คู่มือด้านความปลอดภัยและกฎข้อบังคับ (Pixel 3 และ Pixel 3 XL 2018)

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำเตือนด้านความปลอดภัย

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

สหรัฐอเมริกา

แคนาดา

สหภาพยุโรป

สิงคโปร์

ออสเตรเลีย

อินเดีย

ญี่ปุ่น

ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

คำแนะนำโดยละเอียดนี้ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในเอกสารความปลอดภัยและการรับประกันที่มาพร้อมกับ Pixel 3 และ Pixel 3 XL และยังประกอบด้วยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัย กฎข้อบังคับ และการรับประกันของ Pixel 3 และ Pixel 3 XL อีกด้วย

  • ดูข้อมูลด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกฎข้อบังคับได้ที่ g.co/PixelSafetyInfo 
  • ดูรายละเอียดการรับประกันสำหรับประเทศที่คุณซื้อ รวมถึงวิธีเคลมประกันได้ที่ g.co/PixelPhoneWarranty
  • ดูป้ายกำกับกฎข้อบังคับอิเล็กทรอนิกส์และค่าอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) ของอุปกรณ์ได้โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ
  • ดูความช่วยเหลือออนไลน์ที่ครอบคลุมได้ที่ g.co/pixelcare

คำเตือนด้านความปลอดภัย

คำเตือน คำเตือน: ข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัย โปรดอ่านก่อนใช้งานเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บเสียหายส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงความเสียหายต่อโทรศัพท์และอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

โปรดปฏิบัติตามข้อควรระวังด้านล่างนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อโทรศัพท์ รวมถึงอุปกรณ์เสริม หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อใดๆ และเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บเสียหายส่วนบุคคล ความรู้สึกไม่สบาย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรืออันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การใช้งาน

โปรดใช้โทรศัพท์อย่างระมัดระวัง คุณอาจทำให้อุปกรณ์หรือแบตเตอรี่เสียหายหากถอดแยกชิ้นส่วน ทำตก บิดงอ เผา บดอัด หรือเจาะ อย่าใช้อุปกรณ์ที่หน้าจอหรือฝาหลังแตกร้าว การใช้อุปกรณ์ที่เสียหายอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปหรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บ อย่าให้โทรศัพท์โดนของเหลว เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องร้อนเกินไป  หากโทรศัพท์เปียก อย่าพยายามทำให้แห้งด้วยแหล่งความร้อนภายนอก 

โทรศัพท์เครื่องนี้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ดีที่สุดในอุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง 32° ถึง 95° F (0° และ 35° C) และควรจัดเก็บที่อุณหภูมิแวดล้อมระหว่าง -4° ถึง 113° F (-20° ถึง 45° C) อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในที่ที่อาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 113° F (45° C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์หรือใกล้ช่องระบายความร้อน เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย แบตเตอรี่ร้อนเกินไป หรือเสี่ยงต่อการลุกไหม้  เก็บโทรศัพท์ให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง หากอุปกรณ์เริ่มร้อนเกินไป ให้ถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟหากเสียบอยู่ นำอุปกรณ์ไปไว้ในที่ที่เย็นลง และไม่ใช้อุปกรณ์จนกว่าเครื่องจะเย็น

การใช้งานโทรศัพท์ในบางโหมด เช่น การเล่นเกม การถ่ายวิดีโอ การใช้การตั้งค่าไฟฉาย หรือ VR อาจทำให้เครื่องร้อนมากกว่าสภาวะการทำงานปกติ และนำไปสู่การทำงานในโหมดลดพลังงานหรือดับไปชั่วคราว โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้อุปกรณ์ในโหมดดังกล่าว

โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและอย่าใช้โทรศัพท์หากโทรศัพท์ยังทำงานไม่ถูกต้องหรือได้รับความเสียหาย g.co/pixelcare

การชาร์จ

โปรดดูแลให้อะแดปเตอร์และ Pixel 3 หรือ Pixel 3 XL มีอากาศถ่ายเทเมื่อใช้งานหรือขณะชาร์จ การใช้สายไฟหรืออะแดปเตอร์ที่ชำรุด หรือการชาร์จไฟเมื่อมีความชื้นอาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์หรือทรัพย์สินอื่นๆ  เมื่อชาร์จโทรศัพท์ ให้เสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้ารับที่อยู่ใกล้กับโทรศัพท์และเข้าถึงได้ง่าย หลีกเลี่ยงการชาร์จอุปกรณ์ในที่ที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ผลิตภัณฑ์นี้มีไว้สำหรับใช้กับแหล่งพลังงานแบบจำกัด (LPS) ที่ได้รับการรับรองตามการจัดประเภทของ IEC 60950-1 และมีแรงดันไฟ DC 5 โวลต์ กระแสไฟสูงสุด 3 แอมแปร์ หรือ DC 9 โวลต์ กระแสไฟฟ้าสูงสุด 2 แอมแปร์ หรือทั้งสองอย่าง  อุปกรณ์นี้จะต้องใช้กับอะแดปเตอร์ AC ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดใบรับรองของ CTIA ด้านการปฏิบัติตามระบบแบตเตอรี่มาตรฐาน IEEE 1725 อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ AC ที่มีการรับรองที่เหมาะสม

โปรดชาร์จโทรศัพท์ด้วยอะแดปเตอร์และสายไฟที่ให้มา หรืออุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันได้และมีจำหน่ายใน Google Store เท่านั้น การใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จที่เข้ากันไม่ได้อาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ ไฟช็อต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายกับโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

เมื่อถอดอะแดปเตอร์จากเต้าเสียบ ให้ดึงที่อะแดปเตอร์ ห้ามดึงสายไฟ  อย่าบิดหรือบีบสาย USB และอย่าพยายามเสียบเครื่องมือเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตที่ใช้ด้วยกันไม่ได้

คุณชาร์จโทรศัพท์โดยใช้ที่ชาร์จไร้สายซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Qi หรือที่ Google อนุมัติได้  อย่าวางวัตถุแปลกปลอมที่เป็นโลหะหรือแม่เหล็กไว้ระหว่างที่ชาร์จกับโทรศัพท์ เพราะอาจทำให้วัตถุแปลกปลอมเกิดความร้อนหรืออุปกรณ์มีปัญหาในการชาร์จ  ตัวอย่างวัตถุดังกล่าว ได้แก่ เหรียญ เครื่องประดับ และบัตรเครดิต  หากใช้เคสโทรศัพท์ที่เป็นโลหะหรือแม่เหล็ก ให้ถอดเคสออกก่อนที่จะชาร์จแบบไร้สาย เพราะเคสอาจทำให้อุปกรณ์หรือที่ชาร์จร้อนเกินไปหรืออุปกรณ์มีปัญหาในการชาร์จ

