พารามิเตอร์ของ URL เป็นวิธีส่งข้อมูลเกี่ยวกับคลิกผ่าน URL
คุณสามารถแทรกพารามิเตอร์ของ URL ใน URL เพื่อติดตามข้อมูลคลิกได้ พารามิเตอร์ของ URL ประกอบด้วยคีย์และค่าที่คั่นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) และเชื่อมกันด้วยเครื่องหมายและ (&) พารามิเตอร์แรกจะอยู่หลังเครื่องหมายคำถามใน URL เสมอ เช่น http://example.com?product=1234&utm_source=google
วิธีการทํางานของพารามิเตอร์ของ URL
มีพารามิเตอร์ของ URL 2 ประเภทที่คุณสามารถใช้ในเทมเพลตการติดตามหรือพารามิเตอร์ที่กำหนดเองของโฆษณา ได้แก่
- พารามิเตอร์การแก้ไขเนื้อหาซึ่งจะส่งข้อมูลไปให้หน้า Landing Page และต้องกำหนดใน URL สุดท้ายอย่างเดียวเท่านั้น เช่น
http://example.com?productid=1234จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ 1234 ในเว็บไซต์ - พารามิเตอร์การติดตามซึ่งจะส่งข้อมูลคลิกของบัญชี แคมเปญ หรือกลุ่มโฆษณาในเทมเพลตการติดตาม พารามิเตอร์การติดตามมี 2 ประเภท ได้แก่
- พารามิเตอร์ที่กำหนดเองซึ่งมีค่าตามที่ผู้ลงโฆษณากำหนดในเทมเพลตการติดตาม เช่น คุณสามารถกำหนด
{_campaign}=brandingหรือ{_campaign}=leadsในพารามิเตอร์ที่กำหนดเองของแคมเปญได้ และตั้งเทมเพลตการติดตามของบัญชีเป็น{lpurl}?source_campaign={_campaign}ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างพารามิเตอร์ที่กำหนดเองสำหรับการติดตามขั้นสูง - พารามิเตอร์ ValueTrack จะมีค่าตามพารามิเตอร์ของ URL (เช่น "
{network}" ในพารามิเตอร์ของ URL "network={network}") พารามิเตอร์{network}จะบันทึกเครือข่ายที่เกิดการคลิก (เครือข่ายการค้นหาหรือเครือข่ายดิสเพลย์) ใน URL ของหน้า Landing Page ของโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์ ValueTrack
- พารามิเตอร์ที่กำหนดเองซึ่งมีค่าตามที่ผู้ลงโฆษณากำหนดในเทมเพลตการติดตาม เช่น คุณสามารถกำหนด
พารามิเตอร์ของ URL ที่มีจุดยึดและส่วน AJAX
ไม่ว่าคุณจะใช้ URL สุดท้าย เทมเพลตการติดตาม หรือพารามิเตอร์ของ URL รายการอื่นๆ ในการติดตาม โปรดอย่าลืมคํานึงถึงผลกระทบที่จุดยึด (#) และส่วน AJAX (#!) มีต่อ URL หากใช้จุดยึดหรือส่วน AJAX ใน URL สุดท้าย และเทมเพลตการติดตามของคุณต่อด้วยพารามิเตอร์เสริมที่ส่วนท้ายของ URL สุดท้าย คุณจะต้องใส่พารามิเตอร์การติดตามทั้งหมดลงใน URL สุดท้ายด้วย โดยหลักการแล้ว พารามิเตอร์เหล่านี้จะอยู่หลังแท็ก {ignore} ใน URL สุดท้าย ทุกครั้งที่คุณใช้พารามิเตอร์ {ignore} ใน URL สุดท้ายที่มี # หรือ #! ระหว่างการรวบรวมข้อมูล Google Ads จะถือว่าทุกอย่างที่อยู่ระหว่างพารามิเตอร์ {ignore} และ # หรือ #! เป็นข้อมูลการติดตาม
ตัวอย่าง
URL สุดท้าย: http://site.com?{ignore}param=1&tracking=1&device={device}#anchor
เทมเพลตการติดตาม: http://redirect.com?url={unescapedlpurl}
