คู่มือด้านความปลอดภัยและกฎข้อบังคับ (Pixel 4 และ Pixel 4 XL)

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำเตือนด้านความปลอดภัย

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

สหรัฐอเมริกา

แคนาดา

สหภาพยุโรป

สิงคโปร์

ออสเตรเลีย

อินเดีย

ญี่ปุ่น

ไต้หวัน

ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ

การรับประกันแบบจำกัด

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำแนะนำนี้ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานเดียวกับที่อยู่ในเอกสารความปลอดภัยและการรับประกันในทุกกล่องบรรจุของ Pixel 4 และ Pixel 4 XL และยังประกอบด้วยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัย กฎข้อบังคับ และการรับประกันของ Pixel 4 และ Pixel 4 XL อีกด้วย

  • ดูข้อมูลด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกฎข้อบังคับได้ที่ g.co/pixel/safety หรือไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว คู่มือความปลอดภัยและกฎข้อบังคับ
  • ดูรายละเอียดการรับประกันสำหรับประเทศที่คุณซื้อรวมถึงวิธีการเคลมประกันได้ที่ g.co/pixel/warranty
  • ดูป้ายกำกับกฎข้อบังคับอิเล็กทรอนิกส์และค่าอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) ของอุปกรณ์ได้โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว   เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ
  • รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับโทรศัพท์ Pixel ได้ที่ g.co/pixel/help

คำเตือนด้านความปลอดภัย

คำเตือน คำเตือน: ข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัย โปรดอ่านก่อนใช้งานเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บเสียหายส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงความเสียหายต่อโทรศัพท์และอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

โปรดอ่านข้อมูลเพื่อความปลอดภัยด้านล่างก่อนใช้งาน Pixel 4 หรือ Pixel 4 XL เพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อ Pixel 4, Pixel 4 XL หรือทรัพย์สินอื่นๆ ตลอดจนอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การใช้งาน

โปรดใช้โทรศัพท์อย่างระมัดระวัง คุณอาจทำให้โทรศัพท์หรือแบตเตอรี่เสียหายหากถอดแยกชิ้นส่วน ทำตก บิดงอ เผา บดอัด หรือเจาะ อย่าใช้โทรศัพท์ที่หน้าจอแตกร้าวหรือตัวเครื่องเสียหาย การใช้โทรศัพท์ที่เสียหายอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปหรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ อย่าให้โทรศัพท์โดนของเหลว เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องร้อนเกินไป  หากโทรศัพท์เปียก อย่าพยายามทำให้แห้งด้วยแหล่งความร้อนภายนอก

โทรศัพท์เครื่องนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในอุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง 32° ถึง 95° F (0° ถึง 35° C) และควรจัดเก็บที่อุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง -4° ถึง 113° F (-20° ถึง 45° C) อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในที่ที่อาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 113°F (45°C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์หรือใกล้ช่องระบายความร้อน เพราะอาจทำให้โทรศัพท์เสียหาย แบตเตอรี่ร้อนเกินไป หรือเสี่ยงต่อการลุกไหม้ เก็บโทรศัพท์ให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง หากอุปกรณ์เริ่มร้อนเกินไป ให้ถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟหากเสียบอยู่ นำอุปกรณ์ไปไว้ในที่ที่เย็นลง และไม่ใช้อุปกรณ์จนกว่าเครื่องจะเย็น โทรศัพท์ของคุณออกแบบมาให้ทำงานได้ดีที่สุดที่ระดับความสูงสูงสุด 2,000 ม.

การใช้งานโทรศัพท์ในบางโหมด เช่น การเล่นเกม การถ่ายวิดีโอ การใช้การตั้งค่าไฟฉาย หรือ VR อาจทำให้เครื่องร้อนมากกว่าสภาวะการทำงานปกติ และนำไปสู่การทำงานในโหมดใช้พลังงานต่ำหรือดับไปชั่วคราว โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้อุปกรณ์ในโหมดดังกล่าว

โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและอย่าใช้โทรศัพท์หากโทรศัพท์ยังทำงานไม่ถูกต้องหรือได้รับความเสียหาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ g.co/pixel/support

การซ่อมและการบริการ

อย่าพยายามซ่อมโทรศัพท์ด้วยตนเอง การถอดแยกชิ้นส่วนของอุปกรณ์จะทำให้สูญเสียความสามารถในการกันน้ำหรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ เช่น อุปกรณ์มีโมดูลเลเซอร์ที่อาจเสียหายได้ระหว่างการถอดแยกชิ้นส่วน ซึ่งอาจทำให้คุณต้องสัมผัสกับเลเซอร์อันตรายที่ปล่อยออกมาโดยที่คุณมองไม่เห็น

การชาร์จ

ตรวจสอบว่าโทรศัพท์และอะแดปเตอร์อยู่ในบริเวณที่มีการระบายอากาศดีเมื่อใช้งานหรือขณะกำลังชาร์จ การใช้สายไฟหรืออะแดปเตอร์จ่ายไฟที่เสียหาย หรือการชาร์จไฟเมื่อมีความชื้นอาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์หรือทรัพย์สินอื่นๆ อย่าชาร์จโทรศัพท์เมื่อโทรศัพท์ชื้นหรือเปียก หลีกเลี่ยงการชาร์จโทรศัพท์ในจุดที่โดนแสงแดดโดยตรง 

เมื่อชาร์จโทรศัพท์ ให้เสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้าเสียบที่อยู่ใกล้กับโทรศัพท์และเข้าถึงได้ง่าย เมื่อถอดอะแดปเตอร์จากเต้าเสียบ ให้ดึงที่อะแดปเตอร์ ห้ามดึงสายไฟ อย่าบิดหรือบีบสาย USB และอย่าพยายามเสียบเครื่องมือเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตที่ใช้ด้วยกันไม่ได้ หากคุณได้รับข้อความบอกให้ถอดปลั๊กที่ชาร์จขณะกำลังชาร์จไฟ ให้ถอดปลั๊กอะแดปเตอร์ ก่อนที่จะลองชาร์จใหม่ ตรวจสอบว่าทั้งหัวเสียบของสายชาร์จและช่องเสียบสายชาร์จของโทรศัพท์แห้งและไม่มีวัตถุใดติดค้างอยู่

โทรศัพท์นี้ต้องใช้กับอะแดปเตอร์ AC ที่ได้รับการรับรองเอาต์พุตแหล่งพลังงานแบบจำกัด (LPS) ตามการจัดประเภทของ IEC 60950-1/62368-1: แรงดันไฟ DC 5 โวลต์ DC กระแสไฟสูงสุด 3 แอมแปร์ หรือแรงดันไฟ DC 9 โวลต์ กระแสไฟฟ้าสูงสุด 2 แอมแปร์ หรือทั้งสองอย่าง และผ่านข้อกำหนดการรับรอง CTIA สำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของระบบแบตเตอรี่ตาม IEEE 1725 โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ AC ที่มีการรับรองที่เหมาะสม

โปรดชาร์จโทรศัพท์ด้วยอะแดปเตอร์และสายไฟที่ให้มา หรืออุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันได้เท่านั้น การใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันไม่ได้อาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อุปกรณ์เสริมที่เข้ากันได้มีจำหน่ายใน Google Store และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Google (มองหาป้าย "Made For" ของ Google) 

การชาร์จแบบไร้สาย

คุณชาร์จโทรศัพท์โดยใช้ที่ชาร์จไร้สายซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Qi หรือที่ Google รับรองได้ อย่าวางวัตถุที่เป็นโลหะหรือแม่เหล็กบนอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สายหรือระหว่างอุปกรณ์ชาร์จกับโทรศัพท์ (เช่น เหรียญ เครื่องประดับ และบัตรเครดิต) เนื่องจากวัตถุอาจร้อนขึ้นมาหรือรบกวนการชาร์จโทรศัพท์ หากใช้เคสโทรศัพท์ที่เป็นโลหะหรือแม่เหล็ก ให้ถอดเคสออกก่อนที่จะชาร์จแบบไร้สาย เพราะเคสอาจทำให้อุปกรณ์หรือที่ชาร์จร้อนเกินไปหรืออุปกรณ์มีปัญหาในการชาร์จ

การได้รับความร้อนเป็นเวลานาน

โทรศัพท์และที่ชาร์จจะมีความร้อนในระหว่างการทำงานตามปกติ และเป็นไปตามมาตรฐานและขีดจำกัดด้านอุณหภูมิพื้นผิวที่เกี่ยวข้อง โปรดหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงหรือโดยอ้อมเป็นเวลานานเมื่อใช้หรือชาร์จอุปกรณ์อยู่ เพราะผิวหนังที่สัมผัสกับพื้นผิวร้อนๆ เป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือผิวหนังไหม้ อย่านอนทับอุปกรณ์หรืออะแดปเตอร์จ่ายไฟ หรือวางอุปกรณ์ไว้ใต้ผ้าห่มหรือหมอน โปรดตระหนักถึงปัญหานี้หากคุณมีอาการทางร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถในการรู้สึกถึงความร้อนบนผิวหนัง