การได้รับความร้อนเป็นเวลานาน

โทรศัพท์และที่ชาร์จจะมีความร้อนในระหว่างการทำงานตามปกติ และเป็นไปตามมาตรฐานและขีดจำกัดด้านอุณหภูมิพื้นผิวที่เกี่ยวข้อง โปรดหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงหรือโดยอ้อมเป็นเวลานานเมื่อใช้หรือชาร์จอุปกรณ์อยู่ เพราะผิวหนังที่สัมผัสกับพื้นผิวร้อนๆ เป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือผิวหนังไหม้ อย่านอนทับอุปกรณ์หรืออะแดปเตอร์ หรือวางอุปกรณ์ไว้ใต้ผ้าห่มหรือหมอน โปรดตระหนักถึงปัญหานี้หากคุณมีอาการทางร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถในการรู้สึกถึงความร้อนบนผิวหนัง  

การปกป้องการได้ยิน

การฟังเสียงดังเป็นเวลานาน (รวมถึงเพลง) อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบการได้ยินที่อาจเกิดขึ้น โปรดหลีกเลี่ยงการฟังเสียงดังเป็นเวลานาน การฟังเสียงดังและเสียงรบกวนในพื้นหลังต่อเนื่องนานๆ อาจทำให้คุ้นเคยกับระดับเสียงและไม่รู้สึกว่าเสียงดัง โปรดตรวจสอบระดับเสียงก่อนใช้หูฟังหรือชุดหูฟัง

การปกป้องการได้ยิน

แบตเตอรี่

โทรศัพท์นี้มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีความไวสูงและอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บเมื่อชำรุด อย่าพยายามถอดแบตเตอรี่เอง โปรดติดต่อ Google หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Google หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ การเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองอาจทำให้โทรศัพท์เสียหาย การใช้งานแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ การระเบิด การรั่วไหล หรืออันตรายอื่นๆ หากแบตเตอรี่เกิดการรั่วไหล ห้ามมิให้ของเหลวที่รั่วไหลออกมาสัมผัสกับดวงตา ผิวหนัง หรือเสื้อผ้า หากของเหลวสัมผัสกับดวงตา ห้ามขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันทีและปรึกษาแพทย์ กำจัดโทรศัพท์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมทิ้งตามระเบียบข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น อย่าทิ้งอุปกรณ์เหล่านี้รวมกับขยะในครัวเรือนทั่วไป เพราะการกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ อย่าเปิด ทุบ ทำให้ร้อนเกิน 45 ̊C (113 ̊F) หรือเผา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไซเคิลโทรศัพท์ได้ที่ g.co/PixelRecyclingInfo

ข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม

ห้ามใช้หรือเก็บอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมไว้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน ความชื้น หรือสิ่งสกปรก หรืออยู่ใกล้กับสนามแม่เหล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนหรือวงจรภายในของโทรศัพท์  เก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อนและการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง อย่าวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในยานพาหนะหรือในสถานที่ที่อุณหภูมิอาจสูงเกิน 113° F (45° C) เช่น บนแผงหน้าปัดรถยนต์ ขอบหน้าต่าง ใกล้ช่องระบายความร้อน หรือหลังกระจกที่โดนแสงแดดโดยตรงหรือแสงอัลตราไวโอเลตที่เข้มข้นเป็นระยะเวลานาน  เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนมากเกินไป
หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือการระเบิด

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการระเบิด

อย่าใช้ จัดเก็บ หรือขนส่งโทรศัพท์ในสถานที่จัดเก็บวัตถุไวไฟหรือวัตถุระเบิด (ในสถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน หรือโรงงานเคมี เป็นต้น) อย่าใช้โทรศัพท์ในสถานที่ที่กำลังมีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการระเบิดหรือในสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดการระเบิดได้ เช่น พื้นที่เติมน้ำมัน คลังเก็บเชื้อเพลิง ใต้ดาดฟ้าเรือ สถานที่ถ่ายโอนหรือจัดเก็บน้ำมันหรือสารเคมี และบริเวณที่ในอากาศมีสารเคมีหรืออนุภาค เช่น เม็ด ฝุ่น หรือผงโลหะ ประกายไฟในพื้นที่ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต โปรดปฏิบัติตามประกาศและป้ายต่างๆ ที่ระบุว่าอาจมีอันตรายเหล่านี้เกิดขึ้นได้

การนำทาง  

อุปกรณ์นี้อาจมีบริการแผนที่และการนำทางรวมอยู่ด้วย  บริการเหล่านี้ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและบริการตำแหน่งที่ใช้งานได้ ซึ่งอาจไม่พร้อมใช้งานในบางครั้ง  แผนที่และเส้นทางอาจไม่แม่นยำ  โปรดตรวจสอบเส้นทางอย่างถี่ถ้วน ใช้วิจารณญาณ และปฏิบัติตามกฎหมายและป้ายจราจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

สภาวะจริง การยอมรับความเสี่ยง 

เมื่อใช้ข้อมูลแผนที่ การจราจร เส้นทาง และเนื้อหาอื่นๆ ของ Google Maps/Google Earth คุณอาจพบว่าสภาวะจริงต่างจากผลลัพธ์และเนื้อหาในแผนที่ โปรดใช้วิจารณญาณและรับผิดชอบต่อความเสี่ยงจากการใช้ Google Maps/Google Earth ที่อาจเกิดขึ้น คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินการของคุณและผลที่ตามมาเสมอ

การรบกวนสมาธิ

การใช้อุปกรณ์ขณะทำกิจกรรมบางอย่างอาจรบกวนสมาธิของคุณ และอาจก่อให้เกิดสถานการณ์อันตรายกับตัวคุณเองและผู้อื่น อย่าใช้อุปกรณ์ขณะขับรถ ปั่นจักรยาน ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่อาจส่งผลร้ายแรงตามมา เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ (และเนื่องจากกฎหมายในหลายประเทศมีข้อห้ามไว้) โปรดปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ หูฟัง และหมวกกันน็อก 

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

โปรดปฏิบัติตามกฎที่ห้ามการใช้เทคโนโลยีไร้สาย (เช่น สัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi)  อุปกรณ์นี้ออกแบบมาให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้านการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ แต่การใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ  เช่น ในขณะโดยสารเครื่องบินหรือก่อนขึ้นเครื่อง ให้ใช้อุปกรณ์ไร้สายตามคำแนะนำจากสายการบินเท่านั้น การใช้อุปกรณ์ไร้สายในเครื่องบินอาจรบกวนเครือข่ายไร้สาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อการบังคับควบคุมเครื่องบิน หรือผิดกฎหมาย คุณอาจใช้โทรศัพท์ได้ หากอยู่ในโหมดบนเครื่องบิน

