สตรีมวิดีโอ HDR บน YouTube

คุณสตรีมวิดีโอแบบ High Dynamic Range (HDR) ไปยัง YouTube Live ได้ โดย HDR จะช่วยให้คุณแสดงสีสันสดใสสมจริงยิ่งขึ้นให้กับผู้ชมได้ในอุปกรณ์ที่รองรับ HDR ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

หากต้องการสตรีมวิดีโอ HDR ไปยัง YouTube Live คุณจะต้องสร้างเนื้อหา HDR ที่เข้ากันได้และใช้โปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ที่รองรับการทำงานร่วมกัน ตอนนี้การสตรีมวิดีโอ HDR ไปยัง YouTube รองรับเฉพาะตัวแปลงรหัสวิดีโอ H.265 (HEVC)

สตรีมเนื้อหา HDR เกี่ยวกับเกมแบบสด

หากต้องการสตรีมเนื้อหา HDR เกี่ยวกับเกมแบบสด คุณจะต้องทำดังนี้

• เล่นเกมที่รองรับเอาต์พุต HDR
• เปิดใช้ HDR ในการตั้งค่าเกม
• ใช้จอมอนิเตอร์หรือทีวีที่รองรับ HDR
• ใช้โปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ที่เข้ากันได้

สตรีมเนื้อหาวิดีโอ HDR อื่นๆ แบบสด

หากต้องการสตรีมเนื้อหาวิดีโอ HDR อื่นๆ แบบสด คุณจะต้องทำดังนี้

• ใช้โปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ที่เข้ากันได้
• ใช้กล้องที่รองรับวิดีโอ HDR ที่มีมาตรฐานด้านสีระดับ PQ หรือ HLG อ่านคู่มือกล้องเพื่อตรวจสอบว่ามีการรองรับมาตรฐานเหล่านี้หรือไม่

การดูสตรีมแบบสดในรูปแบบ HDR

ผู้ชมจะเห็นสตรีมของคุณในรูปแบบ HDR โดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์ที่รองรับ ผู้ชมบนอุปกรณ์อื่นๆ จะเห็นสตรีมในรูปแบบ Standard Dynamic Range อุปกรณ์ที่รองรับ HDR มีดังนี้

• แอป YouTube บนทีวีแบบ HDR
• การแคสต์ไปยังอุปกรณ์ Chromecast Ultra ที่เชื่อมต่อกับทีวีแบบ HDR
• อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ Android ซึ่งมีการแสดงผลแบบ HDR
• พีซี Windows และ Mac ที่รองรับกราฟิกแบบ HDR และมีการแสดงผลแบบ HDR ผู้ชมจะเห็นสตรีมของคุณในรูปแบบ HDR หากมีการเปิดใช้ HDR ในการตั้งค่าคอมพิวเตอร์

หมายเหตุ: ตัวอย่างในห้องควบคุมการแพร่ภาพสดจะไม่แสดงสีแบบ HDR

วิธีดูว่ากำลังรับชมในรูปแบบ HDR อยู่หรือไม่

สตรีม HDR จะแสดงคำว่า "HDR" ในเมนูการตั้งค่าคุณภาพวิดีโอ ซึ่งมักปรากฏที่มุมล่างขวาของหน้าจอ หากอุปกรณ์ของคุณไม่รองรับ HDR คุณจะไม่เห็นป้าย HDR และสตรีมจะแสดงในรูปแบบ SDR แทน

ตั้งค่าสตรีม HDR ในห้องควบคุมการแพร่ภาพสดของ YouTube

คุณใช้ RTMP(S) หรือ HLS เพื่อสตรีมในรูปแบบ HDR ได้ โปรดทราบว่าคุณจะต้องไม่เลือกการตั้งค่า "เปิดใช้ความละเอียดที่กำหนดเอง"

หากต้องการสร้างสตรีม HDR คุณจะต้องตั้งค่าโปรโตคอลของสตรีมคีย์เป็น HLS ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ซอฟต์แวร์เปลี่ยนไฟล์ที่เข้ากันได้สำหรับ RTMP

OBS

วิธีเปิดใช้ HDR บน OBS (เวอร์ชัน 30.1 ขึ้นไป)

