ตั้งค่า Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

การรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งช่วยในการวัดจำนวนธุรกรรม รายได้ และกำไรที่เกิดจากโฆษณา Search และ Shopping หากใช้กิจกรรม Floodlight คุณจะส่งข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งของ Conversion การซื้อได้ การส่งรหัสผู้ขาย ป้ายกำกับฟีด ภาษาของฟีด และข้อมูลผลิตภัณฑ์จะช่วยให้คุณระบุได้ว่าสินค้าใดขายดีและสินค้าใดอาจต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม

บทความนี้จะอธิบายวิธีการตั้งค่าและส่งข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งด้วยแท็ก Google หรือ Google Tag Manager

ก่อนเริ่มต้น

หากได้ตั้งค่าการรายงานการซื้อแบบละเอียดสำหรับแท็กใน Search Ads 360 เวอร์ชันเก่าไว้ คุณก็ไม่ต้องตั้งค่าการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง เนื่องจากแท็กดังกล่าวจะยังส่งข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งต่อไป

ข้อกำหนด

หากต้องการตั้งค่าการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง ให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

ลิงก์บัญชี Google Merchant Center กับ Search Ads 360 ใหม่แล้ว
สร้างแคมเปญแล้ว
สามารถแก้ไขโค้ดของเว็บไซต์

วิธีการสําหรับแท็ก Google

ขั้นตอนที่ 1 จาก 2: สร้างแท็กธุรกรรมและข้อมูลโค้ดเหตุการณ์

คุณยังสร้างแท็ก Floodlight ด้วย Campaign Manager 360 หรือ Search Ads 360 เวอร์ชันเก่าได้ด้วย โปรดข้ามขั้นตอนนี้หากมีแท็กที่บันทึกธุรกรรมอยู่แล้ว

ลงชื่อเข้าใช้ Search Ads 360 เวอร์ชันใหม่
ไปที่บัญชี Search Ads 360
คลิกไอคอนเครื่องมือในเมนูการนำทาง
คลิก Conversion ในส่วน "การวัด"
คลิกการกระทำที่ถือเป็น Conversion ที่ต้องการใช้ หรือสร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
ในส่วน "การตั้งค่าแท็ก" ให้คลิกติดตั้งแท็กด้วยตนเอง
ดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดแท็ก Google และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์
เพิ่มแท็ก Google ลงในทุกหน้าของเว็บไซต์ในแท็ก <head>
เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าที่จะเกิด Conversion ในแท็ก <body>

ขั้นตอนที่ 2 จาก 2: อัปเดตแท็กโดยระบุพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

ไปที่ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ แล้วเพิ่มพารามิเตอร์ในรูปแบบอาร์เรย์รายการ JSON
แต่ละรายการในอาร์เรย์จะมีพารามิเตอร์ต่อไปนี้
- id: รหัสสินค้าที่ขาย (ต้องตรงกับรหัสในฟีด Merchant Center ที่ลิงก์)
- price: ราคาสินค้าที่ขาย
- quantity: จํานวนสินค้าที่ขาย
- country (ไม่บังคับ)
- merchant_feed_language (ไม่บังคับ): ภาษาของฟีดที่แสดงโดยใช้รหัส ISO 639-1 แบบ 2 ตัวอักษร
- merchant_feed_label (ไม่บังคับ): ป้ายกำกับที่ระบุฟีดที่เฉพาะเจาะจงซึ่งใช้ภายใน Google Merchant Center
- merchant_id (ไม่บังคับ): รหัส Google Merchant Center ของผู้ค้าปลีก
ระบุพารามิเตอร์ของอาร์เรย์รายการ JSON โดยใช้ตารางพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

ตัวอย่างข้อมูลโค้ดเหตุการณ์

ต่อไปนี้คือข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่มีพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

<!--

ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์สำหรับคําขอบคุณที่ http://www.example.com/thanks โปรดอย่านําออก

วางข้อมูลโค้ดนี้ในหน้าซึ่งมีเหตุการณ์ที่กําลังติดตาม

วันที่สร้าง: 01/11/2017

-->

<script>

gtag('event', 'purchase',

{

'allow_custom_scripts': true,

'send_to': 'DC-1234567/group1/thank123+transactions',

'transaction_id': '012345',

'value': 129.97,

'items': [

{ 'id': '123456755559',

'price': 19.99,

'quantity': 1

},

{ 'id': '123456788889',

'price': 54.00,

'quantity': 2

}

],

'country': 'us',

'language': 'en',

'merchant_feed_label': 'MAIN',

'merchant_feed_language': 'en',

'merchant_id': 987

}

);