การรบกวนอุปกรณ์การแพทย์

อุปกรณ์นี้ใช้วิทยุและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ปล่อยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและมีแม่เหล็ก สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและแม่เหล็กดังกล่าวอาจรบกวนเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ และอุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง วางโทรศัพท์และที่ชาร์จให้อยู่ห่างผิวหนังส่วนที่อยู่ใกล้เครื่องกระตุ้นหัวใจเป็นระยะมากกว่า 15 ซม. (6 นิ้ว) เสมอ ถือโทรศัพท์ไว้คนละด้านกับเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง  ห้ามพกโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าที่ใกล้กับเครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง  หากมีคำถามเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ Google กับหรือใกล้เครื่องกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ปลูกถ่ายอื่นๆ หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง โปรดปรึกษาผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ หากคุณสงสัยว่าอุปกรณ์รบกวนการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์การแพทย์ ให้ปิดอุปกรณ์และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ของคุณ

โรงพยาบาล

ปิดอุปกรณ์ไร้สายเมื่อมีผู้ขอความร่วมมือที่โรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาล ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการรบกวนอุปกรณ์การแพทย์

ความปลอดภัยของเด็ก

โทรศัพท์มี (หรือมาพร้อมกับ) ชิ้นส่วนขนาดเล็ก องค์ประกอบที่เป็นพลาสติก และชิ้นส่วนขอบคมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรืออันตรายจากการสำลัก  สายชาร์จอาจทำให้เกิดอันตรายกับเด็กเล็กจากการบีบรัดคอจนหายใจไม่ออก  อย่าวางโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมไว้ใกล้มือเด็กเล็กหรือปล่อยให้เด็กเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะเด็กอาจจะทำให้ตนเองหรือบุคคลอื่นบาดเจ็บหรืออาจทำให้โทรศัพท์เสียหายโดยไม่ตั้งใจได้  ให้พบแพทย์ทันทีหากมีการกลืนกินชิ้นส่วนขนาดเล็กเข้าไป

การสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน

อุปกรณ์นี้ทำงานโดยใช้สัญญาณวิทยุและอาจเริ่มหรือรักษาการเชื่อมต่อไม่ได้ในบางสภาวะ อุปกรณ์ไร้สายอาจใช้สื่อสารในกรณีฉุกเฉินไม่ได้ แม้ว่าเขตอำนาจศาลบางแห่งจะส่งข้อมูลสำหรับกรณีฉุกเฉินผ่านระบบไร้สาย แต่อุปกรณ์ของคุณอาจไม่ได้รับการสื่อสารเหล่านี้ในบางครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อเครือข่าย

ฟังก์ชันเกี่ยวกับสุขภาพ

โทรศัพท์และฟังก์ชันแอปพลิเคชันการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์และมีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ออกแบบหรือมีเจตนาเพื่อใช้วินิจฉัยโรคหรืออาการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อเยียวยา ติดตามผล บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค

การดูแลและการใช้งานที่เหมาะสม

ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้เมื่อใช้ จัดเก็บ ทำความสะอาด หรือกำจัดโทรศัพท์

อุณหภูมิในการทำงาน

อย่าใช้หรือชาร์จโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิโดยรอบต่ำกว่า 0°C (32°F) หรือสูงกว่า 35°C (95°F) หากอุณหภูมิภายในอุปกรณ์สูงกว่าอุณหภูมิปกติขณะใช้งาน คุณอาจพบลักษณะการทำงานต่อไปนี้ขณะที่อุปกรณ์พยายามปรับอุณหภูมิ ซึ่งได้แก่ ประสิทธิภาพการทำงานและการเชื่อมต่อลดลง ชาร์จไม่เข้า หรือปิดจอแสดงผลหรือเครื่อง คุณอาจใช้โทรศัพท์ขณะที่เครื่องกำลังปรับอุณหภูมิไม่ได้ ให้ย้ายโทรศัพท์ไปไว้ยังจุดที่เย็นขึ้น (หรืออุ่นขึ้น) แล้วรอสักครู่ก่อนที่จะลองใช้อีกครั้ง  

การดูแลและการทำความสะอาด

โปรดถอดปลั๊กอุปกรณ์และอะแดปเตอร์ออกก่อนที่จะทำความสะอาด ในระหว่างที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หรือเมื่อไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลานานๆ หลีกเลี่ยงตัวทำละลายและสารกัดเซาะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวของผลิตภัณฑ์  การสัมผัสกับเครื่องสำอาง สารเคมี และวัตถุที่มีการย้อมสี เช่น ผ้ายีนส์ อาจทำให้เคสโทรศัพท์สีอ่อนเป็นรอยด่าง  ให้ใช้ผ้าสะอาด นุ่ม และแห้งหรือเปียกหมาดๆ ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม  อย่าใช้สารซักฟอก ผงซักฟอก หรือสารเคมีอื่นๆ (เช่น แอลกอฮอล์หรือเบนซิน) ในการทำความสะอาดโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริม อย่าทำความสะอาดอุปกรณ์ขณะชาร์จไฟอยู่

การกันน้ำซึมเข้าเครื่อง 

อุปกรณ์นี้กันน้ำซึมเข้าเครื่องได้แต่ไม่กันน้ำทั้งหมด โทรศัพท์ Pixel 3 หรือ Pixel 3 XL กันน้ำได้ในระดับ IPX8 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ระดับการกันน้ำอาจลดลงจากการสึกหรอตามปกติหรือความเสียหายที่เกิดกับโทรศัพท์ ที่ชาร์จโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อาจไม่กันน้ำ อย่าชาร์จไฟขณะอุปกรณ์เปียก

สนามแม่เหล็ก

หลีกเลี่ยงการวางสื่อใดๆ ที่มีแม่เหล็กหรือไวต่อคลื่นแม่เหล็ก เช่น บัตรเครดิต บัตรที่ธนาคารออกให้ เทปเสียง/วิดีโอ หรืออุปกรณ์หน่วยความจำที่มีแม่เหล็ก ไว้ใกล้กับผลิตภัณฑ์นี้ ที่ชาร์จ หรือสายชาร์จเพราะคุณอาจสูญเสียข้อมูลที่เก็บไว้ในสื่อเหล่านั้น ควรเก็บสื่อที่มีข้อมูลซึ่งไวต่อแม่เหล็กให้ห่างจากโทรศัพท์นี้อย่างน้อย 5 ซม. (2 นิ้ว)

การเข้าสู่ร่างกายของพลังงานความถี่วิทยุ

อุปกรณ์ไร้สายของคุณจะปล่อยพลังงานความถี่วิทยุ (RF) ในระหว่างการใช้งาน เช่นเดียวกับโทรศัพท์อื่นๆ ทั้งนี้ตามข้อมูลของคณะกรรมการสากลด้านการป้องกันการแผ่กัมมันตรังสีประเภทไม่ก่อไอออน (International Commission on Non-Ionizing Radiation Protection หรือ ICNIRP) ผลกระทบที่สำคัญจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์คือการทำให้เนื้อเยื่อที่สัมผัสนั้นเกิดความร้อนขึ้น 

