คู่มือเกี่ยวกับความปลอดภัยและกฎข้อบังคับ (Pixel 3a และ Pixel 3a XL 2019)

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำเตือนด้านความปลอดภัย

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

สหรัฐอเมริกา

แคนาดา

สหภาพยุโรป

สิงคโปร์

ออสเตรเลีย

อินเดีย

ญี่ปุ่น

ไต้หวัน

ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำแนะนำโดยละเอียดนี้ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในเอกสารความปลอดภัยและการรับประกันที่มาพร้อมกับ Pixel 3a และ Pixel 3a XL และยังประกอบด้วยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัย กฎข้อบังคับ และการรับประกันของ Pixel 3a และ Pixel 3a XL อีกด้วย

  • ดูข้อมูลด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกฎข้อบังคับได้ที่ g.co/pixel/safety
  • ดูรายละเอียดการรับประกันสำหรับประเทศที่คุณซื้อ รวมถึงวิธีเคลมประกันได้ที่   g.co/pixelphonewarranty
  • ดูป้ายกำกับกฎข้อบังคับอิเล็กทรอนิกส์และอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) ของอุปกรณ์ใน Pixel ได้ที่การตั้งค่า แล้ว  เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ
  • รับความช่วยเหลือออนไลน์ที่ครอบคลุมได้ที่ g.co/pixel/help

คำเตือนด้านความปลอดภัย

คำเตือน คำเตือน: ข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัย โปรดอ่านก่อนใช้งานเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บเสียหายส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงความเสียหายต่อโทรศัพท์และอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

โปรดปฏิบัติตามข้อควรระวังด้านล่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อโทรศัพท์ รวมถึงอุปกรณ์เสริม หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อใดๆ และเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บเสียหายส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรืออันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การใช้งาน

โปรดใช้โทรศัพท์อย่างระมัดระวัง คุณอาจทำให้อุปกรณ์หรือแบตเตอรี่เสียหายหากถอดแยกชิ้นส่วน ทำตก บิดงอ เผา บดอัด หรือเจาะ อย่าใช้อุปกรณ์ที่หน้าจอแตกร้าวหรือตัวเครื่องเสียหาย การใช้อุปกรณ์ที่เสียหายอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปหรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ อย่าให้โทรศัพท์โดนของเหลว เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องร้อนเกินไป หากโทรศัพท์เปียก อย่าพยายามทำให้แห้งด้วยแหล่งความร้อนภายนอก 

โทรศัพท์เครื่องนี้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ดีที่สุดในอุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง 32° ถึง 95°F (0° ถึง 35°C) และควรจัดเก็บที่อุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง -4° ถึง 113°F (-20° ถึง 45°C) อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในที่ที่อาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 113°F (45°C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์หรือใกล้ช่องระบายความร้อน เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย แบตเตอรี่ร้อนเกินไป หรือเสี่ยงต่อการลุกไหม้ เก็บโทรศัพท์ให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง หากอุปกรณ์เริ่มร้อนเกินไป ให้ถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟหากเสียบอยู่ นำอุปกรณ์ไปไว้ในที่ที่เย็นลง และไม่ใช้อุปกรณ์จนกว่าเครื่องจะเย็น

การใช้งานโทรศัพท์ในบางโหมด เช่น การเล่นเกม การถ่ายวิดีโอ การใช้การตั้งค่าไฟฉาย หรือ VR อาจทำให้เครื่องร้อนมากกว่าสภาวะการทำงานปกติ และนำไปสู่การทำงานในโหมดลดพลังงานหรือดับไปชั่วคราว โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้อุปกรณ์ในโหมดดังกล่าว


โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและอย่าใช้โทรศัพท์หากโทรศัพท์ยังทำงานไม่ถูกต้องหรือได้รับความเสียหาย g.co/pixel/support

การซ่อมและการบริการ

อย่าพยายามซ่อมโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้วยตนเอง การถอดแยกชิ้นส่วนของอุปกรณ์อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายหรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ   

ควรให้ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Google เท่านั้นเป็นผู้ซ่อม Pixel 3a และ Pixel 3a XL การซ่อมหรือการดัดแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์อย่างถาวร รวมถึงอาจส่งผลต่อการครอบคลุมของการรับประกันและการให้สิทธิ์ตามกฎระเบียบ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อรับบริการที่ได้รับอนุญาต ดูความช่วยเหลือและการสนับสนุนออนไลน์ได้ที่ https://g.co/pixel/help

การชาร์จ

โปรดดูแลให้อะแดปเตอร์และ Pixel 3a หรือ Pixel 3a XL มีอากาศถ่ายเทเมื่อใช้งานหรือขณะชาร์จ การใช้สายไฟหรืออะแดปเตอร์ที่ชำรุด หรือการชาร์จไฟเมื่อมีความชื้นอาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์หรือทรัพย์สินอื่นๆ เมื่อชาร์จโทรศัพท์ ให้เสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้ารับที่อยู่ใกล้กับโทรศัพท์และเข้าถึงได้ง่าย หลีกเลี่ยงการชาร์จอุปกรณ์ในที่ที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ผลิตภัณฑ์นี้มีไว้สำหรับใช้กับแหล่งพลังงานแบบจำกัด (LPS) ที่ได้รับการรับรองตามการจัดประเภทของ IEC 60950-1 และมีแรงดันไฟ DC 5 โวลต์ กระแสไฟสูงสุด 3 แอมแปร์ หรือ DC 9 โวลต์ กระแสไฟฟ้าสูงสุด 2 แอมแปร์ หรือทั้งสองอย่าง อุปกรณ์นี้จะต้องใช้กับอะแดปเตอร์ AC ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดใบรับรองของ CTIA ด้านการปฏิบัติตามระบบแบตเตอรี่ตาม IEEE 1725 อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ AC ที่มีการรับรองที่เหมาะสม

โปรดชาร์จโทรศัพท์ด้วยอะแดปเตอร์และสายไฟที่ให้มา หรืออุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันได้และมีจำหน่ายใน Google Store เท่านั้น การใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันไม่ได้อาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

เมื่อถอดอะแดปเตอร์จากเต้าเสียบ ให้ดึงที่อะแดปเตอร์ ห้ามดึงสายไฟ อย่าบิดหรือบีบสาย USB และอย่าพยายามเสียบเครื่องมือเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตที่ใช้ด้วยกันไม่ได้ หากคุณได้รับข้อความบอกให้ถอดปลั๊กที่ชาร์จขณะกำลังชาร์จไฟ ให้ถอดปลั๊กอะแดปเตอร์ ก่อนที่จะลองชาร์จใหม่ ตรวจสอบว่าทั้งหัวเสียบของสายชาร์จและช่องเสียบสายชาร์จของโทรศัพท์แห้งและไม่มีวัตถุใดติดค้างอยู่

การได้รับความร้อนเป็นเวลานาน

โทรศัพท์และที่ชาร์จจะมีความร้อนในระหว่างการทำงานตามปกติ และเป็นไปตามมาตรฐานและขีดจำกัดด้านอุณหภูมิพื้นผิวที่เกี่ยวข้อง โปรดหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงหรือโดยอ้อมเป็นเวลานานเมื่อใช้หรือชาร์จอุปกรณ์อยู่ ผิวหนังที่สัมผัสกับพื้นผิวร้อนๆ เป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือผิวหนังไหม้ได้ อย่านอนทับอุปกรณ์หรืออะแดปเตอร์ หรือวางอุปกรณ์ไว้ใต้ผ้าห่มหรือหมอน โปรดตระหนักถึงปัญหานี้หากคุณมีอาการทางร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถในการรู้สึกถึงความร้อนบนผิวหนัง  

การปกป้องการได้ยิน

การฟังเสียงดังเป็นเวลานาน (รวมถึงเพลง) อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบการได้ยินที่อาจเกิดขึ้น โปรดหลีกเลี่ยงการฟังเสียงดังเป็นเวลานาน การฟังเสียงดังและเสียงรบกวนในพื้นหลังต่อเนื่องนานๆ อาจทำให้คุ้นเคยกับระดับเสียงและไม่รู้สึกว่าเสียงดัง โปรดตรวจสอบระดับเสียงก่อนใช้หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัด

การปกป้องการได้ยิน

แบตเตอรี่

โทรศัพท์นี้มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีความไวสูงและอาจเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บหากชำรุดเสียหาย อย่าพยายามถอดแบตเตอรี่เอง โปรดติดต่อ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Google หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ การเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองอาจทำให้โทรศัพท์เสียหาย การใช้งานแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ การระเบิด การรั่วไหล หรืออันตรายอื่นๆ หากแบตเตอรี่เกิดการรั่วไหล ห้ามมิให้ของเหลวที่รั่วไหลออกมาสัมผัสกับดวงตา ผิวหนัง หรือเสื้อผ้า หากของเหลวสัมผัสกับดวงตา ห้ามขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีและปรึกษาแพทย์ กำจัดโทรศัพท์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมทิ้งตามระเบียบข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น อย่าทิ้งอุปกรณ์เหล่านี้รวมกับขยะในครัวเรือนทั่วไป เพราะการกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดไฟไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ อย่าเปิด ทุบ ทำให้ร้อนเกิน 113°F (45°C) หรือเผา 

ข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม

ห้ามใช้หรือเก็บอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมไว้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน ความชื้น หรือความสกปรก หรืออยู่ใกล้กับสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนหรือวงจรภายในของโทรศัพท์ เก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในยานพาหนะหรือในสถานที่ที่อุณหภูมิอาจสูงเกิน 113°F (45°C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์ ขอบหน้าต่าง ใกล้ช่องระบายความร้อน หรือหลังกระจกที่โดนแสงแดดโดยตรงหรือแสงอัลตราไวโอเลตที่เข้มข้นเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนมากเกินไป
หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือการระเบิด

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการระเบิด

อย่าใช้ จัดเก็บ หรือขนส่งโทรศัพท์ในสถานที่จัดเก็บวัตถุไวไฟหรือวัตถุระเบิด (ในปั๊มน้ำมัน คลังน้ำมัน หรือโรงงานผลิตสารเคมี เป็นต้น) อย่าใช้โทรศัพท์ในสถานที่ที่กำลังมีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการระเบิดหรือในสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดการระเบิดได้ เช่น พื้นที่เติมน้ำมัน คลังเก็บเชื้อเพลิง ใต้ดาดฟ้าเรือ สถานที่ถ่ายโอนหรือจัดเก็บน้ำมันหรือสารเคมี และบริเวณที่ในอากาศมีสารเคมีหรืออนุภาค เช่น เม็ด ฝุ่น หรือผงโลหะ ประกายไฟในพื้นที่ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต โปรดปฏิบัติตามประกาศและป้ายต่างๆ ที่ระบุว่าอาจมีอันตรายเหล่านี้เกิดขึ้นได้

การนำทาง  

อุปกรณ์นี้อาจมีบริการแผนที่และการนำทางรวมอยู่ด้วย บริการเหล่านี้ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและบริการตำแหน่งที่ใช้งานได้ ซึ่งอาจไม่พร้อมใช้งานในบางครั้ง แผนที่และเส้นทางอาจไม่แม่นยำ โปรดตรวจสอบเส้นทางอย่างถี่ถ้วน ใช้วิจารณญาณ และปฏิบัติตามกฎหมายและป้ายจราจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

สภาวะจริงและการยอมรับความเสี่ยง

เมื่อใช้ข้อมูลแผนที่ การจราจร เส้นทาง และเนื้อหาอื่นๆ ของ Google Maps/Google Earth คุณอาจพบว่าสภาวะจริงต่างจากผลลัพธ์และเนื้อหาในแผนที่ โปรดใช้วิจารณญาณและรับผิดชอบต่อความเสี่ยงจากการใช้ Google Maps/Google Earth ที่อาจเกิดขึ้น คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินการของคุณและผลที่ตามมาเสมอ

การรบกวนสมาธิ

การใช้อุปกรณ์ขณะทำกิจกรรมบางอย่างอาจรบกวนสมาธิของคุณ และอาจก่อให้เกิดสถานการณ์อันตรายกับตัวคุณเองและผู้อื่น ในการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ (และเนื่องจากกฎหมายในหลายประเทศมีข้อห้ามไว้) อย่าใช้อุปกรณ์ขณะขับรถ ปั่นจักรยาน ขณะใช้เครื่องจักร หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่อาจมีผลร้ายแรงตามมาได้ โปรดปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ หูฟัง และหมวกกันน็อก 

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

โปรดปฏิบัติตามกฎที่ห้ามการใช้เทคโนโลยีไร้สาย (เช่น สัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi) อุปกรณ์นี้ออกแบบมาให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้านการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ แต่การใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น ในขณะโดยสารเครื่องบินหรือก่อนขึ้นเครื่อง ให้ใช้อุปกรณ์ไร้สายตามคำแนะนำจากสายการบินเท่านั้น การใช้อุปกรณ์ไร้สายในเครื่องบินอาจรบกวนเครือข่ายไร้สาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อการบังคับควบคุมเครื่องบิน หรือผิดกฎหมาย คุณอาจใช้อุปกรณ์ได้ในโหมดบนเครื่องบิน

การรบกวนอุปกรณ์การแพทย์

อุปกรณ์นี้ใช้วิทยุและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ปล่อยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและมีแม่เหล็ก สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและแม่เหล็กดังกล่าวอาจรบกวนเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ และอุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง วางโทรศัพท์และที่ชาร์จให้อยู่ห่างผิวหนังส่วนที่อยู่ใกล้เครื่องกระตุ้นหัวใจเป็นระยะมากกว่า 15 ซม. (6 นิ้ว) เสมอ ถือโทรศัพท์ไว้คนละด้านกับเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง ห้ามพกโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าที่ใกล้กับเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง หากมีคำถามเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ Google กับหรือใกล้เครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง โปรดปรึกษาผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ หากคุณสงสัยว่าอุปกรณ์รบกวนการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์การแพทย์ ให้ปิดอุปกรณ์และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ของคุณ

โรงพยาบาล

ปิดอุปกรณ์ไร้สายเมื่อมีผู้ขอความร่วมมือที่โรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาล คำขอเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อป้องกันการรบกวนอุปกรณ์การแพทย์
ที่ไวต่อสัญญาณต่างๆ

ความปลอดภัยของเด็ก

โทรศัพท์มี (หรือมาพร้อมกับ) ชิ้นส่วนขนาดเล็ก องค์ประกอบที่เป็นพลาสติก และชิ้นส่วนขอบคมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรืออันตรายจากการสำลัก สายชาร์จอาจทำให้เกิดอันตรายกับเด็กเล็กจากการบีบรัดคอจนหายใจไม่ออก อย่าวางโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมไว้ใกล้มือเด็กเล็กหรือปล่อยให้เด็กเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะเด็กอาจจะทำให้ตนเองหรือบุคคลอื่นบาดเจ็บหรืออาจทำให้โทรศัพท์เสียหายโดยไม่ตั้งใจได้ ให้พบแพทย์ทันทีหากมีการกลืนกินชิ้นส่วนขนาดเล็กเข้าไป

การสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน

อุปกรณ์นี้ทำงานโดยใช้สัญญาณวิทยุและอาจเริ่มหรือรักษาการเชื่อมต่อไม่ได้ในบางสภาวะ อุปกรณ์ไร้สายอาจใช้สื่อสารในกรณีฉุกเฉินไม่ได้ แม้ว่าเขตอำนาจศาลบางแห่งจะส่งข้อมูลสำหรับกรณีฉุกเฉินผ่านเครือข่ายไร้สาย แต่อุปกรณ์ของคุณอาจไม่ได้รับการสื่อสารเหล่านี้ในบางครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อเครือข่าย

ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับสุขภาพ

โทรศัพท์และฟังก์ชันแอปพลิเคชันการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์และมีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ออกแบบหรือมีเจตนาเพื่อใช้วินิจฉัยโรคหรืออาการอื่นๆ ตลอดจนการเยียวยา การติดตามผล การบรรเทา การรักษา หรือการป้องกันโรค

การดูแลและการใช้งานที่เหมาะสม

ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้เมื่อใช้ จัดเก็บ ทำความสะอาด หรือกำจัดโทรศัพท์

อุณหภูมิในการทำงาน

อย่าใช้หรือชาร์จโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิโดยรอบต่ำกว่า 32°F (0°C) หรือสูงกว่า 95°F (35°C) หากอุณหภูมิภายในอุปกรณ์สูงกว่าอุณหภูมิปกติขณะใช้งาน คุณอาจพบลักษณะการทำงานต่อไปนี้ขณะที่อุปกรณ์พยายามปรับอุณหภูมิ ซึ่งได้แก่ ประสิทธิภาพการทำงานและการเชื่อมต่อลดลง ชาร์จไม่เข้า หรือปิดจอแสดงผลหรือเครื่อง คุณอาจใช้โทรศัพท์ขณะที่เครื่องกำลังปรับอุณหภูมิไม่ได้ ให้ย้ายโทรศัพท์ไปไว้ยังจุดที่เย็นขึ้น (หรืออุ่นขึ้น) แล้วรอสักครู่ก่อนที่จะลองใช้อีกครั้ง