</script>

<noscript>

<img src="https://ad.doubleclick.net/ddm/activity/src=1234567;type=group1;cat=thank123;

qty=1;cost=129.97;dc_lat=;dc_rdid=;tag_for_child_directed_treatment=;tfua=;npa=;

ord=012345;prd=i1:123456755559|p1:19.99|q1:1|i2:123456788889|p2:54.0|q2:2|c:us|l:en?" width="1" height="1" alt="">

</noscript>

หมายเหตุ: ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่ Search Ads 360 เวอร์ชันใหม่สร้างจะมีแท็ก <noscript> ที่ไม่บังคับซึ่งมีแท็กรูปภาพ Floodlight แท็กนี้ใช้เพื่อรายงาน Conversion ในเบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับ JavaScript หากเว็บไซต์รองรับเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้เปิดใช้ JavaScript เราขอแนะนําให้อัปเดตแท็กรูปภาพ Floodlight ให้รวมพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งดังที่แสดงในตัวอย่าง

ตัวอย่างข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่มีรหัสประเทศและรหัสภาษา

คุณใช้ Merchant Center เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ในฟีดหลายรายการ โดยให้แต่ละรายการกําหนดเป้าหมายเป็นภาษาและประเทศที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น หากขายผลิตภัณฑ์เดียวกันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คุณอาจตั้งค่าฟีด 3 รายการที่มีประเทศและภาษาเป้าหมายดังต่อไปนี้

ราคาในสหรัฐอเมริกาและคําอธิบายภาษาอังกฤษ
ราคาในแคนาดาและคําอธิบายภาษาฝรั่งเศส
ราคาในแคนาดาและคําอธิบายภาษาอังกฤษ

เมื่อส่งฟีดที่มีรหัสผลิตภัณฑ์เดียวกันแต่ภาษาหรือประเทศเป้าหมายต่างกัน คุณจะต้องใส่รหัสภาษาและรหัสประเทศไว้ในพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

ต่อไปนี้คือตัวอย่างอาร์เรย์รายการของฟีดที่กําหนดเป้าหมายเป็นคนแคนาดาที่พูดภาษาฝรั่งเศส

'items': [

{ 'id': '123456788889',

'price': 19.99,

'quantity': 1

},

{ 'id': '123456755559',

'price': 54.00,

'quantity': 2

}

],

'country': 'ca',

'language': 'fr',

'merchant_feed_label': 'MAIN',

'merchant_feed_language': 'fr',

'merchant_ID': 987

วิธีการสำหรับ Google Tag Manager

Google Tag Manager ช่วยในการจัดการแท็กของเว็บไซต์ โดยสามารถเพิ่มและอัปเดตแท็กใน Google Tag Manager แทนการเพิ่มและอัปเดตในเว็บไซต์โดยตรง จากนั้น Google Tag Manager จะส่งแท็กที่จัดรูปแบบเรียบร้อยแล้วในเว็บไซต์ตามที่ต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Tag Manager

ขั้นตอนที่ 1 จาก 2: สร้างแท็กธุรกรรมและอาร์เรย์ JSON

สร้างแท็กยอดขาย Floodlight ใน Search Ads 360 หรือ Campaign Manager 360 ดูข้อมูลเกี่ยวกับแท็กยอดขาย Floodlight ของ Google Tag Manager
เพิ่มแท็กในคอนเทนเนอร์ Google Tag Manager ดูวิธีตั้งค่าและติดตั้ง Google Tag Manager
หากคุณใช้ชั้นข้อมูลของ Google Tag Manager เพื่อส่งข้อมูล ให้สร้างอาร์เรย์ ecommerce.purchase.products รูปแบบ JSON

ตัวอย่างอาร์เรย์ ecommerce.purchase.products

'ecommerce':{

'purchase':{

'products': [{

'id': 'String',

'price': 'Floating point',

'quantity': Integer,

'country': 'String', // Optional

'language': 'String', // Optional

'accountId': 'String' // Optional

},

{

… // Each SKU (product) in the transaction

// is in its own array item.