สูญเสียการได้ยิน

การฟังเสียงดังเป็นเวลานาน (รวมถึงเพลง) อาจก่อให้เกิดการสูญเสียการได้ยิน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบการได้ยินที่อาจเกิดขึ้น โปรดหลีกเลี่ยงการฟังเสียงดังเป็นเวลานาน การฟังเสียงดังและเสียงรบกวนในพื้นหลังต่อเนื่องนานๆ อาจทำให้คุ้นเคยกับระดับเสียงและไม่รู้สึกว่าเสียงดัง โปรดตรวจสอบระดับเสียงก่อนใช้หูฟังหรือชุดหูฟัง

การปกป้องการได้ยิน

แบตเตอรี่

โทรศัพท์นี้มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีความไวสูงและอาจเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บหากชำรุดเสียหาย อย่าพยายามถอดแบตเตอรี่เอง โปรดติดต่อ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Google หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ดูข้อมูลการติดต่อได้ที่ g.co/pixel/contact การเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองอาจทำให้โทรศัพท์เสียหาย การเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างไม่ถูกต้องหรือการใช้งานแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ การระเบิด การรั่วไหล หรืออันตรายอื่นๆ อย่าดัดแปลง ปรับสภาพ หรือซ่อมแซมแบตเตอรี่ใหม่ อย่าเจาะหรือพยายามแทงหรือยัดวัตถุลงในแบตเตอรี่ อย่าให้แบตเตอรี่แช่น้ำหรือสัมผัสโดนน้ำหรือของเหลวอื่นๆ อย่าให้แบตเตอรี่อยู่ใกล้เปลวไฟ รับความร้อนสูงเกิน และ/หรืออันตรายอื่นๆ ใช้แบตเตอรี่ที่ระบุไว้สำหรับโทรศัพท์เท่านั้น อย่าลัดวงจรแบตเตอรี่หรือปล่อยให้วัตถุที่เป็นโลหะหรือเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าสัมผัสกับขั้วแบตเตอรี่ ระวังอย่าทำให้โทรศัพท์หรือแบตเตอรี่ตกหล่น หากโทรศัพท์หรือแบตเตอรี่ตกหล่น โดยเฉพาะหากตกลงบนพื้นผิวที่แข็ง และคุณสงสัยหรือสังเกตเห็นความเสียหาย โปรดติดต่อ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ Google เพื่อทำการตรวจสอบ หากแบตเตอรี่เกิดการรั่วไหล ระวังอย่าให้ของเหลวที่รั่วไหลออกมาสัมผัสกับดวงตา ผิวหนัง หรือเสื้อผ้า หากของเหลวสัมผัสกับดวงตา ห้ามขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีและปรึกษาแพทย์ 

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จใหม่ได้ในโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นไปตามมาตรฐาน IEEE 1725 และมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

กำจัดโทรศัพท์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมทิ้งตามระเบียบข้อบังคับของท้องถิ่น อย่าทิ้งอุปกรณ์เหล่านี้รวมกับขยะในครัวเรือนทั่วไป เพราะการกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ อย่าเปิด ทุบ ทำให้ร้อนเกิน 45 ̊C (113 ̊F) หรือเผา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไซเคิลโทรศัพท์ได้ที่ g.co/pixel/recycle 

 

ข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม

ห้ามใช้หรือเก็บอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมไว้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน ความชื้น หรือความสกปรก หรืออยู่ใกล้กับสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนหรือวงจรภายในของโทรศัพท์  เก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในยานพาหนะหรือในสถานที่ที่อุณหภูมิอาจสูงเกิน 113°F (45°C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์ ขอบหน้าต่าง ใกล้ช่องระบายความร้อน หรือหลังกระจกที่โดนแสงแดดโดยตรงหรือแสงอัลตราไวโอเลตที่เข้มข้นเป็นระยะเวลานาน  เพราะอาจก่อความเสียหายต่อโทรศัพท์ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนมากเกินไป หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิด 

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการระเบิด

อย่าชาร์จ ใช้ จัดเก็บ หรือขนส่งโทรศัพท์ในสถานที่จัดเก็บวัตถุไวไฟหรือวัตถุระเบิด (เช่น ในสถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน หรือโรงงานเคมี เป็นต้น) อย่าใช้โทรศัพท์ในสถานที่ที่กำลังมีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการระเบิดหรือในสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดการระเบิดได้ เช่น สถานที่ถ่ายโอนหรือจัดเก็บน้ำมันหรือสารเคมี และในบริเวณที่มีสารเคมี ไอน้ำ หรืออนุภาคซึ่งไวไฟในปริมาณมาก (เช่น เมล็ดพืช ฝุ่น หรือผงโลหะ) ประกายไฟในพื้นที่ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต โปรดปฏิบัติตามประกาศและป้ายต่างๆ ที่ระบุว่าอาจมีอันตรายเหล่านี้เกิดขึ้นได้

การยอมรับความเสี่ยงของการนำทาง 

โทรศัพท์ของคุณเข้าถึงบริการแผนที่และการนำทางได้ แผนที่และการนำทางต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและบริการตำแหน่งที่ใช้งานได้ และอาจไม่พร้อมใช้งานในบางครั้ง แผนที่และเส้นทางอาจไม่ถูกต้องและสภาวะจริงอาจแตกต่างจากแผนที่ ข้อมูล การจราจร เส้นทาง เนื้อหา และผลลัพธ์อื่นๆ ดังนั้นโปรดใช้การพิจารณาและวิจารณญาณด้วยตนเอง และรับผิดชอบต่อความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้บริการแผนที่และการนำทางเอง โปรดตรวจสอบเส้นทางอย่างถี่ถ้วนและปฏิบัติตามกฎหมายและป้ายจราจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินการของคุณและผลที่ตามมาเสมอ การนำทางด้วย AR ต้องใช้ภาพ Google Street View ที่เป็นปัจจุบันและแสงกลางแจ้งที่สว่าง และใช้งานไม่ได้ในประเทศอินเดีย

การรบกวนสมาธิ

การใช้โทรศัพท์ขณะทำกิจกรรมบางอย่างอาจรบกวนสมาธิของคุณ และอาจก่อให้เกิดสถานการณ์อันตรายกับตัวคุณเองและผู้อื่น อย่าใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ปั่นจักรยาน ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่อาจส่งผลร้ายแรงตามมา เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ (และเนื่องจากกฎหมายในหลายแห่งมีข้อห้ามไว้) โปรดปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ หูฟัง และหมวกกันน็อก 

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

โปรดปฏิบัติตามกฎที่ห้ามการใช้เทคโนโลยีไร้สาย (เช่น สัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi)  โทรศัพท์นี้ออกแบบมาให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้านการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ แต่การใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ  เช่น ในขณะโดยสารเครื่องบินหรือก่อนขึ้นเครื่อง ให้ใช้อุปกรณ์ไร้สายตามคำแนะนำจากสายการบินเท่านั้น การใช้อุปกรณ์ไร้สายในเครื่องบินอาจรบกวนเครือข่ายไร้สาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อการบังคับควบคุมเครื่องบิน หรือผิดกฎหมาย คุณอาจใช้โทรศัพท์ได้ หากอยู่ในโหมดบนเครื่องบิน

การรบกวนอุปกรณ์การแพทย์

โทรศัพท์นี้ใช้วิทยุและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ปล่อยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีแม่เหล็กอีกด้วย สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและแม่เหล็กดังกล่าวอาจรบกวนตัวควบคุมจังหวะหัวใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่ฝังในร่างกาย ให้โทรศัพท์และอุปกรณ์ชาร์จอยู่ห่างจากเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นที่ฝังในร่างกายในระยะที่ปลอดภัย หากมีคำถามเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์กับหรือใกล้เครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่ฝังในร่างกาย โปรดปรึกษาผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อนใช้โทรศัพท์ หากคุณสงสัยว่าโทรศัพท์รบกวนการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างอื่นที่ฝังไว้ ให้ปิดโทรศัพท์และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของคุณ

โรงพยาบาล

ปิดโทรศัพท์เมื่อมีผู้ขอความร่วมมือที่โรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาล ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการรบกวนอุปกรณ์การแพทย์

ความปลอดภัยของเด็ก

โทรศัพท์ของคุณไม่ใช่ของเล่น โทรศัพท์อาจมี (หรืออาจมาพร้อมกับ) ชิ้นส่วนขนาดเล็ก ส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก แก้ว หรือโลหะ และชิ้นส่วนขอบคมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรืออันตรายจากการสำลัก สายไฟและสายเคเบิลรัดคอเด็กได้ เก็บสายไฟและสายเคเบิลของโทรศัพท์ให้ห่างจากมือเด็ก (มากกว่า 3 ฟุต/1 เมตร) และไม่อนุญาตให้เด็กเล่นโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริม เพราะเด็กอาจจะทำให้ตนเองหรือบุคคลอื่นบาดเจ็บหรืออาจทำให้โทรศัพท์เสียหายโดยไม่ตั้งใจได้ ให้พบแพทย์ทันทีหากมีการกลืนกินชิ้นส่วนขนาดเล็กเข้าไป

การสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน

อุปกรณ์ไร้สายอาจใช้สื่อสารในกรณีฉุกเฉินไม่ได้ โทรศัพท์นี้ทำงานโดยใช้สัญญาณวิทยุและอาจเริ่มหรือรักษาการเชื่อมต่อไม่ได้ในบางสภาวะ นอกจากนี้ โทรศัพท์ยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิ การใช้งาน ความเสียหาย และปัจจัยอื่นๆ แม้ว่าเขตอำนาจศาลบางแห่งจะส่งข้อมูลสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือทำการสื่อสารกรณีฉุกเฉินผ่านเครือข่ายไร้สาย แต่โทรศัพท์ของคุณอาจไม่ได้รับการสื่อสารเหล่านี้ในบางครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อเครือข่ายหรือปัจจัยอื่นๆ การเข้าถึงบางฟีเจอร์และข้อมูลสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือการสื่อสารอาจไม่มีให้บริการในบางพื้นที่หรือทุกภาษา

ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับสุขภาพ

โทรศัพท์และฟังก์ชันแอปพลิเคชันการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์และมีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ออกแบบหรือมีเจตนาเพื่อใช้วินิจฉัยโรคหรืออาการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อเยียวยา ติดตามผล บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค

การรับคลื่นความถี่วิทยุ

โทรศัพท์เครื่องนี้ได้รับการประเมินและเป็นไปตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุ โดยออกแบบและผลิตมาเพื่อไม่ให้ปล่อยคลื่นวิทยุเกินข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) 

ในประเทศที่ขีดจำกัดอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR) กำหนดไว้ที่ 1.6 วัตต์/กก โดยเฉลี่ยต่อเนื้อเยื่อ 1 กรัม ค่า SAR สูงสุดสำหรับ Pixel 4 คือ 1.20 วัตต์/กก. เมื่อใช้ใกล้กับหู หรือ 1.34 วัตต์/กก. ที่ระยะห่าง 1.0 ซม. (0.4 นิ้ว) จากร่างกาย ค่า SAR สูงสุดสำหรับ Pixel 4 XL คือ 1.35 วัตต์/กก. เมื่อใช้ใกล้กับหู หรือ 1.20 วัตต์/กก. ที่ระยะห่าง 1.0 ซม. (0.4 นิ้ว) จากร่างกาย 

ในประเทศที่ขีดจำกัดอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR) กำหนดไว้ที่ 2.0 วัตต์/กก โดยเฉลี่ยต่อเนื้อเยื่อ 10 กรัม ค่า SAR สูงสุดสำหรับ Pixel 4 คือ 1.38 วัตต์/กก. เมื่อใช้ใกล้กับหู หรือ 1.42 วัตต์/กก. ที่ระยะห่าง 5 มม. (0.2 นิ้ว) จากร่างกาย ค่า SAR สูงสุดสำหรับ Pixel 4 XL คือ 1.41 วัตต์/กก. เมื่อใช้ใกล้กับหู หรือ 1.39 วัตต์/กก. ที่ระยะห่าง 5 มม. (0.2 นิ้ว) จากร่างกาย

ดูค่า SAR ที่เขตอำนาจศาลแต่ละแห่งกำหนดไว้ได้ในโทรศัพท์ โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ 

หากต้องการลดการสัมผัสกับพลังงานความถี่วิทยุ (RF) ให้ใช้ตัวเลือกการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี เช่น ลำโพงที่ติดตั้งในตัวโทรศัพท์ หูฟังที่ให้มา หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่คล้ายกัน ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง

ผลิตภัณฑ์เลเซอร์คลาส 1 

ข้อควรระวัง - Pixel 4/Pixel 4 XL จัดอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์เลเซอร์คลาส 1 ตามมาตรฐาน IEC 60825-1:2007 และ IEC 60825-1:2014 การออกแบบผลิตภัณฑ์นี้ประกอบด้วยเลนส์และตัวเรือนป้องกันในลักษณะที่ไม่มีการเข้าถึงระดับการแผ่รังสีของเลเซอร์เกินกว่าคลาส 1 ผลิตภัณฑ์นี้สอดคล้องตามมาตรฐาน FDA 21 CFR 1040.10 และ 1040.11 ยกเว้นการเบี่ยงเบนตามประกาศเกี่ยวกับเลเซอร์ ฉบับที่ 50 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2007  การใช้ระบบควบคุมหรือการปรับเปลี่ยนหรือการใช้ขั้นตอนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้อาจส่งผลให้ได้รับรังสีที่เป็นอันตราย

เนื่องจากเลเซอร์อาจได้รับความเสียหายระหว่างการซ่อมหรือการถอดแยกชิ้นส่วน ซึ่งอาจทำให้มีการสัมผัสกับเลเซอร์อินฟาเรดที่ปล่อยออกมาและไม่สามารถมองเห็นได้จนเกิดอันตราย ควรให้ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตเป็นผู้ซ่อมผลิตภัณฑ์นี้

Pixel 4/Pixel 4 XL: ผลิตในประเทศจีน Google LLC, 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043

Class 1 laser product

การดูแลและการใช้งานที่เหมาะสม

ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้เมื่อใช้ จัดเก็บ ทำความสะอาด หรือกำจัดโทรศัพท์

อุณหภูมิในการทำงาน

อย่าใช้หรือชาร์จโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิโดยรอบต่ำกว่า 0°C (32°F) หรือสูงกว่า 35°C (95°F) หากอุณหภูมิภายในอุปกรณ์สูงกว่าอุณหภูมิปกติขณะใช้งาน คุณอาจพบลักษณะการทำงานต่อไปนี้ขณะที่อุปกรณ์พยายามปรับอุณหภูมิ ซึ่งได้แก่ ประสิทธิภาพการทำงานและการเชื่อมต่อลดลง ชาร์จไม่เข้า หรือปิดจอแสดงผลหรือเครื่อง คุณอาจใช้โทรศัพท์ขณะที่เครื่องกำลังปรับอุณหภูมิไม่ได้ ให้ย้ายโทรศัพท์ไปไว้ยังจุดที่เย็นขึ้น (หรืออุ่นขึ้น) แล้วรอสักครู่ก่อนที่จะลองใช้อีกครั้ง

การดูแลและการทำความสะอาด

โปรดถอดปลั๊กอุปกรณ์และอะแดปเตอร์ออกก่อนที่จะทำความสะอาด ในระหว่างที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หรือเมื่อไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลานานๆ หลีกเลี่ยงตัวทำละลายและสารกัดเซาะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวของผลิตภัณฑ์  การสัมผัสกับเครื่องสำอาง สารเคมี และวัตถุที่มีการย้อมสี เช่น ผ้ายีนส์ อาจทำให้เคสโทรศัพท์สีอ่อนเป็นรอยด่าง  ให้ใช้ผ้าสะอาด นุ่ม และแห้งหรือหมาด (ไม่เปียก) ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม หลีกเลี่ยงบริเวณช่องเสียบ USB หรือร่องต่างๆ ขณะทำความสะอาด  อย่าใช้สารซักฟอก ผงซักฟอก หรือสารเคมีอื่นๆ (เช่น แอลกอฮอล์หรือเบนซิน) ในการทำความสะอาดโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริม อย่าทำความสะอาดโทรศัพท์ขณะชาร์จไฟอยู่

การกันน้ำ

โทรศัพท์เครื่องนี้กันน้ำเข้าได้ในระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 แต่ไม่ใช่กันน้ำได้โดยสิ้นเชิง ระดับการกันน้ำอาจลดลงจากการสึกหรอตามปกติ การซ่อมแซมหรือการถอดประกอบ หรือความเสียหายที่เกิดกับโทรศัพท์ อย่าให้โทรศัพท์โดนของเหลว เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องร้อนเกินไป อะแดปเตอร์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่กันน้ำและไม่ควรสัมผัสกับของเหลว

สนามแม่เหล็ก

หลีกเลี่ยงการวางสื่อใดๆ ที่มีแม่เหล็กหรือไวต่อคลื่นแม่เหล็ก เช่น บัตรเครดิต บัตรที่ธนาคารออกให้ เทปเสียง/วิดีโอ หรืออุปกรณ์หน่วยความจำที่มีแม่เหล็ก ไว้ใกล้กับโทรศัพท์ ที่ชาร์จ หรือสายชาร์จเพราะคุณอาจสูญเสียข้อมูลที่เก็บไว้ในสื่อเหล่านั้น ควรเก็บสื่อที่มีข้อมูลซึ่งไวต่อแม่เหล็กให้ห่างจากโทรศัพท์อย่างน้อย 2 นิ้ว (5 ซม.)

การเข้าสู่ร่างกายของพลังงานความถี่วิทยุ

อุปกรณ์ไร้สายจะปล่อยพลังงานความถี่วิทยุ (RF) ในระหว่างการใช้งาน เช่นเดียวกับโทรศัพท์อื่นๆ ทั้งนี้ตามข้อมูลของคณะกรรมการสากลด้านการป้องกันการแผ่กัมมันตรังสีประเภทไม่ก่อไอออน (International Commission on Non-Ionizing Radiation Protection หรือ ICNIRP) ผลกระทบที่สำคัญจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์คือการทำให้เนื้อเยื่อที่สัมผัสนั้นเกิดความร้อนขึ้น

ตามข้อมูลของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communications Commission หรือ FCC) "กลุ่มผลประโยชน์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยบางกลุ่มได้ตีความรายงานบางฉบับเพื่อให้คำแนะนำว่าการใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจเชื่อมโยงไปสู่โรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีความเสี่ยงในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าข้อวินิจฉัยเหล่านี้ทำให้ผู้คนหันมาสนใจเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะสร้างการเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลระหว่างการใช้อุปกรณ์ไร้สายกับโรคมะเร็งหรือโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ในขณะนี้"

อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสเกินกว่าระดับหนึ่ง (เรียกว่าเกณฑ์) ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสัมผัส การสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุและการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิที่เกิดร่วมด้วยอาจกระตุ้นให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เช่น การเกิดลมแดดและความเสียหายของเนื้อเยื่อ (ถูกเผาไหม้) ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุในระดับสูง จึงมีการกำหนดขีดจำกัดโดยสัมพันธ์กับเกณฑ์ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะแสดงผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ โดยเพิ่มตัวคูณลดเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนทางวิทยาศาสตร์ โดยทั่วไปแล้วขีดจำกัดเหล่านี้จะแสดงด้วยอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) SAR คือการวัดอัตราการดูดกลืนพลังงานของความถี่วิทยุในร่างกาย การทดสอบหา SAR ทำได้โดยการส่งคลื่นความถี่วิทยุผ่านโทรศัพท์ด้วยระดับพลังงานสูงสุดในแถบคลื่นความถี่ที่ทดสอบทั้งหมด SAR ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดย FCC ในสหรัฐอเมริกา และจากนั้นได้มีการนำไปใช้ในประเทศอื่นๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAR ได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้

  • fcc.gov
  • icnirp.org
  • ec.europa.eu
  • dot.gov.in

ภาวะทางการแพทย์

ผู้ใช้จำนวนเพียงเล็กน้อยอาจมีอาการปวดศีรษะ ชัก หรือหมดสติ ซึ่งเกิดจากสิ่งกระตุ้นที่มองเห็น เช่น ไฟกะพริบหรือรูปแบบที่มีแสงเจิดจ้า อาการเหล่านี้พบได้แม้ในผู้ที่ไม่เคยมีอาการชักหรือหมดสติมาก่อน หากคุณเคยชัก หมดสติ หรือเป็นโรคลมชักหรือมีภาวะทางการแพทย์ที่คุณเชื่อว่าอาจได้รับผลกระทบจากโทรศัพท์ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อุปกรณ์นี้ หยุดใช้โทรศัพท์ทันทีและติดต่อแพทย์หากคุณพบว่ามีอาการที่เชื่อว่ามีสาเหตุหรือเกิดจากโทรศัพท์ของคุณ (เช่น ปวดศีรษะ หมดสติ หรือชัก)

โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก

กิจกรรมที่ทำซ้ำๆ เช่น การพิมพ์ การแตะ หรือการกวาดนิ้วบนหน้าจอโทรศัพท์อาจทำให้นิ้วมือ มือ ข้อมือ แขน ไหล่ หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายรู้สึกไม่สบาย หากคุณรู้สึกไม่สบายจากกิจกรรมดังกล่าว ให้หยุดใช้โทรศัพท์และปรึกษาแพทย์

บริการและการสนับสนุน

ควรให้ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ Google เท่านั้นเป็นผู้ซ่อมโทรศัพท์ของคุณ การซ่อมหรือการดัดแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับโทรศัพท์อย่างถาวร รวมถึงอาจส่งผลต่อการครอบคลุมของการรับประกันและการให้สิทธิ์ตามกฎระเบียบ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อรับบริการที่ได้รับอนุญาต ดูความช่วยเหลือและการสนับสนุนออนไลน์ได้ที่ g.co/pixel/help หากส่งโทรศัพท์มาซ่อม คุณอาจได้รับโทรศัพท์เปลี่ยนทดแทน (แทนโทรศัพท์เครื่องเดิม) 

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับกฎข้อบังคับ ใบรับรอง และเครื่องหมายการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Pixel 4 และ Pixel 4 XL ได้ในโทรศัพท์ Pixel ในส่วนการตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ และที่ด้านหลังของโทรศัพท์

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหรัฐอเมริกา

การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่บังคับควบคุมของ FCC

หมายเหตุ: อุปกรณ์นี้ได้รับการทดสอบแล้วและพบว่ามีคุณสมบัติสอดคล้องกับขีดจำกัดสำหรับอุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B ตามบทที่ 15 ของกฎ FCC ขีดจำกัดเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบการปกป้องที่สมเหตุสมผลจากสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายจากการติดตั้งในที่พักอาศัย อุปกรณ์นี้จะสร้าง ใช้งาน และอาจปล่อยพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ ซึ่งหากไม่ได้ติดตั้งและใช้งานตามวิธีการที่กำหนด อาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการสื่อสารทางวิทยุได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าการรบกวนจะไม่เกิดขึ้นในระหว่างการติดตั้ง  หากอุปกรณ์ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการรับคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ ซึ่งตรวจสอบได้โดยการปิดและเปิดอุปกรณ์ ขอแนะนำให้ผู้ใช้พยายามแก้ไขสัญญาณรบกวนดังกล่าวโดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้

  • ปรับทิศทางหรือย้ายเสาอากาศรับสัญญาณ
  • เพิ่มระยะห่างระหว่างอุปกรณ์และเครื่องรับ
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับเต้ารับในวงจรที่ต่างจากวงจรที่ใช้เชื่อมต่อเครื่องรับ
  • ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายหรือช่างวิทยุ/โทรทัศน์ที่มีประสบการณ์เพื่อขอความช่วยเหลือ

การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจทำให้สิทธิ์ในการใช้งานอุปกรณ์ของคุณเป็นโมฆะ

อุปกรณ์นี้มีความสอดคล้องตามส่วนที่ 15 ของกฎ FCC การทำงานต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้

  1. อุปกรณ์นี้จะต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย
  2. อุปกรณ์นี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวนที่ได้รับ รวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่พึงประสงค์

ประกาศการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EMC

ข้อมูลสำคัญ: อุปกรณ์เครื่องนี้ อะแดปเตอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ภายใต้เงื่อนไขที่รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ คุณต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ เพื่อลดโอกาสของการรบกวนวิทยุ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน (HAC)

Pixel 4 และ Pixel 4 XL ได้รับการประเมินและรับรองว่าเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินตามข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิค ANSI C63.19 ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินมีการวัด 2 รูปแบบ ดังนี้

  • ระดับ M ซึ่งเป็นหน่วยวัดความปลอดภัยจากการรบกวนโดยคลื่นความถี่วิทยุสำหรับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อทางเสียง
  • ระดับ T ซึ่งเป็นหน่วยวัดประสิทธิภาพการทำงานเมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ (เทเลคอยล์)

ตามกฎ FCC นั้น โทรศัพท์มือถือจะได้รับการพิจารณาว่ามีความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินหากได้รับคะแนนในระดับ M3 หรือ M4 สำหรับตัวคู่ต่อทางเสียงหรือ T3 หรือ T4 สำหรับตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ

อุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินจาก Google มีดังนี้

  • Pixel  4            M3/T4
  • Pixel 4XL        M3/T4

โทรศัพท์รุ่นนี้ได้รับการทดสอบและจัดระดับเพื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินสำหรับเทคโนโลยีไร้สายบางอย่างที่โทรศัพท์ใช้ แต่อาจมีบางเทคโนโลยีไร้สายที่ใหม่กว่าที่ใช้ในโทรศัพท์รุ่นนี้ซึ่งยังไม่ได้รับการทดสอบสำหรับการใช้งานกับเครื่องช่วยการได้ยิน สิ่งสำคัญคือต้องลองใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของโทรศัพท์รุ่นนี้อย่างละเอียดและในหลากหลายสถานที่โดยใช้เครื่องช่วยการได้ยินหรือประสาทหูเทียม เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ยินเสียงรบกวนหรือไม่ ปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือ Google เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายการส่งคืนหรือการแลกเปลี่ยน โปรดปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือผู้จำหน่ายโทรศัพท์

การรีไซเคิล

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลในสหรัฐอเมริกาได้ที่ g.co/pixel/recycle


ข้อมูลกฎข้อบังคับ: แคนาดา

การพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ (ISED) แห่งแคนาดา คลาส B

อุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B นี้สอดคล้องกับ CAN ICES-3 (B)/NMB-3(B)

ประกาศ: ระเบียบข้อบังคับของ ISED แคนาดากำหนดไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจส่งผลให้สิทธิ์การใช้งานอุปกรณ์เครื่องนี้เป็นโมฆะ

โทรศัพท์เครื่องนี้สอดคล้องตามมาตรฐาน RSS ที่ได้รับการยกเว้นใบรับรองของ ISED แคนาดา การทำงานต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้

  1. อุปกรณ์นี้ต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย และ
  2. อุปกรณ์นี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวนต่างๆ ซึ่งรวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่พึงประสงค์

อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยย่านความถี่ 5150–5250 MHz จะใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม 

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหภาพยุโรป

ย่านคลื่นความถี่และกำลังไฟฟ้า

สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร
ข้อมูลที่ให้ไว้ ณ ที่นี้คือพลังงานความถี่วิทยุสูงสุดที่ส่งในย่านคลื่นความถี่ที่อุปกรณ์วิทยุทำงาน

ความถี่

กำลัง

Wi-Fi 2 400-2 483.5 MHz

สูงสุด 20 dBm

Wi-Fi 5 150-5 250 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 250-5 350 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 470-5 725 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 745-5 825 MHz สูงสุด 14 dBm

บลูทูธ 2 400-2 483.5 MHz

สูงสุด 20 dBm

NFC 13.56 MHz

สูงสุด  0 dBuA/m

GSM 900

สูงสุด 33.5 dBm

GSM 1800

สูงสุด 30.5 dBm

UMTS Band I/VIII

สูงสุด 25 dBm

LTE:1, 3, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 42

สูงสุด 25 dBm

LTE B40 HPUE สูงสุด 27 dBm
SRD (58-63.5 GHz) สูงสุด 7 dBm

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

Google จะไม่รับผิดชอบสำหรับการรบกวนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยการใช้แทนหรือการเชื่อมต่อสายและอุปกรณ์ที่ Google ไม่ได้ระบุไว้ การแก้ไขปัญหาการรบกวนที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ทดแทน หรือการเชื่อมต่อดังข้างต้นเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้ Google และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตหรือผู้จัดจำหน่ายไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายหรือการละเมิดระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้

 

ข้อจำกัดและข้อกำหนดภายใต้ระเบียบ 2014/53/EU
อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150 ถึง 5350 MHz ใน AT, BE, BG, CY, CZ, DE, DK, EE, EL, ES, FI, FR, HR, HU, IE, IT, LT, LU, LV, MT, NL, PL, PT, RO, SE, SI, SK, UK, CH, IS, LI, NO, TR เท่านั้น 

 

สอดคล้องตามข้อบังคับมาตรฐานยุโรป

 

ข้อควรระวังในการใช้อุปกรณ์
 
ไม่แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ในบางสถานการณ์ (เช่น ในขณะขับรถ) และในสถานที่บางแห่ง (เช่น บนเครื่องบิน ในโรงพยาบาล)

ผู้ที่ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องปั๊มอินซูลิน เครื่องกระตุ้นระบบประสาท เป็นต้น) ต้องดูแลให้โทรศัพท์อยู่ห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฝังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร และต้องถือโทรศัพท์ให้อยู่ตรงข้ามกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฝังใช้ระหว่างการโทร
 
อัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) บริเวณศีรษะของอุปกรณ์นี้คือ 1.19 สำหรับ Pixel 4 (G020M) และ 1.17 สำหรับ Pixel 4 XL (G020P)

ขอแนะนำให้ใช้อุปกรณ์เมื่อรับสัญญาณเครือข่ายมือถือได้ดีเพื่อลดปริมาณรังสีที่จะได้รับ  การรับสัญญาณเครือข่ายมือถือมักจะไม่ค่อยดีในพื้นที่ใต้ดิน ยานพาหนะที่เคลื่อนที่ และในพื้นที่ห่างไกล

การรับสัญญาณเครือข่ายมือถือได้ดีนั้น บนอุปกรณ์จะแสดงด้วยสัญญาณบอกสถานะความแรงสัญญาณของเครือข่ายมือถือ โดยยิ่งสว่างมากเท่าใด ก็จะยิ่งแสดงถึงการรับสัญญาณได้ดีขึ้นเท่านั้น

ขอแนะนำให้ใช้ชุดแฮนด์ฟรี เมื่อใช้อุปกรณ์ แนะนำให้สตรีมีครรภ์เก็บอุปกรณ์ไว้ห่างจากท้อง และสำหรับวัยรุ่นแนะนำให้เก็บให้ห่างจากท้องส่วนล่าง
 
เคล็ดลับเหล่านี้เป็นการป้องกันไว้ก่อนเพียงเท่านั้น เนื่องจากไม่พบว่ามีอันตรายจากการใช้งานอุปกรณ์

ระเบียบว่าด้วยขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) และแบตเตอรี่

ห้ามทิ้งแบตเตอรี่ในถังขยะ

ในประเทศอินเดีย ป้ายนี้บ่งบอกว่าไม่ควรทิ้งผลิตภัณฑ์นี้ไปพร้อมกับขยะในครัวเรือน แต่ควรนำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้มีการคืนสภาพและการรีไซเคิลได้

Google ขอประกาศว่าโทรศัพท์ได้รับการออกแบบและผลิตโดยสอดคล้องกับกฎ (การจัดการ) ขยะอิเล็กทรอนิกส์ปี 2016 (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "กฎ") และเป็นไปตามข้อกำหนดในกฎข้อ 16 (1) ว่าด้วยการลดการใช้สารที่เป็นอันตรายในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตตามน้ำหนักในวัสดุเนื้อเดียวกัน (ยกเว้นข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในกำหนดการที่ 2)

การจัดการที่ไม่เหมาะสม การกำจัดทิ้ง การแตกหักจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือการรีไซเคิลอย่างไม่เหมาะสมของขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการลุกไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ และการกำจัดของเสียโดยไม่มีการควบคุม ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย/ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งหากทิ้งอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้น้ำ ดิน และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เป็นพิษได้ การกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอันตรายต่อพืช สัตว์ และชีวิตมนุษย์

การปฏิบัติตามข้อกำหนด RoHS

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นไปตามระเบียบ 2011/65/EU ของรัฐสภาแห่งยุโรปและคณะมนตรีสหภาพยุโรปในวันที่ 8 มิถุนายน 2011 ว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตรายบางชนิดในอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (RoHS) และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

REACH

REACH (Registration, Evaluation, Authorization and Restriction of Chemicals, EC No 1907/2006) คือกฎระเบียบที่ควบคุมการผลิตและการใช้สารเคมีให้ปลอดภัยในสหภาพยุโรป Google ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของกฎระเบียบนี้และเรามุ่งมั่นที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายและมีความน่ากังวลสูง (Substances of Very High Concern หรือ SVHC) ตามกฎระเบียบ REACH ติดต่อ Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Env-Compliance@google.com

ที่อยู่ติดต่อสำหรับประเด็นเรื่องกฎข้อบังคับในสหภาพยุโรปคือ Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson's Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลผู้ผลิต

ผู้ผลิต: Google LLC, 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA, USA, 94043

ข้อมูลผู้นำเข้า

ผู้นำเข้า: Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson’s Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สิงคโปร์

การปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EMC


ข้อมูลสำคัญ: อุปกรณ์เครื่องนี้ อะแดปเตอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ภายใต้เงื่อนไขที่รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ คุณต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ เพื่อลดโอกาสของการรบกวนวิทยุ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

อัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (ICNIRP): Pixel 4 และ Pixel 4 XL เป็นไปตามหลักเกณฑ์สากลสำหรับการรับคลื่นวิทยุ ค่า SAR สูงสุดภายใต้หลักเกณฑ์ ICNIRP มีดังต่อไปนี้

Pixel 4: SAR บริเวณศีรษะ (10 ก.) - 1.19 วัตต์/กก., SAR บริเวณร่างกาย (10 กใ) - 1.39 วัตต์/กก.
Pixel 4 XL: SAR บริเวณศีรษะ (10 ก.) - 1.17 วัตต์/กก., SAR บริเวณร่างกาย (10 ก.) - 1.39 วัตต์/กก.

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ออสเตรเลีย

ฟังก์ชัน WLAN ของอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150-5350 MHz จะถูกจำกัดให้ใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

โปรดโทรไปที่หมายเลข 1-800-884-355 เพื่อติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า สำหรับสินค้าที่ส่งซ่อมอาจได้รับทดแทนเป็นสินค้าซ่อมแซมใหม่ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกันมากกว่าจะซ่อมสินค้าที่ส่งซ่อมนั้น อาจใช้ชิ้นส่วนซ่อมแซมใหม่ในการซ่อมสินค้า หากสินค้าเก็บข้อมูลที่สร้างโดยผู้ใช้ได้ การซ่อมหรือการเปลี่ยนทดแทนอาจทำให้ข้อมูลหาย

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: อินเดีย

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

โทรศัพท์เป็นเครื่องส่งและเครื่องรับสัญญาณวิทยุ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการจำกัดการรับสัมผัสของมนุษย์ต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และได้รับการออกแบบโดยเฉพาะให้ตรงตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการรับสัมผัสคลื่นวิทยุ ที่กรมการสื่อสารโทรคมนาคม กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐบาลอินเดีย ("DoT") กำหนดไว้ หลักเกณฑ์ข้างต้นจะใช้หน่วยวัดที่เรียกว่าอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ "SAR") ซึ่งเป็นหน่วยของปริมาณคลื่นความถี่วิทยุที่ร่างกายดูดซึมเมื่อใช้งานโทรศัพท์อยู่ ขีดจำกัดของ SAR ในอินเดียสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่คือ 1.6 วัตต์/กก. ต่อมวลเนื้อเยื่อของมนุษย์ 1 กรัม

Pixel 4 และ Pixel 4 XL เป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 1.0 ซม. จากร่างกาย ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง สำหรับ Pixel 4 ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.19 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.19 วัตต์/กก.  สำหรับ Pixel 4 XL ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.19 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.19 วัตต์/กก.

นอกจากนี้ คุณยังดูค่า SAR ได้ในเว็บไซต์ของ DoT/Telecommunication Engineering Centre อีกด้วย

แม้การศึกษาส่วนใหญ่ในห้องปฏิบัติการจะไม่ค้นพบความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการรับสัมผัสรังสีคลื่นความถี่วิทยุกับสุขภาพ แต่ DoT ก็ได้กำหนดมาตรการป้องกันอันตรายในขณะใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ไว้ดังนี้

ใช้ระบบแฮนด์ฟรีไร้สาย (หูฟัง, ชุดหูฟัง) กับตัวจ่ายบลูทูธพลังงานต่ำ
ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือมีค่า SAR ต่ำ  อย่าคุยโทรศัพท์นาน ถ้าต้องคุยนาน ให้ใช้วิธีส่งเป็นข้อความ (SMS) แทน โดยเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นเด็ก วัยรุ่น และสตรีมีครรภ์
ใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อคุณภาพสัญญาณดี  ผู้ที่มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ฝังไว้ในร่างกายควรถือโทรศัพท์ให้ห่างจากอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 15 ซม.

คำแถลงเกี่ยวกับการรีไซเคิล การบริหาร และการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์

Don't put batteries in trash

ในประเทศอินเดีย ป้ายนี้บ่งบอกว่าไม่ควรทิ้งผลิตภัณฑ์นี้ไปพร้อมกับขยะในครัวเรือน แต่ควรนำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้มีการคืนสภาพและการรีไซเคิลได้

Google ขอประกาศว่าโทรศัพท์ได้รับการออกแบบและผลิตโดยสอดคล้องกับกฎ (การจัดการ) ขยะอิเล็กทรอนิกส์ปี 2016 (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "กฎ") และเป็นไปตามข้อกำหนดในกฎข้อ 16 (1) ว่าด้วยการลดการใช้สารที่เป็นอันตรายในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตตามน้ำหนักในวัสดุเนื้อเดียวกัน (ยกเว้นข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในกำหนดการที่ 2)

การจัดการที่ไม่เหมาะสม การกำจัดทิ้ง การแตกหักจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือการรีไซเคิลอย่างไม่เหมาะสมของขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการลุกไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ และการกำจัดของเสียโดยไม่มีการควบคุม ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย/ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งหากทิ้งอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้น้ำ ดิน และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เป็นพิษได้ การกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอันตรายต่อพืช สัตว์ และชีวิตมนุษย์

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ญี่ปุ่น

อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเท่านั้นเมื่อทำงานที่ย่านความถี่ 5 GHz (W52/W53) (ยกเว้นสำหรับการทำงานที่ย่านความถี่ 5.2GHz High ของ Power Data Communication System Base Station หรือ Relay Station) 


อุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์คลาส B อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์นี้มีไว้สำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นที่อยู่อาศัย
หากใช้งานใกล้กับเครื่องรับวิทยุหรือโทรทัศน์ การรับสัญญาณอาจไม่ดีนัก โปรดทำตามวิธีการในคู่มือการใช้งาน                                                                

VCCI-B       VCCI image

 

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ไต้หวัน

การรับคลื่นความถี่วิทยุ
 

สำหรับ Pixel 4 ค่ามาตรฐาน SAR คือ 2.0 วัตต์/กก. ค่าที่วัดได้ของผลิตภัณฑ์ทดสอบคือ 1.23 วัตต์/กก.
สำหรับ Pixel 4 XL ค่ามาตรฐาน SAR คือ 2.0 วัตต์/กก. ค่าที่วัดได้ของผลิตภัณฑ์ทดสอบคือ 1.33 วัตต์/กก.

การใช้อุปกรณ์นี้มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อการมองเห็น

  1. เมื่อใช้อุปกรณ์ไปนานกว่า 30 นาทีควรหยุดพักสายตาสัก 10 นาที
  2. ไม่ควรอนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีจ้องหน้าจอ เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปต้องไม่จ้องหน้าจอนานกว่า 1 ชั่วโมงในหนึ่งวัน

โปรดใช้อุปกรณ์นี้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อลดการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า

หากไม่ได้รับอนุญาต บริษัท องค์กร หรือผู้ใช้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงความถี่ เพิ่มพลังงาน หรือเปลี่ยนลักษณะและฟังก์ชันของการออกแบบดั้งเดิมของอุปกรณ์ความถี่วิทยุพลังงานต่ำที่ได้รับการอนุมัติประเภท
 
การใช้อุปกรณ์ความถี่วิทยุพลังงานต่ำจะไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการบินหรือรบกวนการสื่อสารทางกฎหมาย ในกรณีที่พบว่ามีสัญญาณรบกวน อุปกรณ์จะถูกระงับทันทีและจะทำงานต่อได้เมื่อกำจัดการรบกวนแล้วเท่านั้น
 
การสื่อสารทางกฎหมายดังกล่าวหมายถึงการสื่อสารวิทยุที่ดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการสื่อสารโทรคมนาคม อุปกรณ์ความถี่วิทยุพลังงานต่ำต้องทนต่อการรบกวนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารทางกฎหมายหรืออุปกรณ์รังสีคลื่นวิทยุที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และการแพทย์ 

การใช้อุปกรณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเรดาร์ใกล้เคียง
 

Taiwan RoHS 

Taiwan RoHS 

Taiwan RoHS

รุ่น
Pixel 4:      G020I, G020M, G020N
Pixel 4 XL:   G020J, G020P, G020Q

ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ

Pixel 4

ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ ข้อกำหนด - คำอธิบาย ค่า

ข้อมูลตัวเครื่อง/ฮาร์ดแวร์

หน้าจอสัมผัส  อุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัสไหม ใช่
หากอุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัส หน้าจอนั้นเป็นแบบ Capacitive (บางครั้งเรียกว่าแบบ "ทำงานด้วยความร้อน") หรือไม่ ใช่
การระบุแป้น ผู้ใช้แยกแยะแป้นแต่ละแป้นได้ง่ายไหม ไม่มีข้อมูล  
แยกแยะแป้นได้อย่างไร - แป้นอยู่แยกกัน ใช้สันแป้นเป็นตัวกำหนด ไม่มีข้อมูล
ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของแป้น ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของแป้นตัวเลขหนึ่งไปยังอีกแป้นหนึ่งคือเท่าใด ไม่มีข้อมูล
รูปแบบแป้นพิมพ์ แป้นกดมีรูปแบบคล้ายกับแป้นเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY ใช่
ป้ายเข็มกลัดสำหรับห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้อง มีแถบเล็กๆ สำหรับใช้ห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้องคอ (สายคล้อง) ไม่
การแยกความแตกต่างของแป้นฟังก์ชันต่างๆ แป้นตัวเลขมีสีหรือรูปร่างแตกต่างจากแป้นอื่นๆ ทำให้แยกความแตกต่างด้วยการแตะหรือการมองได้ง่ายขึ้น ไม่มีข้อมูล
รูปร่างของอุปกรณ์ ก. แบบฝาพับ
ข. ทรงเหลี่ยม
ค. แบบสไลด์
ง. หมุนพับ
จ. หน้าจอสัมผัส
ฉ. อื่นๆ
ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันที่โทรศัพท์นี้ใช้ Android Q
ฟีเจอร์กันลื่น มีการเคลือบกันลื่นหรือสันเครื่องที่ป้องกันไม่ให้ลื่นหลุดจากมือ ไม่

คุณสมบัติด้านการพกพาได้ง่าย/ความคล่องแคล่วในการใช้งาน

น้ำหนักของตัวเครื่อง น้ำหนักของตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่ 162 กรัม
ใส่แบตเตอรี่ได้ง่าย มีเครื่องหมายบอกทิศทางและตำแหน่งในการใส่แบตเตอรี่อย่างชัดเจน ไม่มีข้อมูล
รองรับโทรศัพท์แบบมีลำโพง ไม่ต้องใช้มือขณะกดหมายเลขและหลังจากเริ่มโทร ใช่
แป้นมีการป้องกัน/แป้นบุ๋มลงไป แต่ละแป้นจะบุ๋มลงไปหรือมีการป้องกันด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อลดโอกาสที่คุณจะกดแป้นผิด ไม่มีข้อมูล
หูฟัง/ชุดหูฟังไร้สาย รองรับหูฟังและชุดหูฟังไร้สาย เช่น ชุดหูฟังบลูทูธ ใช่
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเทอร์มินัลแบบสั่งงานด้วยบรรทัดคำสั่งได้ และยังช่วยให้อุปกรณ์ที่ปรับแต่งทำงานกับโทรศัพท์ได้ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้โดยใช้สิ่งต่อไปนี้  
  • สาย (สายไฟ)
ใช่
  • สัญญาณอินฟราเรด (ซึ่งเดินทางผ่านอากาศเหมือนคลื่นความถี่วิทยุ แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้)
ไม่
  • บลูทูธ/LAN แบบไร้สาย (สัญญาณวิทยุที่เดินทางผ่านอากาศและอาจเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้ด้วย)
ใช่
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ นอกเหนือจากที่อธิบายข้างต้น (โปรดอธิบาย): NFC
ใช่
มีด้านหลังแบนสำหรับใช้งานบนโต๊ะ มีด้านหลังแบน จึงใช้งานโดยวางราบไปกับพื้นโต๊ะได้ ใช่
รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ผู้ใช้รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ไม่
การเคลื่อนไหวของมือ ต้องใช้นิ้วมือบีบหรือบิด หรือหมุนข้อมือสำหรับการควบคุมบางอย่าง ใช่
การรู้จำเสียงสำหรับการกดหมายเลข กดหมายเลขโดยพูดชื่อของผู้ที่ต้องการโทรหา ถ้ามีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ("สมุดโทรศัพท์" ส่วนตัวที่คุณสร้างในโทรศัพท์) ใช่
การรู้จำเสียงสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ เปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ด้วยการพูดคำสั่งกับโทรศัพท์ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้แป้นกด ใช่
การรับสายอัตโนมัติ รับสายโดยอัตโนมัติหลังจากโทรศัพท์ส่งเสียงดังถึงจำนวนครั้งที่กำหนด ไม่