การดูแลและการทำความสะอาด

โปรดถอดปลั๊กอุปกรณ์และอะแดปเตอร์ออกก่อนที่จะทำความสะอาด ในระหว่างที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หรือเมื่อไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลานานๆ หลีกเลี่ยงตัวทำละลายและสารกัดเซาะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ การสัมผัสกับเครื่องสำอาง สารเคมี และวัตถุที่มีการย้อมสี เช่น ผ้ายีนส์ อาจทำให้เคสโทรศัพท์สีอ่อนเป็นรอยด่าง ให้ใช้ผ้าสะอาด นุ่ม และแห้งหรือหมาด (ไม่เปียก) ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม หลีกเลี่ยงบริเวณช่องเสียบ USB หรือร่องต่างๆ ขณะทำความสะอาด อย่าใช้สารซักฟอก ผงซักฟอก หรือสารเคมีอื่นๆ (เช่น แอลกอฮอล์หรือเบนซิน) ในการทำความสะอาดโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริม อย่าทำความสะอาดอุปกรณ์ขณะชาร์จไฟอยู่

สนามแม่เหล็ก

หลีกเลี่ยงการวางสื่อใดๆ ที่มีแม่เหล็กหรือไวต่อคลื่นแม่เหล็ก เช่น บัตรเครดิต บัตรที่ธนาคารออกให้ เทปเสียง/วิดีโอ หรืออุปกรณ์หน่วยความจำที่มีแม่เหล็ก ไว้ใกล้กับผลิตภัณฑ์นี้ ที่ชาร์จ หรือสายชาร์จเพราะคุณอาจสูญเสียข้อมูลที่เก็บไว้ในสื่อเหล่านั้น ควรเก็บสื่อที่มีข้อมูลซึ่งไวต่อแม่เหล็กให้ห่างจากโทรศัพท์นี้อย่างน้อย 5 ซม. (2 นิ้ว)

การเข้าสู่ร่างกายของพลังงานความถี่วิทยุ

อุปกรณ์ไร้สายของคุณจะปล่อยพลังงานความถี่วิทยุ (RF) ในระหว่างการใช้งาน เช่นเดียวกับโทรศัพท์อื่นๆ ทั้งนี้ตามข้อมูลของคณะกรรมการสากลด้านการป้องกันการแผ่กัมมันตรังสีประเภทไม่ก่อไอออน (International Commission on Non-Ionizing Radiation Protection หรือ ICNIRP) ผลกระทบที่สำคัญจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์คือการทำให้เนื้อเยื่อที่สัมผัสนั้นเกิดความร้อนขึ้น 

ตามข้อมูลของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communications Commission หรือ FCC) "กลุ่มผลประโยชน์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยบางกลุ่มได้ตีความรายงานบางฉบับเพื่อให้คำแนะนำว่าการใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจเชื่อมโยงไปสู่โรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีความเสี่ยงในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าข้อวินิจฉัยเหล่านี้ทำให้ผู้คนหันมาสนใจเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะสร้างการเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลระหว่างการใช้อุปกรณ์ไร้สายกับโรคมะเร็งหรือโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ในขณะนี้"

อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสเกินกว่าระดับหนึ่ง (เรียกว่าเกณฑ์) ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสัมผัส การสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุและการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิที่เกิดร่วมด้วยอาจกระตุ้นให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เช่น การเกิดลมแดดและความเสียหายของเนื้อเยื่อ (ถูกเผาไหม้) ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุในระดับสูง จึงมีการกำหนดขีดจำกัดโดยสัมพันธ์กับเกณฑ์ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะแสดงผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ โดยเพิ่มตัวคูณลดเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนทางวิทยาศาสตร์ โดยทั่วไปแล้วขีดจำกัดเหล่านี้จะแสดงด้วยอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) SAR คือการวัดอัตราการดูดกลืนพลังงานของความถี่วิทยุในร่างกาย การทดสอบหา SAR ทำได้โดยการส่งคลื่นความถี่วิทยุผ่านโทรศัพท์ด้วยระดับพลังงานสูงสุดในแถบคลื่นความถี่ที่ทดสอบทั้งหมด ข้อจำกัด SAR ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดย FCC ในสหรัฐอเมริกา และจากนั้นได้มีการนำไปใช้ในประเทศอื่นๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAR ได้ที่หน้าเว็บต่อไปนี้

  • fcc.gov
  • icnirp.org
  • ec.europa.eu


Pixel 3a และ Pixel 3a XL ผ่านการทดสอบและรับรองว่าปล่อยคลื่นความถี่วิทยุไม่เกินขีดจำกัดของ SAR ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย และไต้หวัน ดูค่า SAR ที่เกี่ยวข้องในเขตอำนาจศาลดังกล่าวแต่ละแห่งได้ในโทรศัพท์ Pixel โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว  เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ

บริการและการสนับสนุน

ดูความช่วยเหลือและการสนับสนุนออนไลน์ได้ที่ g.co/pixel/help หากส่งโทรศัพท์มาซ่อม คุณอาจได้รับโทรศัพท์เปลี่ยนทดแทน (แทนโทรศัพท์เครื่องเดิม)

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

ดูข้อมูลกฎข้อบังคับ ใบรับรอง และเครื่องหมายการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Pixel 3a/Pixel 3a XL ได้ในอุปกรณ์ โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ และดูได้ที่ด้านหลังของอุปกรณ์สำหรับบางภูมิภาคและประเทศ

ประกาศการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EMC

ข้อมูลสำคัญ: อุปกรณ์เครื่องนี้ อะแดปเตอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ภายใต้เงื่อนไขที่รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ คุณต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ เพื่อลดโอกาสของการรบกวนวิทยุ โทรทัศน์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหรัฐอเมริกา

การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่บังคับควบคุมของ FCC

อุปกรณ์นี้ได้รับการทดสอบแล้วและพบว่ามีคุณสมบัติสอดคล้องกับขีดจำกัดสำหรับอุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B ตามบทที่ 15 ของกฎ FCC ขีดจำกัดเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบการปกป้องที่สมเหตุสมผลจากสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายจากการติดตั้งในที่พักอาศัย อุปกรณ์นี้จะสร้าง ใช้งาน และอาจสร้างพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ ซึ่งหากไม่ได้ติดตั้งและใช้งานตามวิธีการ อาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการสื่อสารทางวิทยุได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าการรบกวนจะไม่เกิดขึ้นในระหว่างการติดตั้ง หากอุปกรณ์นี้ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการรับคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ ซึ่งตรวจสอบได้โดยการเปิดและปิดอุปกรณ์ ขอแนะนำให้ผู้ใช้พยายามแก้ไขสัญญาณรบกวนดังกล่าวโดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้

  • ปรับทิศทางหรือย้ายเสาอากาศรับสัญญาณ
  • เพิ่มระยะห่างระหว่างอุปกรณ์และเครื่องรับ
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับเต้ารับในวงจรที่ต่างจากวงจรที่ใช้เชื่อมต่อเครื่องรับ
  • ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายหรือช่างวิทยุ/โทรทัศน์ที่มีประสบการณ์เพื่อขอความช่วยเหลือ

การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจทำให้สิทธิ์ในการใช้งานอุปกรณ์ของคุณเป็นโมฆะ

อุปกรณ์นี้เป็นไปตามส่วนที่ 15 ของกฎ FCC การทำงานต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้

  1. อุปกรณ์นี้จะต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย
  2. อุปกรณ์นี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวนที่ได้รับ รวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่พึงประสงค์

การรับคลื่นความถี่วิทยุ 

อุปกรณ์นี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารแห่งสหรัฐอเมริกา (FCC) เรื่องการรับคลื่นวิทยุ โดยออกแบบและผลิตมาเพื่อไม่ให้ปล่อยคลื่นวิทยุเกินข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ของ FCC เพื่อให้เป็นไปตามการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการรับ RF ของ FCC การใช้งานใกล้กับร่างกายจะจำกัดไว้ที่คลิปหนีบกับเข็มขัด ซองหนัง หรืออุปกรณ์เสริมที่คล้ายกันที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นโลหะ และต้องอยู่ห่างจากอุปกรณ์อย่างน้อย 10 มม. รวมถึงสายอากาศและร่างกายของผู้ใช้  

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)  

อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุที่กำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (สหรัฐอเมริกา)

ขีดจำกัดของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) ที่สหรัฐฯ ใช้คือ 1.6 วัตต์/กก. โดยเฉลี่ยต่อเนื้อเยื่อ 1 กรัม ค่า SAR สูงสุดที่รายงานไปยัง FCC สำหรับประเภทอุปกรณ์นี้เป็นไปตามขีดจำกัดดังกล่าว Pixel 3a และ Pixel 3a XL สอดคล้องตามข้อกำหนดเรื่องความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือในระยะ 1.0 ซม. (0.4 นิ้ว) จากร่างกาย  ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง
 

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020E) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.17 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020F) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020G) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.15 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020H) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020A) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020B) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020C) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.33 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020D) ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.20 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน (HAC)    

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) ได้รับการประเมินและรับรองว่าเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินตามข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิค ANSI C63.19-2011 ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินมีการวัด 2 รูปแบบ ดังนี้
อัตรา M ซึ่งเป็นหน่วยวัดความปลอดภัยจากการรบกวนโดยคลื่นความถี่วิทยุสำหรับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อทางเสียง และอัตรา T ซึ่งเป็นหน่วยวัดประสิทธิภาพการทำงานเมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ (เทเลคอยล์)

อุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินจาก Google มีการจัดระดับดังนี้

  • Pixel 3a (G020E และ G020G)            M3/T3
  • Pixel 3a XL (G020A และ G020C)        M3/T3

ตามกฎ FCC นั้น โทรศัพท์มือถือจะได้รับการพิจารณาว่ามีความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินหากได้รับคะแนนในระดับ M3 หรือ M4 สำหรับตัวคู่ต่อทางเสียงหรือ T3 หรือ T4 สำหรับตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านบน) ได้รับการทดสอบและจัดระดับเพื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินสำหรับเทคโนโลยีไร้สายบางอย่างที่โทรศัพท์ใช้ สิ่งสำคัญคือต้องลองใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของโทรศัพท์รุ่นนี้อย่างละเอียดและในหลากหลายสถานที่โดยใช้เครื่องช่วยการได้ยินหรือประสาทหูเทียม เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ยินเสียงรบกวนหรือไม่ ปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือ Google เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายการส่งคืนหรือการแลกเปลี่ยน โปรดปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือผู้จำหน่ายโทรศัพท์

อุปกรณ์ของ Google เป็นไปตามข้อกำหนดความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน (HAC) ของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC)

การรีไซเคิล

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลในสหรัฐฯ ได้ที่ g.co/pixel/recycle

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: แคนาดา

การพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ (ISED) แห่งแคนาดา คลาส B    

อุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B นี้สอดคล้องกับ Canadian ICES-003.CAN ICES-3(B)/NMB-3(B)

Cet appareil numérique de la classe B est conforme à la norme NMB-003 du Canada.

ประกาศ: ระเบียบข้อบังคับของ ISED แคนาดากำหนดให้การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจทำให้สิทธิ์ของคุณในการใช้งานอุปกรณ์นี้เป็นโมฆะ

ประกาศของการพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ (ISED) แห่งแคนาดา

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) เป็นไปตามมาตรฐาน RSS ที่ได้รับการยกเว้นใบรับรองของการพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจแห่งแคนาดา (ISED หรือ IC) การทำงานต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้
  1. อุปกรณ์นี้ต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย
  2. อุปกรณ์นี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวนต่างๆ ซึ่งรวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่พึงประสงค์

Le présent appareil est conforme aux CNR d'Industrie Canada applicables aux appareils radio 
exempts de licence. L'exploitation est autorisée aux deux conditions suivantes: 

  1. L'appareil ne doit pas produire de brouillage.

L'utilisateur de l'appareil doit accepter tout brouillage radioélectrique subi, même si le brouillage est susceptible d'en compromettre le fonctionnement.

อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยย่านความถี่ 5150–5250 MHz จะใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

les dispositifs fonctionnant dans la bande de 5 150 à 5 250 MHz sont réservés uniquement pour une utilisation à l’intérieur afin de réduire les risques de brouillage préjudiciable aux systèmes de satellites mobiles utilisant les mêmes canaux

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)     

ความแรงของสัญญาณที่แผ่ออกมาของ Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) ต่ำกว่าข้อจำกัดการรับคลื่นความถี่วิทยุของสำนักงานอุตสาหกรรมแคนาดา (IC) อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการประเมินตามข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ของสำนักงานอุตสาหกรรมแคนาดา (IC) ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้ด้วยวิธีที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดขณะใช้งานแนบกับร่างกายตามปกติ

เวลาที่ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว (นอกเหนือจากเวลาถือไว้ในมือหรือแนบกับศีรษะ) ให้เว้นระยะห่างของ Pixel 3a และ Pixel 3a XL จากตัว 10 มม. เพื่อให้ตรงตามวิธีทดสอบอุปกรณ์ว่าสอดคล้องตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020G) ตามที่รายงานต่อ IC มีดังนี้

  • 1.15 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.19 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม


ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020C) ตามที่รายงานต่อ IC มีดังนี้

  • 1.33 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม


อุปกรณ์เครื่องนี้ได้รับการรับรองว่าใช้งานได้ในประเทศแคนาดา ตรวจสอบสถานะของรายชื่อ REL (รายชื่ออุปกรณ์วิทยุ) ของอุตสาหกรรมแคนาดาได้จาก  http://www.ic.gc.ca/app/sitt/reltel/srch/nwRdSrch.do
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในแคนาดาเกี่ยวกับการรับคลื่นวิทยุได้จาก http://www.ic.gc.ca/eic/site/smt-gst.nsf/eng/sf08792.html

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหภาพยุโรป

ประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของสภาพยุโรป

Google LLC ขอประกาศในที่นี้ว่า Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) มีคุณสมบัติตรงตามคำสั่ง Directive 2014/53/EU (คำสั่งอุปกรณ์วิทยุ)

ข้อจำกัดและข้อกำหนดภายใต้คำสั่ง 2014/53/EU
อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเท่านั้นเมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150 ถึง 5350 MHz ใน AT, BE, BG, CY, CZ, DE, DK, EE, EL, ES, FI, FR, HR, HU, IE, IT, LT, LU, LV, MT, NL, PL, PT, RO, SE, SI, SK, UK, CH, IS, LI, NO และ TR 

 

สอดคล้องตามข้อบังคับมาตรฐานยุโรป

ย่านคลื่นความถี่และกำลังไฟฟ้า

สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร
ข้อมูลที่ให้ไว้ ณ ที่นี้คือพลังงานความถี่วิทยุสูงสุดที่ส่งในย่านคลื่นความถี่ที่อุปกรณ์วิทยุทำงาน

 

ความถี่

กำลัง

Wi-Fi 2400-2483.5 MHz

สูงสุด 20 dBm

Wi-Fi 5150-5250 MHz

สูงสุด 21 dBm

Wi-Fi 5250-5350 MHz

สูงสุด 21 dBm

Wi-Fi 5470-5725 MHz

สูงสุด 21 dBm

Wi-Fi 5745-5825 MHz สูงสุด 14 dBm

บลูทูธ 2400-2483.5 MHz

สูงสุด 18 dBm

NFC 13.56 MHz

สูงสุด  9 dBuA/m

GSM 900

สูงสุด 34 dBm

GSM 1800

สูงสุด 31 dBm

UMTS Band I/VIII

สูงสุด 25.7 dBm

LTE:1, 8, 20, 38, 40

สูงสุด 25.7 dBm

LTE:3 สูงสุด 24.0 dBm
LTE:7,28 สูงสุด 24.5 dBm

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

Google จะไม่รับผิดชอบสำหรับการรบกวนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยการใช้แทนหรือการเชื่อมต่อสายและอุปกรณ์ที่ Google ไม่ได้ระบุไว้ การแก้ไขปัญหาการรบกวนที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ทดแทน หรือการเชื่อมต่อดังข้างต้นเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้ Google และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตหรือผู้จัดจำหน่ายไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายหรือการละเมิดระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR) - สหภาพยุโรป

อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการจัดประเภทสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมในประเทศคลาส B แบบทั่วไป

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 0.5 ซม. จากร่างกายของคุณ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3a (G020E) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 0.89 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.47 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3a (G020F) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.38 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.55 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3a (G020H) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.43 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.56 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3a XL (G020A) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.50 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.62 วัตต์/กก.

สำหรับ Pixel 3a XL (G020B) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.36 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.52 วัตต์/กก.

สำหรับ Pixel 3a XL (G020D) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.26 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.59 วัตต์/กก.
 

คำสั่งว่าด้วยขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) และแบตเตอรี่

ห้ามทิ้งแบตเตอรี่ในถังขยะ

คำสั่งว่าด้วยขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) กำหนดให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EEE) ทุกอย่าง รวมถึงโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริม จะต้องมีเครื่องหมายสัญลักษณ์รูปถังขยะมีล้อที่ถูกขีดฆ่า สัญลักษณ์นี้หมายความว่าอุปกรณ์ดังกล่าวต้องไม่ถูกกำจัดทิ้งเป็นของเสียเทศบาลที่ไม่มีการแยกประเภท การกำจัด WEEE ร่วมกับขยะปกติอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากสารบางอย่างที่ใช้ใน EEE และแบตเตอรี่ในอุปกรณ์เหล่านั้น

ภายใต้คำสั่งว่าด้วย WEEE แต่ละรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปต้องรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม WEEE ให้สำเร็จในระดับสูง เพื่อการดูแล การนำกลับคืน และการกำจัดทิ้งอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะโยนอุปกรณ์ทิ้ง ให้หยุดคิดสักนิดเกี่ยวกับวิธีการลดปริมาณของ WEEE ที่คุณก่อ ตัวอย่างเช่น คุณอาจนำกลับมาใช้ใหม่ กู้คืน หรือทำให้กลายเป็นงานศิลปะได้ เพียงแค่การยืดอายุของอุปกรณ์ คุณก็จะลดของเสียและช่วยให้สหภาพยุโรปบรรลุวัตถุประสงค์ได้

ความสำเร็จของนโยบายสหภาพยุโรปดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการที่คุณมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการส่งคืน WEEE ไปยังสถานที่ที่เหมาะสมซึ่งมีหน้าที่กำจัดของเสียดังกล่าวโดยเฉพาะ คุณควรติดต่อหน่วยงานในท้องถิ่นหรือผู้ค้าปลีกเพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งคืนและจุดรวบรวมที่มีอยู่

การปฏิบัติตามข้อกำหนด RoHS

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นไปตามคำสั่ง 2011/65/EU ของสภายุโรปและการประชุมในวันที่ 8 มิถุนายน 2011 ว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตรายบางชนิดในอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (RoHS) และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

REACH

REACH (Registration, Evaluation, Authorization and Restriction of Chemicals, EC No 1907/2006) คือกฎระเบียบที่ควบคุมการผลิตและการใช้สารเคมีให้ปลอดภัยในสหภาพยุโรป Google ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของกฎระเบียบนี้และเรามุ่งมั่นที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายและมีความน่ากังวลสูง (Substances of Very High Concern หรือ SVHC) ตามกฎระเบียบ REACH ติดต่อ Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Env-Compliance@google.com

ที่อยู่ติดต่อสำหรับประเด็นเรื่องกฎข้อบังคับในสหภาพยุโรปคือ Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson's Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลผู้ผลิต

ผู้ผลิต: Google LLC, 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA, USA, 94043

ข้อมูลผู้นำเข้า

ผู้นำเข้า: Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson’s Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สิงคโปร์

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) ได้รับการประเมินตามข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ของหน่วยงานพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสารสารสนเทศ (สหภาพยุโรป) ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้ด้วยวิธีที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดขณะใช้งานแนบกับร่างกายตามปกติ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ

เวลาที่ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว (นอกเหนือจากเวลาถือไว้ในมือหรือแนบกับศีรษะ) ให้เว้นระยะห่างจากตัว 5 มม. เพื่อให้ตรงตามวิธีทดสอบอุปกรณ์ว่าสอดคล้องตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุ

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020F) ตามที่รายงานต่อ สหภาพยุโรป มีดังนี้

  • 1.38 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.55 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020B) ตามที่รายงานต่อ สหภาพยุโรป มีดังนี้

  • 1.36 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.52 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม
     

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ออสเตรเลีย

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 0.5 ซม. จากร่างกายของคุณ  ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3a (G020F) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.38 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.55 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3a XL (G020B) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.36 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.52 วัตต์/กก.

ฟังก์ชัน WLAN ของอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150-5350 MHz จะถูกจำกัดให้ใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: อินเดีย

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

โทรศัพท์เป็นเครื่องส่งและเครื่องรับสัญญาณวิทยุ โดยมีความสอดคล้องตามหลักเกณฑ์สากลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจำกัดการรับสัมผัสของมนุษย์ต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองหลักเกณฑ์ในเรื่องของการรับสัมผัสคลื่นวิทยุ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยกรมการสื่อสารโทรคมนาคม กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐบาลอินเดีย ("DoT") หลักเกณฑ์ข้างต้นจะใช้หน่วยวัดที่เรียกว่าอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ "SAR") ซึ่งเป็นหน่วยของปริมาณคลื่นความถี่วิทยุที่ร่างกายดูดซึมเมื่อใช้งานโทรศัพท์อยู่ ขีดจำกัดของ SAR ในอินเดียสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่คือ 1.6 วัตต์/กก. ต่อมวลเนื้อเยื่อของมนุษย์ 1 กรัม

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) เป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 1.0 ซม. จากร่างกายของคุณ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3a (G020F) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.19 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.03 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3a XL (G020B) ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.18 วัตต์/กก. และเมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสมคือ 1.16 วัตต์/กก.

นอกจากนี้ คุณยังดูข้อมูลค่า SAR ได้ในเว็บไซต์ของ DoT/Telecommunication Engineering Centre 

แม้การศึกษาส่วนใหญ่ในห้องปฏิบัติการจะไม่ค้นพบความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการรับสัมผัส
รังสีคลื่นความถี่วิทยุกับสุขภาพ แต่ DoT ก็ได้กำหนดมาตรการป้องกันดังต่อไปนี้ไว้ในขณะที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่

  • ใช้ระบบแฮนด์ฟรีไร้สาย (หูฟัง ชุดหูฟัง) กับตัวจ่ายบลูทูธพลังงานต่ำ
  • ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือมีค่า SAR ต่ำ
  • ถ้าต้องคุยโทรศัพท์นาน ให้ใช้วิธีส่งเป็นข้อความ (SMS) แทน โดยเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นเด็ก วัยรุ่น และสตรีมีครรภ์
  • ใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อคุณภาพสัญญาณดี
  • ผู้ที่มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ฝังไว้ในร่างกายและใช้งานอยู่ควรวางโทรศัพท์มือถือให้ห่างอย่างน้อย 15 ซม. จากอุปกรณ์ดังกล่าว
     

คำแถลงเกี่ยวกับการรีไซเคิล การบริหาร และการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์

Don't put batteries in trash

ในประเทศอินเดีย ป้ายนี้บ่งบอกว่าไม่ควรทิ้งผลิตภัณฑ์นี้ไปพร้อมกับขยะในครัวเรือน แต่ควรนำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้มีการคืนสภาพและการรีไซเคิลได้

Google ขอประกาศว่าโทรศัพท์ได้รับการออกแบบและผลิตโดยสอดคล้องกับกฎ (การจัดการ) ขยะอิเล็กทรอนิกส์ปี 2016 (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "กฎ") และเป็นไปตามข้อกำหนดในกฎข้อ 16 (1) ว่าด้วยการลดการใช้สารที่เป็นอันตรายในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตตามน้ำหนักในวัสดุเนื้อเดียวกัน (ยกเว้นข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในกำหนดการที่ 2)

การจัดการที่ไม่เหมาะสม การกำจัดทิ้ง การแตกหักจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือการรีไซเคิลอย่างไม่เหมาะสมของขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการลุกไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ และการกำจัดของเสียโดยไม่มีการควบคุม ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย/ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งหากทิ้งอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้น้ำ ดิน และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เป็นพิษได้ การกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอันตรายต่อพืช สัตว์ และชีวิตมนุษย์

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ญี่ปุ่น

อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเท่านั้นเมื่อทำงานที่ย่านความถี่ 5 GHz (W52/W53) (ยกเว้นสำหรับการทำงานที่ย่านความถี่ 5.2GHz High ของ Power Data Communication System Base Station หรือ Relay Station) 

5 GHz(W52、W53)周波数帯の場合、端末の使用は屋内のみに制限されます(登録局との通信を除く)
อุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์คลาส B อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์นี้มีไว้สำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นที่อยู่อาศัย
หากใช้งานใกล้กับเครื่องรับวิทยุหรือโทรทัศน์ การรับสัญญาณอาจไม่ดีนัก โปรดทำตามวิธีการในคู่มือการใช้งาน                                                                 VCCI-B   

この装置は、クラスB機器です。この装置は、住宅環境で使用することを目的とし
ていますが、この装置がラジオやテレビジョン受信機に近接して使用されると、受
信障害を引き起こすことがあります。
取扱説明書に従って正しい取り扱いをして下さい。                                           VCCI-B     

Pixel 3a และ Pixel 3a XL (ด้านล่าง) เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับ SAR ของญี่ปุ่นเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 5 มม. จากร่างกายของคุณ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a (G020H) ตามที่รายงานต่อ MIC มีดังนี้

  • 1.18 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.22 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3a XL (G020D) ตามที่รายงานต่อ MIC มีดังนี้

  • 1.02 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.33 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ไต้หวัน

無線射頻暴露
 
以 Pixel 3a (G020F) 而言, SAR標準值2.0W/kg;送測產品實測值為1.09 W/kg
以 Pixel 3a XL (G020B) 而言, SAR標準值2.0W/kg;送測產品實測值為1.13 W/kg 

台灣法規遵循

使用過度恐傷害視力

  1. 使用30分鐘請休息10分鐘。
  2. 未滿2歲幼兒不看螢幕,2歲以上每天看螢幕不要超過1小時

減少電磁波影響,請妥適使用
 
經型式認證合格之低功率射頻電機,非經許可,公司、商號或使用者均不得擅自變更頻率、加大功率或變更原設計之特性及功能。
 
低功率射頻電機之使用不得影響飛航安全及干擾合法通信;經發現有干擾現象時,應立即停用,並改善至無干擾時方得繼續使用。
 
前項合法通信,指依電信法規定作業之無線電通信。低功率射頻電機須忍受合法通信或工業、科學及醫療用電波輻射性電機設備之干擾。

本裝置之使用應避免影響附近雷達系統之操作。
  
Pixel 3a :內建主記憶體硬體容量:64 GB, 使用者可使用主記憶體容量至少:51 GB
Pixel 3a XL:內建主記憶體硬體容量:64 GB, 使用者可使用主記憶體容量至少:51 GB

Taiwan RoHS 

Taiwan RoHS 

Taiwan RoHS

รุ่น:
Pixel 3a:       G020E, G020F, G020G, G020H 
Pixel 3a XL:  G020A, G020B, G020C, G020D
 

ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ

Pixel 3a

ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ ข้อกำหนด - คำอธิบาย ค่า

ข้อมูลตัวเครื่อง/ฮาร์ดแวร์

หน้าจอสัมผัส  อุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัสไหม มี
หากอุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัส หน้าจอนั้นเป็นแบบ Capacitive (บางครั้งเรียกว่าแบบ "ทำงานด้วยความร้อน") หรือไม่ ใช่
การระบุแป้น ผู้ใช้แยกแยะแป้นแต่ละแป้นได้ง่ายไหม ไม่มีข้อมูล – แป้นพิมพ์และแป้นหน้าจอสัมผัส (ยกเว้นปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มปรับระดับเสียง)
แยกแยะแป้นได้อย่างไร - แป้นอยู่แยกกัน ใช้สันแป้นเป็นตัวกำหนด ไม่มีข้อมูล
ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของแป้น ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของแป้นตัวเลขหนึ่งไปยังอีกแป้นหนึ่งคือเท่าใด ไม่มีข้อมูล
รูปแบบแป้นพิมพ์ แป้นกดมีรูปแบบคล้ายกับแป้นเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY มี
ป้ายเข็มกลัดสำหรับห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้อง มีแถบเล็กๆ สำหรับใช้ห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้องคอ (สายคล้อง) ไม่มี
การแยกความแตกต่างของแป้นฟังก์ชันต่างๆ แป้นตัวเลขมีสีหรือรูปร่างแตกต่างกัน ทำให้แยกความแตกต่างด้วยการแตะหรือการมองได้ง่ายขึ้น ไม่มีข้อมูล
รูปร่างของอุปกรณ์ ก. เปลือกหอย/โทรศัพท์แบบฝาพับ
ข. แท่งขนม
ค. ใช้การเลื่อน
ง. ใช้การหมุน
จ. หน้าจอสัมผัส
ฉ. อื่นๆ
ข, จ
ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันที่โทรศัพท์นี้ใช้ Android P
ฟีเจอร์กันลื่น มีการเคลือบกันลื่นหรือสันเครื่องที่ป้องกันไม่ให้ลื่นหลุดจากมือ ไม่มี

ฟีเจอร์ด้านการพกพาได้ง่าย/ความคล่องแคล่วในการใช้งาน

น้ำหนักของตัวเครื่อง น้ำหนักของตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่ 147 กรัม
ใส่แบตเตอรี่ได้ง่าย มีเครื่องหมายบอกทิศทางและตำแหน่งในการใส่แบตเตอรี่อย่างชัดเจน ไม่มีข้อมูล
รองรับโทรศัพท์แบบมีลำโพง ไม่ต้องใช้มือขณะหมุนหมายเลขและหลังจากเริ่มโทร มี
แป้นมีการป้องกัน/แป้นบุ๋มลงไป แต่ละแป้นจะบุ๋มลงไปหรือมีการป้องกันด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อลดโอกาสที่คุณจะกดแป้นผิด ไม่มี
หูฟัง/ชุดหูฟังไร้สาย รองรับหูฟังและชุดหูฟังไร้สาย เช่น ชุดหูฟังบลูทูธ มี
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เป็นเทอร์มินัลแบบสั่งงานด้วยบรรทัดคำสั่ง และยังช่วยให้อุปกรณ์ที่ปรับแต่งทำงานกับโทรศัพท์ได้ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้โดยใช้สิ่งต่อไปนี้  
  • สาย (สายไฟ)
มี
  • สัญญาณอินฟราเรด (ซึ่งเดินทางผ่านอากาศเหมือนคลื่นความถี่วิทยุ แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้)
ไม่มี
  • LAN แบบบลูทูธ/ไร้สาย (สัญญาณวิทยุที่เดินทางผ่านอากาศและอาจเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้ด้วย)
มี
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ นอกเหนือจากที่อธิบายข้างต้น (โปรดอธิบาย): … … … … … …
ไม่มี
มีด้านหลังแบนสำหรับใช้งานบนโต๊ะ มีด้านหลังแบน จึงใช้งานโดยวางราบไปกับพื้นโต๊ะได้ มี
รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ผู้ใช้รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ไม่มี
การเคลื่อนไหวของมือ สำหรับการควบคุมบางอย่าง คุณต้องใช้นิ้วมือบีบหรือบิด หรือหมุนข้อมือ ไม่มี
การรู้จำเสียงสำหรับการกดหมายเลข ช่วยให้กดหมายเลขโดยพูดชื่อของบุคคลได้ ถ้าชื่อนั้นเก็บอยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ("สมุดโทรศัพท์" ส่วนตัวที่คุณสร้างในโทรศัพท์) มี
การรู้จำเสียงสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ ช่วยให้คุณเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ โดยพูดคำสั่งกับโทรศัพท์ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้แป้นกด มี
การรับสายอัตโนมัติ ทำให้โทรศัพท์รับสายโดยอัตโนมัติได้หลังจากส่งเสียงดังถึงจำนวนครั้งที่กำหนด ไม่มี

ฟีเจอร์ด้านการมองเห็น

เครื่องหมายบนแป้นที่รับรู้ได้ด้วยการสัมผัส – "F" และ "J" แป้น "F" และ "J" มีจุดที่ยกสูงขึ้นหรือตุ่ม เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างแป้นต่างๆ ได้ด้วยการสัมผัส (มีเฉพาะในโทรศัพท์ที่มีแป้นกดแบบเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY) ไม่มี
รูปแบบแป้นตัวเลขมาตรฐาน แป้นตัวเลขจัดวางในแบบมาตรฐานโดยมี 1 2 3 ที่ด้านบน และ * 0 # ที่ด้านล่าง มี – หน้าจอสัมผัส
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - รับรู้ด้วยการสัมผัส เมื่อกดแป้น คุณจะรู้สึกว่าแป้นถูกกดลงไปจริงๆ ทำให้ทราบว่าได้กดแป้นแล้ว มี
สำหรับแป้นฮาร์ดแวร์ การตอบสนองแบบรู้สึกได้สำหรับแป้นที่เป็นซอฟต์แวร์
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - ได้ยินเสียง จะมีเสียงดังเมื่อกดแป้น เพื่อให้คุณทราบว่าได้กดแป้นแล้ว มี
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - มีเสียงพูด เมื่อกดแป้นตัวเลข จะมีเสียงพูดบอกตัวเลข เพื่อให้คุณทราบว่ากดแป้นถูกต้องแล้ว ไม่มี (เว้นว่าจะใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ)
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - ฟังก์ชัน เสียงที่คุณได้ยินเมื่อกดแป้นตัวเลขและแป้นฟังก์ชันจะต่างกัน เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างได้ง่าย มี
แบบอักษรที่ปรับได้ - สไตล์ คุณจะเปลี่ยนแบบอักษร (ไทป์เฟซ) ที่ใช้กับข้อความบนจอแสดงผลได้ ซึ่งอาจช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ไม่มี
แบบอักษรที่ปรับได้ - ขนาด คุณทำให้ข้อความบนจอแสดงผลใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ มี
ทางลัดในแบบของคุณ คุณกำหนดฟีเจอร์เฉพาะให้กับการกดแป้นเดียวหรือการกดแป้นติดต่อกันได้ มี
ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมคอนทราสต์ที่ปรับได้ คุณปรับคอนทราสต์ของการแสดงผลได้เพื่อให้เห็นข้อความและสัญลักษณ์ชัดขึ้นบนพื้นหลัง

