การแจ้งเตือน

โปรดทราบว่าทีมสนับสนุนลูกค้าไม่ได้ให้บริการแก้ปัญหาโดยใช้ภาษาที่แสดงอยู่ในปัจจุบันของคุณ หากต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ทีมสนับสนุน โปรดเปลี่ยนไปใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ ที่รองรับก่อน (สเปน โปรตุเกส หรือญี่ปุ่น) 

ใช้กลุ่มในตาราง

ใช้กลุ่มเพื่อแสดงข้อมูลที่สำคัญที่สุดต่อคุณในตาราง Search Ads 360 กลุ่มจะช่วยในการแบ่งข้อมูลออกเป็นแถวๆ และแยกสิ่งที่คุณต้องการดูออกมา ตัวเลือกการแบ่งกลุ่มจะแตกต่างกันไปตามตารางที่คุณดูอยู่ โดยอาจรวมถึงช่วงเวลา ประเภทการคลิก หรืออุปกรณ์

บทความนี้จะอธิบายวิธีใช้กลุ่ม

วิธีการ

วิธีแบ่งกลุ่มแถวของตาราง

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Search Ads 360
  2. ใช้เมนูหน้าเว็บเพื่อไปยังตารางที่คุณต้องการแบ่งกลุ่ม
  3. คลิกไอคอนกลุ่ม  แล้วเลือกข้อมูลที่ต้องการแยก
  4. หากต้องการนำกลุ่มออก ให้คลิกไอคอนกลุ่ม  แล้วเลือกไม่มี
หมายเหตุ: คอลัมน์อาจไม่แสดงค่าหากคุณใช้กลุ่มที่ใช้ร่วมกันไม่ได้ ตัวอย่างเช่น กลุ่มที่อิงตาม Conversion เช่น "การกระทำที่ถือเป็น Conversion" และ "เวลาหน่วงของ Conversion" จะใช้ได้กับคอลัมน์ที่เกี่ยวข้องกับ Conversion เช่น Conversion, Conv. ทั้งหมด และมูลค่า Conversion เท่านั้น ดังนั้นคอลัมน์อื่นๆ อย่างเช่น การคลิก การแสดงผล และค่าใช้จ่ายจะแสดงค่าว่าง “--” เมื่อมีการใช้กลุ่มที่อิงตาม Conversion

วิธีใช้กลุ่มประเภทต่างๆ เพื่อรับข้อมูลเชิงลึก

กลุ่มบางกลุ่มจะพบได้ในแทบทุกหน้าในบัญชีของคุณ ในขณะที่บางกลุ่มจะมีอยู่เฉพาะในบางหน้าเท่านั้น ในบางกรณี คุณอาจต้องดาวน์โหลดรายงานเพื่อให้ใช้กลุ่มที่ต้องการกับข้อมูลได้ ประเภทของกลุ่มที่ใช้ได้และวิธีใช้มีดังนี้

ปลายทางของโฆษณา

ปลายทางของโฆษณาจะบอกว่าผู้ใช้ไปที่ใดหลังจากคลิกโฆษณา หากได้รับการเข้าชมโฆษณาจากทั้งในแอปและเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ คุณใช้กลุ่มนี้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณาตามแหล่งที่ผู้ใช้เข้าชมได้

การแบ่งกลุ่มตามปลายทางโฆษณาอาจใช้ไม่ได้กับเมตริกทั้งหมด เช่น Conversion การดูผ่านสำหรับแคมเปญวิดีโอ

ประเภทการคลิก

ใช้กลุ่มนี้เพื่อดูว่าการคลิกใดที่ทำให้เกิดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ หรือคลิกบนหมายเลขโทรศัพท์เมื่อโฆษณาของคุณแสดงบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าคลิกเพื่อโทร)

การแบ่งกลุ่มตามประเภทการคลิกอาจใช้ไม่ได้กับเมตริกทั้งหมด เช่น เมตริกยอดดูสำหรับแคมเปญวิดีโอ Google Ads 

