ใช้ YouTube Music ร่วมกับแอปและบริการอื่นๆ

YouTube Music ทำงานร่วมกับแอปและบริการมากมายเพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์การฟังเพลงที่ยอดเยี่ยมได้ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือที่ใดในเวลาใดก็ตาม โปรดอ่านข้อมูลด้านล่างเพื่อดูวิธีการใช้ YouTube Music กับบริการอื่นๆ บางบริการ

ตัวเลือกเหล่านี้พร้อมใช้งานสำหรับผู้ฟัง YouTube Music แบบมีโฆษณาและสมาชิก YouTube Music Premium

หมายเหตุ: YouTube Music แบบมีโฆษณาพร้อมให้บริการในเกาหลีใต้เฉพาะเมื่อสตรีมบน Google Home และอุปกรณ์ Nest ที่ไม่มีหน้าจอ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

 

 

ลําโพง Google Home และ Google Nest

ขณะนี้คุณใช้ YouTube Music ร่วมกับลำโพงอัจฉริยะ เช่น ลำโพง Google Home และ Google Nest ได้แล้ว

ลำโพงอัจฉริยะจะสตรีมเพลงที่เกี่ยวข้องกับอัลบั้ม เพลง หรือเพลย์ลิสต์ที่คุณขอ โดยไม่สามารถเล่นเพลงตามคำขอที่เจาะจงหรือเล่นเพลงซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณอาจเปลี่ยนสถานีวิทยุเพื่อฟังเพลงอื่นๆ และข้ามไปยังเพลงถัดไปได้สูงสุด 6 ครั้งต่อชั่วโมง

หมายเหตุ: สมาชิก YouTube Music Premium จะฟังเพลงจากลำโพงอัจฉริยะได้แบบไม่มีโฆษณา ทั้งยังขอเพลง อัลบั้ม และเพลย์ลิสต์ได้แบบออนดีมานด์ ตรวจสอบตัวเลือกการเป็นสมาชิกแบบชำระเงินเพื่อดูสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของการเป็นสมาชิก แล้วลงชื่อสมัครใช้

ในบางประเทศ YouTube Music จะเป็นบริการสตรีมเพลงเริ่มต้นในอุปกรณ์ Google Home หากค่าเริ่มต้นไม่ได้เป็น YouTube Music คุณก็เปลี่ยนการตั้งค่าบริการเพลงได้

จออัจฉริยะ

จออัจฉริยะที่มี Google Assistant ในตัวนั้นใช้งานร่วมกับ YouTube Music ได้ ซึ่งรวมถึง Google Nest และ Lenovo Smart Clock เพียงขอให้ Google Assistant เล่นเพลง ศิลปิน หรือเพลย์ลิสต์โดยใช้ YouTube Music

สมาร์ททีวี

สําหรับสมาร์ททีวีและอุปกรณ์สตรีมมิงทั้งหมดที่รองรับแอป YouTube เวอร์ชันอัปเดตล่าสุดบนทีวี ให้ทำดังนี้ 

1. ดาวน์โหลดแอป YouTube แล้วลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
2. คลิกทางซ้ายมือโดยใช้รีโมตหรือตัวควบคุม ซึ่งจะทำให้เมนูทางด้านซ้ายของหน้าจอปรากฏขึ้น
3. เลือกเพลงจากเมนู แล้วจะพบเนื้อหา YouTube Music ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณที่นี่

คุณจะเห็นเฉพาะเนื้อหา YouTube Music ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณเมื่อลงชื่อเข้าใช้ YouTube

หากต้องการเข้าถึง YouTube Music แบบคลิกเดียวบน Android TV คุณยังทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้อีกด้วย

1. เลือกแอป Google Play Store
2. เลือก "ค้นหา" แล้วพิมพ์ "YouTube Music"
3. เลือกติดตั้ง
4. คลิกไอคอน Launcher ของ YouTube Music ระบบจะนำคุณไปยังแท็บ YouTube Music ของแอป YouTube โดยตรง จากนั้นให้ลงชื่อเข้าใช้เพื่อดูเนื้อหา YouTube Music ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

หากต้องการทราบวิธีเรียกดูหน้าจอหลักของ Android TV ให้ไปที่นี่

การแคสต์จากแอป YouTube Music ไปยังทีวี

ตอนนี้คุณสามารถใช้แอป YouTube Music บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อควบคุมประสบการณ์การค้นหา เลือกดู หรือเล่นบนแอป YouTube เวอร์ชันสมบูรณ์ได้แล้ว โดยขณะที่เชื่อมต่อ แอป YouTube Music บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะทำงานเป็นรีโมตสำหรับ YouTube บนทีวี

หมายเหตุ: การอัปเดตนี้อาจทำให้เนื้อหาที่ปกติแล้วจะไม่มีใน YouTube Music ปรากฏขึ้นในหน้าโปรแกรมเล่นและคิวของ YouTube Music ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่กำลังเล่นและอยู่ในคิว เมื่อยกเลิกการเชื่อมต่อ ระบบจะนำเนื้อหาที่ไม่มีใน YouTube Music ออกจากคิวของคุณ

หากต้องการแคสต์ YouTube Music จากแอปไปยังทีวี ให้ทำดังนี้

1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่มีเบราว์เซอร์ที่รองรับการแคสต์กำลังเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์แคสต์
2. เปิดแอป YouTube Music
3. แตะแคสต์ (ใกล้รูปโปรไฟล์)
4. แตะอุปกรณ์ปลายทางที่ต้องการแคสต์
5. เมื่อคุณเล่นเพลงหรือวิดีโอ เนื้อหานั้นจะเริ่มเล่นบนทีวีที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อยู่

หากต้องการหยุดแคสต์เนื้อหา ให้แตะแคสต์ แล้วแตะโทรศัพท์เครื่องนี้

หากอุปกรณ์ของคุณใช้ iOS 14 ขึ้นไป คุณต้องอนุญาตให้ YouTube เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สตรีมมิงบนเครือข่ายในพื้นที่เพื่อแคสต์ไปยังทีวีของคุณ ดูวิธีอนุญาตให้เข้าถึงเครือข่ายในพื้นที่ได้ที่ด้านล่าง

หมายเหตุ: ฟีเจอร์บางอย่างใน YouTube Music ใช้ไม่ได้กับบัญชีที่มีการควบคุมดูแล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานภายใต้การควบคุมดูแลบน YouTube ได้ที่นี่

Google Pixel Buds

คุณฟัง YouTube Music ด้วย Google Pixel Buds และใช้ Google Assistant เพื่อควบคุมประสบการณ์การใช้งานได้ ดูท่าทางสัมผัสง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณดําเนินการต่างๆ ขณะฟัง YouTube Music ด้วย Google Pixel Buds ได้ เช่น เล่น หยุดชั่วคราว หรือควบคุมระดับเสียง

หากใช้โทรศัพท์ Android และได้ตั้งค่า Google Assistant ไว้ คุณก็ใช้ Google Assistant เพื่อเล่นเพลงได้

สมาชิก YouTube Music Premium

หากเป็นสมาชิก YouTube Music Premium คุณจะเพลิดเพลินกับการฟังเพลงร่วมกับการใช้แอปและบริการเพิ่มเติมได้ โปรดดูข้อมูลด้านล่าง

Android Auto

วิธีเปิดใช้ YouTube Music ด้วย Android Auto มีดังนี้

1. ลงชื่อเข้าใช้แอป YouTube Music
2. หลังจากลงชื่อเข้าใช้ ให้ไปที่แท็บเพลงใน Android Auto
3. YouTube Music จะอยู่ในแท็บเพลงพร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์การฟังเพลง

หากคุณเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดเมื่อพยายามใช้ YouTube Music บน Android Auto ให้ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้แอป YouTube Music แล้ว จากนั้นลองเข้าถึง YouTube Music บน Android Auto อีกครั้ง

Fitbit

คุณฟังเพลงและพอดแคสต์ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยใช้ Fitbit ซึ่งช่วยให้คุณสามารถฟังเพลงโปรดขณะออกกำลังกายด้วย YouTube Music บนนาฬิกาข้อมือของคุณ 

YouTube Music ใช้งานได้บนรุ่น Charge 6

เมื่อใช้ YouTube Music บน Fitbit คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• เชื่อมต่อ Fitbit กับ YouTube Music เพื่อควบคุมการเล่นเพลงและพอดแคสต์
• เรียกดูและเลือกเพลย์ลิสต์จาก Fitbit
• ค้นหาเพลงแนะนำตามการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำอยู่

หมายเหตุ: หากต้องการควบคุมประสบการณ์การฟังเพลงบน Fitbit โปรดตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณอยู่ในช่วงสัญญาณบลูทูธที่กำหนด

ติดตั้ง YouTube Music บน Fitbit 

1. บน Fitbit ให้เปิด Fitbit settings  YouTube Music
2. แตะ Setup
3. เพิ่มแอป YouTube Music ลงใน Fitbit จากแกลเลอรีแอปของ Fitbit 
   • หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้ติดตั้งแอป YouTube Music บนโทรศัพท์ ระบบจะบล็อกการตั้งค่านี้
4. หากต้องการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์ ให้ยอมรับหรือปฏิเสธการแนะนำเพลงระหว่างออกกำลังกาย

