เครื่องมือรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย

ขอให้อัปเดตเนื้อหาที่ล้าสมัยในผลการค้นหาของ Google Search

ภาพรวม

ใช้เครื่องมือรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัยเพื่อให้ Google อัปเดตผลการค้นหาสำหรับหน้าเว็บหรือรูปภาพที่ไม่มีอยู่อีกต่อไป หรือหน้าซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ (มีความละเอียดอ่อนหรือร้ายแรง) ที่ถูกลบออก

ใช้เครื่องมือนี้ในกรณีที่...

  • คุณไม่ได้เป็นเจ้าของหน้าเว็บที่ Google ชี้ไป (หากเป็นเจ้าของหน้าเว็บ คุณขอให้ Google ทำการ Crawl หน้าเว็บอีกครั้งหรือซ่อนหน้าเว็บได้) และ
  • หน้าเว็บหรือรูปภาพดังกล่าวไม่มีอยู่อีกต่อไป หรือแตกต่างอย่างมากจากหน้าเว็บหรือรูปภาพเวอร์ชันปัจจุบัน

อย่าใช้เครื่องมือนี้ในกรณีที่...

  • คุณคิดว่าข้อมูลในหน้าเว็บหรือรูปภาพนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย ฯลฯ หากคิดว่าข้อมูลในปัจจุบันไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เป็นอันตราย เป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นโทษ ให้ดูที่นี่
  • คุณเป็นเจ้าของหน้าเว็บที่ได้รับการยืนยันใน Search Console หากคุณเป็นเจ้าของที่ได้รับการยืนยัน ให้ใช้เครื่องมือนี้แทน
  • คุณต้องการนำผลการค้นหาสำหรับ URL ที่เข้าถึงได้แบบสาธารณะออกอย่างถาวร ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำข้อมูลออกจาก Google และอินเทอร์เน็ตได้ที่นี่
  • คุณแค่ต้องการให้ Google ทำการ Crawl หน้าเว็บอีกครั้ง หากไม่ได้มีการนำหน้าเว็บนั้นออกหรือหน้าเว็บไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก (คุณลบรูปภาพหรือข้อมูลที่สำคัญออก) คำขอนี้จะไม่ได้รับอนุมัติ ต่อไปนี้คือวิธีขอให้ Google ทำการ Crawl อีกครั้งตามปกติ
  • ข้อมูลยังคงอยู่ในหน้าเว็บที่เผยแพร่อยู่ หากหน้าเว็บและข้อมูลที่ต้องการนำออกยังคงอยู่ เครื่องมือนี้อาจไม่ได้ผลสำหรับคุณ โปรดไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Search และค้นหา "นำข้อมูลออก" เพื่อดูวิธีส่งคำขอให้นําข้อมูลที่มีอยู่ออกจาก Google
  • คุณต้องการนำหน้าดังกล่าวออกจากเว็บ เครื่องมือนี้จะอัปเดตผลการค้นหาของ Google เท่านั้น ไม่ได้นำหน้าใดออกจากเว็บ

การใช้หน้า "รีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย"

