เมื่อผู้ใช้ค้นหาใน Google โฆษณาแบบข้อความสามารถปรากฏในตำแหน่งต่างๆ ของผลการค้นหาทั่วไป โฆษณาในตำแหน่งบนสุดอยู่ติดกับผลการค้นหาทั่วไปด้านบน โดยมักจะแสดงเหนือผลการค้นหาทั่วไปด้านบน แต่ก็อาจแสดงด้านล่างผลการค้นหาทั่วไปด้านบนในการค้นหาบางกรณี ตำแหน่งของโฆษณาบนสุดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ และอาจเปลี่ยนแปลงไปตามการค้นหาของผู้ใช้
อันดับที่โฆษณาจะได้แสดงในหน้าเว็บพิจารณาจากลำดับโฆษณา ซึ่งคิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ ราคาเสนอ คุณภาพโฆษณาตามเวลาจริงในการประมูล (รวมถึงอัตราการคลิกผ่านที่คาดหวัง ความเกี่ยวข้องของโฆษณา และประสบการณ์หน้า Landing Page) เกณฑ์ลำดับโฆษณา บริบทการค้นหาของผู้ใช้ (สถานที่ตั้ง อุปกรณ์ เวลาที่ค้นหา ข้อความค้นหา โฆษณาและผลการค้นหาอื่นในหน้าเว็บนั้น ตลอดจนสัญญาณและแอตทริบิวต์อื่นๆ ของผู้ใช้) และผลที่คาดว่าจะได้รับจากชิ้นงานและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ
บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับบางประการในการปรับปรุงอันดับโฆษณา
ข้อควรทราบ
โฆษณาต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ลำดับโฆษณาที่เกี่ยวข้องจึงจะมีสิทธิ์แสดงที่ด้านบน โดยทั่วไปแล้ว เกณฑ์ที่จำเป็นในการทำให้โฆษณาปรากฏในกลุ่มโฆษณาที่ตำแหน่งบนสุดนั้นสูงกว่าเกณฑ์ที่จำเป็นในการทำให้โฆษณาปรากฏในตำแหน่งอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ โฆษณาที่ตำแหน่งบนสุดจึงมักมี CPC สูงกว่าโฆษณาในตำแหน่งอื่นๆ
วิธีที่จะช่วยให้โฆษณาแสดงที่ด้านบน
เคล็ดลับบางประการในการทำให้โฆษณามีสิทธิ์แสดงที่ด้านบนมีดังนี้
- ปรับปรุงลำดับโฆษณา: พิจารณาใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมากขึ้นลงในโฆษณาเพื่อปรับปรุงอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ที่คาดหวัง และสร้างโฆษณาที่มีชิ้นงาน เช่น ไซต์ลิงก์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- มุ่งเน้นที่ความเกี่ยวข้อง: ตรวจสอบว่าโฆษณาและหน้า Landing Page เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังค้นหา แม้ว่าโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องอาจแสดงได้ แต่ก็จะไม่ได้รับคลิกมากนักและอาจมี CPC สูง ส่งผลให้ประสิทธิภาพไม่ดีเมื่อเวลาผ่านไป
- ปรับให้ราคาเสนอแข่งขันได้: พยายามทำให้ราคาเสนอสูงเพียงพอที่จะสามารถแข่งขันกับผู้ลงโฆษณารายอื่น ซึ่งเสนอราคาเพื่อให้ได้คีย์เวิร์ดเดียวกันกับที่คุณต้องการ ลองดูค่าประมาณราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าเว็บเพื่อช่วยให้ทราบว่าคุณต้องเสนอราคาเท่าใดในการแข่งขันเพื่อให้ได้อยู่ด้านบนของหน้าเว็บ
- ตรวจสอบผลลัพธ์ของแคมเปญ: การปรับปรุงเพียงเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอตั้งแต่ตอนนี้อาจส่งผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต
