โปรดให้สิทธิ์บริการในบัญชีของคุณก่อนใช้งาน Google Workspace Migration for Microsoft Exchange (GWMME)
ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชีบริการ
ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมดและกลับไปด้านบนสุด
วิธีการสร้างบัญชีบริการจะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเรียกใช้สคริปต์อัตโนมัติ (แนะนำ) หรือสร้างบัญชีด้วยตนเอง
ตัวเลือกที่ 1: เรียกใช้สคริปต์อัตโนมัติเพื่อสร้างบัญชีทีมสนับสนุนของ Google Workspace ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสคริปต์ GitHub หากมีปัญหาในการใช้สคริปต์ ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อสร้างบัญชีด้วยตนเองแทน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สคริปต์
- ลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูง แล้วเปิด Cloud Shell ในหน้าต่างเบราว์เซอร์
- ใน Shell ให้ป้อนคำสั่งต่อไปนี้เพื่อเริ่มสคริปต์อัตโนมัติ
python3 <(curl -s -S -L https://git.io/gwmme-create-service-account)
- ทำตามขั้นตอนในหน้าต่าง Cloud Shell
- คลิกดาวน์โหลดเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ JSON ที่มีรหัสไคลเอ็นต์ของบัญชีบริการลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ
- ตั้งค่าการย้ายข้อมูล โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อย้ายข้อมูลด้วย GWMME
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สคริปต์
ขั้นตอนที่ 1: สร้างโปรเจ็กต์
- ไปที่ Google Cloud แล้วลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูง หากลงชื่อเข้าใช้คอนโซลเป็นครั้งแรก ให้ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ
- คลิก IAM และผู้ดูแลระบบจัดการทรัพยากร คุณอาจต้องคลิกเมนู ก่อน
- คลิกสร้างโปรเจ็กต์ที่ด้านบน แล้วป้อนชื่อโปรเจ็กต์
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มโปรเจ็กต์ลงในโฟลเดอร์ ให้คลิกเรียกดู จากนั้นไปที่โฟลเดอร์ แล้วคลิกเลือกในส่วนตำแหน่ง
- คลิกสร้าง
- โดยค่าเริ่มต้น ผู้สร้างโปรเจ็กต์จะเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ์จัดการโปรเจ็กต์นั้น คุณควรมอบบทบาทเจ้าของโปรเจ็กต์ให้กับผู้ใช้อย่างน้อย 1 คนเพื่อให้ดูแลโปรเจ็กต์นี้ หากผู้สร้างโปรเจ็กต์ลาออกจากองค์กร โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการการเข้าถึงโปรเจ็กต์ โฟลเดอร์ และองค์กร
ขั้นตอนที่ 2: เปิด API สำหรับบัญชีบริการ
- เลือกช่องถัดจากโปรเจ็กต์ใหม่
- คลิก API และบริการไลบรารี คุณอาจต้องคลิกเมนู ก่อน
- คลิกชื่อ API ที่ต้องการแต่ละชื่อ (ด้านล่าง) แล้วคลิกเปิดใช้ดังนี้
- Admin SDK
- Google Calendar API
- Contacts API
- Gmail API
- Groups Migration API
เคล็ดลับ: หากไม่พบ API ให้ระบุชื่อ API ในช่องค้นหา
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าหน้าจอขอความยินยอม OAuth
เคล็ดลับ: เมื่อเพิ่มอีเมลด้านล่าง ให้เลือกบัญชีอีเมลของผู้ดูแลระบบที่แชร์
- คลิก API และบริการหน้าจอคำยินยอม OAuth คุณอาจต้องคลิกเมนู ก่อน
- เลือกประเภทผู้ใช้ภายใน
- คลิกสร้าง
- เพิ่มชื่อแอปพลิเคชันในส่วนชื่อแอป
- เลือกอีเมลสนับสนุนสำหรับผู้ใช้เพื่อให้ผู้ใช้ติดต่อได้ในกรณีที่มีข้อสงสัย