ตามข้อมูลของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communications Commission หรือ FCC) "กลุ่มผลประโยชน์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยบางกลุ่มได้ตีความรายงานบางฉบับเพื่อให้คำแนะนำว่าการใช้อุปกรณ์ไร้สายอาจเชื่อมโยงไปสู่โรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีความเสี่ยงในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าข้อวินิจฉัยเหล่านี้ทำให้ผู้คนหันมาสนใจเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะสร้างการเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลระหว่างการใช้อุปกรณ์ไร้สายกับโรคมะเร็งหรือโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ในขณะนี้"

อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสเกินกว่าระดับหนึ่ง (เรียกว่าเกณฑ์) ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสัมผัส การสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุและการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิที่เกิดร่วมด้วยอาจกระตุ้นให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เช่น การเกิดลมแดดและความเสียหายของเนื้อเยื่อ (ถูกเผาไหม้) ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดจากการสัมผัสคลื่นความถี่วิทยุในระดับสูง จึงมีการกำหนดขีดจำกัดโดยสัมพันธ์กับเกณฑ์ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะแสดงผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ โดยเพิ่มตัวคูณลดเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนทางวิทยาศาสตร์ โดยทั่วไปแล้วขีดจำกัดเหล่านี้จะแสดงด้วยอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) SAR คือการวัดอัตราการดูดกลืนพลังงานของความถี่วิทยุในร่างกาย การทดสอบหา SAR ทำได้โดยการส่งคลื่นความถี่วิทยุผ่านโทรศัพท์ด้วยระดับพลังงานสูงสุดในแถบคลื่นความถี่ที่ทดสอบทั้งหมด ข้อจำกัด SAR ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดย FCC ในสหรัฐอเมริกา และจากนั้นได้มีการนำไปใช้ในประเทศอื่นๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAR ได้ที่หน้าเว็บต่อไปนี้

  • fcc.gov
  • icnirp.org
  • ec.europa.eu


Pixel 3 และ Pixel 3 XL ผ่านการทดสอบและรับรองว่าปล่อยคลื่นความถี่วิทยุไม่เกินขีดจำกัดของ SAR ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย และไต้หวัน  ดูค่า SAR ที่เขตอำนาจศาลแต่ละแห่งกำหนดไว้ได้ในโทรศัพท์ โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ

บริการและการสนับสนุน

ดูความช่วยเหลือและการสนับสนุนออนไลน์ได้ที่ g.co/PixelCare หากส่งโทรศัพท์มาซ่อม คุณอาจได้รับโทรศัพท์เปลี่ยนทดแทน (แทนโทรศัพท์เครื่องเดิม)

ข้อมูลกฎข้อบังคับ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับกฎข้อบังคับ ใบรับรอง และเครื่องหมายการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Pixel 3/Pixel 3 XL ได้ในอุปกรณ์โดยไปที่การตั้งค่า แล้ว เกี่ยวกับโทรศัพท์ แล้ว ป้ายกำกับกฎข้อบังคับ หรือที่ด้านหลังอุปกรณ์

ประกาศการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EMC

ข้อมูลสำคัญ: อุปกรณ์เครื่องนี้ อะแดปเตอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ภายใต้เงื่อนไขที่รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ คุณต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็นไปตามข้อกำหนดและสายไฟที่มีฉนวนป้องกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ เพื่อลดโอกาสของการรบกวนวิทยุ โทรทัศน์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหรัฐอเมริกา

การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่บังคับควบคุมของ FCC

หมายเหตุ: อุปกรณ์นี้ได้รับการทดสอบแล้วและพบว่ามีคุณสมบัติสอดคล้องกับขีดจำกัดสำหรับอุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B ตามบทที่ 15 ของกฎ FCC ขีดจำกัดเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบการปกป้องที่สมเหตุสมผลจากสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายจากการติดตั้งในที่พักอาศัย อุปกรณ์นี้จะสร้าง ใช้งาน และอาจสร้างพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ ซึ่งหากไม่ได้ติดตั้งและใช้งานตามวิธีการ อาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการสื่อสารทางวิทยุได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าการรบกวนจะไม่เกิดขึ้นในระหว่างการติดตั้ง  หากอุปกรณ์นี้ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการรับคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ ซึ่งตรวจสอบได้โดยการเปิดและปิดอุปกรณ์ ขอแนะนำให้ผู้ใช้พยายามแก้ไขสัญญาณรบกวนดังกล่าวตามวิธีต่อไปนี้

  • ปรับทิศทางหรือย้ายเสาอากาศรับสัญญาณ
  • เพิ่มระยะห่างระหว่างอุปกรณ์และเครื่องรับ
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับเต้ารับในวงจรที่ต่างจากวงจรที่ใช้เชื่อมต่อเครื่องรับ
  • ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายหรือช่างวิทยุ/โทรทัศน์ที่มีประสบการณ์เพื่อขอความช่วยเหลือ

การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจทำให้สิทธิ์ในการใช้งานอุปกรณ์ของคุณเป็นโมฆะ

อุปกรณ์นี้เป็นไปตามบทที่ 15 ของกฎ FCC การทำงานต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้

  1. อุปกรณ์นี้จะต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตราย
  2. อุปกรณ์นี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวนที่ได้รับ รวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่พึงประสงค์

การรับคลื่นความถี่วิทยุ 

อุปกรณ์นี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารแห่งสหรัฐอเมริกา (FCC) เรื่องการรับคลื่นวิทยุ โดยออกแบบและผลิตมาเพื่อไม่ให้ปล่อยคลื่นวิทยุเกินข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ของ FCC เพื่อให้เป็นไปตามการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการรับ RF ของ FCC การใช้งานใกล้กับร่างกายจะจำกัดไว้ที่คลิปหนีบกับเข็มขัดหรืออุปกรณ์เสริมที่คล้ายกันที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นโลหะ และตัวผู้ใช้ต้องอยู่ห่างจากอุปกรณ์ (รวมถึงสายอากาศ) อย่างน้อย 10 มม.  