ไม่มี

มีคอนทราสต์สำหรับการกลับสีและข้อความพร้อมใช้งาน

ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมความสว่างที่ปรับได้ คุณปรับความสว่างของการแสดงผลเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ มี
ลักษณะการแสดงผล - ขนาดจอแสดงผลหลัก ขนาดของจอแสดงผลหลัก 62.1 x 127.65 มม.
ลักษณะการแสดงผล - ความละเอียดของจอแสดงผลหลัก จำนวนจุด (หรือพิกเซล) ที่ใช้แสดงข้อความและรูปภาพบนจอแสดงผลหลัก ยิ่งมีจุดมากก็ยิ่งแสดงรายละเอียดได้มาก 1080 x 2220
ลักษณะการแสดงผล - การแยกความแตกต่างของสี ข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผลไม่อาศัยการรับรู้สีเพื่อทำความเข้าใจ (เช่น คุณไม่จำเป็นต้องแยกสัญลักษณ์สีแดงออกจากสัญลักษณ์สีเขียวได้) มี 
ลักษณะการแสดงผล - สัญลักษณ์/ไอคอน เมนูแสดงได้โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพในรูปแบบตาราง ทำให้ผู้ใช้บางรายเข้าใจหรือจดจำได้ง่ายขึ้น มี
ลักษณะการแสดงผล - หน้าจอสั่นไหว จอแสดงผลหลักไม่สั่นไหวในอัตราที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่เป็นโรคลมชักจากความไวต่อแสงกระตุ้น (ระหว่าง 2 Hz ถึง 60 Hz) มี
ส่งเสียงพูดสำหรับรหัสผู้โทรในรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อคุณรับสาย จะมีเสียงพูดชื่อของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ไม่มี
ส่งเสียงพูดสำหรับ SMS: ที่มีอยู่แล้วภายใน อ่านออกเสียงข้อความให้คุณฟัง มี
เมนูพูดออกเสียง พูดตัวเลือกในเมนู เพื่อให้คุณใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้ แม้ว่าจะไม่สามารถอ่านหน้าจอ

มี

ใช้ TalkBack

คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก เช่น เข้าถึงได้ทางออนไลน์ มี

ฟีเจอร์ด้านการได้ยิน

แจ้งเตือนด้วยการสั่น สามารถตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นเมื่อมีสายหรือข้อความเข้ามา หรือเมื่อมีการแจ้งเตือน มี
แจ้งเตือนด้วยภาพ - สายเรียกเข้า เมื่อมีสายหรือข้อความเข้ามา จะแสดงการแจ้งเตือนด้วยภาพ เช่น ชื่อหรือรูปของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ มี
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่ายมือถือ ให้คุณโทรแบบวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่ายมือถือของคุณ มี
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สาย ให้คุณโทรแบบวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สายของคุณ มี
ชุดหูฟัง - ประเภทปลั๊ก ประเภทของปลั๊กที่ชุดหูฟังต้องใช้เพื่อให้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ 3.5 มม.
ความเขัากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินที่ตั้งค่าไปที่ตำแหน่ง "T" เสียงจะชัดเจนขึ้น มี
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทางเลือก เสียงจะชัดเจนขึ้น ไม่มีข้อมูล
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - MMS ให้คุณส่งและรับข้อความมัลติมีเดียได้ ซึ่งอาจรวมถึงรูปภาพ เสียง และวิดีโอคลิป มี
การปรับเปลี่ยน SMS ในแบบของคุณและการนำมาใช้ใหม่ ให้คุณสร้างข้อความมาตรฐานที่ส่งไปให้ใครก็ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกๆ ครั้ง เช่น "กำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ" มี
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - อีเมล ให้คุณส่งและรับข้อความอีเมลได้ มี
ความสามารถด้านอินเทอร์เน็ต คุณใช้โทรศัพท์เพื่อท่องเว็บและใช้บริการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ตได้ มี
ฟีเจอร์เพิ่มเติมและลักษณะเฉพาะ Google Pixel 3a เป็นอุปกรณ์แบบหน้าจอสัมผัส แต่ก็มีแป้นสัมผัส ซึ่งได้แก่ แป้นเปิด/ปิดเครื่อง และแป้นควบคุมระดับเสียง มี
ฟีเจอร์เสริมและอุปกรณ์เสริม ลักษณะโดยทั่วไปของระบบปฏิบัติการแบบเปิดและฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษคือ ฟีเจอร์บางอย่างมีให้โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android และด้วยเหตุนี้จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและการอัปเกรดในระหว่างช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ มี

Pixel 3a XL

ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ ข้อกำหนด - คำอธิบาย ค่า

ข้อมูลตัวเครื่อง/ฮาร์ดแวร์

หน้าจอสัมผัส  อุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัสไหม มี
หากอุปกรณ์มีหน้าจอสัมผัส หน้าจอนั้นเป็นแบบ Capacitive (บางครั้งเรียกว่าแบบ "ทำงานด้วยความร้อน") หรือไม่ ใช่
การระบุแป้น ผู้ใช้แยกแยะแป้นแต่ละแป้นได้ง่ายไหม ไม่เกี่ยวข้อง – เป็นแป้นพิมพ์และแป้นหน้าจอสัมผัส (ยกเว้นแป้นเปิด/ปิดและแป้นปรับระดับเสียง)
แยกแยะแป้นได้อย่างไร - แป้นอยู่แยกกัน ใช้สันแป้นเป็นตัวกำหนด

ไม่เกี่ยวข้อง

(ยกเว้นกรณีที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ)
 

ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของแป้น ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของแป้นตัวเลขหนึ่งไปยังอีกแป้นหนึ่งคือเท่าใด ไม่เกี่ยวข้อง
รูปแบบแป้นพิมพ์ แป้นกดมีรูปแบบคล้ายกับแป้นเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY มี
ป้ายเข็มกลัดสำหรับห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้อง มีแถบเล็กๆ สำหรับใช้ห้อยพวงกุญแจหรือสายคล้องคอ (สายคล้อง) ไม่มี
การแยกความแตกต่างของแป้นฟังก์ชันต่างๆ แป้นตัวเลขมีสีหรือรูปร่างแตกต่างกัน ทำให้แยกความแตกต่างด้วยการแตะหรือการมองได้ง่ายขึ้น ไม่เกี่ยวข้อง
รูปร่างของอุปกรณ์ ก. เปลือกหอย/โทรศัพท์แบบฝาพับ
ข. แท่งขนม
ค. ใช้การเลื่อน
ง. ใช้การหมุน
จ. หน้าจอสัมผัส
ฉ. อื่นๆ
ข, จ
ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันที่โทรศัพท์นี้ใช้ Android P
ฟีเจอร์กันลื่น มีการเคลือบกันลื่นหรือสันเครื่องที่ป้องกันไม่ให้ลื่นหลุดจากมือ ไม่มี

ฟีเจอร์ด้านการพกพาได้ง่าย/ความคล่องแคล่วในการใช้งาน

น้ำหนักของตัวเครื่อง น้ำหนักของตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่ 167 กรัม
ใส่แบตเตอรี่ได้ง่าย มีเครื่องหมายบอกทิศทางและตำแหน่งในการใส่แบตเตอรี่อย่างชัดเจน ไม่เกี่ยวข้อง
เป็นโทรศัพท์แบบมีลำโพง ไม่ต้องใช้มือขณะหมุนหมายเลขและหลังจากเริ่มโทร มี
แป้นมีการป้องกัน/แป้นบุ๋มลงไป แต่ละแป้นจะบุ๋มลงไปหรือมีการป้องกันด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อลดโอกาสที่คุณจะกดแป้นผิด ไม่มี
หูฟัง/ชุดหูฟังไร้สาย รองรับหูฟังและชุดหูฟังไร้สาย เช่น ชุดหูฟังบลูทูธ มี
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เป็นเทอร์มินัลแบบสั่งงานด้วยบรรทัดคำสั่ง และยังช่วยให้อุปกรณ์ที่ปรับแต่งทำงานกับโทรศัพท์ได้ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยใช้สิ่งต่อไปนี้  
  • สาย (สายไฟ)
มี
  • สัญญาณอินฟราเรด (ซึ่งเดินทางผ่านอากาศเหมือนคลื่นความถี่วิทยุ แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้)
ไม่มี
  • LAN แบบบลูทูธ/ไร้สาย (สัญญาณวิทยุที่เดินทางผ่านอากาศและอาจเดินทางผ่านผนังหรือวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นๆ ได้ด้วย)
มี
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ นอกเหนือจากที่อธิบายข้างต้น (โปรดอธิบาย): … … … … … …
ไม่มี
มีด้านหลังแบนสำหรับใช้งานบนโต๊ะ มีด้านหลังแบน จึงใช้งานโดยวางราบไปกับพื้นโต๊ะได้ มี
รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ผู้ใช้รับสายโดยกดแป้นใดก็ได้ ไม่มี
การเคลื่อนไหวของมือ สำหรับการควบคุมบางอย่าง คุณต้องใช้นิ้วมือบีบหรือบิด หรือหมุนข้อมือ ไม่มี
การรู้จำเสียงสำหรับการกดหมายเลข ช่วยให้กดหมายเลขโดยพูดชื่อของบุคคลได้ ถ้าชื่อนั้นเก็บอยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ ("สมุดโทรศัพท์" ส่วนตัวที่คุณสร้างในโทรศัพท์) มี
การรู้จำเสียงสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ ช่วยให้คุณเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ โดยพูดคำสั่งกับโทรศัพท์ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้แป้นกด มี
การรับสายอัตโนมัติ ทำให้โทรศัพท์รับสายโดยอัตโนมัติได้หลังจากส่งเสียงดังถึงจำนวนครั้งที่กำหนด ไม่มี

