ค้นหาและนำข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลออกจากผลการค้นหาของ Google Search

เมื่อใช้ "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" คุณจะดูได้ว่าข้อมูลติดต่อส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่บ้าน หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมล แสดงในผลการค้นหาหรือไม่

สำคัญ: ปัจจุบันฟีเจอร์เหล่านี้บางรายการกำลังเปิดตัวสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในบางตลาด หากต้องการขอให้นำผลการค้นหาที่แสดงข้อมูลติดต่อของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีออก ให้ใช้แบบฟอร์มคำขอให้นำออกโดยละเอียด

ค้นหาข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลในผลการค้นหาของ Google Search

ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ

  1. ไปที่หน้า "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ"
    • ในแอป Google ให้ทำดังนี้
      1. เข้าสู่ระบบแอป Google
      2. คลิกรูปโปรไฟล์ของบัญชี Google เพื่อเปิดเมนู
      3. จากเมนู ให้เลือกผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ
    • จากเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเดสก์ท็อป ให้ทำดังนี้
      1. ลงชื่อเข้าสู่ระบบบัญชี Google
      2. คลิกรูปโปรไฟล์ของบัญชี Google เพื่อเปิดเมนู
      3. จากเมนู ให้เลือกจัดการบัญชี Google จากนั้น ข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
      4. ใน "การตั้งค่าประวัติ" ให้เลือกกิจกรรมของฉัน จากนั้น กิจกรรมอื่นๆ
      5. เลื่อนลงไปที่ส่วน "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" แล้วเลือก "จัดการผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ"
  2. เลือกเริ่มต้นใช้งานหรือการตั้งค่า
  3. ป้อนชื่อและข้อมูลติดต่อที่ต้องการค้นหาในผลการค้นหา
    • Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจหาผลการค้นหาที่แสดงข้อมูลนี้
      เคล็ดลับ: คุณป้อนข้อมูลติดต่อประเภทต่อไปนี้ในแบบฟอร์มได้ด้วย
      1. ชื่อเล่น
      2. นามสกุลเดิม
      3. หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวมากกว่า 1 รายการ
      4. ที่อยู่มากกว่า 1 รายการ
      5. อีเมลมากกว่า 1 รายการ
  4. ตั้งค่าการแจ้งเตือน
    • คุณสามารถเลือกรับการแจ้งเตือนทางอีเมลในกรณีที่ Google พบผลการค้นหาที่มีข้อมูลติดต่อของคุณ รวมถึงรับข้อความ Push ผ่านแอป Google ได้ด้วย
    • หากเปิดการแจ้งเตือนไว้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนว่าผลการค้นหาตรงกับข้อมูลของคุณหรือไม่ หลังจากนั้นจะได้รับการแจ้งเตือนใหม่เมื่อพบผลการค้นหาใหม่ที่ตรงกับข้อมูลติดต่อของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ

หากเปิดการแจ้งเตือนไว้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนภายใน 2-3 ชั่วโมงว่ามีผลการค้นหาที่ตรงกับชื่อและข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลของคุณหรือไม่ หรือคุณจะตรวจสอบจากหน้า "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" โดยตรงก็ได้

วิธีดูผลลัพธ์คือไปที่แท็บ "ผลการค้นหาที่ต้องตรวจสอบ" จากหน้า "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ"

เมื่อเลือกผลการค้นหา คุณจะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการค้นหานั้น เช่น เว็บไซต์แหล่งที่มาหรือข้อมูลติดต่อที่มี

ขั้นตอนที่ 3: ส่งคำขอให้นำผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณออก

หากเห็นผลการค้นหาที่ต้องการเก็บไว้เป็นส่วนตัว คุณสามารถขอให้นำออกจากผลการค้นหาได้

หากต้องการนำผลการค้นหาออกมากกว่า 1 รายการ ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายข้างผลการค้นหาแต่ละรายการ จากนั้น ส่งคำขอให้นำออก

หากต้องการนำผลการค้นหาออกรายการเดียว ให้เลือกผลการค้นหานั้นเพื่อขยาย จากนั้น ส่งคำขอให้นำออก

หากไม่ต้องการเริ่มคำขอให้นำออก คุณก็เลือก "ทําเครื่องหมายว่าตรวจสอบแล้ว" ได้เช่นกัน

Google เห็นว่าผลการค้นหาบางรายการมีประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ของรัฐบาลหรือเว็บไซต์ด้านการศึกษา หนังสือพิมพ์ออนไลน์ หรือเว็บไซต์ธุรกิจ หากผลการค้นหามาจากเว็บไซต์เช่นนี้ คุณจะไม่เห็นตัวเลือก "นำผลการค้นหาออก"

คุณจะได้รับอีเมลเพื่อยืนยันคำขอให้นำออกและแจ้งข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานะเมื่อคำขอได้รับการตรวจสอบแล้ว ดูสถานะคำขอได้ทุกเมื่อจาก "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ในส่วน "คำขอให้นำออก"

นำผลการค้นหาออกเมื่อใช้ Google Search

ขั้นตอนที่ 1: รายงาน URL ใน Google Search

  1. เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ในเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่
  • คุณจะได้รับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานะของคำขอผ่านอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี
  • หากต้องการขอให้นำผลการค้นหาของบุคคลอื่นออกหรือไม่ต้องการเข้าสู่ระบบ ให้ใช้แบบฟอร์มคำขอให้นำออกโดยละเอียดแทน
  1. ค้นหาชื่อของคุณใน Google Search
  • หากต้องการค้นหาผลการค้นหาที่แสดงข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลของคุณ ให้ค้นหาชื่อและเมืองเกิด หรือชื่อและที่อยู่บ้าน
  1. คลิกเพิ่มเติม เพื่อไปที่แผง "เกี่ยวกับผลการค้นหานี้"
  2. เลือกนำผลการค้นหาออก จากนั้น แสดงข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลของฉัน
  3. ทำตามขั้นตอนการรายงาน
  4. ส่งคำขอ
  5. หลังจากส่งคำขอแล้ว ให้เลือกเสร็จสิ้น

เคล็ดลับ: ป้อนชื่อและข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลที่แสดงในหน้าผลการค้นหาให้ตรงกับที่ปรากฏในผลการค้นหาทุกประการ เช่น หากผลการค้นหาแสดงข้อมูลต่อไปนี้

  • ชื่อเล่น: ป้อนชื่อเล่นในแบบฟอร์ม
  • ที่อยู่บ้านเดิม: ป้อนที่อยู่บ้านเดิมในแบบฟอร์ม
  • ข้อมูลติดต่อมากกว่า 1 ประเภท: ระบุข้อมูลติดต่อเพียง 1 ประเภทในแบบฟอร์มคำขอ ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่บ้าน
  • ข้อมูลติดต่อมากกว่า 1 ประเภท: ไม่จำเป็นต้องส่งคำขอให้นำออกหลายรายการสำหรับ URL เดียวกัน

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบอีเมลยืนยัน

คุณจะได้รับอีเมลยืนยันว่าส่งคำขอแล้วภายใน 2-3 ชั่วโมง

ขั้นตอนที่ 3: ติดตามสถานะคำขอ

ในหน้า "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ให้ตรวจสอบว่าคำขออยู่ในสถานะใดต่อไปนี้

  • กำลังดำเนินการ
  • อนุมัติแล้ว
  • ถูกปฏิเสธ
  • เลิกทำแล้ว

หลังจากเลือกคำขอที่ต้องการแล้ว คุณจะตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ได้ เช่น

  • ลิงก์ไปยังหน้าที่แจ้ง
  • วันและเวลาส่ง
  • รหัสคำขอ
  • ข้อมูลติดต่อที่แจ้งในหน้านั้น
เคล็ดลับ: อาจมีความล่าช้าระหว่างเวลาที่คำขอได้รับอนุมัติกับเวลาที่ระบบนำข้อมูลติดต่อออกจากผลการค้นหา คุณสามารถตรวจสอบว่าระบบนำข้อมูลออกแล้วหรือยังภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับอนุมัติ

ข้อกำหนดด้านนโยบายสำหรับคำขอให้นำออก

หลังจากคุณส่งคำขอแล้ว Google จะตรวจสอบคำขอเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดด้านนโยบายการนำออก คำขอต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านนโยบายต่อไปนี้

  • ข้อมูลติดต่อที่แสดงในผลการค้นหาต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หากต้องการขอให้นำข้อมูลทางอาชีพที่โพสต์โดยมีเจตนาให้คุณเป็นอันตรายออก ให้ใช้แบบฟอร์มคำขอให้นำออกโดยละเอียด
  • คุณไม่ได้เป็นผู้ควบคุมข้อมูลดังกล่าวเอง ซึ่งหมายถึงข้อมูลติดต่อที่คุณนำออกจากอินเทอร์เน็ตได้เอง เช่น ข้อมูลในหน้าโซเชียลมีเดียหรือบล็อกส่วนตัวที่คุณเป็นเจ้าของ
  • Google Search จะไม่นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะออกเนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น Google จะไม่นำผลการค้นหาของหน้าเว็บที่เป็นของหน่วยงานต่อไปนี้ออก
    • สถาบันการศึกษาหรือสถาบันของรัฐ
    • หนังสือพิมพ์

คำถามที่พบบ่อย

Google ทําอย่างไรกับข้อมูลที่คุณให้ไว้ในคำขอให้นำออก

เมื่อส่งคำขอให้นำออก คุณต้องระบุข้อมูลติดต่อที่ต้องการให้นำออก Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจสอบว่าตรงกับข้อมูลที่ปรากฏในหน้าเว็บของผลการค้นหา

Google จะไม่แชร์ข้อมูลนี้หรือใช้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ในแบบของคุณ ซึ่งหมายความว่าไม่มีการใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อแจ้งประเภทโฆษณาที่คุณจะเห็นใน Google หรือประเภทผลการค้นหาที่คุณจะเห็นสำหรับคำค้นหาประเภทอื่นๆ
ระบบจะใช้และจัดเก็บข้อมูลนี้เพื่อประมวลผลคำขอ ปรับปรุงกระบวนการส่งคำขอให้นำออก และให้คุณดูสถานะคำขอให้นำออกที่ผ่านมาได้

จะเกิดอะไรขึ้นกับ URL หลังจากที่ได้รับอนุมัติให้นำออก

เมื่อ URL ได้รับอนุมัติให้นำออก ระบบจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
  • URL นั้นจะไม่ปรากฏสำหรับคำค้นหาใดก็ตาม ซึ่งเกิดขึ้นในกรณีส่วนใหญ่
  • URL นั้นจะไม่ปรากฏสําหรับคำค้นหาที่มีชื่อของคุณ
    • การดำเนินการนี้เรียกว่าการนำออกเมื่อมีการค้นหา ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลในหน้าเว็บที่ละเมิดนโยบายมีเนื้อหาที่ถือว่ามีคุณค่าต่อสาธารณะ หรือมีข้อมูลติดต่อของบุคคลหรือธุรกิจอื่น
การนำผลการค้นหาที่แสดงข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลออกจาก Google Search ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลดังกล่าวจะหายไปจากอินเทอร์เน็ต ข้อมูลจะยังอยู่ในหน้าเว็บแหล่งที่มาไม่ว่าคำขอของคุณจะได้รับอนุมัติหรือไม่ก็ตาม หากต้องการนำข้อมูลออกจากแหล่งที่มา ให้ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์

จะเกิดอะไรขึ้นหากคำขอของฉันถูกปฏิเสธ

หากคำขอถูกปฏิเสธ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมล และจะเห็นเหตุผลที่คำขอไม่ได้รับอนุมัติในหน้า "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ"