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)  

อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุที่กำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (สหรัฐอเมริกา)

ขีดจำกัดของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) ที่สหรัฐฯ ใช้คือ 1.6 วัตต์/กก. โดยเฉลี่ยต่อเนื้อเยื่อ 1 กรัม ค่า SAR สูงสุดที่รายงานไปยัง FCC สำหรับประเภทอุปกรณ์นี้เป็นไปตามขีดจำกัดดังกล่าว  Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือในระยะ 1.0 ซม. (0.4 นิ้ว) จากร่างกาย  ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.34 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.34 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 XL ตามที่รายงานต่อ FCC มีดังนี้

  • 1.35 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.35 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน (HAC)    

Pixel 3 และ Pixel 3 XL ได้รับการประเมินและรับรองว่าเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินตามข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิค ANSI C63.19-2011 ความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินมีการวัด 2 รูปแบบ ดังนี้
อัตรา M ซึ่งเป็นหน่วยวัดความปลอดภัยจากการรบกวนโดยคลื่นความถี่วิทยุสำหรับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อทางเสียง และอัตรา T ซึ่งเป็นหน่วยวัดประสิทธิภาพการทำงานเมื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินแบบใช้ตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ (เทเลคอยล์)

อุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินจาก Google มีการจัดระดับดังนี้

  • Pixel 3              M3/T3
  • Pixel 3 XL        M3/T3

ตามกฎ FCC นั้น โทรศัพท์มือถือจะได้รับการพิจารณาว่ามีความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยินหากได้รับคะแนนในระดับ M3 หรือ M4 สำหรับตัวคู่ต่อทางเสียงหรือ T3 หรือ T4 สำหรับตัวคู่ต่อแบบเหนี่ยวนำ

Pixel 3 และ Pixel 3 XL ได้รับการทดสอบและจัดระดับเพื่อใช้กับเครื่องช่วยการได้ยินสำหรับเทคโนโลยีไร้สายบางอย่างที่โทรศัพท์ใช้ สิ่งสำคัญคือต้องลองใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของโทรศัพท์รุ่นนี้อย่างละเอียดและในหลากหลายสถานที่โดยใช้เครื่องช่วยการได้ยินหรือประสาทหูเทียม เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ยินเสียงรบกวนหรือไม่ ปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือ Google เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายการส่งคืนหรือการแลกเปลี่ยน โปรดปรึกษาผู้ให้บริการของคุณหรือผู้จำหน่ายโทรศัพท์

อุปกรณ์ของ Google เป็นไปตามข้อกำหนดความเข้ากันได้กับเครื่องช่วยการได้ยิน (HAC) ของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC)

การรีไซเคิล

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลในสหรัฐฯ ได้ที่ g.co/HWRecyclingProgram

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: แคนาดา

การพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ (ISED) แห่งแคนาดา คลาส B

อุปกรณ์ดิจิทัลคลาส B นี้สอดคล้องกับ Canadian ICES-003.CAN ICES-3(B)/NMB-3(B)

Cet appareil numérique de la classe B est conforme à la norme NMB-003 du Canada.

ประกาศ: ระเบียบข้อบังคับของ ISED แคนาดากำหนดไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไขที่ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้งจาก Google อาจส่งผลให้สิทธิ์การใช้งานอุปกรณ์เครื่องนี้เป็นโมฆะ

ประกาศของการพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ (ISED) แห่งแคนาดา

Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามมาตรฐาน RSS ที่ได้รับการยกเว้นใบรับรองของการพัฒนานวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจแห่งแคนาดา (ISED หรือ IC) การทำงานจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 2 ประการดังนี้ (1) อุปกรณ์เครื่องนี้ต้องไม่ก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน และ (2) อุปกรณ์เครื่องนี้ต้องยอมรับสัญญาณรบกวน ซึ่งรวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจทำให้อุปกรณ์ทำงานไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย

Le présent appareil est conforme aux CNR d'Industrie Canada applicables aux appareils radio 
exempts de licence. L'exploitation est autorisée aux deux conditions suivantes: 
(1) l'appareil ne doit pas produire de brouillage, et 
(2) l'utilisateur de l'appareil doit accepter tout brouillage radioélectrique subi, même si le brouillage est susceptible d'en compromettre le fonctionnement.

อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยย่านความถี่ 5150–5250 MHz จะใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

les dispositifs fonctionnant dans la bande de 5 150 à 5 250 MHz sont réservés uniquement pour une utilisation à l’intérieur afin de réduire les risques de brouillage préjudiciable aux systèmes de satellites mobiles utilisant les mêmes canaux
 

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)     

ความแรงของสัญญาณที่แผ่ออกมาของ Pixel 3 และ Pixel 3 XL ต่ำกว่าข้อจำกัดการรับคลื่นความถี่วิทยุของสำนักงานอุตสาหกรรมแคนาดา (IC) อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการประเมินและเป็นไปตามข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ที่สำนักงานอุตสาหกรรมแคนาดากำหนดไว้ ขณะใช้งานตามปกติ ควรให้อุปกรณ์มีการสัมผัสร่างกายน้อยที่สุด

เวลาที่ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว (นอกเหนือจากเวลาถือไว้ในมือหรือแนบกับศีรษะ) ให้เว้นระยะห่างของ Pixel 3 และ Pixel 3 XL จากตัว 10 มม. เพื่อให้ตรงตามวิธีทดสอบอุปกรณ์ว่าสอดคล้องตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 ตามที่รายงานต่อ IC มีดังนี้

  • 1.34 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.34 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม


ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 XL ตามที่รายงานต่อ IC มีดังนี้

  • 1.35 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.35 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม


อุปกรณ์เครื่องนี้ได้รับการรับรองว่าใช้งานได้ในประเทศแคนาดา ตรวจสอบสถานะของรายชื่อ REL (รายชื่ออุปกรณ์วิทยุ) ของอุตสาหกรรมแคนาดาได้จาก http://www.ic.gc.ca/app/sitt/reltel/srch/nwRdSrch.do
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในแคนาดาเกี่ยวกับการรับคลื่นวิทยุได้จาก http://www.ic.gc.ca/eic/site/smt-gst.nsf/eng/sf08792.html

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สหภาพยุโรป

ประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของสภาพยุโรป

Google LLC ขอประกาศในที่นี้ว่าโทรศัพท์ Pixel 3 และ Pixel 3 XL มีคุณสมบัติตรงตามระเบียบบังคับ 2014/53/EU (ระเบียบเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยุ) ดูเอกสารรับรองตนเองฉบับสมบูรณ์ได้ที่ด้านล่าง

เอกสารรับรองตนเอง (Pixel 3)

เอกสารรับรองตนเอง

 

เอกสารรับรองตนเองของสหภาพยุโรป (EU Declaration of Conformity)

 

Google LLC
1600 Amphitheatre Parkway
Mountain View, CA 94043

เอกสารรับรองตนเองนี้ใช้กับผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้

หมายเลขรุ่นของอุปกรณ์วิทยุ:                                    G013A
ชื่อผลิตภัณฑ์:                                                                      Pixel 3
เวอร์ชันซอฟต์แวร์                                                                  ระบบปฏิบัติการ Android
อุปกรณ์เสริมที่ให้:                                                         หูฟังเอียร์บัด USB-C, อะแดปเตอร์ AC, สายต่อ USB-C กับ USB-C, อะแดปเตอร์แปลง USB-C                                                                                                        เป็น 3.5 มม., สายโอนย้ายข้อมูล
 

