Google แปลเนื้อหาในศูนย์ช่วยเหลือไว้หลายภาษา โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของนโยบาย อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันทางการที่เราบังคับใช้นโยบายคือเวอร์ชันภาษาอังกฤษ หากต้องการดูบทความนี้ในภาษาอื่น โปรดเลือกภาษาจากเมนูแบบเลื่อนลงท้ายหน้า
นโยบายการใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้กับโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ใน Google Search, Gmail และ YouTube
ผู้ลงโฆษณาทุกรายที่ใช้ฟีเจอร์การกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ต้องปฏิบัติตามนโยบายโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง
ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งคือข้อมูลที่คุณเก็บรวบรวมจากลูกค้า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ และผู้ใช้แอปในระหว่างที่โต้ตอบกับผลิตภัณฑ์และบริการ ข้อมูลจะได้รับพิจารณาว่าเป็นข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งก็ต่อเมื่อรวบรวมจากเว็บไซต์ แอป กิจการที่มีหน้าร้านจริง หรือในสถานการณ์อื่นๆ เมื่อบุคคลเหล่านั้นโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์และบริการโดยตรง
ข้อมูลจากบุคคลที่สาม
ข้อมูลจากบุคคลที่สามเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่คุณซื้อหรือได้รับจากแหล่งที่มาอื่นๆ
นโยบายการใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม
กรณีการใช้งานที่อนุญาต
การใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณา
ตัวอย่าง: คุณขายแพ็กเกจเรือสำราญ และสามารถใช้ข้อมูลจากบุคคลที่สามเพื่อกำหนดว่าผู้เข้าชมรายใดมาจากครอบครัวที่มีเด็ก แล้วจึงกำหนดค่าแท็กรีมาร์เก็ตติ้งเพื่อแสดงโฆษณาต่อครอบครัวที่มีเด็กเท่านั้น
การใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณา กรณีการใช้งานที่ไม่อนุญาต
การใช้ข้อมูลจากบุคคลที่สามเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณา
ตัวอย่าง: ถ้าคุณดูแลเว็บไซต์เสื้อผ้าเด็ก คุณจะไม่สามารถอนุญาตให้เว็บไซต์ขายรถเข็นเด็กที่ไม่ใช่พาร์ทเนอร์วางแท็กรีมาร์เก็ตติ้งของตัวเองลงในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์ขายรถเข็นเด็กนั้นสร้างรายการรีมาร์เก็ตติ้งจากผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
ตัวอย่าง: คุณสร้างโฆษณาแบบรูปภาพบนเครือข่ายดิสเพลย์ โฆษณานั้นจะต้องไม่มีแท็กรีมาร์เก็ตติ้งเพื่อสร้างรายการรีมาร์เก็ตติ้งจากผู้เข้าชมเว็บไซต์อื่นนอกเหนือจากเว็บไซต์ของคุณเอง
การใช้ข้อมูลจากบุคคลที่สามเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณา
ตัวอย่าง: ถ้าคุณดูแลเว็บไซต์เสื้อผ้าเด็ก คุณจะไม่สามารถแชร์รายการรีมาร์เก็ตติ้งของผู้เข้าชมที่กำลังมองหาเสื้อผ้าเด็กกับผู้ลงโฆษณาขายรถเข็นเด็กที่ไม่ใช่พาร์ทเนอร์
ตัวอย่าง: บัญชีดูแลจัดการมีบัญชีที่จัดการอยู่สองบัญชี บัญชีหนึ่งใช้กับเว็บไซต์สินเชื่อรถยนต์และอีกบัญชีหนึ่งใช้กับเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เว็บไซต์ทั้งสองไม่ได้เป็นของบริษัทเดียวกัน ดังนั้นบัญชีดูแลจัดการจะไม่สามารถแชร์รายการรีมาร์เก็ตติ้งจากเว็บไซต์สินเชื่อรถยนต์ให้กับเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากมีการละเมิดนโยบาย
การตรวจสอบการปฏิบัติตาม: เราอาจตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย RLSA ในธุรกิจของคุณได้ทุกเมื่อ หากเราติดต่อกับคุณเพื่อร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม คุณจะต้องตอบกลับโดยเร็วที่สุดและดำเนินการตามมาตรการแก้ไขที่จำเป็นอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิบัติตามนโยบายของเรา หากคุณเป็นบัญชีผู้จัดการ เราอาจติดต่อไปยังบัญชีที่คุณจัดการเพื่อยืนยันการปฏิบัติตามนโยบายด้วย
การแจ้งเตือนการไม่ปฏิบัติตาม: หากเราเชื่อว่าคุณกำลังละเมิดนโยบาย RLSA เราจะติดต่อคุณเพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไข หากคุณไม่สามารถดำเนินการแก้ไขตามที่ขอภายในระยะเวลาที่กำหนด คุณอาจไม่สามารถใช้รายการรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหา หรืออาจถูกระงับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชี Google Ads ในกรณีที่มีการละเมิดอย่างร้ายแรงหรือเกิดขึ้นซ้ำๆ บัญชีของคุณอาจถูกระงับทันทีโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
รายการรีมาร์เก็ตติ้งที่ไม่มีสิทธิ์: เราอาจกำหนดให้รายการรีมาร์เก็ตติ้งที่ละเมิดนโยบายเป็นรายการที่ไม่มีสิทธิ์ใช้งานในผลิตภัณฑ์ของ Google
การปิดใช้โดเมน: เราอาจระงับเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบาย RLSA ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์จะใช้รีมาร์เก็ตติ้งของ Google Ads หรือฟีเจอร์โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แบบอื่นๆ ไม่ได้อีกจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข
การระงับบัญชี: บัญชีอาจถูกระงับหากมีการละเมิดซ้ำๆ หรือการละเมิดที่ร้ายแรง หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น โฆษณาทั้งหมดในบัญชีที่ถูกระงับจะหยุดทำงาน และเราจะไม่สามารถยอมรับโฆษณาจากบัญชีนั้นได้อีกต่อไป บัญชีที่เกี่ยวข้องอาจถูกระงับเป็นการถาวรด้วยเช่นกัน และบัญชีใหม่อาจถูกระงับโดยอัตโนมัติในขั้นตอนการสร้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีที่ถูกระงับ
หากต้องการความช่วยเหลือ
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายนี้ โปรดแจ้งให้เราทราบโดย
ติดต่อฝ่ายสนับสนุน Google Ads