- ในส่วนข้อมูลติดต่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ป้อนอีเมลเพื่อให้ Google ใช้ติดต่อคุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโปรเจ็กต์
- คลิกบันทึกและดำเนินการต่อบันทึกและดำเนินการต่อกลับไปยังหน้าแดชบอร์ด
ขั้นตอนที่ 4: สร้างบัญชีบริการ
- คลิก API และบริการข้อมูลเข้าสู่ระบบ คุณอาจต้องคลิกเมนู ก่อน
- คลิกสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบบัญชีบริการ
- ป้อนชื่อบัญชีบริการและเพิ่มคำอธิบาย (ไม่บังคับ) ในส่วนชื่อบัญชีบริการ
- คลิกสร้างและดำเนินการต่อเสร็จสิ้น
- โปรดจดบันทึกค่ารหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับบัญชีบริการไว้ คุณต้องใช้ข้อมูลนี้ในภายหลัง เพราะเป็นรหัสไคลเอ็นต์ของบัญชีบริการ
เคล็ดลับ: คุณยังค้นหาค่าในแท็บรายละเอียดของบัญชีบริการหรือในไฟล์ JSON ได้อีกด้วย
- คลิกเสร็จสิ้นบันทึก
- ที่ด้านบน ให้คลิกคีย์เพิ่มคีย์สร้างคีย์ใหม่
- ตรวจสอบว่าประเภทคีย์ตั้งเป็น JSON แล้วคลิกสร้าง
คุณจะได้รับข้อความว่าดาวน์โหลดไฟล์คีย์ส่วนตัว JSON ของบัญชีบริการลงในคอมพิวเตอร์แล้ว
- จดชื่อไฟล์และตำแหน่งที่เบราว์เซอร์บันทึกไว้ คุณต้องใช้ข้อมูลนี้ในภายหลัง
- คลิกปิด
ขั้นตอนที่ 2: ให้สิทธิ์รหัสไคลเอ็นต์ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ
ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมดและกลับไปด้านบนสุด
หากคุณใช้สคริปต์อัตโนมัติเพื่อสร้างบัญชีบริการของคุณ คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้
วิธีการที่คุณจะใช้เพื่อให้สิทธิ์นั้นจะขึ้นอยู่กับว่าคุณย้ายข้อมูลมาจากบัญชีต้นทางประเภทใด
ตัวเลือกที่ 1: ไม่ได้ย้ายข้อมูลจากบัญชี Google Workspaceทําตามขั้นตอนเหล่านี้ในบัญชีเป้าหมาย
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ความปลอดภัยการเข้าถึงและการควบคุมข้อมูลการควบคุม APIจัดการการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมน
คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูงสำหรับงานนี้ -
คลิกเพิ่มใหม่ แล้วป้อนรหัสไคลเอ็นต์ของบัญชีบริการ
คุณสามารถดูรหัส (เรียกอีกอย่างว่า รหัสที่ไม่ซ้ำกัน) ได้ในไฟล์ JSON ที่ดาวน์โหลดไว้เมื่อสร้างบัญชีบริการ หรือใน Google Cloud (คลิก IAM และผู้ดูแลระบบบัญชีบริการชื่อบัญชีบริการของคุณ)
- ในช่อง ขอบเขต OAuth ให้คัดลอกและวางรายการขอบเขตที่คั่นด้วยคอมมาดังต่อไปนี้
https://www.googleapis.com/auth/contacts,
https://www.googleapis.com/auth/admin.directory.group.readonly,
https://www.googleapis.com/auth/admin.directory.user,
https://www.googleapis.com/auth/apps.groups.migration,
https://www.googleapis.com/auth/calendar,
https://www.googleapis.com/auth/gmail.insert,
https://www.googleapis.com/auth/gmail.labels - คลิกให้สิทธิ์
-
เลือกรหัสไคลเอ็นต์ใหม่ แล้วคลิกดูรายละเอียด จากนั้นตรวจสอบว่าได้ระบุขอบเขตทุกรายการแล้ว
หากยังไม่ได้ระบุขอบเขต ให้คลิกแก้ไขแล้วป้อนขอบเขตดังกล่าว จากนั้นคลิกอนุมัติ คุณไม่สามารถแก้ไขรหัสไคลเอ็นต์ได้
การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่คุณต้องทำจะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับการตั้งค่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้