Google อนุมัติคำขอประเภทใดบ้างผ่าน "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ"

Google อาจอนุมัติคำขอให้นำผลการค้นหาที่มีข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลออกเมื่อเป็นข้อมูลต่อไปนี้

  • หมายเลขโทรศัพท์
  • ที่อยู่บ้าน
  • อีเมล

บางครั้ง Google อาจปฏิเสธคำขอเพื่อคงการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ตัวอย่างเช่น Google จะไม่นำผลการค้นหาของหน้าเว็บที่เป็นของหน่วยงานต่อไปนี้ออก

  • สถาบันการศึกษาหรือสถาบันของรัฐ
  • หนังสือพิมพ์

เนื่องจากเว็บไซต์เหล่านี้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

หากคุณสะดวก ก็สามารถติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เพื่อขอให้นำข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลของคุณออกจากหน้าเว็บแหล่งที่มาได้ วิธีนี้เป็นการนําข้อมูลออกจากอินเทอร์เน็ตที่แหล่งที่มา ซึ่งจะนําข้อมูลออกจากผลการค้นหาของ Google Search ด้วย ดูวิธีติดต่อเจ้าของเว็บไซต์

ฉันจะนำข้อมูลประเภทอื่นใดออกจาก Google Search ได้บ้าง

คุณสามารถขอให้นำข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ประเภทอื่นๆ ออกจาก Search ได้ด้วย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณนำออกได้

ฉันควรทำอย่างไรหากมีคำขอให้นำออกตามกฎหมาย

หากต้องการนำข้อมูลออกจาก Search ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถทำได้ โปรดดูวิธีนำเนื้อหาออกจาก Google

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันเปลี่ยนใจไม่ต้องการนําผลการค้นหาออกแล้ว

หากต้องการยกเลิกคำขอให้นำออก ให้เลือกยกเลิกในส่วน "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ซึ่งจะทำให้ URL นั้นปรากฏในผลการค้นหาได้อีกครั้ง

เคล็ดลับ: การดำเนินการนี้ไม่ได้รับประกันว่าหน้าเว็บจะปรากฏในผลการค้นหาสำหรับคุณหรือผู้อื่นอีก หากมีคนขอให้นำ URL เดียวกันออกและ Google อนุมัติคำขอดังกล่าว Google จะแสดง URL นั้นในผลการค้นหาไม่ได้อีก แม้ว่าคุณจะยกเลิกคำขอให้นำออกของคุณเองแล้วก็ตาม

ฉันควรทำอย่างไรหากข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลอยู่หลังเพย์วอลล์

หากพบข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลในผลการค้นหาที่นำไปสู่หน้าเว็บที่มีเพย์วอลล์ คุณยังคงขอให้นำข้อมูลดังกล่าวออกได้

หากได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับผลการค้นหาจาก Google คุณขอให้นำผลการค้นหาออกได้โดยคลิกการแจ้งเตือนนั้น หากพบผลการค้นหาด้วยตนเองในหน้าผลการค้นหา ให้ส่งคำขอผ่านแบบฟอร์มคำขอให้นำออกโดยละเอียดนี้

ฉันส่งคำขอให้นำออกในนามของบุคคลอื่นได้ไหม

คุณสามารถส่งคำขอให้นำออกสำหรับบุคคลอื่นผ่านแบบฟอร์มคำขอให้นำออกโดยละเอียด การส่งคำขอผ่าน "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ในนามของบุคคลอื่นจากบัญชี Google ของคุณเองอาจส่งผลให้คำขอถูกปฏิเสธ
จะเกิดอะไรขึ้นหากมีการใช้ "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ในทางที่ผิด
การใช้ "ผลการค้นหาเกี่ยวกับคุณ" ในทางที่ผิดอาจส่งผลให้เสียสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์นี้ หรือเกิดผลอื่นๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดในการให้บริการ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก