การเตรียมพร้อมเพื่ออัปโหลดไฟล์ DDEX

ฟีเจอร์เหล่านี้พร้อมให้บริการแก่พาร์ทเนอร์ที่ใช้ระบบจัดการเนื้อหาของ YouTube เพื่อจัดการเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์เท่านั้น

วิธีกำหนดค่าบัญชีสำหรับการอัปโหลด DDEX มีดังนี้

1. ตั้งค่าบัญชีของคุณ

   ตัวแทนพาร์ทเนอร์ต้องกำหนดค่าบัญชีของคุณให้ยอมรับไฟล์ DDEX ก่อน YouTube จึงจะรับไฟล์ DDEX จากคุณได้

   คุณต้องให้ DDEX Party ID แก่ตัวแทนพาร์ทเนอร์ หากไม่มี DDEX Party ID คุณสามารถขอรับได้ที่ http://dpid.ddex.net/

   หากยังไม่ได้อัปโหลดกลุ่มเนื้อหาไปยัง YouTube คุณจะต้องขอให้ตัวแทนพาร์ทเนอร์ตั้งค่าดรอปบ็อกซ์ของ SFTP หรือ Aspera ให้คุณ

   เราขอแนะนำให้ใช้ดรอปบ็อกซ์สำหรับการส่งผ่านข้อมูล DDEX แยกต่างหากจากที่คุณอาจใช้สำหรับ Content ID

2. ตรวจสอบความถูกต้องและอัปโหลดกลุ่มทดสอบ

   หากต้องการส่งกลุ่มทดสอบการอัปโหลด ให้ตั้งค่า <MessageControlType> ในส่วนหัวของข้อความเป็น TestMessage แล้วคัดลอกไฟล์ DDEX ไปยังดรอปบ็อกซ์ของคุณ ดูรายละเอียดได้ที่การอัปโหลดเนื้อหา เมื่อคุณอัปโหลดไฟล์สำหรับทดสอบทั้งหมดแล้ว ให้สร้างไฟล์ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยสตริง “BatchComplete” ตามด้วยอักขระอื่นๆ และใช้นามสกุลไฟล์ .xml โดยไฟล์นี้จะเป็นตัวบอก YouTube ว่าแบทช์พร้อมแล้ว

   YouTube ไม่ได้อัปโหลดข้อความทดสอบ แต่จะตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องรวมไฟล์สื่อเมื่ออัปโหลด TestMessage สำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง

   ส่งแบทช์ทดสอบสำหรับทุกกรณีที่บริการของคุณสนับสนุน ดังนี้

   อัลบั้มใหม่เต็มรูปแบบ

   การนำส่งผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบของอัลบั้มที่เผยแพร่จะประกอบด้วยไฟล์ DDEX ไฟล์เสียง ไฟล์ปกอัลบั้ม และข้อตกลงต่างๆ

   • ตั้งค่า <ReleaseType> เป็น "Album"
   • <ReleaseResourceReferenceList> ควรระบุถึงทรัพยากรเสียงและปกอัลบั้มที่นำส่งทั้งหมด

   ซิงเกิลใหม่เต็มรูปแบบ

   การนำส่งผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบของเพลงที่เผยแพร่จะประกอบด้วยไฟล์ DDEX ไฟล์เสียง ไฟล์ปกอัลบั้ม และข้อตกลงต่างๆ

   • ตั้งค่า <ReleaseType> เป็น "Single"

   การเผยแพร่มัลติดิสก์ใหม่เต็มรูปแบบ

   การนำส่งผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบของมัลติดิสก์ที่เผยแพร่จะประกอบด้วยไฟล์ DDEX ไฟล์เสียง ไฟล์ปกอัลบั้ม และข้อตกลงต่างๆ

   • ตั้งค่า <ReleaseType> เป็น "Album"
   • การเผยแพร่หลักควรประกอบด้วย <ResourceGroup> หลายรายการ โดยแต่ละรายการต้องมี <SequenceNumber> ที่สอดคล้องกับมัลติดิสก์นั้นๆ

