ค้นหาวิดีโอด้วยเสียง

ใช้การค้นหาด้วยเสียงเพื่อค้นหาวิดีโอ

จัดการเสียงที่บันทึกไว้สําหรับการค้นหาด้วยเสียงของ YouTube

สำคัญ: การตั้งค่าอื่นๆ อาจทำให้มีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ลงในที่ต่างๆ

Google ใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงเพื่อประมวลผลเสียงและโต้ตอบกับคุณเมื่อคุณพูดกับฟีเจอร์ค้นหาด้วยเสียงใน YouTube ซึ่งเป็นบริการของ Google

การตั้งค่าการบันทึกเสียงของ YouTube จะจัดเก็บเสียงที่คุณโต้ตอบในการค้นหาด้วยเสียงใน YouTube ไว้ในบัญชี Google พร้อมกับประวัติการใช้งาน YouTube ของคุณ ดังที่ได้อธิบายไว้ด้านล่าง Google สามารถนำประวัติการใช้งาน YouTube ไปใช้เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจําเสียงของ Google การตั้งค่าการบันทึกเสียงนี้จะปิดอยู่จนกว่าคุณจะเปิดใช้

วิธีการใช้เสียงที่บันทึกไว้

หากคุณเลือกเก็บเสียงที่บันทึกไว้พร้อมกับประวัติการใช้งาน YouTube, Google จะใช้เสียงนี้ในการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจําเสียงและบริการของ Google ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เช่น การค้นหาด้วยเสียงใน YouTube

การปรับปรุงเทคโนโลยีเสียงบางด้าน เมื่อการตั้งค่านี้เปิดอยู่ ตัวอย่างเสียงที่บันทึกไว้จะได้รับการวิเคราะห์โดยผู้ตรวจสอบซึ่งผ่านการฝึกฝนที่จะฟัง ถอดเสียง และใส่คำอธิบายประกอบเพื่อให้บริการของ Google สามารถวิเคราะห์เสียงได้ดีขึ้น Google ดําเนินการต่างๆ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว ซึ่งรวมถึงการแยกเสียงของคุณออกจากบัญชีเมื่อผู้ตรวจสอบทำการวิเคราะห์

เริ่มค้นหาด้วยเสียง

  1. ลงชื่อเข้าใช้ YouTube
  2. แตะ "ค้นหา" Search
  3. แตะ "ไมโครโฟน" การบันทึกจะเริ่มทันที
    • หากต้องการสิ้นสุดการบันทึก ให้แตะไมโครโฟนสีแดงที่กะพริบอยู่
    • หากต้องการย้อนกลับ ให้แตะ "นำออก" Remove

เปลี่ยนสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟน

หากก่อนหน้านี้คุณได้ปฏิเสธสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟน คุณอาจได้รับคําขอให้อนุญาตสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนผ่านการตั้งค่าโทรศัพท์

  1. จากเมนูการตั้งค่าของ iPhone หรือ iPad ให้เข้าไปที่การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  2. ค้นหา "ไมโครโฟน" แล้วเปิดสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนสำหรับ YouTube
  3. กลับไปที่แอป YouTube

ตอนนี้คุณควรค้นหาด้วยเสียงแล้ว

เปิดหรือปิดการบันทึกเสียง

  1. เปิดแอป Gmail ใน iPhone หรือ iPad
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ จากนั้น บัญชี Google
    • หากไม่ได้ใช้ Gmail ให้ไปที่ myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์
  3. แตะข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้แตะประวัติการใช้งาน YouTube
  5. หากต้องการเปิดหรือปิดการบันทึกเสียง ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือก "รวมเสียงที่บันทึกไว้"

เมื่อการตั้งค่าการบันทึกเสียงเปิดอยู่ และคุณเปิดใช้งานการค้นหาด้วยเสียงจากใน YouTube ขณะลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อยู่ Google จะจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ลงในบัญชี Google พร้อมกับประวัติการใช้งาน YouTube เมื่อคุณใช้ Google Search หรือ Assistant เพื่อค้นหาใน YouTube การตั้งค่านี้จะไม่จัดเก็บเสียง