}]

}

}'

ขั้นตอนที่ 2 จาก 2: อัปเดตแท็กโดยใช้ Google Tag Manager

เมื่อคุณต้องการส่งข้อมูลที่สร้างขึ้นแบบไดนามิกไปยังแท็กที่ Google Tag Manager จัดการ ให้ทําอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

ใช้ข้อมูลจากชั้นข้อมูล

หากนักพัฒนาเว็บทําให้ตัวแปรรายละเอียดการซื้อใช้ได้ในชั้นข้อมูล ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อส่งต่อข้อมูลไปยังแท็ก Floodlight

ใช้เมธอด dataLayer.push เพื่อทําให้ข้อมูลพร้อมใช้งานในชั้นข้อมูลของ Google Tag Manager
ไปที่คอนเทนเนอร์ของเว็บไซต์ใน Google Tag Manager
คลิกแท็บแท็ก แล้วคลิกแท็กธุรกรรม Floodlight ที่รายงานการขาย
คลิกไอคอนดินสอเพื่อเปลี่ยนแปลงแท็ก
เลือกช่องทําเครื่องหมายให้ข้อมูลการขายระดับผลิตภัณฑ์ในส่วนการรายงานผลิตภัณฑ์
จากรายการ "แหล่งข้อมูล" ให้เลือกชั้นข้อมูล
Google Tag Manager จะใช้ข้อมูลที่พุชไปยังชั้นข้อมูลในอาร์เรย์ ecommerce.purchase.products โดยอัตโนมัติ
คลิกบันทึก
ดูตัวอย่างและนําการเปลี่ยนแปลงไปใช้จริง

ใช้ตัวแปรเพื่อเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ

หากพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งไม่พร้อมใช้งานในชั้นข้อมูล ให้ใช้ตัวแปร Google Tag Manager เพื่อส่งต่อข้อมูล

เปิดแท็กยอดขาย Floodlight ในคอนเทนเนอร์ Google Tag Manager
ในส่วน "การรายงานผลิตภัณฑ์" ให้เลือกช่องทําเครื่องหมายให้ข้อมูลยอดขายระดับผลิตภัณฑ์
เลือกการกำหนดค่าที่กำหนดเองจากเมนูแบบเลื่อนลง "แหล่งข้อมูล"
คลิกไอคอนเพิ่มตัวแปรในฟิลด์ต่อไปนี้
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- รหัสผู้ขาย
- ป้ายกำกับฟีด
- ภาษาของฟีด
คลิกปุ่มตัวแปรใหม่ที่ด้านขวาบน
คลิกไอคอนดินสอในการ์ด "การกำหนดค่าตัวแปร" แล้วเลือกประเภทตัวแปรที่เหมาะสม
ในช่องถัดไป ให้ป้อนชื่อออบเจ็กต์ที่มีข้อมูล
แก้ไขตัวแปรตามที่จำเป็น แล้วคลิกบันทึก หลังจากทำขั้นตอนนี้แล้ว คุณควรเห็นชื่อตัวแปรอยู่ในวงเล็บคู่ในฟิลด์การรายงานผลิตภัณฑ์
คลิกบันทึก

ช่องข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

ตารางต่อไปนี้อธิบายประเภท ค่าตัวอย่าง และคําอธิบายที่จําเป็นสําหรับพารามิเตอร์ข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง

พารามิเตอร์	ประเภท	ค่าตัวอย่าง	คำอธิบาย
`id`	สตริง	"98765"	รหัสของผลิตภัณฑ์ที่ขาย ซึ่งต้องตรงกับรหัสสินค้าจาก Google Merchant Center
`price`	จำนวนลอยตัว	60.00	ราคาลดของสินค้ารายการเดียว โดยไม่รวมภาษี ค่าจัดส่ง และส่วนลดระดับธุรกรรมใดๆ
`quantity`	จำนวนเต็ม	2	จํานวนหน่วยที่ขายของสินค้า
`country` (ไม่บังคับ)	สตริง	"840"	ประเทศที่เชื่อมโยงกับฟีดที่อัปโหลดสินค้า ใช้รหัสประเทศ ISO 3166 ป้อนช่องนี้เฉพาะในกรณีที่ฟีด Merchant Center หลายรายการมีรหัสสินค้าซ้ำกัน
`merchant_feed_label` (ไม่บังคับ)	สตริง	"MAIN"	ป้ายกำกับที่ระบุฟีดที่เฉพาะเจาะจงซึ่งใช้ภายใน Google Merchant Center
`merchant_feed_language` (ไม่บังคับ)	สตริง	"fr"	ภาษาของฟีดที่แสดงโดยใช้รหัส ISO 639-1 แบบ 2 ตัวอักษร
`merchant_id` (ไม่บังคับ)	จำนวนเต็ม	987	รหัส Google Merchant Center ของผู้ค้าปลีก

รายงานเกี่ยวกับส่วนต่างกำไร (ไม่บังคับ)

หากต้องการรายงานเกี่ยวกับส่วนต่างกำไร คุณต้องระบุแอตทริบิวต์ฟีดต้นทุนสินค้าขายในฟีดผลิตภัณฑ์ Google Merchant Center ดูวิธีเปิดใช้การรายงานเกี่ยวกับส่วนต่างกำไร

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร