ปฏิเสธลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ

หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับเว็บไซต์ของคุณเนื่องจากมีลิงก์ที่ผิดปกติไปยังเว็บไซต์ หรือคุณคาดว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการกับเว็บไซต์ของคุณ (เนื่องจากมีลิงก์แบบชำระเงินหรือรูปแบบลิงก์อื่นๆ ที่ละเมิดนโยบายสแปม) คุณควรพยายามนำลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณออก หากคุณนำออกเองไม่ได้หรือนำออกไม่สำเร็จ คุณควรปฏิเสธ URL ของหน้าหรือโดเมนที่เป็นปัญหาที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ

นี่เป็นฟีเจอร์ขั้นสูงและต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง หากใช้ไม่ถูกต้อง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google

ขั้นตอนที่ 0: ตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่

ในกรณีส่วนใหญ่ Google ประเมินได้ว่าควรจะเชื่อถือลิงก์ใดโดยไม่ต้องมีคำแนะนำเพิ่มเติม ดังนั้นเว็บไซต์โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือนี้

คุณควรปฏิเสธลิงก์ย้อนกลับเฉพาะในกรณีต่อไปนี้

  1. คุณมีลิงก์สแปม ลิงก์ปลอม หรือลิงก์คุณภาพต่ำจำนวนมากที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
    และ
  2. ลิงก์นั้นทำให้หรือมีแนวโน้มที่จะทำให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการกับเว็บไซต์ของคุณ

Google ทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการในเว็บไซต์ของบุคคลที่สามไม่มีผลเสียต่อเว็บไซต์ ในบางสถานการณ์ ลิงก์ที่เข้ามาจะมีผลต่อความคิดเห็นของ Google เกี่ยวกับหน้าเว็บหรือเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่นคุณหรือ SEO ที่คุณว่าจ้างอาจสร้างลิงก์ที่ไม่เหมาะสมไปยังเว็บไซต์ของคุณผ่านทางลิงก์แบบชำระเงิน หรือรูปแบบลิงก์อื่นๆ ที่ละเมิดนโยบายสแปม สิ่งสำคัญที่สุดประการแรกที่เราแนะนำคือ ขอให้คุณลบลิงก์สแปมหรือลิงก์คุณภาพต่ำออกจากเว็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เครื่องมือปฏิเสธลิงก์ไม่รองรับพร็อพเพอร์ตี้โดเมน หากคุณมีพร็อพเพอร์ตี้โดเมน หน้านี้จะไม่มีผลกับคุณ

ขั้นตอนที่ 1: สร้างรายการลิงก์ที่จะปฏิเสธ

รวบรวมรายการหน้าเว็บหรือโดเมนที่จะปฏิเสธในไฟล์ข้อความที่จะอัปโหลดไปยัง Google

ไฟล์ลิงก์ต้องมีรูปแบบดังนี้

  • ระบุ URL หรือโดเมนที่จะปฏิเสธ 1 รายการต่อบรรทัด โดยจะปฏิเสธเส้นทางย่อยทั้งหมด เช่น example.com/en/ ไม่ได้
  • ในการปฏิเสธโดเมน (หรือโดเมนย่อย) ให้ใส่ "domain:" ไว้ข้างหน้า เช่น domain:example.com
  • ไฟล์ดังกล่าวจะต้องเป็นไฟล์ข้อความที่เข้ารหัสในรูปแบบ UTF-8 หรือ ASCII แบบ 7 บิต
  • ชื่อไฟล์ต้องลงท้ายด้วย .txt
  • URL มีอักขระได้สูงสุด 2,048 ตัว
  • ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 100,000 บรรทัด (รวมบรรทัดว่างและบรรทัดหมายเหตุแล้ว) และไม่เกิน 2 MB
  • คุณจะใส่หมายเหตุก็ได้ เพียงเริ่มต้นบรรทัดใหม่ด้วยเครื่องหมาย # ทั้งนี้ Google จะละเว้นทุกบรรทัดที่ขึ้นต้นด้วย #

ตัวอย่างเช่น

# หน้าที่จะปฏิเสธ 2 หน้า
http://spam.example.com/stuff/comments.html
http://spam.example.com/stuff/paid-links.html

# โดเมนที่จะปฏิเสธ 1 โดเมน
domain:shadyseo.com

หากพบ URL หรือเว็บไซต์ที่จะปฏิเสธในรายงานลิงก์สำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณจะดาวน์โหลดข้อมูลจากรายงานลิงก์ได้โดยคลิกปุ่มส่งออก อย่าลืมนำ URL ที่คุณไม่ต้องการปฏิเสธออกจากไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา

ขั้นตอนที่ 2: อัปโหลดรายการ

  • คุณโพสต์รายการปฏิเสธได้ 1 รายการสำหรับแต่ละพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณเป็นเจ้าของ การอัปโหลดรายการใหม่สำหรับพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งๆ จะเป็นการแทนที่รายการที่มีอยู่สำหรับพร็อพเพอร์ตี้นั้น
  • คุณต้องเป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้จึงจะอัปโหลดรายการลิงก์ที่จะปฏิเสธได้
  • ลิงก์ที่ปฏิเสธจะยังคงปรากฏในรายงานลิงก์อยู่ต่อไป
  • รายการดังกล่าวจะมีผลเฉพาะกับพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณอัปโหลดรายการไป รวมถึงพร็อพเพอร์ตี้ย่อยทั้งหมด ดังนั้นหากคุณมีทั้งพร็อพเพอร์ตี้ http และ https คุณควรอัปโหลดรายการสำหรับพร็อพเพอร์ตี้แต่ละอย่าง หากคุณมีรายการปฏิเสธที่มีผลกับ example.com รายการดังกล่าวจะมีผลกับ m.example.com ด้วย ดังนั้น หากคุณมีรายการปฏิเสธสำหรับทั้ง example.com และ m.example.com รายการสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ทั้งสองจะเป็นทั้ง 2 รายการนี้ผสมกัน

วิธีอัปโหลดรายการหน้าเว็บหรือโดเมนที่จะปฏิเสธ

  1. ไปที่หน้าเครื่องมือปฏิเสธลิงก์
  2. เลือกพร็อพเพอร์ตี้จากรายการพร็อพเพอร์ตี้ รายการนี้จะใช้กับพร็อพเพอร์ตี้นี้เท่านั้น ถ้าพร็อพเพอร์ตี้นี้มีรายการอยู่แล้ว คุณจะเห็นสรุปสำหรับหน้าเว็บและโดเมนที่ปฏิเสธไปแล้ว การอัปโหลดรายการอื่นลงในพร็อพเพอร์ตี้นี้จะเป็นการแทนที่รายการที่มีอยู่สำหรับพร็อพเพอร์ตี้นี้
  3. คลิกปุ่มเพื่ออัปโหลดรายการ
  4. เลือกไฟล์การปฏิเสธในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตามวิธีการ
    1. หากไฟล์มีข้อผิดพลาด คุณจะเห็นรายการข้อผิดพลาดทันที ระบบจะไม่แทนที่รายการเก่าของคุณ คุณจะแก้ไขรายการใหม่และลองอัปโหลดอีกครั้งได้
    2. หากการอัปโหลดเสร็จสมบูรณ์ Google อาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์เพื่อรวมรายการของคุณไว้ในดัชนีเมื่อ Google รวบรวมข้อมูลเว็บและประมวลผลหน้าเว็บที่เราเห็นอีกครั้ง

นำการปฏิเสธทั้งหมดออกจากพร็อพเพอร์ตี้

หากคุณต้องการลบการปฏิเสธทั้งหมดสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ใดก็ตาม ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากต้องการแทนที่รายการเก่าด้วยรายการใหม่ ก็ไม่ต้องดำเนินการด้วยวิธีนี้ เพียงแค่อัปโหลดรายการใหม่ก็แทนที่รายการเดิมได้แล้ว

  1. ไปที่หน้าเครื่องมือปฏิเสธลิงก์
  2. เลือกพร็อพเพอร์ตี้จากรายการพร็อพเพอร์ตี้
  3. คลิกยกเลิกการปฏิเสธ ระบบจะลบรายการปฏิเสธสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ที่เลือก Google อาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการรวมรายการของคุณไว้ในดัชนีเมื่อเรารวบรวมข้อมูลเว็บและประมวลผลหน้าเว็บที่เราเห็นอีกครั้ง

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
เป็นมือใหม่ Search Console ใช่ไหม

หากไม่เคยใช้ Search Console มาก่อน เริ่มได้เลยที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ ผู้เชี่ยวชาญ SEO หรือนักพัฒนาเว็บไซต์

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
6517066145464746243
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
83844
false
false