ฟังเพลงบน Fitbit

ก่อนจะเริ่ม ให้เปิดแอป Fitbit ในโทรศัพท์ จากนั้นทำตามขั้นตอนด้านล่างจาก Fitbit

1. บน Fitbit ให้ปัดไปที่แอปการควบคุม YouTube Music แล้วแตะแอปนั้นเพื่อเปิด 
2. ปัดลงเพื่อเรียกดูเพลงและพอดแคสต์ที่มี 
3. แตะรายการที่ต้องการเพื่อเล่นหรือหยุดชั่วคราว 
   • ปัดไปทางซ้ายเพื่อข้ามแทร็ก เริ่มเล่นเพลงอีกครั้ง หรือกลับไปที่รายการก่อนหน้า
   • ปัดไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อปรับระดับเสียง

ลำโพงไร้สาย Sonos

วิธีตั้งค่า YouTube Music ในแอป Sonos

1. เปิดแอป Sonos
2. แตะเพิ่มเติมจากเมนูที่ด้านล่างของหน้าจอ
3. แตะเพิ่มบริการเพลง
4. เลือก YouTube Music เพิ่มไปยัง Sonos
5. แตะฉันเป็นสมาชิกอยู่แล้ว
6. แตะอนุญาตและวางรหัสที่แสดงบนหน้าจอก่อนหน้า
7. แตะถัดไปและลงชื่อเข้าใช้หรือเลือกบัญชี YouTube Music ของคุณ
8. กลับไปที่แอป Sonos
9. ป้อนบัญชีแล้วคลิกเสร็จสิ้น

หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ คุณอาจต้องอัปเดตแอปแล้วลองทำตามขั้นตอนข้างต้นอีกครั้ง

Apple HomePod

คุณใช้ YouTube Music ร่วมกับลำโพงอัจฉริยะ เช่น Apple HomePod ได้ โดยคุณสามารถควบคุมเพลงบน Apple HomePod โดยใช้คำสั่งเสียง Siri หรือจาก iPhone, iPad หรือ Apple Watch

YouTube Music ใช้งานได้บน Apple HomePod รุ่นที่ 1, Apple HomePod รุ่นที่ 2 และ Apple HomePod Mini

เมื่อใช้ YouTube Music บน Apple HomePod คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• ใช้คำสั่งเสียง Siri หรือการควบคุมด้วยการสัมผัสบน Apple HomePod เพื่อเล่นเพลง 
• เปลี่ยนการควบคุมการเล่นจาก Apple HomePod เป็น iPhone หรือเปลี่ยนการควบคุมการเล่นจาก iPhone เป็น Apple HomePod
• ควบคุมการเล่นในแอปบ้านของ Apple

ดูวิธีตั้งค่าและจับคู่ Apple HomePod จากนั้นเข้าสู่ระบบบัญชี YouTube Music Premium เพื่อเริ่มแคสต์เพลง
 

วิธีตั้งค่าให้ YouTube Music เป็นบริการเพลงเริ่มต้นบน Apple HomePod

1. เปิดแอป YouTube Music บน iPhone แล้วแตะรูปภาพของคุณที่มุมบนขวา
2. แตะการตั้งค่า > แอปที่เชื่อมต่อ > เชื่อมต่อกับ HomePod
3. ในหน้าจอถัดไป ให้แตะใช้ในบ้าน
4. แตะเสร็จสิ้นเพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์ 

Apple CarPlay

หากต้องการใช้ YouTube Music กับ Apple CarPlay ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ลงชื่อเข้าใช้แอป YouTube Music
2. เปิดแอป YouTube Music บนหน้าจอ CarPlay
3. คุณสำรวจเพลงได้โดยใช้แถบนำทางที่ด้านบนของหน้าจอ ร่วมกับแท็บแนะนำ คลังเพลง และดาวน์โหลด

หากคุณเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดเมื่อพยายามใช้ YouTube Music บน Apple CarPlay ให้ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้แอป YouTube Music แล้ว

แคสต์ไปยังอุปกรณ์แบบเฉพาะเสียงเท่านั้น

อุปกรณ์ทุกเครื่องที่มี Chromecast Built-In จะรองรับการแคสต์จากแอป YouTube Music ซึ่งรวมถึงการแคสต์ไปยังทีวี อุปกรณ์สตรีมวิดีโอ ลำโพง และอุปกรณ์สตรีมเสียง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับทีวีรุ่นที่รองรับ Chromecast และลำโพงรุ่นที่รองรับ Chromecast เพื่อเริ่มต้นใช้งาน 

แอป Waze

หากต้องการใช้งาน YouTube Music ร่วมกับ Waze โปรดดาวน์โหลดทั้ง 2 แอปไว้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ แล้วทําตามวิธีการที่นี่เพื่อเปิดใช้ตัวควบคุมเสียงและเลือก YouTube Music

Apple Watch

คุณใช้ YouTube Music ร่วมกับ Apple Watch ได้โดยการติดตั้งแอป YouTube Music บนนาฬิกา ดูวิธีติดตั้งแอปใน Apple Watch