หมายเหตุ: ประเภทการคลิกอาจนำไปใช้กับการแสดงผลเดียวกันได้หลายแง่มุม (เช่น การแสดงผลคลิกเพื่อโทรอาจแสดงคู่กับการแสดงผลบรรทัดแรกในโฆษณาเดียวกัน) ในกรณีนี้ คุณจะเห็น "--" แทนที่จะเป็นยอดรวมสรุปในรายงานที่ดาวน์โหลด ซึ่งยอดรวมอาจไม่ถูกต้องเนื่องจากอาจนับการแสดงผลบางอย่างซ้ำ

Conversion

 หากคุณได้ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ไว้ กลุ่ม "การกระทำที่ถือเป็น Conversion" "หมวดหมู่ Conversion" และ "แหล่งที่มาของ Conversion" จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Conversion สำหรับแพลตฟอร์มโฆษณาอื่นๆ คุณเพิ่มคอลัมน์ "กลุ่มกิจกรรม Floodlight" หรือ "กิจกรรม Floodlight" เพื่อดูข้อมูล Conversion ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion ของ Floodlight  

จำนวนวันที่นำไปสู่ Conversion (เฉพาะ Google Ads)

กลุ่ม "จำนวนวันที่นำไปสู่ Conversion" แสดงเวลาที่ต่างกันระหว่างการแสดงโฆษณาของลูกค้ากับ Conversion ที่ตามมา ดู "จำนวนวันที่นำไปสู่ Conversion" เพื่อให้ทราบระยะเวลาที่ควรรอวันรายงานนั้นๆ ก่อนที่จะตีความจำนวน Conversion การสังเกตระยะเวลาที่ผู้ใช้เคยใช้ในการทำ Conversion ยังช่วยให้คุณทราบเวลาที่ควรเริ่มแคมเปญโฆษณาใหม่ได้อีกด้วย

อุปกรณ์

ใช้กลุ่มนี้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต

คีย์เวิร์ด / ตำแหน่ง

ใช้กลุ่มนี้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดแต่ละรายการสำหรับโฆษณาหนึ่งๆ กลุ่มนี้มีอยู่ในหน้าโฆษณาและชิ้นงานเท่านั้น

เครือข่าย (ที่มีพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา) 

ใช้กลุ่มนี้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเครือข่ายการค้นหาของ Google และเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อเปรียบเทียบโฆษณาเดี่ยวในหน้าโฆษณาและส่วนขยายอยู่บ่อยครั้ง

ประเภทการทำงานของข้อความค้นหา

การแบ่งกลุ่มคีย์เวิร์ดตามประเภทการทำงานของข้อความค้นหาจะช่วยให้เข้าใจได้ว่าข้อความค้นหาจริงเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่คุณมีอย่างไร ประเภทของการแบ่งกลุ่มนี้จะแสดงให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดของคุณมีประสิทธิภาพอย่างไรในการทำงานแบบกว้าง แบบวลี และแบบตรงทั้งหมด

คุณใช้กลุ่มนี้เพื่อดูการคลิก การแสดงผล หรือ CTR จากประเภทการทำงานของข้อความค้นหาแต่ละประเภทไปยังคีย์เวิร์ดบางรายการได้ จากนั้น คุณจะเปลี่ยนแปลงประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ 

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณมีคีย์เวิร์ดของเล่นสุนัขซึ่งคุณได้ตั้งไว้เป็นการทำงานแบบกว้าง และลูกค้าได้ค้นหาคำว่าของเล่นที่ซื้อให้สุนัข ประเภทการทำงานของข้อความค้นหาจะเป็นแบบกว้าง หากลูกค้าได้ค้นหาคำว่าซื้อของเล่นสุนัขหรือซื้อขอเล่นสุนัข (คำที่สะกดผิด) ประเภทการทำงานของข้อความค้นหาจะเป็นแบบวลี หากการค้นหาของลูกค้าเป็นคำว่าของเล่นสุนัขหรือขอเล่นสุนัข ประเภทการทำงานของข้อความค้นหาจะเป็นแบบตรงทั้งหมด

คีย์เวิร์ดของคุณ ข้อความค้นหา ประเภทการทำงานของข้อความค้นหา
ของเล่นสุนัข ของเล่นที่ซื้อให้สุนัข การทำงานแบบกว้าง
ของเล่นสุนัข ซื้อของเล่นสุนัข
ซื้อขอเล่นสุนัข
การทำงานแบบวลี
ของเล่นสุนัข ของเล่นสุนัข
ขอเล่นสุนัข
การทำงานแบบตรงทั้งหมด