- โดเมนต้นทางและเป้าหมายของ Google Workspace ที่ต่างกัน - ให้สิทธิ์ GWMME ทั้งในโดเมนต้นทางและโดเมนเป้าหมายโดยทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 (ด้านล่างของหน้านี้)
- โดเมนต้นทางและปลายทางของ Google Workspace ที่เหมือนกัน - ให้สิทธิ์ GWMME เฉพาะในโดเมนเป้าหมายโดยทำตามขั้นตอนที่ 2 (ด้านล่างของหน้านี้)
- เพิ่มรหัสผ่านในไฟล์ CSV ควบคุมของคุณ - ให้สิทธิ์ GWMME เฉพาะในโดเมนเป้าหมายโดยทำตามขั้นตอนที่ 2 (ด้านล่างของหน้านี้) จากนั้นจึงให้สิทธิ์เข้าถึงบัญชีต้นทางกับแอปที่มีความปลอดภัยน้อย โปรดดูรายละเอียดในขั้นตอนที่ 2: อนุญาตให้แอปที่มีความปลอดภัยน้อยเข้าถึงบัญชีได้
ขั้นตอนที่ 1: ให้สิทธิ์ GWMME ในโดเมนต้นทาง
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ความปลอดภัยการเข้าถึงและการควบคุมข้อมูลการควบคุม APIจัดการการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมน
คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูงสำหรับงานนี้ -
คลิกเพิ่มใหม่ แล้วป้อนรหัสไคลเอ็นต์ของบัญชีบริการ
คุณสามารถดูรหัส (เรียกอีกอย่างว่า รหัสที่ไม่ซ้ำกัน) ได้ในไฟล์ JSON ที่ดาวน์โหลดไว้เมื่อสร้างบัญชีบริการ หรือใน Google Cloud (คลิก IAM และผู้ดูแลระบบบัญชีบริการชื่อบัญชีบริการของคุณ)
- ในส่วน ขอบเขต OAuth ให้คัดลอกและวางขอบเขตต่อไปนี้
https://www.googleapis.com/auth/gmail.imap_admin
- คลิกให้สิทธิ์
- ถัดไป ให้ทำตามขั้นตอนที่ 2 ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 2: ให้สิทธิ์ GWMME ในโดเมนเป้าหมาย
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (ไม่ใช่บัญชีที่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ความปลอดภัยการเข้าถึงและการควบคุมข้อมูลการควบคุม APIจัดการการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมน
คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูงสำหรับงานนี้ -
คลิกเพิ่มใหม่ แล้วป้อนรหัสไคลเอ็นต์ของบัญชีบริการ
คุณสามารถดูรหัส (เรียกอีกอย่างว่า รหัสที่ไม่ซ้ำกัน) ได้ในไฟล์ JSON ที่ดาวน์โหลดไว้เมื่อสร้างบัญชีบริการ หรือใน Google Cloud (คลิก IAM และผู้ดูแลระบบบัญชีบริการชื่อบัญชีบริการของคุณ)
- ในช่อง ขอบเขต OAuth ให้คัดลอกและวางรายการขอบเขตที่คั่นด้วยคอมมาดังต่อไปนี้
https://www.googleapis.com/auth/contacts,
https://www.googleapis.com/auth/admin.directory.group.readonly,
https://www.googleapis.com/auth/admin.directory.user,
https://www.googleapis.com/auth/apps.groups.migration,
https://www.googleapis.com/auth/calendar,
https://www.googleapis.com/auth/gmail.insert,
https://www.googleapis.com/auth/gmail.labels - หากโดเมนต้นทางและเป้าหมายของ Google Workspace เหมือนกัน ให้เพิ่มขอบเขตต่อไปนี้
https://www.googleapis.com/auth/gmail.imap_admin
- คลิกให้สิทธิ์
-
เลือกรหัสไคลเอ็นต์ใหม่ แล้วคลิกดูรายละเอียด จากนั้นตรวจสอบว่าได้ระบุขอบเขตทุกรายการแล้ว
หากยังไม่ได้ระบุขอบเขต ให้คลิกแก้ไขแล้วป้อนขอบเขตดังกล่าว จากนั้นคลิกอนุมัติ คุณไม่สามารถแก้ไขรหัสไคลเอ็นต์ได้
การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการย้ายข้อมูลของคุณ
โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อย้ายข้อมูลด้วย GWMME
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง