คุณเลือกได้ว่าจะให้ Google จัดเก็บกิจกรรมเสียงพูดและเสียงลงในบัญชี Google บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google หรือไม่เมื่อคุณโต้ตอบกับ Google Search, Assistant และ Maps เสียงพูดและเสียงของคุณจะช่วย Google ในการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียงและบริการของ Google ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
การตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ปิดอยู่ เว้นแต่คุณจะเลือกเปิดขึ้นมาเอง
สำคัญ: การตั้งค่าอื่นๆ อาจทำให้มีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ในที่อื่นๆ ได้
เปิดหรือปิดกิจกรรมเสียงพูดและเสียง
- ไปที่บัญชี Google
- คลิกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ด้านซ้ายบน
- ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้คลิกกิจกรรมบนเว็บและแอป
- เลือกหรือยกเลิกการเลือกช่อง "รวมกิจกรรมเสียงพูดและเสียง"
เมื่อการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ปิดอยู่ เสียงที่บันทึกไว้จากการพูดคุยกับ Google Search, Assistant และ Maps จะไม่จัดเก็บในบัญชี Google บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google แม้ว่าคุณจะลงชื่อเข้าใช้ก็ตาม หากคุณปิดการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ ระบบจะไม่ลบเสียงที่จัดเก็บไว้ก่อนหน้านี้ คุณลบเสียงที่บันทึกไว้ได้ทุกเมื่อ
ค้นหาหรือลบเสียงที่บันทึกไว้
ค้นหาเสียงที่บันทึกไว้สำคัญ: การตั้งค่าอื่นๆ อาจทำให้มีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ในที่อื่นๆ ได้
- ไปที่บัญชี Google
- คลิกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ด้านซ้ายบน
- ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้คลิกกิจกรรมบนเว็บและแอป จัดการกิจกรรม ในหน้านี้ คุณจะดำเนินการดังต่อไปนี้ได้
- ดูรายการกิจกรรมที่ผ่านมา: รายการที่มีไอคอน "เสียง" จะมีเสียงที่บันทึกไว้รวมอยู่ด้วย
- เล่นเสียงที่บันทึกไว้: ข้าง "เสียง" ให้คลิกรายละเอียด ดูเสียงที่บันทึกไว้ เล่น
เสียงที่บันทึกไว้หลายรายการ: คุณอาจเห็นกิจกรรมหนึ่งมีเสียงที่บันทึกไว้หลายรายการ หากมีอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน Google Assistant มากกว่า 1 เครื่องประมวลผลเสียงของคุณ เราใช้เสียงนี้เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีที่กําหนดว่าอุปกรณ์ใดควรตอบสนองต่อคุณ
หากได้รับข้อความ "การถอดเสียงเป็นคำไม่พร้อมใช้งาน" แสดงว่าอาจมีเสียงรบกวนในพื้นหลังระหว่างกิจกรรมนั้นมากเกินไป
คุณดาวน์โหลดเสียงที่บันทึกไว้ในบัญชี Google ได้ด้วย Google Takeout ดูวิธีดาวน์โหลดเสียงและข้อมูลอื่นๆ ใน Google
เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มความปลอดภัย คุณสามารถกำหนดให้ใช้ขั้นตอนการยืนยันเพิ่มเติมเพื่อดูประวัติทั้งหมดใน "กิจกรรมของฉัน"
สำคัญ: การตั้งค่าอื่นๆ อาจทำให้มีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ในที่อื่นๆ ได้
ลบทีละรายการ
- ไปที่บัญชี Google
- คลิกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ด้านซ้ายบน
- ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้คลิกกิจกรรมบนเว็บและแอป จัดการกิจกรรม ในหน้านี้ คุณจะเห็นรายการกิจกรรมที่ผ่านมา รายการที่มีไอคอน "เสียง" จะมีเสียงที่บันทึกไว้รวมอยู่ด้วย
- ข้างรายการที่ต้องการลบ ให้เลือกเพิ่มเติม ลบ
ลบรายการทั้งหมดในครั้งเดียว
สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะลบกิจกรรมบนเว็บและแอปทั้งหมด ไม่ใช่แค่รายการที่มีเสียงบันทึกไว้เท่านั้น
- ไปที่บัญชี Google
- คลิกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ด้านซ้ายบน
- ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้คลิกกิจกรรมบนเว็บและแอป จัดการกิจกรรม ในหน้านี้ คุณจะเห็นรายการกิจกรรมที่ผ่านมา รายการที่มีไอคอน "เสียง" จะมีเสียงที่บันทึกไว้รวมอยู่ด้วย
- เหนือกิจกรรม ให้คลิกลบ ตั้งแต่ต้น
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
ลบเสียงที่บันทึกไว้โดยอัตโนมัติ
สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะเปิดตัวเลือกการลบอัตโนมัติสำหรับทุกรายการในกิจกรรมบนเว็บและแอป ไม่ใช่แค่รายการที่มีเสียงบันทึกไว้
- ไปที่บัญชี Google ในคอมพิวเตอร์
- คลิกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ด้านซ้ายบน
- ในส่วน "การตั้งค่าประวัติ" ให้คลิกกิจกรรมบนเว็บและแอป จัดการกิจกรรม
- เหนือกิจกรรม ในแถบค้นหา ให้เลือกเพิ่มเติม ระยะเวลาที่จะเก็บกิจกรรม
- คลิกปุ่มเพื่อระบุว่าต้องการเก็บกิจกรรมไว้นานแค่ไหน ถัดไป ยืนยัน
Google อาจลบเสียงที่บันทึกไว้ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของ Google ก่อนกรอบเวลาที่คุณเลือกไว้ ในกรณีที่ไม่จําเป็นต้องใช้เสียงดังกล่าวในการพัฒนาและการปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจําเสียงของ Google และบริการที่ใช้เทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น ความจำเป็นในการใช้เสียงสำหรับบางภาษาอาจน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
เกี่ยวกับการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้
เมื่อคุณพูดกับบริการของ Google เราจะใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงเพื่อประมวลผลเสียงและโต้ตอบกับคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณแตะไอคอนไมค์เพื่อค้นหาด้วยเสียง เทคโนโลยีการจดจำเสียงของ Google จะแปลสิ่งที่คุณพูดเป็นคำและวลีที่ Search จะนำไปค้นหาในดัชนีเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องที่สุดแก่คุณ
กิจกรรมบนเว็บและแอปจะจัดเก็บสิ่งที่คุณทำในเว็บไซต์ แอป และบริการของ Google ไว้ในบัญชี Google บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google ข้อมูลที่จัดเก็บนี้อาจรวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงอยู่ เช่น ตำแหน่ง ระบบอาจไม่จัดเก็บการโต้ตอบบางอย่าง
ในการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงซึ่งไม่บังคับนี้ คุณยังสามารถจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้กับกิจกรรมบนเว็บและแอปได้อีกด้วยเมื่อโต้ตอบกับ Google Search, Assistant และ Maps การตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ปิดอยู่ เว้นแต่คุณจะเลือกเปิดขึ้นมาเอง
การตั้งค่านี้มีผลกับทุกที่ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ Search, Assistant และ Maps ตัวอย่างเช่น Assistant ทั้งในแอป Google Assistant และลำโพงอัจฉริยะ Google Home
วิธีการใช้เสียงที่บันทึกไว้
Google ใช้เสียงที่บันทึกไว้เมื่อการตั้งค่านี้เปิดอยู่เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียง รวมทั้งบริการของ Google ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เช่น Google Assistant
กระบวนการตรวจสอบเสียงในการปรับปรุงเทคโนโลยีเสียงบางด้าน เมื่อการตั้งค่านี้เปิดอยู่ ตัวอย่างเสียงที่บันทึกไว้บนเซิร์ฟเวอร์ Google จะได้รับการวิเคราะห์โดยผู้ตรวจสอบที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งจะฟัง ถอดเสียง และใส่คำอธิบายประกอบเพื่อให้บริการของ Google สามารถตีความเสียงได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น สิ่งที่ผู้พูดกำลังพูดในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือพูดเป็นภาษาใดภาษาหนึ่ง เราทําตามขั้นตอนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในกระบวนการนี้ เช่น ยกเลิกการเชื่อมโยงเสียงกับบัญชีเมื่อผู้ตรวจสอบวิเคราะห์เสียง
กระบวนการนี้ช่วยให้บริการต่างๆ เข้าใจสิ่งที่ผู้ใช้พูดได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น Google ปรับปรุงการจดจำคำพูดอัตโนมัติสำหรับภาษาที่มีข้อมูลน้อยมาก โดยการฝึกโมเดลเสียงเดี่ยวด้วยการถอดเสียงจากภาษาที่มีข้อมูลปริมาณมาก ซึ่งช่วยให้จดจำคำพูดหลายภาษาแบบเรียลไทม์ได้
สําคัญ: ข้อมูลที่ระบุไว้นี้จะมีผลหากคุณเปิดกิจกรรมเสียงพูดและเสียงหลังจากวันที่ 6 มิถุนายน 2022
เทคโนโลยีเสียงบางอย่างของ Google เช่น Voice Match สามารถจับคู่เสียงที่คล้ายกัน แยกความแตกต่างของเสียง หรือปรับปรุงด้วยเสียงที่ไม่ซ้ำกัน หากคุณใช้ Google Assistant ร่วมกับ Voice Match และเปิดการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ไว้ Google อาจประมวลผลรูปแบบเสียงของคุณเป็นการชั่วคราวจากเสียงที่บันทึกไว้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีเสียงของ Google รวมทั้งบริการของ Google ที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ดูว่ามีการใช้เสียงพูดของคุณอย่างไรในการตั้งค่าอื่นๆ
เราทำตามขั้นตอนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในกระบวนการนี้ ตัวอย่างเช่น หากโมเดลเสียงของคุณคำนวณจากเสียงที่บันทึกไว้ ระบบจะยกเลิกการเชื่อมโยงเสียงกับบัญชีของคุณ ประมวลผลชั่วคราวเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียง จากนั้นจึงลบเสียงทิ้ง การประมวลผลเสียงแต่ละครั้งอาจใช้เวลาสูงสุด 7 วัน รูปแบบเสียงอาจถือเป็นข้อมูลไบโอเมตริกในเขตอำนาจศาลบางแห่ง
เมื่อการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้เปิดอยู่สำหรับกิจกรรมบนเว็บและแอปของคุณ Google จะจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้เมื่อคุณโต้ตอบกับ Google Search, Assistant และ Maps ในบัญชี Google
ระบบจะจัดเก็บเสียงเมื่ออุปกรณ์ตรวจพบการเปิดใช้งาน อุปกรณ์อาจรองรับการเปิดใช้งานด้วยวิธีต่างๆ กัน เช่น การพูดว่า "Ok Google", วลีสั้นๆ ที่คุณเปิดใช้, การสนทนาต่อ หรือการกดปุ่มไมค์ อุปกรณ์บางเครื่องจะรวมเวลา 2-3 วินาทีก่อนการเปิดใช้งานด้วยเพื่อให้รับคำขอได้ครบถ้วน
อาจมีการจัดเก็บเสียงหากอุปกรณ์ตรวจพบอย่างไม่ถูกต้องว่ามีการเปิดใช้งาน เช่น เมื่อมีเสียงรบกวนที่ฟังดูคล้ายกับ “Ok Google” เราทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นในการลดการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ
หากคุณใช้อุปกรณ์โดยไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบอาจจัดเก็บเสียงไว้ในบัญชี Google เมื่อคุณกลับมาออนไลน์
หากคุณปิดการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้ Google จะไม่จัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้จากการโต้ตอบระหว่างคุณกับ Google Search, Assistant และ Maps ไว้ในบัญชี Google บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google พร้อมกับกิจกรรมบนเว็บและแอปอีก Google จะยังคงประมวลผลเสียงของคุณอยู่ต่อไปเพื่อโต้ตอบกับคุณเมื่อคุณพูดกับบริการของ Google
การปิดการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงไม่ได้เป็นการปิดการตั้งค่าเสียงที่แยกต่างหากของ Assistant
เมื่อปิดการตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียง Google จะไม่ใช้เสียงที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ขณะที่การตั้งค่านี้เปิดอยู่ในการปรับปรุงเทคโนโลยีเสียง เช่น Voice Match แต่อาจยังคงนำเสียงที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้มาใช้เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีเสียงอื่นๆ เว้นแต่คุณจะลบเสียงทิ้งไป
คุณลบเสียงที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ในกิจกรรมบนเว็บและแอปได้ที่ activity.google.com
ที่อื่นๆ ที่อาจมีการจัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้
การตั้งค่ากิจกรรมเสียงพูดและเสียงนี้จะไม่มีผลกับรายการต่อไปนี้
- เสียงที่จัดเก็บและจัดการโดยบริการอื่นๆ ของ Google อย่างเช่น Google Voice และ YouTube
- เสียงที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การตั้งค่าและการปรับแต่ง Voice Match ส่วนตัว หรือการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเสียงในอุปกรณ์ให้เหมาะกับคุณ
อาจมีการใช้กระบวนการด้านแมชชีนเลิร์นนิงอื่นๆ ซึ่งไม่ได้อยู่ในการควบคุมของการตั้งค่านี้เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการจดจำเสียงด้วยการเรียนรู้แบบรวมศูนย์หรือการเรียนรู้ชั่วคราว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ปรับปรุงรูปแบบคำพูด