1. เมื่อเปิด OBS คอมพิวเตอร์ต้องมีแหล่งที่มาของ HDR อย่างน้อย 1 แหล่ง เมื่อใช้จอภาพ HDR ใน Windows 11 คุณจะเปิด HDR ได้แม้ว่าวิดีโอต้นฉบับจะไม่ใช่ HDR ก็ตามผ่าน Auto HDR
2. ใน Settings ให้ไปที่ Stream แล้วเลือก YouTube RTMPS
3. ใน Settings ให้ไปที่ Output แล้วคลิก Encoder.
4. เลือกโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ HEVC แบบฮาร์ดแวร์ 
5. ใต้ Encoder Settings ให้เปลี่ยน Profile เป็น Main 10 (ค่าเริ่มต้นคือ Main)
6. คลิกขั้นสูงในการตั้งค่า เปิดใช้ HDR และเปลี่ยน Color Format เป็น P010 (4:2:0)
7. เปลี่ยน Color Space เป็น Rec 2100 PQ หรือ HLG (เราขอแนะนำให้ใช้ HLG)

 

ซอฟต์แวร์เปลี่ยนไฟล์ที่เข้ากันได้สำหรับ HLS

Avermedia RECentral 4

AWS Elemental Live 

Mirillis Action!

หากต้องการเข้ารหัส HDR ด้วย Mirillis Action! ให้ใช้เวอร์ชัน 4.12.2 ขึ้นไปและการ์ดกราฟิกที่เข้ากันได้แบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้

• NVIDIA GeForce GTX ซีรีส์ 10 ขึ้นไป
• AMD Radeon RX 5700 ขึ้นไป
• กราฟิก Intel เจนเนอเรชั่น 10 ขึ้นไป

หากต้องการตั้งค่าให้ Mirillis Action! ทำงานร่วมกับ YouTube Live HDR ให้ทำดังนี้

1. ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี YouTube ของคุณใน Action!
2. ไปที่แท็บการบันทึกวิดีโอ Action!
3. ตรวจสอบว่าสตรีมคีย์ใช้โปรโตคอล HLS และไม่ได้เลือก "เปิดใช้การตั้งค่าที่กำหนดเอง" (ค่าเริ่มต้น)
4. ในแท็บ "สตรีมมิงแบบสด" ให้เลือก YouTube เป็นบริการสตรีมมิง
5. Action! จะออกอากาศโดยอัตโนมัติขณะที่คุณเริ่มสตรีม

นอกจากนี้ คุณยังสร้างและจัดการการออกอากาศในห้องควบคุมการแพร่ภาพสดได้ด้วย

1. ไปที่ห้องควบคุมการแพร่ภาพสด
2. สร้างหรือจัดการสตรีมแบบสด
3. ตรวจสอบว่ามีการตั้งค่าสตรีมคีย์ให้ใช้ HDR และไม่ได้เลือก "เปิดใช้การตั้งค่าที่กำหนดเอง" (ค่าเริ่มต้น)
4. คัดลอกสตรีมคีย์
5. เลือกบริการสตรีมมิงที่กำหนดเองใน Action!
6. ใต้ "“Server / URL" ให้ป้อน URL ต่อไปนี้และแทนที่สตรีมคีย์ด้วยสตรีมคีย์ YouTube ของคุณ
   https://a.upload.youtube.com/http_upload_hls?cid=STREAMKEY&copy=0&file=
7. ปล่อยการตั้งค่า "สตรีมคีย์" ที่แยกกันให้ว่างไว้

หมายเหตุ: Action! อาจทำงานร่วมกับเกม HDR เก่าๆ บางเกมไม่ได้

หมายเหตุ: คุณจะเข้ารหัสได้เฉพาะในรูปแบบที่อุปกรณ์รองรับเท่านั้น

OBS

วิธีเปิดใช้ HDR ใน OBS

1. เมื่อเปิด OBS คอมพิวเตอร์ต้องมีแหล่งที่มาของ HDR อย่างน้อย 1 แหล่ง เมื่อใช้จอภาพ HDR ใน Windows 11 คุณจะเปิด HDR ได้แม้ว่าวิดีโอต้นฉบับจะไม่ใช่ HDR ก็ตามผ่าน Auto HDR
2. ใน Settings ให้ไปที่ Stream แล้วเลือก YouTube HLS ("show all" แล้วเลื่อนรายการลง)
3. ใน Settings ให้ไปที่ Output แล้วคลิก Encoder
4. เลือกโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ HEVC แบบฮาร์ดแวร์ 
5. ใต้ Encoder Settings ให้เปลี่ยน Profile เป็น Main 10 (ค่าเริ่มต้นคือ Main)
6. คลิก Advanced ใน Settings เปิดใช้ HDR และเปลี่ยน Color Format เป็น P010
7. เปลี่ยน Color Space เป็น Rec 2100 PQ หรือ HLG (เราขอแนะนำให้ใช้ HLG)