เมื่อการตั้งค่าการบันทึกเสียงปิดอยู่ และคุณเปิดใช้งานการค้นหาด้วยเสียงจากใน YouTube, Google จะไม่จัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ลงในบัญชี Google พร้อมประวัติการใช้งาน YouTube แม้ว่าคุณจะลงชื่อเข้าใช้อยู่ก็ตาม Google จะยังคงประมวลผลเสียงของคุณเมื่อคุณพูดกับบริการของ Google ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เราตอบกลับคุณได้

การตั้งค่าเสียงสำหรับการค้นหาด้วยเสียงใน YouTube นี้จะไม่ส่งผลต่อเสียงที่บันทึกไว้และจัดการโดยบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Google Search และ Assistant ที่ใช้เสียงของคุณเพื่อค้นหาวิดีโอ YouTube ได้ คุณควบคุมได้ว่าจะจัดเก็บเสียงที่บันทึกจาก Google Search, Assistant และ Maps พร้อมกับกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ที่ activity.google.com ด้วยหรือไม่

หากคุณปิดการบันทึกเสียง ระบบจะไม่ลบเสียงที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ คุณลบเสียงที่บันทึกไว้ได้ทุกเมื่อ

ค้นหาหรือลบเสียงที่บันทึกไว้

ค้นหาเสียงที่บันทึกไว้

สําคัญ: หากได้รับข้อความ "ข้อความถอดเสียงไม่พร้อมใช้งาน" แสดงว่าเสียงที่บันทึกไว้อาจมีเสียงรบกวนรอบข้างมากเกินไป

ระบบอาจจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ในที่อื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบัญชี Google ของคุณ

  1. เปิดแอป Gmail
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ จากนั้น บัญชี Google
    • หากไม่ได้ใช้ Gmail ให้ไปที่ myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์
  3. แตะข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้แตะประวัติการใช้งาน YouTube จากนั้น จัดการประวัติ คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
    • ตรวจสอบรายการกิจกรรมที่ผ่านมา รายการที่มีไอคอนเสียง จะมีเสียงที่บันทึกไว้
    • หากต้องการเล่นเสียงที่บันทึกไว้ ข้างไอคอนเสียง ให้แตะรายละเอียด จากนั้น ดูเสียงที่บันทึกไว้ จากนั้น เล่น เล่น
เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มความปลอดภัย คุณกําหนดให้ใช้ขั้นตอนการยืนยันเพิ่มเติมเพื่อดูประวัติทั้งหมดได้

ลบเสียงที่บันทึกไว้ออกจากประวัติการใช้งาน YouTube

ลบทีละรายการ

  1. เปิดแอป Gmail
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ จากนั้น บัญชี Google
    • หากไม่ได้ใช้ Gmail ให้ไปที่ myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์
  3. แตะข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้แตะประวัติการใช้งาน YouTube จากนั้น จัดการประวัติ
    • คุณดูรายการกิจกรรมที่ผ่านมาได้
    • รายการที่มีไอคอนเสียง จะมีเสียงที่บันทึกไว้
  5. ถัดจากรายการที่ต้องการลบ ให้แตะลบ Remove จากนั้น ลบ

ลบรายการทั้งหมดในครั้งเดียว

ขั้นตอนเหล่านี้จะลบรายการในประวัติการใช้งาน YouTube ทั้งหมด ไม่ใช่แค่รายการที่มีเสียงที่บันทึกไว้

  1. เปิดแอป Gmail
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ จากนั้น บัญชี Google
    • หากไม่ได้ใช้ Gmail ให้ไปที่ myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์
  3. แตะข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้แตะประวัติการใช้งาน YouTube จากนั้น จัดการประวัติ
    • คุณดูรายการกิจกรรมที่ผ่านมาได้
    • รายการที่มีไอคอนเสียง จะมีเสียงที่บันทึกไว้
  5. เลือก "ลบ" Down Arrow เหนือกิจกรรม
  6. เลือกตั้งแต่เริ่มต้น
  7. หากต้องการลบกิจกรรม ให้ทําตามวิธีการ