คุณสมบัติด้านการมองเห็น

เครื่องหมายบนแป้นที่รับรู้ได้ด้วยการสัมผัส – "F" และ "J" แป้น "F" และ "J" มีจุดที่ยกสูงขึ้นหรือตุ่ม เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างแป้นต่างๆ ได้ด้วยการสัมผัส (มีเฉพาะในโทรศัพท์ที่มีแป้นกดแบบเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY) ไม่มีข้อมูล
รูปแบบแป้นตัวเลขมาตรฐาน แป้นตัวเลขจัดวางในแบบมาตรฐานโดยมี 1 2 3 ที่ด้านบน และ * 0 # ที่ด้านล่าง ใช่ - แป้นพิมพ์บนหน้าจอสัมผัส
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - รับรู้ด้วยการสัมผัส เมื่อกดแป้น คุณจะรู้สึกว่าแป้นถูกกดลงไปจริงๆ ทำให้ทราบว่าได้กดแป้นแล้ว ใช่
 
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - ได้ยินเสียง จะมีเสียงดังเมื่อกดแป้น เพื่อให้คุณทราบว่าได้กดแป้นแล้ว ใช่
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - มีเสียงพูด เมื่อกดแป้นตัวเลข จะมีเสียงพูดบอกตัวเลข เพื่อให้คุณทราบว่ากดแป้นถูกต้องแล้ว ใช่
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - ฟังก์ชัน เสียงที่คุณได้ยินเมื่อกดแป้นตัวเลขและแป้นฟังก์ชันจะต่างกัน เพื่อให้แยกความแตกต่างได้ง่าย ใช่
แบบอักษรที่ปรับได้ - สไตล์ เปลี่ยนแบบอักษร (ไทป์เฟซ) ที่ใช้กับข้อความบนจอแสดงผลได้ ซึ่งอาจช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ใช่
แบบอักษรที่ปรับได้ - ขนาด คุณทำให้ข้อความบนจอแสดงผลใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ ใช่
ทางลัดในแบบของคุณ คุณกำหนดฟีเจอร์เฉพาะให้กับการกดแป้นเดียวหรือการกดแป้นติดต่อกันได้ ใช่
ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมคอนทราสต์ที่ปรับได้ คุณปรับคอนทราสต์ของการแสดงผลได้เพื่อให้เห็นข้อความและสัญลักษณ์ชัดขึ้นบนพื้นหลัง

ใช่

ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมความสว่างที่ปรับได้ คุณปรับความสว่างของการแสดงผลเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ ใช่
ลักษณะการแสดงผล - ขนาดจอแสดงผลหลัก ขนาดของจอแสดงผลหลัก 5.68" สัดส่วนภาพ 19:9
ลักษณะการแสดงผล - ความละเอียดของจอแสดงผลหลัก จำนวนจุด (หรือพิกเซล) ที่ใช้แสดงข้อความและรูปภาพบนจอแสดงผลหลัก ยิ่งมีจุดมากก็ยิ่งแสดงรายละเอียดได้มาก 2280 x 1080 
ลักษณะการแสดงผล - การแยกความแตกต่างของสี ข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผลไม่อาศัยการรับรู้สีเพื่อทำความเข้าใจ (เช่น คุณไม่จำเป็นต้องแยกสัญลักษณ์สีแดงออกจากสัญลักษณ์สีเขียวได้) ใช่ 
ลักษณะการแสดงผล - สัญลักษณ์/ไอคอน เมนูแสดงได้โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพในรูปแบบตารางกริด ทำให้ผู้ใช้บางรายเข้าใจหรือจดจำได้ง่ายขึ้น ใช่
ลักษณะการแสดงผล - หน้าจอสั่นไหว จอแสดงผลหลักไม่สั่นไหวในอัตราที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่เป็นโรคลมชักจากความไวต่อแสงกระตุ้น (ระหว่าง 2 Hz ถึง 60 Hz) ใช่
ส่งเสียงพูดสำหรับหมายเลขผู้โทรจากรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อคุณรับสาย จะมีเสียงพูดชื่อของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ไม่
ส่งเสียงพูดสำหรับ SMS: ที่มีอยู่แล้วภายใน อ่านออกเสียง SMS ให้คุณฟัง ใช่
เมนูพูดออกเสียง พูดตัวเลือกในเมนู เพื่อให้คุณใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้ แม้ว่าจะอ่านหน้าจอไม่ได้

ใช่

คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก เช่น เข้าถึงได้ทางออนไลน์ ใช่

คุณสมบัติด้านการได้ยิน

แจ้งเตือนด้วยการสั่น ตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นเมื่อมีสายหรือ SMS เข้ามา หรือเมื่อมีการแจ้งเตือนได้ ใช่
แจ้งเตือนด้วยภาพ - สายเรียกเข้า เมื่อมีสายหรือ SMS เข้ามา จะแสดงการแจ้งเตือนด้วยภาพ เช่น ชื่อหรือรูปของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ใช่
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่ายมือถือ ให้คุณวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่ายมือถือของคุณ ใช่
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สาย ให้คุณวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สายของคุณ ใช่
ชุดหูฟัง - ประเภทปลั๊ก ประเภทของปลั๊กที่ชุดหูฟังต้องใช้เพื่อให้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ USB-C
ความเขัากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินที่ตั้งค่าไปที่ตำแหน่ง "T" เสียงจะชัดเจนขึ้น ใช่
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทางเลือก เสียงจะชัดเจนขึ้น ไม่มีข้อมูล
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - MMS รับส่งข้อความมัลติมีเดียได้ ซึ่งอาจรวมถึงรูปภาพ เสียง และวิดีโอคลิป ใช่
การปรับเปลี่ยน SMS ในแบบของคุณและการนำมาใช้ใหม่ ให้คุณสร้าง SMS มาตรฐานที่ส่งไปให้ใครก็ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกๆ ครั้ง เช่น "กำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ" ใช่
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - อีเมล รับส่งข้อความอีเมลได้ ใช่
ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณใช้โทรศัพท์เพื่อท่องเว็บและใช้บริการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ตได้ ใช่
คุณสมบัติเพิ่มเติมและลักษณะเฉพาะ Google Pixel 4 เป็นอุปกรณ์แบบหน้าจอสัมผัส แต่ก็มีแป้นสัมผัส ได้แก่ แป้นเปิด/ปิดเครื่อง และแป้นควบคุมระดับเสียง ใช่
ฟีเจอร์เสริมและอุปกรณ์เสริม ลักษณะโดยทั่วไปของระบบปฏิบัติการแบบเปิดและฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษคือ ฟีเจอร์บางอย่างมีให้โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android และด้วยเหตุนี้จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและการอัปเกรดในระหว่างช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ ใช่

Pixel 4 XL

ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ ข้อกำหนด - คำอธิบาย ค่า

ข้อมูลตัวเครื่อง/ฮาร์ดแวร์

หน้าจอสัมผัส  อุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัสไหม ใช่
หากอุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัส หน้าจอนั้นเป็นแบบ Capacitive (บางครั้งเรียกว่าแบบ "ทำงานด้วยความร้อน") หรือไม่ ใช่
การระบุแป้น ผู้ใช้แยกแยะแป้นแต่ละแป้นได้ง่ายไหม ไม่มีข้อมูล 
แยกแยะแป้นได้อย่างไร - แป้นอยู่แยกกัน ใช้สันแป้นเป็นตัวกำหนด

ไม่มีข้อมูล
 

ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของแป้น ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของแป้นตัวเลขหนึ่งไปยังอีกแป้นหนึ่งคือเท่าใด ไม่มีข้อมูล
รูปแบบแป้นพิมพ์ แป้นกดมีรูปแบบคล้ายกับแป้นเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY ใช่
ป้ายเข็มกลัดสำหรับห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้อง มีแถบเล็กๆ สำหรับใช้ห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้องคอ (สายคล้อง) ไม่
การแยกความแตกต่างของแป้นฟังก์ชันต่างๆ แป้นตัวเลขมีสีหรือรูปร่างแตกต่างจากแป้นอื่นๆ ทำให้แยกความแตกต่างด้วยการแตะหรือการมองได้ง่ายขึ้น ไม่มีข้อมูล
รูปร่างของอุปกรณ์ ก. แบบฝาพับ
ข. ทรงเหลี่ยม
ค. แบบสไลด์
ง. หมุนพับ
จ. หน้าจอสัมผัส
ฉ. อื่นๆ
ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันที่โทรศัพท์นี้ใช้ Android Q
ฟีเจอร์กันลื่น มีการเคลือบกันลื่นหรือสันเครื่องที่ป้องกันไม่ให้ลื่นหลุดจากมือ ไม่

คุณสมบัติด้านการพกพาได้ง่าย/ความคล่องแคล่วในการใช้งาน

น้ำหนักของตัวเครื่อง น้ำหนักของตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่ 193 กรัม
ใส่แบตเตอรี่ได้ง่าย มีเครื่องหมายบอกทิศทางและตำแหน่งในการใส่แบตเตอรี่อย่างชัดเจน ไม่มีข้อมูล
รองรับโทรศัพท์แบบมีลำโพง ไม่ต้องใช้มือขณะกดหมายเลขและหลังจากเริ่มโทร ใช่
แป้นมีการป้องกัน/แป้นบุ๋มลงไป แต่ละแป้นจะบุ๋มลงไปหรือมีการป้องกันด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อลดโอกาสที่คุณจะกดแป้นผิด ไม่มีข้อมูล
หูฟัง/ชุดหูฟังไร้สาย รองรับหูฟังและชุดหูฟังไร้สาย เช่น ชุดหูฟังบลูทูธ ใช่
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเทอร์มินัลแบบสั่งงานด้วยบรรทัดคำสั่งได้ และยังช่วยให้อุปกรณ์ที่ปรับแต่งทำงานกับโทรศัพท์ได้ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้โดยใช้สิ่งต่อไปนี้  
  • สาย (สายไฟ)
ใช่
  • สัญญาณอินฟราเรด (ซึ่งเดินทางผ่านอากาศเหมือนคลื่นความถี่วิทยุ แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้)
ไม่
  • บลูทูธ/LAN แบบไร้สาย (สัญญาณวิทยุที่เดินทางผ่านอากาศและอาจเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้ด้วย)
ใช่
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ นอกเหนือจากที่อธิบายข้างต้น (โปรดอธิบาย): NFC
ใช่
มีด้านหลังแบนสำหรับใช้งานบนโต๊ะ มีด้านหลังแบน จึงใช้งานโดยวางราบไปกับพื้นโต๊ะได้ ใช่
รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ผู้ใช้รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ไม่
การเคลื่อนไหวของมือ ต้องใช้นิ้วมือบีบหรือบิด หรือหมุนข้อมือสำหรับการควบคุมบางอย่าง ใช่
การรู้จำเสียงสำหรับการกดหมายเลข กดหมายเลขโดยพูดชื่อของผู้ที่ต้องการโทรหา ถ้ามีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ("สมุดโทรศัพท์" ส่วนตัวที่คุณสร้างในโทรศัพท์) ใช่
การรู้จำเสียงสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ เปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ด้วยการพูดคำสั่งกับโทรศัพท์ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้แป้นกด ใช่
การรับสายอัตโนมัติ รับสายโดยอัตโนมัติหลังจากโทรศัพท์ส่งเสียงดังถึงจำนวนครั้งที่กำหนด ไม่

คุณสมบัติด้านการมองเห็น

เครื่องหมายบนแป้นที่รับรู้ได้ด้วยการสัมผัส – "F" และ "J" แป้น "F" และ "J" มีจุดที่ยกสูงขึ้นหรือตุ่ม เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างแป้นต่างๆ ได้ด้วยการสัมผัส (มีเฉพาะในโทรศัพท์ที่มีแป้นกดแบบเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY) ไม่มีข้อมูล
รูปแบบแป้นตัวเลขมาตรฐาน แป้นตัวเลขจัดวางในแบบมาตรฐานโดยมี 1 2 3 ที่ด้านบน และ * 0 # ที่ด้านล่าง ใช่ - แป้นพิมพ์บนหน้าจอสัมผัส
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - รับรู้ด้วยการสัมผัส เมื่อกดแป้น คุณจะรู้สึกว่าแป้นถูกกดลงไปจริงๆ ทำให้ทราบว่าได้กดแป้นแล้ว ใช่
 
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - ได้ยินเสียง จะมีเสียงดังเมื่อกดแป้น เพื่อให้คุณทราบว่าได้กดแป้นแล้ว ใช่
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - มีเสียงพูด เมื่อกดแป้นตัวเลข จะมีเสียงพูดบอกตัวเลข เพื่อให้คุณทราบว่ากดแป้นถูกต้องแล้ว ใช่
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - ฟังก์ชัน เสียงที่คุณได้ยินเมื่อกดแป้นตัวเลขและแป้นฟังก์ชันจะต่างกัน เพื่อให้แยกความแตกต่างได้ง่าย ใช่
แบบอักษรที่ปรับได้ - สไตล์ เปลี่ยนแบบอักษร (ไทป์เฟซ) ที่ใช้กับข้อความบนจอแสดงผลได้ ซึ่งอาจช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ใช่
แบบอักษรที่ปรับได้ - ขนาด คุณทำให้ข้อความบนจอแสดงผลใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ ใช่
ทางลัดในแบบของคุณ คุณกำหนดฟีเจอร์เฉพาะให้กับการกดแป้นเดียวหรือการกดแป้นติดต่อกันได้ ใช่
ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมคอนทราสต์ที่ปรับได้ คุณปรับคอนทราสต์ของการแสดงผลได้เพื่อให้เห็นข้อความและสัญลักษณ์ชัดขึ้นบนพื้นหลัง

ใช่

ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมความสว่างที่ปรับได้ คุณปรับความสว่างของการแสดงผลเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ ใช่
ลักษณะการแสดงผล - ขนาดจอแสดงผลหลัก ขนาดของจอแสดงผลหลัก 6.26" สัดส่วนภาพ 19:9
ลักษณะการแสดงผล - ความละเอียดของจอแสดงผลหลัก จำนวนจุด (หรือพิกเซล) ที่ใช้แสดงข้อความและรูปภาพบนจอแสดงผลหลัก ยิ่งมีจุดมากก็ยิ่งแสดงรายละเอียดได้มาก 3040 x 1440
ลักษณะการแสดงผล - การแยกความแตกต่างของสี ข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผลไม่อาศัยการรับรู้สีเพื่อทำความเข้าใจ (เช่น คุณไม่จำเป็นต้องแยกสัญลักษณ์สีแดงออกจากสัญลักษณ์สีเขียวได้) ใช่ 
ลักษณะการแสดงผล - สัญลักษณ์/ไอคอน เมนูแสดงได้โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพในรูปแบบตารางกริด ทำให้ผู้ใช้บางรายเข้าใจหรือจดจำได้ง่ายขึ้น ใช่
ลักษณะการแสดงผล - หน้าจอสั่นไหว จอแสดงผลหลักไม่สั่นไหวในอัตราที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่เป็นโรคลมชักจากความไวต่อแสงกระตุ้น (ระหว่าง 2 Hz ถึง 60 Hz) ใช่
ส่งเสียงพูดสำหรับหมายเลขผู้โทรจากรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อคุณรับสาย จะมีเสียงพูดชื่อของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ไม่
ส่งเสียงพูดสำหรับ SMS: ที่มีอยู่แล้วภายใน อ่านออกเสียง SMS ให้คุณฟัง ใช่
เมนูพูดออกเสียง พูดตัวเลือกในเมนู เพื่อให้คุณใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้ แม้ว่าจะอ่านหน้าจอไม่ได้

ใช่

คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก เช่น เข้าถึงได้ทางออนไลน์ ใช่

คุณสมบัติด้านการได้ยิน

แจ้งเตือนด้วยการสั่น ตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นเมื่อมีสายหรือ SMS เข้ามา หรือเมื่อมีการแจ้งเตือนได้ ใช่
แจ้งเตือนด้วยภาพ - สายเรียกเข้า เมื่อมีสายหรือ SMS เข้ามา จะแสดงการแจ้งเตือนด้วยภาพ เช่น ชื่อหรือรูปของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ใช่
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่ายมือถือ ให้คุณวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่ายมือถือของคุณ ใช่
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สาย ให้คุณวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สายของคุณ ใช่
ชุดหูฟัง - ประเภทปลั๊ก ประเภทของปลั๊กที่ชุดหูฟังต้องใช้เพื่อให้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ USB-C
ความเขัากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินที่ตั้งค่าไปที่ตำแหน่ง "T" เสียงจะชัดเจนขึ้น ใช่
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทางเลือก เสียงจะชัดเจนขึ้น ไม่มีข้อมูล
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - MMS รับส่งข้อความมัลติมีเดียได้ ซึ่งอาจรวมถึงรูปภาพ เสียง และวิดีโอคลิป ใช่
การปรับเปลี่ยน SMS ในแบบของคุณและการนำมาใช้ใหม่ ให้คุณสร้าง SMS มาตรฐานที่ส่งไปให้ใครก็ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกๆ ครั้ง เช่น "กำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ" ใช่
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - อีเมล รับส่งข้อความอีเมลได้ ใช่
ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณใช้โทรศัพท์เพื่อท่องเว็บและใช้บริการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ตได้ ใช่
คุณสมบัติเพิ่มเติมและลักษณะเฉพาะ Google Pixel 4 XL เป็นอุปกรณ์แบบหน้าจอสัมผัส แต่ก็มีแป้นสัมผัส ได้แก่ แป้นเปิด/ปิดเครื่อง และแป้นควบคุมระดับเสียง ใช่
ฟีเจอร์เสริมและอุปกรณ์เสริม ลักษณะโดยทั่วไปของระบบปฏิบัติการแบบเปิดและฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษคือ ฟีเจอร์บางอย่างมีให้โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android และด้วยเหตุนี้จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและการอัปเกรดในระหว่างช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ ใช่

การรับประกันแบบจำกัด

ดูข้อมูลการรับประกันแบบจำกัดได้ในศูนย์การรับประกันฮาร์ดแวร์ของ Google

Pixel, Google, โลโก้ตัว G ตลอดจนเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC  Wi-Fi®, โลโก้ Wi-Fi และโลโก้ Wi-Fi เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Wi-Fi Alliance โลโก้ตัวอักษรล้วนและโลโก้ Bluetooth® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Bluetooth SIG, Inc. เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของเครื่องหมายนั้นๆ

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1514222030607454386
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
1634144
false
false