ฮาร์ดแวร์เปลี่ยนไฟล์ที่เข้ากันได้

ข้อกำหนดทั่วไปในการกำหนดค่าโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์

YouTube Live HDR จำเป็นต้องใช้เอาต์พุต HLS ข้อกำหนดทั่วไปในการตั้งค่าโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ในอุปกรณ์มีดังนี้

การกำหนดค่า HDR

• ตัวแปลงรหัสวิดีโอ: HEVC (เข้ารหัสได้เฉพาะในรูปแบบที่อุปกรณ์รองรับเท่านั้น)
• ความลึกของบิต: 10 บิต
• แม่สี: BT.2020 (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)
• ลักษณะการถ่ายโอน: ST 2084 PQ หรือ HLG ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ต้นทางมีการสร้างภาพแบบใด
• ค่าสัมประสิทธิ์เมตริกซ์: BT.2020 Non-Const Y (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)

เอาต์พุต HLS:

• ระยะเวลาของกลุ่ม: ระหว่าง 1-4 วินาที
• รูปแบบของกลุ่ม: ต้องอยู่ในรูปแบบ TS (สตรีมส่ง)
• ไม่รองรับช่วงของไบต์
• ต้องใช้เพลย์ลิสต์แบบเล่นต่อเนื่องที่มีกลุ่มเด่นไม่เกิน 5 กลุ่ม
• ต้องใช้ HTTPS แบบ POST/PUT
• ไม่รองรับการเข้ารหัสที่ไม่ได้ใช้ HTTPS
• URL: ป้อน URL ต่อไปนี้และแทนที่สตรีมคีย์ด้วยสตรีมคีย์ YouTube ของคุณ ในส่วนของ HDR คุณต้องใช้สตรีมคีย์ที่มี HLS เป็นโปรโตคอลสตรีมมิงและไม่เลือกการตั้งค่า "เปิดใช้การตั้งค่าที่กำหนดเอง" (ค่าเริ่มต้น)
• หากกำลังใช้การส่งผ่านข้อมูลสำรอง URL จะเป็น https://b.upload.youtube.com/http_upload_hls?cid=สตรีมคีย์&copy=1&file=

Cobalt

โปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ Cobalt ที่รองรับ HEVC HDR นั้นเข้ากันได้กับ YouTube Live HDR อ่านคู่มือผลิตภัณฑ์สำหรับ Cobalt รุ่นที่เฉพาะเจาะจงเพื่อดูว่ารุ่นนั้นๆ รองรับ HEVC HDR หรือไม่

ตั้งค่า Cobalt สำหรับ HEVC HDR

1. ป้อนการตั้งค่าต่อไปนี้ในโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ Cobalt
   1. โหมดโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์: HEVC (เข้ารหัสได้เฉพาะในรูปแบบที่อุปกรณ์รองรับ)
   2. ความลึกของบิต: 10 บิต
   3. โหมดโครมา: 4:2:0

1. ในหน้า "ขั้นสูง" ให้ตั้งค่าตัวเลือกประเภทสัญญาณวิดีโอเป็น HDR ประเภทเดียวกันกับกล้อง HDR หรืออุปกรณ์บันทึกภาพ HDR อื่นๆ ของคุณ YouTube Live HDR รองรับเฉพาะการตั้งค่าที่ระบุไว้ด้านล่างนี้เท่านั้น ตรวจสอบการตั้งค่าหรือคู่มือของกล้อง HDR เพื่อดูว่าเข้ากันได้กับการตั้งค่า Cobalt เหล่านี้หรือไม่
   1. เปิดใช้ประเภทสัญญาณวิดีโอ: เลือกแล้ว
   2. วิดีโอแบบ Full Range: เปิดใช้เฉพาะเมื่ออุปกรณ์ต้นทางสร้างวิดีโอแบบ Full Range
   3. แม่สี: ตั้งค่าเป็น BT.2020 (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)
   4. ลักษณะการถ่ายโอน: ตั้งค่าเป็น ST 2084 PQ หรือ HLG ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ต้นทางมีการสร้างภาพแบบใด
   5. ค่าสัมประสิทธิ์เมตริกซ์: BT.2020 Non-Const Y (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)

1. จากนั้นให้ตั้งค่าเอาต์พุต HLS ไปยัง YouTube โดยไปที่แท็บ "เอาต์พุต" แล้วป้อนการตั้งค่าต่อไปนี้
   1. โปรโตคอลเอาต์พุต: "HLS"
   2. สถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์: ระยะไกล
   3. โปรโตคอลการถ่ายโอน: HTTP/S
   4. อัปโหลด URL: https://a.upload.youtube.com/http_upload_hls?cid=สตรีมคีย์&copy=0&file=

แทนที่สตรีมคีย์ด้วยสตรีมคีย์ YouTube ของคุณใน URL ข้างต้น ในส่วนของ HDR คุณต้องใช้สตรีมคีย์ที่มี HLS เป็นโปรโตคอลสตรีมมิงและไม่เลือกการตั้งค่า "เปิดใช้การตั้งค่าที่กำหนดเอง" (ค่าเริ่มต้น)

1. เปิดใช้ส่วนหัวของโฮสต์: ยกเลิกการเลือก
2. ชื่อไฟล์พื้นฐาน: "live"
3. กลุ่ม (วินาที): จำนวนใดก็ได้ระหว่าง 1-4
4. จำนวนกลุ่ม: เลือกตัวเลือกใดก็ได้
5. ชื่อโปรแกรม: ปล่อยไว้เช่นเดิม

Telestream

โปรแกรมเปลี่ยนไฟล์การสตรีมแบบสด Lightspeed จาก Telestream นั้นเข้ากันได้กับ YouTube Live HDR

ทำตามวิธีการในคู่มือผู้ใช้ของโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ดังกล่าวเพื่อตั้งค่าช่อง HLS ด้วยการกำหนดค่าดังต่อไปนี้

• ระยะเวลาของกลุ่ม: ระหว่าง 1-4 วินาที
• รูปแบบของกลุ่ม: ต้องอยู่ในรูปแบบ TS (สตรีมส่ง)
• เปิดใช้ช่วงของไบต์: เท็จ
• ประเภทเพลย์ลิสต์: เล่นต่อเนื่อง
• องค์ประกอบ: 5
• การเข้ารหัส: ไม่มี
• สถานที่ตั้งเอาต์พุต: นำไปยัง CDN
• จุดการเผยแพร่: https://a.upload.youtube.com/http_upload_hls?cid=สตรีมคีย์&copy=0&file=

แทนที่สตรีมคีย์ด้วยสตรีมคีย์ YouTube ของคุณใน URL ข้างต้น ในส่วนของ HDR คุณต้องใช้สตรีมคีย์ที่มี HLS เป็นโปรโตคอลสตรีมมิงและไม่เลือกการตั้งค่า "เปิดใช้การตั้งค่าที่กำหนดเอง" (ค่าเริ่มต้น)

• เมธอด HTTP: เปิดใช้เมธอด HTTP แล้วเลือก POST

หากต้องการกำหนดค่าของการตั้งค่า HDR คุณจะต้องกำหนดค่าของการตั้งค่า HEVC ในส่วนโปรแกรมเปลี่ยนไฟล์ของอุปกรณ์ด้วยการกำหนดค่าต่อไปนี้

1. เปิดใช้ 10 บิต แล้วจึงเปิดใช้ข้อมูลเมตา HDR
2. แม่สี: ตั้งค่าเป็น BT2020 (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)
3. ลักษณะการถ่ายโอน: ตั้งค่าเป็น SMPTE-ST-2084 (PQ) หรือ ARIB-STD-B67 (HLG) ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ต้นทางมีการสร้างภาพแบบใด
4. ค่าสัมประสิทธิ์เมตริกซ์: ตั้งค่าเป็น BT2020NC (ต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต้นทางของคุณ)