ตอนนี้ สมมติว่าคุณได้เพิ่มกลุ่มไปยังตารางสถิติ แล้วเห็นว่าคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างซึ่งก็คือของเล่นสุนัขแสดงโฆษณาสำหรับประเภทการทำงานของข้อความค้นหาทั้ง 3 ประเภท (แบบกว้าง แบบวลี และแบบตรงทั้งหมด) เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพของคำว่าของเล่นสุนัขสำหรับแต่ละประเภทการทำงานของข้อความค้นหาแล้ว คุณอาจตัดสินใจเพิ่มหรือลดราคาเสนอสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น

หมายเหตุ

แม้ว่าคุณเลือกไม่แสดงโฆษณาเมื่อมีผู้ค้นหาคำในรูปแบบอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบตรงทั้งหมดและแบบวลี แต่ก็อาจยังเห็นว่าประเภทการทำงานของข้อความค้นหาทั้งแบบตรงทั้งหมดและแบบวลีมีจำนวนเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หากรายการคีย์เวิร์ดของคุณมีคีย์เวิร์ดของเล่นสุนัขที่เป็นการทำงานแบบกว้าง และมีผู้ค้นหาขอเล่นสุนัข เราจะระบุประเภทการทำงานของข้อความค้นหานั้นว่าเป็นแบบตรงทั้งหมด เนื่องจากคำว่าขอเล่นสุนัขมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับของเล่นสุนัข

หมวดหมู่พิเศษ (เฉพาะ Google Ads)

จะมีกลุ่ม "หมวดหมู่พิเศษ" เมื่อคุณดาวน์โหลดรายงานสำหรับประสิทธิภาพของตำแหน่งอัตโนมัติในเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google รายงานจะแสดงหน้าเว็บ 2 ประเภทที่แสดงโฆษณาของคุณ ได้แก่ หน้าแสดงข้อผิดพลาดและเว็บไซต์โดเมนที่พัก

เวลา

ใช้เพื่อแบ่งตารางสถิติออกเป็นแถวตามช่วงเวลาที่คุณเลือก หากต้องการข้อมูลจำนวนมาก คุณอาจได้รับข้อความที่แนะนำให้ดาวน์โหลดรายงาน
มีตัวเลือกดังนี้
  • วันในสัปดาห์ (วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ...)
  • วัน (เช่น วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2011)
  • สัปดาห์
  • เดือน
  • ไตรมาส
  • ปี
  • ชั่วโมงของวัน

ด้านบนเทียบกับด้านอื่นๆ (เฉพาะ Google Ads)

ใช้กลุ่ม "ด้านบนเทียบกับด้านอื่นๆ" ในตารางสถิติของคุณเพื่อค้นหาตำแหน่งที่โฆษณาของคุณปรากฏบนหน้าผลการค้นหาของ Google และหน้าของพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา การแบ่งกลุ่มข้อมูลตาม "ด้านบนเทียบกับด้านอื่นๆ" จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Search ให้แสดงโฆษณาในส่วนของหน้าเว็บที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับคุณ

วิธีตีความข้อมูล

  • การค้นหาของ Google: ด้านบน -- โฆษณาของคุณแสดงเหนือผลการค้นหาทั่วไปของ Google
  • การค้นหาของ Google: ด้านอื่นๆ - โฆษณาแบบข้อความที่ไม่ปรากฏอยู่เหนือผลการค้นหาของ Google โดยตรงจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ "การค้นหาของ Google: ด้านอื่นๆ"
  • พาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา: ด้านบน -- โฆษณาของคุณแสดงเหนือผลการค้นหาทั่วไปของพาร์ทเนอร์ในหน้าเว็บของพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา
  • พาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา: ด้านอื่นๆ -- โฆษณาที่ไม่ได้ปรากฏเหนือผลการค้นหาของพันธมิตรโดยตรงจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ "อื่นๆ"
  • เครือข่ายดิสเพลย์ของ Google -- โฆษณาของคุณแสดงบนเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
1677481978605672451
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
5055977
false
false
false
false