ลบบันทึกเสียงโดยอัตโนมัติ

ตัวเลือกการลบอัตโนมัติจะนํารายการประวัติการใช้งาน YouTube ทั้งหมดออก ไม่ใช่เฉพาะรายการที่รวมเสียงที่บันทึกไว้

  1. เปิดแอป Gmail
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ จากนั้น บัญชี Google
    • หากไม่ได้ใช้ Gmail ให้ไปที่ myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์
  3. แตะข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้แตะประวัติการใช้งาน YouTube จากนั้น ลบอัตโนมัติ
  5. เลือกตัวเลือกการลบอัตโนมัติสำหรับประวัติการใช้งาน YouTube
  6. แตะลบอัตโนมัติกิจกรรมที่เก่ากว่า
  7. เลือกระยะเวลาที่ต้องการเก็บกิจกรรมไว้
  8. แตะถัดไป
  9. แตะยืนยัน

Google อาจลบเสียงเร็วกว่านี้ในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการพัฒนาและการปรับปรุงอีกแล้ว ตัวอย่างเช่น ความจำเป็นในการใช้เสียงสำหรับบางภาษาอาจน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป

จัดการเสียงที่บันทึกไว้

คุณจัดการเสียงที่บันทึกไว้พร้อมกับประวัติการใช้งาน YouTube ได้ที่ activity.google.com ตัวอย่างเช่น คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • เปิดหรือปิดการตั้งค่าการบันทึกเสียงได้ทุกเมื่อในส่วนการตั้งค่าประวัติการใช้งาน YouTube
  • ฟังเสียงของคุณ
  • เลือกตัวเลือกการลบอัตโนมัติหรือลบเสียงด้วยตนเอง
    • Google อาจลบเสียงเร็วกว่านี้ในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการพัฒนาและการปรับปรุงอีกแล้ว ตัวอย่างเช่น ความจำเป็นในการใช้เสียงสำหรับบางภาษาอาจน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • ดาวน์โหลดเสียงของคุณได้ที่ takeout.google.com

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลอื่นๆ ที่ Google บันทึกรวมถึงเหตุผล ตลอดจนการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการของเราได้ที่ policies.google.com ซึ่งรวมถึงวิธีที่เทคโนโลยีรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย และวิธีใช้ส่วนควบคุมเพื่อจัดการความเป็นส่วนตัวในบริการต่างๆ ของเรา

ที่อื่นๆ ที่อาจมีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้

การตั้งค่าเสียงสำหรับการค้นหาด้วยเสียงใน YouTube นี้จะไม่ส่งผลต่อเสียงที่บันทึกและจัดการโดยบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Google Search และ Assistant ที่ใช้เสียงของคุณเพื่อค้นหาวิดีโอ YouTube ได้ด้วย คุณควบคุมได้ว่าจะจัดเก็บเสียงที่บันทึกจาก Google Search, Assistant และ Maps พร้อมกับกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ที่ activity.google.com ด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ การตั้งค่านี้ยังไม่ส่งผลต่อเสียงที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น เมื่อคุณตั้งค่าและปรับแต่ง Voice Match หรือเมื่อปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเสียงในอุปกรณ์ในแบบของคุณ

หากต้องการปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจําเสียงด้วยการเรียนรู้แบบรวมศูนย์หรือการเรียนรู้ชั่วคราว Google อาจใช้กระบวนการแมชชีนเลิร์นนิงอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการควบคุมโดยการตั้งค่านี้ ตัวอย่างเช่น

  • เมื่อการตั้งค่า "ปรับปรุง Gboard" เปิดอยู่ Gboard อาจบันทึกและประมวลผลเสียงในอุปกรณ์เพื่อช่วยปรับปรุงการจดจำคำพูดสำหรับทุกคน แต่จะไม่ส่งสิ่งที่คุณพูดไปยังเซิร์ฟเวอร์ ดูวิธีที่ Gboard ปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น
  • เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียงที่ใช้การเรียนรู้ชั่วคราว Google อาจประมวลผลและวิเคราะห์เสียงของคุณแบบเรียลไทม์ แต่กระบวนการนี้จะไม่บันทึกเสียงพร้อมประวัติการใช้งาน YouTube ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ yt.be/speechlearningmodels

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1968488750146341848
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
70975
false
false