ขายได้ในธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ)

ประสิทธิภาพรายการผลิตภัณฑ์

รายการผลิตภัณฑ์เป็นการแสดงการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของคุณอย่างเป็นระบบตามการติดแท็ก ec.js ซึ่งคุณจะใช้เพื่อแสดง

  • หน้าแคตตาล็อก
  • บล็อกการขายแบบครอสเซล
  • บล็อกการขายแบบอัปเซล
  • บล็อกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  • หน้าผลการค้นหา

รายงานประสิทธิภาพรายการผลิตภัณฑ์จะให้คุณดูประสิทธิภาพของรายการผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของคุณจากเมตริกต่อไปนี้

  • การดูรายการผลิตภัณฑ์ (จำนวนครั้งที่ผู้ใช้ดูผลิตภัณฑ์เมื่อปรากฏในรายการผลิตภัณฑ์)
  • การคลิกรายการผลิตภัณฑ์ (จำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกผลิตภัณฑ์เมื่อปรากฏในรายการผลิตภัณฑ์)
  • CTR รายการผลิตภัณฑ์ (อัตราที่ผู้ใช้คลิกรายการผลิตภัณฑ์เพื่อดูผลิตภัณฑ์ (จำนวนคลิกหารด้วยจำนวนครั้งที่มีการแสดงรายการ)

มิติข้อมูลหลักที่ใช้ได้ ได้แก่ ชื่อรายการผลิตภัณฑ์ ตำแหน่งรายการผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ และ SKU ของผลิตภัณฑ์

ใช้กราฟเพื่อเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

การโปรโมตภายใน

การรายงานการโปรโมตภายในและการระบุแหล่งที่มาของการคลิกและการดูการโปรโมตภายในใช้ได้เฉพาะกับประเภท Hit และคลังอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ

การโปรโมตภายในอาจรวมถึงรายการอย่างแบนเนอร์ที่คุณแสดงในส่วนหนึ่งของเว็บไซต์เพื่อโฆษณาอีกส่วนหนึ่งของเว็บไซต์

รายงานการโปรโมตภายในจะให้คุณดูประสิทธิภาพของการโปรโมตภายในจากเมตริกต่อไปนี้

  • การดูการโปรโมตภายใน (จำนวนครั้งที่ผู้ใช้ดูการโปรโมตภายใน)
  • จำนวนคลิกของการโปรโมตภายใน (จำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกการโปรโมตภายใน)
  • CTR การโปรโมตภายใน (อัตราที่ผู้ใช้คลิกการโปรโมตภายใน (จำนวนการดู/จำนวนคลิก))

ชื่อการโปรโมตภายในคือมิติข้อมูลหลัก

ใช้กราฟเพื่อเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

วิธีระบุแหล่งที่มาของธุรกรรม

รายงานการโปรโมตภายในจะระบุแหล่งที่มาของธุรกรรมเป็นการคลิกการโปรโมตภายในหรือการดูการโปรโมตภายใน

Hit แต่ละรายการในเซสชันอีคอมเมิร์ซมีได้ดังต่อไปนี้

  • การคลิกการโปรโมตภายใน 0 หรือ 1 รายการ
  • การดูการโปรโมตภายใน 0 ครั้งขึ้นไป

การระบุแหล่งที่มาของการคลิกการโปรโมตภายใน

หาก Hit หนึ่งมีการคลิกการโปรโมตภายในครั้งเดียว การโปรโมตภายในดังกล่าวจะได้รับเครดิตสำหรับธุรกรรม

หากเซสชันหนึ่งมีการคลิกการโปรโมตภายในหลายครั้ง การโปรโมตภายในที่ได้รับคลิกสุดท้ายจะได้รับเครดิตสำหรับธุรกรรม

หาก Hit หนึ่งมีการคลิกการโปรโมตภายในเป็น 0 แต่ Hit รายการใดรายการหนึ่งก่อนหน้านี้ของผู้ใช้รายนั้นมีการคลิกการโปรโมตภายใน การโปรโมตภายในจากคลิกก่อนหน้าดังกล่าวจะได้รับเครดิตสำหรับธุรกรรม

การระบุแหล่งที่มาของการดูการโปรโมตภายใน

หากไม่มีเงื่อนไขใดด้านบนเป็นจริง แต่ Hit มีการดูการโปรโมตภายในอย่างน้อย 1 ครั้ง ธุรกรรมจะได้รับเครดิตจากการดูโปรโมชันทั้งหมดภายในเซสชัน

คูปองคำสั่งซื้อ

รายงานคูปองคำสั่งซื้อจะให้คุณดูประสิทธิภาพของคูปองในระดับคำสั่งซื้อจากเมตริกต่อไปนี้

  • รายได้ (รายได้ทั้งหมดจากธุรกรรมอีคอมเมิร์ซขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ซึ่งอาจรวมภาษีและค่าจัดส่ง)
  • ธุรกรรม (จำนวนการซื้อที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในเว็บไซต์)
  • มูลค่าเฉลี่ย (มูลค่าเฉลี่ยของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ)

รหัสคูปองคำสั่งซื้อคือมิติข้อมูลหลัก

ใช้กราฟเพื่อเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

คูปองผลิตภัณฑ์

รายงานคูปองผลิตภัณฑ์จะให้คุณดูประสิทธิภาพของคูปองในระดับผลิตภัณฑ์จากเมตริกต่อไปนี้

  • รายได้ (รายได้ทั้งหมดจากธุรกรรมอีคอมเมิร์ซขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ซึ่งอาจรวมภาษีและค่าจัดส่ง)
  • การซื้อที่ไม่ซ้ำ (จำนวนครั้งที่ผลิตภัณฑ์ที่ระบุ (หรือชุดของผลิตภัณฑ์) เป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรม)
  • รายได้ของผลิตภัณฑ์ต่อการซื้อ (รายได้เฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ต่อการซื้อ)

รหัสคูปองผลิตภัณฑ์คือมิติข้อมูลหลัก

ใช้กราฟเพื่อเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

รหัสแอฟฟิลิเอต

รายงานรหัสแอฟฟิลิเอตจะให้คุณดูว่าเว็บไซต์แอฟฟิลิเอตของคุณมีส่วนสนับสนุนประสิทธิภาพของอีคอมเมิร์ซมากน้อยเพียงใดจากเมตริกต่อไปนี้

  • รายได้ (รายได้ทั้งหมดจากธุรกรรมอีคอมเมิร์ซขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ซึ่งอาจรวมภาษีและค่าจัดส่ง)
  • ธุรกรรม (จำนวนการซื้อที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในเว็บไซต์)
  • มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย (มูลค่าเฉลี่ยของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ)

พาร์ทเนอร์คือมิติข้อมูลหลัก

ใช้กราฟเพื่อเปรียบเทียบเมตริกอีคอมเมิร์ซ 2 รายการในช่วงวันที่ที่คุณใช้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้รายงานเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการช็อปปิ้ง ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ และการจัดวางสินค้าของคุณ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
7757790674782337683
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false