ฟีเจอร์ด้านการมองเห็น

เครื่องหมายบนแป้นที่รับรู้ได้ด้วยการสัมผัส – "F" และ "J" แป้น "F" และ "J" มีจุดที่ยกสูงขึ้นหรือตุ่ม เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างแป้นต่างๆ ได้ด้วยการสัมผัส (มีเฉพาะในโทรศัพท์ที่มีแป้นกดแบบเครื่องพิมพ์ดีด QWERTY) ไม่มี
รูปแบบแป้นตัวเลขมาตรฐาน แป้นตัวเลขจัดวางในแบบมาตรฐานโดยมี 1 2 3 ที่ด้านบน และ * 0 # ที่ด้านล่าง มี – แบบหน้าจอสัมผัส
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - รับรู้ด้วยการสัมผัส เมื่อกดแป้น คุณจะรู้สึกว่าแป้นถูกกดลงไปจริงๆ ทำให้ทราบว่าได้กดแป้นแล้ว มี
สำหรับแป้นฮาร์ดแวร์ ระบบสัมผัสสำหรับซอฟต์คีย์
การตอบสนองเมื่อกดแป้น - ได้ยินเสียง จะมีเสียงดังเมื่อกดแป้น เพื่อให้คุณทราบว่าได้กดแป้นแล้ว มี
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - มีเสียงพูด เมื่อกดแป้นตัวเลข จะมีเสียงพูดบอกตัวเลข เพื่อให้คุณทราบว่ากดแป้นถูกต้องแล้ว ไม่มี (ยกเว้นกรณีที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ)
การระบุแป้นแบบส่งเสียง - ฟังก์ชัน เสียงที่คุณได้ยินเมื่อกดแป้นตัวเลขและแป้นฟังก์ชันจะต่างกัน เพื่อให้คุณแยกความแตกต่างได้ง่าย มี
แบบอักษรที่ปรับได้ - สไตล์ คุณเปลี่ยนแบบอักษร (ไทป์เฟซ) ที่ใช้กับข้อความบนจอแสดงผลได้ ซึ่งอาจช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ไม่มี
แบบอักษรที่ปรับได้ - ขนาด คุณทำให้ข้อความบนจอแสดงผลใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ มี
ทางลัดในแบบของคุณ คุณกำหนดฟีเจอร์เฉพาะให้กับการกดแป้นเดียวหรือการกดแป้นติดต่อกันได้ มี
ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมคอนทราสต์ที่ปรับได้ คุณปรับคอนทราสต์ของการแสดงผลเพื่อให้เห็นข้อความและสัญลักษณ์ชัดขึ้นบนพื้นหลังได้

ไม่มี

มีคอนทราสต์สำหรับข้อความและการกลับสีให้ใช้งาน

ลักษณะการแสดงผล - การควบคุมความสว่างที่ปรับได้ คุณปรับความสว่างของการแสดงผลเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นได้ มี
ลักษณะการแสดงผล - ขนาดจอแสดงผลหลัก ขนาดของจอแสดงผลหลัก 68.26 x 136.5 มม.
ลักษณะการแสดงผล - ความละเอียดของจอแสดงผลหลัก จำนวนจุด (หรือพิกเซล) ที่ใช้แสดงข้อความและรูปภาพบนจอแสดงผลหลัก ยิ่งมีจุดมาก ก็ยิ่งแสดงรายละเอียดได้มาก 1080 x 2160
ลักษณะการแสดงผล - การแยกความแตกต่างของสี ข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผลไม่อาศัยการรับรู้สีเพื่อทำความเข้าใจ (เช่น คุณไม่จำเป็นต้องแยกสัญลักษณ์สีแดงออกจากสัญลักษณ์สีเขียวได้) มี 
ลักษณะการแสดงผล - สัญลักษณ์/ไอคอน เมนูแสดงได้โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพในรูปแบบตาราง ทำให้ผู้ใช้บางรายเข้าใจหรือจดจำได้ง่ายขึ้น มี
ลักษณะการแสดงผล - หน้าจอสั่นไหว จอแสดงผลหลักไม่สั่นไหวในอัตราที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่เป็นโรคลมชักจากความไวต่อแสงกระตุ้น (ระหว่าง 2 Hz ถึง 60 Hz) มี
ส่งเสียงพูดสำหรับรหัสผู้โทรในรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อคุณรับสาย จะมีเสียงพูดชื่อของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ ไม่มี
ส่งเสียงพูดสำหรับ SMS: ที่มีอยู่แล้วภายใน อ่านออกเสียงข้อความให้คุณฟัง มี
เมนูพูดออกเสียง พูดตัวเลือกในเมนู เพื่อให้คุณใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้ แม้ว่าจะอ่านหน้าจอไม่ได้

มี

ใช้ TalkBack

คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก คู่มือผู้ใช้มีรูปแบบที่เป็นทางเลือก เช่น เข้าถึงได้ทางออนไลน์ มี

ฟีเจอร์ด้านการได้ยิน

แจ้งเตือนด้วยการสั่น ตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นเมื่อมีสายหรือข้อความเข้ามา หรือเมื่อมีการแจ้งเตือนได้ มี
แจ้งเตือนด้วยภาพ - สายเรียกเข้า เมื่อมีสายหรือข้อความเข้ามา จะแสดงการแจ้งเตือนด้วยภาพ เช่น ชื่อหรือรูปของผู้โทร ถ้ามีข้อมูลเก็บอยู่ในรายชื่อติดต่อ มี
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่ายมือถือ ให้คุณโทรแบบวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่ายมือถือของคุณ มี
การสื่อสารด้วยวิดีโอแบบ 2 ทาง - โดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สาย ให้คุณโทรแบบวิดีโอคอลได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต่างเห็นซึ่งกันและกันโดยใช้เครือข่าย LAN แบบไร้สายของคุณ มี
ชุดหูฟัง - ประเภทปลั๊ก ประเภทของปลั๊กที่ชุดหูฟังต้องใช้เพื่อให้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ 3.5 มม.
ความเขัากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินที่ตั้งค่าไปที่ตำแหน่ง "T" เสียงจะชัดเจนขึ้น มี
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับเครื่องช่วยการได้ยิน เมื่อใช้กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทางเลือก เสียงจะชัดเจนขึ้น ไม่เกี่ยวข้อง
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - MMS ให้คุณส่งและรับข้อความมัลติมีเดียได้ ซึ่งอาจรวมถึงรูปภาพ เสียง และวิดีโอคลิป มี
การปรับเปลี่ยน SMS ในแบบของคุณและการนำมาใช้ใหม่ ให้คุณสร้างข้อความมาตรฐานที่ส่งไปให้ใครก็ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกๆ ครั้ง เช่น "กำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ" มี
ตัวเลือกการรับส่งข้อความ - อีเมล ให้คุณส่งและรับข้อความอีเมลได้ มี
ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณใช้โทรศัพท์เพื่อท่องเว็บและใช้บริการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ตได้ มี
ฟีเจอร์เพิ่มเติมและลักษณะเฉพาะ Google Pixel 3a XL เป็นอุปกรณ์แบบหน้าจอสัมผัส แต่ก็มีแป้นสัมผัส ซึ่งได้แก่ แป้นเปิด/ปิดเครื่อง และแป้นควบคุมระดับเสียง มี
ฟีเจอร์เสริมและอุปกรณ์เสริม ลักษณะโดยทั่วไปของระบบปฏิบัติการแบบเปิดและฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษคือ ฟีเจอร์บางอย่างมีให้โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android และด้วยเหตุนี้จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและการอัปเกรดในระหว่างช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ มี
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
287763645822301967
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
1634144
false
false