เราซึ่งได้แก่ Google LLC ขอประกาศภายใต้ความรับผิดชอบของเราแต่เพียงผู้เดียวว่าผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสอดคล้องกับข้อกำหนดที่จำเป็นตามระเบียบบังคับของสหภาพยุโรปดังต่อไปนี้

ระเบียบเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยุ (Radio Equipment Directive - RED)                                      2014/53/EU
ระเบียบเกี่ยวกับการหลอมสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใหม่ (RoHS Recast Directive)                                                        2011/65/EU
ระเบียบเกี่ยวกับการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจด้านพลังงาน (Ecodesign Requirements for Energy)                                2009/125/EC
ระเบียบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง                                

การประเมินความสอดคล้องที่กล่าวถึงในมาตรา 10 และอธิบายไว้อย่างละเอียดในภาคผนวก 3 ของข้อบังคับเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยุ 2014/53/EU ดำเนินการโดยหน่วยงานตรวจสอบอิสระชื่อ Cetecom หมายเลข 0680 (หมายเลขใบรับรองการตรวจสอบประเภท M18-0547-01-TEC) ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการประกาศถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานที่สอดคล้องกันและเอกสารเชิงบรรทัดฐานต่อไปนี้โดยการอ้างอิงที่เฉพาะเจาะจงถึงข้อกำหนดที่จำเป็นตามข้อบังคับที่อ้างอิงดังนี้

สุขภาพและความปลอดภัย (มาตรา 3.1 (ก) ของ RED)

IEC 60950-1:2005 + A1:2009 + A2:2013
EN 60950-1:2006 + A11:2009 + A1:2010 + A12:2011 + A2:2013
IEC 62368-1:2014, EN 62368-1:2014 + A11:2017
EN 62311:2008, EN 62479:2010
EN 50360:2017, EN 62209-1:2016
EN 50566:2017, EN 62209-2:2010

EMC (มาตรา 3.1 (ข) ของ RED)  

ฉบับร่าง EN 301 489-1 v2.2.0
ฉบับร่างขั้นสุดท้าย EN 301 489-3 V2.1.1
ฉบับร่าง EN 301 489-17 V3.2.0
ฉบับร่าง EN 301 489-19 V2.1.0
ฉบับร่าง EN 301 489-52 V1.1.0
EN 55032:2015/AC:2016 คลาส B
EN 55035:2017

สเปกตรัม (มาตรา 3.2 ของ RED) EN 300 328 v2.1.1
EN 301 893 v2.1.1 EN 301 511 V12.5.1
EN 301 908-1 V11.1.1, EN 301 908-2 V11.1.2, 
EN 301 908-13 V11.1.2
EN 300 328 V2.1.1, EN 301 893 V2.1.1
EN 303 413 V1.1.1, EN 300 330 V2.1.1
ฉบับร่าง EN 300 440 V2.2.0
EN 303 417 V1.1.1
อุปกรณ์ในบางหมวดหมู่หรือบางคลาส (มาตรา 3.3 ของ RED) ไม่มี
ข้อบังคับด้านการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน 2009/125/EC กฎระเบียบ 1275/2008, กฎระเบียบ 278/2009
ระเบียบว่าด้วยการหลอมสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใหม่ 2011/65/EU EN 50581:2012

 

ลงชื่อในนามของ Google LLC

Pixel 3 DoC signature

ลายเซ็น                                          ออกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2018 ที่ Mountain View, CA, USA

Jason Bremner 
รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์

การแก้ไข: 01                                                       

 

เอกสารรับรองตนเอง (Pixel 3 XL)

เอกสารรับรองตนเองของสหภาพยุโรป (EU Declaration of Conformity)

 

Google LLC
1600 Amphitheatre Parkway
Mountain View, CA 94043

เอกสารรับรองตนเองนี้ใช้กับผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้

หมายเลขรุ่นของอุปกรณ์วิทยุ:                                    G013C
ชื่อผลิตภัณฑ์:                                                                      Pixel 3 XL
เวอร์ชันซอฟต์แวร์                                                                  Android OS
อุปกรณ์เสริมที่ให้:                                                         หูฟังเอียร์บัด USB-C, อะแดปเตอร์ AC, สายต่อ USB-C กับ USB-C, อะแดปเตอร์แปลง USB-C                                                                                                        เป็น 3.5 มม., สายโอนย้ายข้อมูล
 

เราซึ่งได้แก่ Google LLC ขอประกาศภายใต้ความรับผิดชอบของเราแต่เพียงผู้เดียวว่าผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสอดคล้องกับข้อกำหนดที่จำเป็นตามข้อบังคับของสหภาพยุโรปดังต่อไปนี้

ระเบียบเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยุ (Radio Equipment Directive - RED)                                      2014/53/EU
ระเบียบว่าด้วยการหลอมสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใหม่ (RoHS Recast Directive)                                                        2011/65/EU
ระเบียบข้อบังคับด้านการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน                                 2009/125/EC
(Ecodesign Requirements for Energy Related Products Directive)                                

การประเมินความสอดคล้องที่กล่าวถึงในมาตรา 10 และอธิบายไว้อย่างละเอียดในภาคผนวก 3 ของข้อบังคับเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยุ 2014/53/EU ดำเนินการโดยหน่วยงานตรวจสอบอิสระชื่อ Cetecom หมายเลข 0680 ซึ่งได้ประเมินการปฏิบัติตามมาตรา 3.2 ของ RE-D และออกใบรับรองการตรวจสอบประเภทของสหภาพยุโรป M18-0553-01-TEC

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการประกาศถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานที่สอดคล้องกันและเอกสารเชิงบรรทัดฐานต่อไปนี้โดยการอ้างอิงที่เฉพาะเจาะจงถึงข้อกำหนดที่จำเป็นตามข้อบังคับที่อ้างอิงดังนี้

สุขภาพและความปลอดภัย (มาตรา 3.1 (ก) ของ RED)

IEC 60950-1:2005 + A1:2009 + A2:2013
EN 60950-1:2006 + A11:2009 + A1:2010 + A12:2011 + A2:2013
IEC 62368-1:2014, EN 62368-1:2014 + A11:2017
EN 62311:2008, EN 62479:2010
EN 50360:2017, EN 62209-1:2016
EN 50566:2017, EN 62209-2:2010

EMC (มาตรา 3.1 (ข) ของ RED)  

ฉบับร่าง EN 301 489-1 v2.2.0
ฉบับร่างขั้นสุดท้าย EN 301 489-3 V2.1.1
ฉบับร่าง EN 301 489-17 V3.2.0
ฉบับร่าง EN 301 489-19 V2.1.0
ฉบับร่าง EN 301 489-52 V1.1.0
EN 55032:2015/AC:2016 คลาส B
EN 55035:2017

สเปกตรัม (มาตรา 3.2 ของ RED) EN 300 328 v2.1.1
EN 301 893 v2.1.1 EN 301 511 V12.5.1
EN 301 908-1 V11.1.1, EN 301 908-2 V11.1.2, 
EN 301 908-13 V11.1.2
EN 300 328 V2.1.1, EN 301 893 V2.1.1
EN 303 413 V1.1.1, EN 300 330 V2.1.1
ฉบับร่าง EN 300 440 V2.2.0
EN 303 417 V1.1.1
อุปกรณ์ในบางหมวดหมู่หรือบางคลาส (มาตรา 3.3 ของ RED) ไม่มี
ระเบียบข้อบังคับด้านการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน 2009/125/EC กฎระเบียบ 1275/2008, กฎระเบียบ 278/2009
ระเบียบว่าด้วยการหลอมสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใหม่ 2011/65/EU EN 50581:2012

 

ลงชื่อในนามของ Google LLC

Pixel 3 DoC signature

ลายเซ็น                                          ออกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2018 ที่ Mountain View, CA, USA

Jason Bremner 
รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์

การแก้ไข: 01                                                       

 

ข้อจำกัดและข้อกำหนดภายใต้คำสั่ง 2014/53/EU

อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเท่านั้นเมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150 ถึง 5350 MHz ใน AT, BE, BG, CY, CZ, DE, DK, EE, EL, ES, FI, FR, HR, HU, IE, IT, LT, LU, LV, MT, NL, PL, PT, RO, SE, SI, SK, UK, CH, IS, LI, NO และ TR 

สอดคล้องตามข้อบังคับมาตรฐานยุโรป

ย่านคลื่นความถี่และกำลังไฟฟ้า

สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร
ข้อมูลที่ให้ไว้ ณ ที่นี้คือพลังงานความถี่วิทยุสูงสุดที่ส่งในย่านคลื่นความถี่ที่อุปกรณ์วิทยุทำงาน

 

ความถี่

กำลังไฟฟ้า

Wi-Fi 2 400-2 483.5 MHz

สูงสุด 20 dBm

Wi-Fi 5 150-5 250 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 250-5 350 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 470-5 725 MHz

สูงสุด 23 dBm

Wi-Fi 5 745-5 825 MHz สูงสุด 14 dBm

บลูทูธ 2 400-2 483.5 MHz

สูงสุด 20 dBm

NFC 13.56 MHz

สูงสุด -10 dBuA/m

GSM 900

PC4 (สูงสุด 33.5 dBm)

GSM 1800

PC1 (สูงสุด 30.5 dBm)

UMTS Band I/VIII

PC3 (สูงสุด 24.5 dBm)

LTE:1, 3, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 42

PC1 (สูงสุด 24.5 dBm)


ข้อจำกัดในย่านความถี่ 5 GHz

ฟังก์ชัน WLAN ของอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150-5350 MHz จะถูกจำกัดให้ใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

การรบกวนคลื่นความถี่วิทยุ

Google จะไม่รับผิดชอบสำหรับการรบกวนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยการใช้แทนหรือการเชื่อมต่อสายและอุปกรณ์ที่ Google ไม่ได้ระบุไว้ การแก้ไขปัญหาการรบกวนที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ทดแทน หรือการเชื่อมต่อดังข้างต้นเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้ Google และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตหรือผู้จัดจำหน่ายไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายหรือการละเมิดระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR) - สหภาพยุโรป

อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการจัดประเภทสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมในประเทศคลาส B แบบทั่วไป

Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 0.5 ซม. จากร่างกายของคุณ  ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3 ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.33 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.49 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3 XL ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.39 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.40 วัตต์/กก.

คำสั่งว่าด้วยขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) และแบตเตอรี่

ห้ามทิ้งแบตเตอรี่ในถังขยะ

คำสั่งว่าด้วยขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) กำหนดให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EEE) ทุกอย่าง รวมถึงโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริม จะต้องมีเครื่องหมายสัญลักษณ์รูปถังขยะมีล้อที่ถูกขีดฆ่า สัญลักษณ์นี้หมายความว่าอุปกรณ์ดังกล่าวต้องไม่ถูกกำจัดทิ้งเป็นของเสียเทศบาลที่ไม่มีการแยกประเภท การกำจัด WEEE ร่วมกับขยะปกติอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากสารบางอย่างที่ใช้ใน EEE และแบตเตอรี่ในอุปกรณ์เหล่านั้น

ภายใต้คำสั่งว่าด้วย WEEE แต่ละรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปต้องรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม WEEE ให้สำเร็จในระดับสูง เพื่อการดูแล การนำกลับคืน และการกำจัดทิ้งอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะโยนอุปกรณ์ทิ้ง ให้หยุดคิดสักนิดเกี่ยวกับวิธีการลดปริมาณของ WEEE ที่คุณก่อ ตัวอย่างเช่น คุณอาจนำกลับมาใช้ใหม่ กู้คืน หรือทำให้กลายเป็นงานศิลปะได้ เพียงแค่การยืดอายุของอุปกรณ์ คุณก็จะลดของเสียและช่วยให้สหภาพยุโรปบรรลุวัตถุประสงค์ได้

นโยบายนี้จะสำเร็จได้ก็ขึ้นอยู่กับการร่วมมืออย่างแข็งขันของผู้ใช้ในการส่งคืน WEEE ไปยังโรงงานที่มีหน้าที่กำจัดของเสียดังกล่าว คุณควรติดต่อหน่วยงานในท้องถิ่นหรือผู้ค้าปลีกเพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งคืนและจุดรวบรวมที่มีอยู่

การปฏิบัติตามข้อกำหนด RoHS

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นไปตามระเบียบ 2011/65/EU ของรัฐสภาแห่งยุโรปและคณะมนตรีสหภาพยุโรปในวันที่ 8 มิถุนายน 2011 ว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตรายบางชนิดในอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (RoHS) และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

REACH

REACH (Registration, Evaluation, Authorization and Restriction of Chemicals, EC No 1907/2006) คือกฎระเบียบที่ควบคุมการผลิตและการใช้สารเคมีให้ปลอดภัยในสหภาพยุโรป Google ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของกฎระเบียบนี้และเรามุ่งมั่นที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายและมีความน่ากังวลสูง (Substances of Very High Concern หรือ SVHC) ตามกฎระเบียบ REACH  ติดต่อ Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Env-Compliance@google.com

ที่อยู่ติดต่อสำหรับประเด็นเรื่องกฎข้อบังคับในสหภาพยุโรปคือ Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson's Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลผู้ผลิต

ผู้ผลิต: Google LLC, 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA, USA, 94043

ข้อมูลผู้นำเข้า

ผู้นำเข้า: Google Commerce Limited, 70 Sir John Rogerson’s Quay, Dublin 2, Ireland