  1. ทำความเข้าใจในเรื่องเครื่องมือนี้ใช้ทำอะไรและข้อห้ามในการใช้เครื่องมือนี้ที่ด้านบน (คำแนะนำ: เครื่องมือนี้จะไม่ลบหน้าเว็บหรือรูปภาพที่ยังคงมีอยู่และไม่มีการเปลี่ยนแปลง)
  2. เปิดเครื่องมือรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย คุณต้องลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ในการใช้เครื่องมือนี้เพื่อป้องกันการละเมิด
  3. ป้อน URL ของหน้าเว็บหรือรูปภาพในรูปแบบที่กำหนด หากเป็นคำขอสำหรับรูปภาพ คุณต้องส่งคำขอแยกในทุกหน้าที่รูปภาพนั้นปรากฏ
  4. คลิกส่ง
    • หากหน้าเว็บหรือรูปภาพยังคงอยู่ที่ URL ที่ให้ไว้ เราจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ หากระบบขอข้อความ ให้ระบุคำ 1-2 คำที่อยู่ในหน้าเวอร์ชันเก่าแต่ไม่อยู่ในเวอร์ชันใหม่แล้ว
  5. หลังจากส่งสำเร็จแล้ว คุณจะเห็นคำขอดังกล่าวเพิ่มลงในคิวคำขอที่ด้านล่างของเครื่องมือ
  6. กลับมาตรวจสอบเป็นระยะๆ เพื่อดูสถานะของคำขอ หากถูกปฏิเสธ จะมีลิงก์ไปยังคำอธิบายถึงสาเหตุ
  7. หากคำขอได้รับอนุมัติ
    • หากหน้าเว็บนั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป หน้าเว็บดังกล่าวก็จะไม่ปรากฏในผลการค้นหาอีก
    • หากหน้าเว็บนั้นยังใช้ได้อยู่แต่มีการเปลี่ยนแปลง ระบบจะนำตัวอย่างและผลการค้นหาที่แคชไว้ออกจากผลการค้นหา แต่จะมีการรีเฟรชทั้ง 2 รายการดังกล่าวในครั้งถัดไปที่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Google ไปที่หน้านั้น หน้าดังกล่าวจึงอาจยังปรากฏในผลการค้นหาต่อไปจนกว่าจะถึงเวลานั้น

สถานะคำขอ

สถานะคำขอที่เป็นไปได้มีดังต่อไปนี้

  • รอดำเนินการ: คำขออยู่ระหว่างประมวลผล โดยการประมวลผลอาจใช้เวลา 2-3 วัน
  • อนุมัติแล้ว: คำขออัปเดตได้รับการอนุมัติแล้ว และควรเผยแพร่อยู่ในผลการค้นหาของ Google
  • ถูกปฏิเสธ: คำขอถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
  • หมดอายุแล้ว: คำขอได้รับการอนุมัติแต่หมดอายุแล้ว คำขอจะหมดอายุเมื่อผ่านไป 180 วันนับตั้งแต่คำขอนั้นได้รับการอนุมัติ หรือเมื่อไม่มี URL แล้ว
  • ยกเลิกแล้ว: คำขอถูกยกเลิกโดยผู้ใช้ที่ส่งคำขอหรือเจ้าของเว็บไซต์ที่ได้รับการยืนยัน

คำถามที่พบบ่อย

ค้นหา URL ที่ถูกต้องสำหรับคำขอของคุณ

URL ที่ถูกต้องที่จะส่งขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการขอให้รีเฟรชหน้าเว็บหรือรูปภาพ ดังนี้

การอัปเดตรูปภาพ
คำขอสำหรับรูปภาพต้องมีทั้ง URL ของรูปภาพและ URL ของหน้าที่มีรูปภาพนั้น  มี 2 วิธีในการดำเนินการ ได้แก่

วิธีที่ 1: (ง่าย)

  1. ค้นหาใน Google เพื่อแสดงรูปภาพนั้นขึ้นมา
  2. เปิดแท็บผลการค้นหารูปภาพดังที่แสดงด้านล่างนี้
  3. ค้นหาและคลิกขวาที่รูปภาพโดยไม่ต้องเลือก
  4. คลิกคัดลอกที่อยู่ลิงก์ (ไม่ใช่คัดลอกที่อยู่ของรูปภาพ) URL ควรขึ้นต้นด้วย https://www.google.com/imgres?imgurl=..."
  5. คัดลอก URL นี้ลงในช่องคัดลอกลิงก์ในคำขอรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย

วิธีที่ 2: (ซับซ้อน)

  1. ค้นหาใน Google เพื่อแสดงรูปภาพนั้นขึ้นมา
  2. เปิดแท็บผลการค้นหารูปภาพดังที่แสดงด้านล่างนี้
  3. คลิกรูปภาพเพื่อดูรูปภาพเวอร์ชันขยาย
  4. คลิกขวาที่รูปภาพเวอร์ชันขยาย แล้วเลือกคัดลอกที่อยู่ของรูปภาพ (ไม่ใช่คัดลอกที่อยู่ลิงก์) และคัดลอก URL ลงในช่อง URL ของรูปภาพในคำขอรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย
  5. คลิกขวาที่รูปภาพขยายอีกครั้งแล้วเลือกคัดลอกที่อยู่ลิงก์ (ไม่ใช่คัดลอกที่อยู่ของรูปภาพ) และคัดลอก URL ลงในช่อง URL ของหน้าเว็บที่มีรูปภาพดังกล่าวในคำขอรีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย

การอัปเดตหน้าเว็บ

  1. ค้นหาลิงก์ไปยังหน้าเว็บในผลการค้นหาของ Google
  2. วางเมาส์เหนือลิงก์ที่ไปยังหน้าดังกล่าว
    • คลิกขวา แล้วเลือกคัดลอกที่อยู่ลิงก์ในเมนูป๊อปอัป
    • ห้ามคัดลอกข้อความลิงก์ที่แสดง
    • ห้ามคลิกลิงก์แล้วคัดลอก URL จากหน้าในเบราว์เซอร์
    Search result with the URL and title highlighted
  3. ค้นหา URL เพิ่มเติมสำหรับหน้าเว็บเดียวกัน: การที่เนื้อหาเดียวกันปรากฏใน URL หลายๆ แห่งถือเป็นเรื่องปกติ เช่น URL ของบล็อกโพสต์ต่อไปนี้ทั้งหมดต่างชี้ไปยังหน้าเว็บเดียวกัน
    http://www.example.com/forum/thread/123
    http://www.example.com/forum/post/456
    http://www.example.com/forum/thread/123?post=456
    http://www.example.com/forum/thread/123?post=456&sessionid=12837460
    

    แม้ว่าจะส่งคำขอให้รีเฟรช URL สำเร็จแล้ว 1 รายการ แต่หากเนื้อหาที่คุณพยายามรีเฟรชปรากฏในผลการค้นหาภายใต้ URL อื่น เนื้อหานั้นจะยังปรากฏได้อยู่ ในกรณีนี้ โปรดส่งคำขอให้รีเฟรชเพิ่มเติมโดยส่ง 1 คำขอต่อ URL 1 รายการที่แสดงเนื้อหานี้

ทำไมคำขอของฉันจึงถูกปฏิเสธ

โปรดดูคำอธิบายสาเหตุที่คำขอให้รีเฟรชตัวอย่างหรือแคชถูกปฏิเสธจากหัวข้อความช่วยเหลือนี้

รูปภาพหรือหน้าเว็บที่ล้าสมัยยังปรากฏอยู่ใน Google Search

หากคำขอให้รีเฟรชได้รับการอนุมัติแล้ว แต่คุณยังเห็นเนื้อหาที่ล้าสมัยในผลการค้นหาอยู่ ให้ตรวจสอบว่า URL ที่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google เป็น URL เดียวกันกับที่คุณส่งคำขอให้รีเฟรช (รวมถึงการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่) หาก URL ไม่ตรงกัน คุณควรส่งคำขอรีเฟรชสำหรับ URL เพิ่มเติมนั้นซึ่งยังปรากฏอยู่ในผลการค้นหา

ตัวอย่างหรือสำเนาที่แคชไว้คืออะไร

Screenshot showing a snippet and a cached selector in search results

  1. ตัวอย่าง: ข้อมูลสรุปของหน้าเว็บที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  2. สำเนาที่แคชไว้: เมื่อ Googlebot (โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Google) รวบรวมข้อมูลในหน้าเว็บหนึ่งๆ จะมีการทำสำเนาของหน้าดังกล่าวซึ่งดูได้ในผลการค้นหา สำเนาของหน้าเว็บที่จัดเก็บไว้นี้เรียกว่าสำเนาที่แคชไว้หรือเวอร์ชันที่แคชไว้

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
เป็นมือใหม่ Search Console ใช่ไหม

หากไม่เคยใช้ Search Console มาก่อน เริ่มได้เลยที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ ผู้เชี่ยวชาญ SEO หรือนักพัฒนาเว็บไซต์

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
750249257292961777
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
83844
false
false