การเพิ่มพารามิเตอร์แคมเปญไปยัง URL ปลายทางที่คุณใช้ในแคมเปญโฆษณาทำให้คุณเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญเหล่านั้นได้ และยังเข้าใจด้วยว่าแคมเปญจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นที่จุดใด ตัวอย่างเช่น แคมเปญลดราคาหน้าร้อนของคุณอาจสร้างรายได้จำนวนมาก แต่หากคุณใช้งานแคมเปญในแอปโซเชียลต่างๆ หลายที่ คุณอาจต้องการทราบว่าแอปโซเชียลใดที่ส่งลูกค้าที่สร้างรายได้ให้กับคุณมากที่สุด หรือหากคุณใช้งานแคมเปญหลายแบบผ่านทางอีเมล โฆษณาวิดีโอ และโฆษณาในแอป คุณจะสามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์เพื่อดูว่าการตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ส่วนใด
เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์การอ้างอิง ระบบจะส่งพารามิเตอร์ที่คุณเพิ่มไปยัง Analytics และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะแสดงอยู่ในรายงานแคมเปญ
บทความนี้ประกอบด้วยพารามิเตอร์
พารามิเตอร์ 5 รายการที่คุณสามารถเพิ่มลงใน URL ได้มีดังนี้
utm_source
: ระบุผู้ลงโฆษณา เว็บไซต์ เอกสาร ฯลฯ ที่ส่งการเข้าชมมายังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ เช่น google, newsletter4, billboardutm_medium
: สื่อการโฆษณาหรือการตลาด เช่น cpc, banner, email newsletterutm_campaign
: ชื่อแต่ละแคมเปญ สโลแกน รหัสส่งเสริมการขายสำหรับผลิตภัณฑ์ เป็นต้นutm_term
: ระบุคีย์เวิร์ดในการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณติดแท็กแคมเปญสำหรับคีย์เวิร์ดที่ได้ซื้อไว้ด้วยตัวเอง คุณควรใช้ utm_term เพื่อระบุคีย์เวิร์ดดังกล่าวด้วยutm_content
: ใช้เพื่อแยกแยะเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน หรือลิงก์ภายในโฆษณาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีลิงก์คำเชิญลงมือทำ 2 ลิงก์อยู่ในข้อความอีเมลเดียวกัน คุณสามารถใช้ utm_content และกำหนดค่าที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละลิงก์ เพื่อให้คุณบอกได้ว่ารูปแบบใดมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
พารามิเตอร์แต่ละตัวจะต้องจับคู่กับค่าที่คุณกำหนด จากนั้นคู่พารามิเตอร์-ค่าแต่ละคู่จะเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ
ตัวอย่างเช่น คุณอาจใช้คู่พารามิเตอร์-ค่าต่อไปนี้สำหรับแคมเปญลดราคาหน้าร้อน
utm_source
= summer-mailer เพื่อระบุการเข้าชมที่มาจากแคมเปญอีเมลลดราคาหน้าร้อนutm_medium
= email เพื่อระบุการเข้าชมจากแคมเปญอีเมลเทียบกับแคมเปญในแอปutm_campaign
= summer-sale เพื่อระบุแคมเปญโดยรวม
หากคุณใช้พารามิเตอร์เหล่านี้ URL แคมเปญที่กำหนดเองจะมีลักษณะดังนี้
https://www.example.com/?utm_source=summer-mailer&utm_medium=email&utm_campaign=summer-sale
เมื่อคุณเพิ่มพารามิเตอร์ใน URL คุณควรใช้ utm_source
, utm_medium
และ utm_campaign
เสมอ
จะใช้ utm_term
และ utm_content
หรือไม่ก็ได้
utm_
เป็นเพียงแค่คำนำหน้าที่ต้องมีสำหรับพารามิเตอร์เหล่านี้
วิธีตั้งค่าแคมเปญที่กำหนดเอง
คุณสามารถเพิ่มพารามิเตอร์และค่าใน URL ด้วยตนเองได้ หรือสามารถใช้เครื่องมือสร้าง URL เฉพาะแพลตฟอร์มต่อไปนี้เพื่อสร้าง URL และเพิ่มต่อท้ายพารามิเตอร์ได้
- ลิงก์ไปยังเว็บไซต์: ใช้เครื่องมือสร้าง URL ของแคมเปญในเว็บไซต์การสาธิตและเครื่องมือของ Google Analytics
- โฆษณาในแอป Android: ใช้เครื่องมือสร้าง URL ของ Google Play
คุณต้องตั้งค่าการระบุแหล่งที่มาของแคมเปญของ Google Play ไว้ใน SDK ด้วย หากคุณยังไม่ได้ทำในระหว่างการตั้งค่าครั้งแรก ให้อ่านคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเราเพื่อดูวิธีใช้งานการระบุแหล่งที่มาของ Google Play ใน Android SDK ของคุณ - โฆษณาในแอป iOS: ใช้เครื่องมือสร้าง URL ติดตามแคมเปญ iOS
คุณต้องใช้ Analytics iOS SDK v3 ขึ้นไป แต่ไม่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ใน SDK เพื่อให้ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้
การตั้งค่าด้วยตนเอง
หากคุณต้องการตั้งค่าแคมเปญที่กำหนดเองด้วยตนเอง โปรดอย่าลืมแยกพารามิเตอร์ออกจาก URL ด้วยเครื่องหมายคำถาม แสดงพารามิเตอร์และค่าเป็นรายการคู่กันโดยคั่นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ คั่นแต่ละคู่ของพารามิเตอร์-ค่าด้วยเครื่องหมาย & ตัวอย่างเช่น
https://www.example.com/?utm_source=email_campaign&utm_medium=email&utm_campaign=summer-sale
คุณสามารถเพิ่มพารามิเตอร์ใน URL ในลำดับใดก็ได้ โปรดทราบว่า Analytics มีการพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ ดังนั้น utm_source=google
จะแตกต่างจาก utm_source=Google
มีการพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่กับค่าแต่ละค่าที่คุณระบุ
ไปที่แหล่งที่มาของแคมเปญและการเข้าชมเพื่อดูภาพรวมทางเทคนิค
URL ตัวอย่าง
http://www.example.com/?utm_source=exampleblog&utm_medium=referral&utm_campaign=summer-sale
http://www.example.com/?utm_source=newsletter1&utm_medium=email&utm_campaign=summer-sale
http://www.example.com/?utm_source=newsletter1&utm_medium=email&utm_campaign=summer-sale&utm_content=toplink
ดูข้อมูลแคมเปญที่กำหนดเอง
วิธีดูรายงานแคมเปญ
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- ไปที่ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- เปิดรายงาน
- เลือกการกระทำ > แคมเปญ