ผลการทดสอบ Privacy Sandbox API 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2024

ในขณะที่สภาพแวดล้อมโดยรวมด้านความเป็นส่วนตัวในโลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะช่วยผู้เผยแพร่โฆษณารับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเหล่านี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 เราได้ดำเนินการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของ Privacy Sandbox API และสัญญาณอื่นๆ ของบุคคลที่หนึ่ง เช่น ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งของผู้เผยแพร่โฆษณาและตัวระบุของผู้เผยแพร่โฆษณา โดยเปรียบเทียบกับคุกกี้ของบุคคลที่สาม ผลที่ได้จากการทดสอบนี้เป็นเพียงการประมาณการที่ช่วยชี้แนะ ณ เวลาที่ทดสอบเท่านั้น จึงไม่ควรนำมาใช้เป็นตัวแทนอย่างสมบูรณ์ของผลกระทบที่มีต่อการสร้างรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาในกรณีที่ไม่มีคุกกี้ของบุคคลที่สาม

การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มควบคุมที่ 1: เกณฑ์พื้นฐานที่เป็นอยู่ (ใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามเมื่อมี โดยมีสัญญาณอื่นๆ เป็นข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งของผู้เผยแพร่โฆษณาและตัวระบุของผู้เผยแพร่โฆษณาด้วย)
  • กลุ่มควบคุมที่ 2: ไม่มีคุกกี้ของบุคคลที่สามและไม่ใช้ Privacy Sandbox API โดยมีสัญญาณอื่นๆ เช่น ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งของผู้เผยแพร่โฆษณาและตัวระบุของผู้เผยแพร่โฆษณา
  • กลุ่มทดสอบ: ไม่มีคุกกี้ของบุคคลที่สาม โดยมีสัญญาณอื่นๆ เช่น ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งของผู้เผยแพร่โฆษณาและตัวระบุของผู้เผยแพร่โฆษณา และเปิดใช้ Privacy Sandbox API ไว้

Privacy Sandbox Experiment

ผลลัพธ์ที่สำคัญ*

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าเมื่อไม่มีคุกกี้ของบุคคลที่สาม การใช้ Privacy Sandbox API และโซลูชันอื่นๆ ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว เช่น ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง สามารถช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาเพิ่มการสร้างรายได้และลดผลกระทบจากการสูญเสียสัญญาณได้ 

  • ผลกระทบต่อรายได้แบบเป็นโปรแกรมเมื่อไม่ใช้ Privacy Sandbox: เมื่อเปรียบเทียบกลุ่มควบคุมที่ 2 กับกลุ่มควบคุมที่ 1 เราพบว่าการนำคุกกี้ของบุคคลที่สามออกโดยไม่เปิดใช้ Privacy Sandbox ทำให้รายได้แบบเป็นโปรแกรมของผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google Ad Manager ลดลง 34% และรายได้แบบเป็นโปรแกรมของผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google AdSense ลดลง 21%
  • ผลกระทบต่อรายได้แบบเป็นโปรแกรมเมื่อใช้ Privacy Sandbox: เมื่อเปรียบเทียบกลุ่มทดสอบกับกลุ่มควบคุมที่ 1 เราพบว่าการนำคุกกี้ของบุคคลที่สามออกขณะที่เปิดใช้ Privacy Sandbox API ทำให้รายได้แบบเป็นโปรแกรมของผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google Ad Manager และผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google AdSense ลดลง 20% และ 18% ตามลำดับ

จากการเปรียบเทียบสิ่งที่ค้นพบเหล่านี้ การทดสอบของเราแสดงให้เห็นว่า Privacy Sandbox API ทำให้รายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google Ad Manager เพิ่มขึ้น 13% และรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาใน Google AdSense เพิ่มขึ้น 3% โปรดทราบว่าตัวเลขดังกล่าวเมื่อรวมกันแล้วไม่เท่ากับ 100% เนื่องจากมีการปัดเศษตัวเลขแต่ละรายการ

Privacy Sandbox API

*โปรดทราบว่า ผลลัพธ์ไม่รวมธุรกรรมที่มีการรับประกันแบบเป็นโปรแกรม ตลอดจนธุรกรรมแบบไม่เป็นโปรแกรม (รวมถึงรายการโฆษณาที่รับประกันและไม่รับประกันการแสดงผล)

มองไปข้างหน้า

แม้ว่าผลการทดสอบเหล่านี้จะเป็นเพียงการชี้แนะเท่านั้น แต่ก็แสดงให้เห็นความคืบหน้าสำคัญในการดำเนินการของเรานับตั้งแต่การศึกษาในปี 2019 ซึ่งเราพบว่าการนำคุกกี้ของบุคคลที่สามออกจากการเข้าชมบางส่วนสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา Ad Manager 500 อันดับแรกทำให้รายได้ลดลงโดยเฉลี่ย 52%

เราคาดว่าประสิทธิภาพจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากจะมีผู้เผยแพร่โฆษณา ผู้ลงโฆษณา และพาร์ทเนอร์เทคโนโลยีโฆษณาจำนวนมากขึ้นที่นำ Privacy Sandbox API และโซลูชันอื่นๆ ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวมาใช้งาน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ต่อไป

เราจะยังคงปรับปรุงการผสานรวมกับ Privacy Sandbox โดยปรึกษาหารือกับหน่วยงาน Competition and Markets Authority ของสหราชอาณาจักร ตลอดจนแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับ API เหล่านี้ต่อไป อีกทั้งเราจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในการสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพของชุดโซลูชันด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวเพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์ของเราในการขับเคลื่อนการสร้างรายได้จากโฆษณาอย่างยั่งยืน

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4183282238440467020
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false