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: สิงคโปร์

ข้อมูลเกี่ยวกับซิมการ์ดแบบฝัง (eUICC) สำหรับสิงคโปร์

สิงคโปร์ไม่รองรับฟีเจอร์ซิมการ์ดแบบฝัง (eSIM) 

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจำเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

Pixel 3 และ Pixel 3 XL ได้รับการประเมินตามข้อจำกัดการรับคลื่นวิทยุ (RF) ของหน่วยงานพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสารสารสนเทศ (IMDA) ขณะใช้งานตามปกติ ควรให้อุปกรณ์มีการสัมผัสร่างกายน้อยที่สุด ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ

เวลาที่ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว (นอกเหนือจากเวลาถือไว้ในมือหรือแนบกับศีรษะ) ให้เว้นระยะห่างจากตัว 5 มม. เพื่อให้ตรงตามวิธีทดสอบอุปกรณ์ว่าสอดคล้องตามข้อกำหนดการรับคลื่นวิทยุ

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 ตามที่รายงานต่อ IMDA มีดังนี้

  • 1.33 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.49 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 XL ตามที่รายงานต่อ IMDA มีดังนี้

  • 1.39 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.40 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ออสเตรเลีย

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความถี่วิทยุเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 0.5 ซม. จากร่างกายของคุณ  ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3 ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.33 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.49 วัตต์/กก. 

สำหรับ Pixel 3 XL ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.39 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.40 วัตต์/กก.

ฟังก์ชัน WLAN ของอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อทำงานในย่านความถี่ 5150-5350 MHz จะถูกจำกัดให้ใช้ภายในอาคารเท่านั้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายต่อระบบสื่อสารดาวเทียมเคลื่อนที่แบบใช้ช่องสัญญาณร่วม

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: อินเดีย

ข้อมูลอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ SAR)

โทรศัพท์เป็นเครื่องส่งและเครื่องรับสัญญาณวิทยุ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการจำกัดการรับสัมผัสของมนุษย์ต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และได้รับการออกแบบโดยเฉพาะให้ตรงตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการรับสัมผัสคลื่นวิทยุ ที่กรมการสื่อสารโทรคมนาคม กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐบาลอินเดีย ("DoT") กำหนดไว้ หลักเกณฑ์ข้างต้นจะใช้หน่วยวัดที่เรียกว่าอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (Specific Absorption Rate หรือ "SAR") ซึ่งเป็นหน่วยของปริมาณคลื่นความถี่วิทยุที่ร่างกายดูดซึมเมื่อใช้งานโทรศัพท์อยู่ ขีดจำกัดของ SAR ในอินเดียสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่คือ 1.6 วัตต์/กก. ต่อมวลเนื้อเยื่อของมนุษย์ 1 กรัม

Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 1.0 ซม. จากร่างกาย ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

สำหรับ Pixel 3 ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.24 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 1.33 วัตต์/กก. 
สำหรับ Pixel 3 XL ค่าของอัตราการดูดกลืนพลังงานจําเพาะ (SAR) สูงสุดที่รายงานสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้เมื่อทดสอบในบริเวณหูคือ 1.31 วัตต์/กก. และเมื่อใช้งานใกล้กับร่างกายอย่างเหมาะสมคือ 0.99 วัตต์/กก.

นอกจากนี้ คุณยังดูข้อมูลค่า SAR ได้ในเว็บไซต์ของ DoT/Telecommunication Engineering Centre 

แม้การศึกษาส่วนใหญ่ในห้องปฏิบัติการจะไม่ค้นพบความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการรับสัมผัส
รังสีคลื่นความถี่วิทยุกับสุขภาพ แต่ DoT ก็ได้กำหนดมาตรการป้องกันอันตรายในขณะใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ไว้ดังนี้

  • ใช้ระบบแฮนด์ฟรีไร้สาย (หูฟัง ชุดหูฟัง) กับตัวจ่ายบลูทูธพลังงานต่ำ
  • ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือมีค่า SAR ต่ำ
  • ถ้าต้องคุยโทรศัพท์นาน ให้ใช้วิธีส่งเป็นข้อความ (SMS) แทน โดยเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นเด็ก วัยรุ่น และสตรีมีครรภ์
  • ใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อคุณภาพสัญญาณดี
  • ผู้ที่มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ฝังไว้ในร่างกายควรถือโทรศัพท์ให้ห่างจากอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 15 ซม.
     

คำแถลงเกี่ยวกับการรีไซเคิล การบริหาร และการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์

Don't put batteries in trash

ในประเทศอินเดีย ป้ายนี้บ่งบอกว่าไม่ควรทิ้งผลิตภัณฑ์นี้ไปพร้อมกับขยะในครัวเรือน แต่ควรนำไปไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้มีการคืนสภาพและการรีไซเคิลได้

Google ขอประกาศว่าโทรศัพท์ของคุณได้รับการออกแบบและผลิตโดยสอดคล้องกับกฎ (การจัดการ) ขยะอิเล็กทรอนิกส์ปี 2016 (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "กฎ") และปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎข้อ 16 (1) ว่าด้วยการลดการใช้สารที่เป็นอันตรายในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตตามน้ำหนักในวัสดุเนื้อเดียวกัน (ยกเว้นข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในกำหนดการที่ 2)

การจัดการที่ไม่เหมาะสม การกำจัดทิ้ง การแตกหักจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือการรีไซเคิลอย่างไม่เหมาะสมของขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการลุกไหม้ การระเบิด และ/หรืออันตรายอื่นๆ และการกำจัดของเสียโดยไม่มีการควบคุม ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย/มีผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งหากทิ้งอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้น้ำ ดิน และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เป็นพิษได้ การกำจัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอันตรายต่อพืช สัตว์ และชีวิตมนุษย์

ข้อมูลกฎข้อบังคับ: ญี่ปุ่น

อุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดให้ใช้งานภายในอาคารเท่านั้นเมื่อทำงานในย่านความถี่ 5 GHz (W52/W53)
Pixel 3 และ Pixel 3 XL เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับ SAR ของญี่ปุ่นเมื่อใช้ใกล้กับหูหรือที่ระยะห่าง 5 มม. จากร่างกายของคุณ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์เสริม เช่น เคสและซองหนังของอุปกรณ์ ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะ ให้อุปกรณ์อยู่ห่างจากร่างกายของคุณเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องระยะห่าง 

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 ตามที่รายงานต่อ MIC มีดังนี้

  • 1.08 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.43 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

ค่า SAR สูงสุดของ Pixel 3 XL ตามที่รายงานต่อ MIC มีดังนี้

  • 1.16 วัตต์/กก. เมื่อแนบไว้ใกล้หู
  • 1.16 วัตต์/กก. เมื่อพกติดตัวอย่างเหมาะสม

 

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
14375588993442140938
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
1634144
false
false