- โปรดไปที่[GA4] ลำดับชั้นของ Google Analytics เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างลำดับชั้นของ Google Analytics 4
- ดูข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างของบัญชีใน Google Analytics 4 ที่ [GA4] โครงสร้างบัญชี Google Analytics
- ดูข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีใน Google Analytics 4 ที่[GA4] บัญชี
องค์กร
ผลิตภัณฑ์และผู้ใช้จะรวมอยู่ในองค์กร องค์กรเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงบัญชีผลิตภัณฑ์ของบริษัท (เช่น Analytics, Tag Manager, Optimize) รวมถึงจัดการผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ สิทธิ์ และการผสานรวมข้ามผลิตภัณฑ์ได้ โดยคุณจะเข้าถึงองค์กรได้ที่ marketingplatform.google.com/home
องค์กรเป็นตัวเลือกที่ไม่บังคับ แต่แนะนำให้ใช้เนื่องจากประโยชน์ที่คุณจะได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กร
บัญชี
บัญชีคือจุดเข้าใช้งานสำหรับ Analytics องค์กรหนึ่งจะมีบัญชี Analytics ได้มากกว่า 1 บัญชี
คุณต้องมีบัญชีอย่างน้อย 1 บัญชีเพื่อเข้าถึง Analytics และระบุพร็อพเพอร์ตี้ที่ต้องการติดตามได้ คุณจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบัญชีและพร็อพเพอร์ตี้อย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคุณ คุณอาจใช้ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่งอย่าง 1 บัญชี/1พร็อพเพอร์ตี้ หรืออาจใช้ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหลายรายการอย่าง 1 บัญชี/หลายพร็อพเพอร์ตี้ก็ได้ คุณอาจมีบัญชี Analytics ได้หลายบัญชี หากคุณไม่มีบัญชี สามารถลงชื่อสมัครใช้ได้ที่ marketingplatform.google.com
พร็อพเพอร์ตี้
พร็อพเพอร์ตี้คือเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ (เช่น คีออสก์หรืออุปกรณ์ ณ จุดขาย) บัญชีหนึ่งๆ มีพร็อพเพอร์ตี้ได้มากกว่า 1 รายการ
ภายในบัญชี Analytics ให้คุณเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่ต้องการเก็บข้อมูล เมื่อคุณเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ลงในบัญชี Analytics จะสร้างโค้ดติดตามที่คุณจะใช้เก็บข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้นั้น โค้ดติดตามประกอบด้วยรหัสที่ไม่ซ้ำที่ระบุข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้นั้น ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการระบุข้อมูลในรายงานของคุณ นอกจากนี้ Analytics ยังสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่ไม่ได้กรองขึ้น 1 รายการสำหรับแต่ละพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณเพิ่มอีกด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ลงในบัญชี Analytics
ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ คือจุดเข้าถึงสำหรับรายงาน ซึ่งเป็นมุมมองที่กำหนดไว้ของข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อคุณให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้กับผู้ใช้ เขาจะสามารถดูรายงานจากข้อมูลของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นได้ พร็อพเพอร์ตี้หนึ่งๆ จะมีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ 1 หรือหลายรายการก็ได้
ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีข้อมูลต่อไปนี้ภายในพร็อพเพอร์ตี้หนึ่ง
- ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งที่มีข้อมูลทั้งหมดสำหรับ www.example.com
- ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งที่มีเฉพาะการเข้าชมจาก Google Ads ไปยัง www.example.com
- ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งที่มีเฉพาะการเข้าชมโดเมนย่อย เช่น www.sales.example.com
เมื่อคุณเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ลงในบัญชี Analytics จะสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แรกสำหรับพร็อพเพอร์ตี้นั้น ซึ่งไม่มีตัวกรอง จึงมีข้อมูลทั้งหมดของพร็อพเพอร์ตี้นั้น คุณควรปล่อยให้พร็อพเพอร์ตี้แรกอยู่ในสถานะที่ไม่มีตัวกรอง เพื่อที่จะได้มีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับดูข้อมูลทั้งหมดอยู่เสมอ คุณสามารถสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เพิ่มเติมและใช้ตัวกรองเพื่อให้ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แต่ละรายการมีข้อมูลย่อยเฉพาะที่คุณสนใจ
เมื่อคุณสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แล้ว รายงานสำหรับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นจะแสดงข้อมูลตั้งแต่วันที่สร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เป็นต้นไป ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ในวันที่ 1 มิถุนายน ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้จะแสดงข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป แต่จะไม่แสดงข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน
หากคุณลบข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ มุมมองข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงนั้นจะหายไปอย่างถาวร อย่าลบข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หากคุณคิดว่าอาจยังต้องการรายงานเกี่ยวกับมุมมองข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงนั้นอีก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ลงในพร็อพเพอร์ตี้ Analytics
ผู้ใช้และสิทธิ์
คุณเพิ่มผู้ใช้ลงในบัญชี Analytics ได้ โดยเพิ่มในระดับบัญชี พร็อพเพอร์ตี้ หรือข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ รวมทั้งจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงในแต่ละระดับได้อีกด้วย เมื่อเพิ่มผู้ใช้ คุณต้องระบุบุคคลดังกล่าวโดยใช้อีเมลที่ลงทะเบียนไว้ในบัญชี Google และกำหนดสิทธิ์ที่เหมาะสม ผู้ใช้นั้นอาจสามารถจัดการผู้ใช้อื่น จัดการงานด้านการดูแลระบบ เช่น การสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้และตัวกรองเพิ่มเติม และดูข้อมูลรายงานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิทธิ์ที่คุณกำหนดให้