   การอัปเดตเต็มรูปแบบ

   การอัปเดตเต็มรูปแบบจะมีไฟล์เสียงหรือไฟล์ภาพใหม่ รวมทั้งไฟล์ DDEX ที่อัปเดตแล้ว

   • อัปเดตทั้งรหัสข้อความและการประทับเวลา
   • มีการอัปเดตข้อมูลเมตาเพิ่มเติมตามความจำเป็น

   อัปเดตข้อมูลเมตาของแทร็ก

   ข้อมูลเมตาจะอัปเดตก็ต่อเมื่อไฟล์สื่อไม่มีการอ้างอิงและไม่รวมอยู่ในไฟล์ DDEX

   YouTube จะยอมรับการอัปเดตข้อมูลเมตาที่สมบูรณ์เท่านั้น คุณต้องระบุข้อมูลเมตาของแทร็กทั้งหมด รวมทั้งค่าที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

   • ลบส่วน <TechnicalSoundRecordingDetails> และ <TechnicalImageDetails> สำหรับทรัพยากรแต่ละรายการ เนื่องจากไฟล์ดังกล่าวไม่ได้รวมอยู่ด้วย
     ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการนำส่วน <Image> ออกทั้งหมดแทนที่จะเป็นส่วน <TechnicalImageDetails> ที่อยู่ภายในและนำข้อมูลอ้างอิงทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับส่วนนี้ออก การดำเนินการที่ผิดพลาดนี้จะนำปกอัลบั้มออกจากอัลบั้มทั้งหมด

   แยกข้อกำหนดดีล

   การนำส่งการเผยแพร่ 2 ครั้ง การนำส่งครั้งแรกประกอบด้วยไฟล์ DDEX ไฟล์เสียง และไฟล์ปกอัลบั้ม (ไม่รวมข้อตกลงต่างๆ) ส่วนการนำส่งครั้งที่ 2 จะเป็นการส่งข้อตกลง

   • การนำส่งครั้งแรกเป็นการนำส่งไฟล์สื่อและครั้งที่ 2 จะเป็นการนำส่งเฉพาะข้อตกลงเท่านั้น

   เพิ่มแทร็กใหม่ลงในอัลบั้ม

   ส่งการอัปเดตที่มีข้อมูลแทร็กใหม่และเพิ่มแทร็กลงใน <Release> ที่เหมาะสม

   • เพิ่มค่าผสม <SoundRecording>, <Release> และ <ReleaseDeal> ใหม่สำหรับแทร็กใหม่
   • เพิ่มแทร็กลงในอัลบั้มหลัก <Release> ทั้งใน <ReleaseResourceReferenceList> และใน <ResourceGroup> เพื่อกำหนดลำดับแทร็กในอัลบั้ม
   • นำส่งแทร็กทั้งหมดอีกครั้ง ไม่ใช่เฉพาะแทร็กใหม่

   เมื่อข้อความทดสอบตรวจสอบความถูกต้องแล้วและไม่พบข้อผิดพลาดใดๆ ให้เปลี่ยน <MessageControlType> เป็น LiveMessage จากนั้นอัปโหลดไฟล์สื่อที่เกี่ยวข้อง แล้วทำตามขั้นตอนการอัปโหลดซ้ำอีกครั้ง

3. ตรวจสอบแบทช์ทดสอบ

   หลังจากอัปโหลดแบทช์ทดสอบแล้ว ให้ทำงานร่วมกับตัวแทนพาร์ทเนอร์เพื่อตรวจสอบเนื้อหาผลลัพธ์ หากผลการทดสอบไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ให้ทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นแล้วทดสอบซ้ำอีกครั้ง

4. การทดสอบในภาพรวม (end-to-end) แบบสมบูรณ์

   เมื่อกลุ่มทดสอบของคุณถูกต้องแล้ว ให้ส่งการเผยแพร่ประมาณ 200 รายการสำหรับการทดสอบในภาพรวม