คุณเชื่อมต่อโทรศัพท์กับเครือข่ายมือถือได้ด้วยนาโนซิมการ์ดหรือ eSIM ที่ใช้งานได้ หากไม่มี คุณจะเห็นข้อความว่า "ไม่มีซิมการ์ด"
สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android 11 ขึ้นไป ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
รับซิมการ์ด
โทรศัพท์ Pixel ทุกรุ่นใช้นาโนซิมการ์ดได้ และบางรุ่นจะใช้ eSIM ได้ด้วย
หากคุณซื้อโทรศัพท์ Pixel จาก Google Store
- ในสหรัฐอเมริกา คุณเลือกได้ว่าจะไม่รับซิมการ์ดหรือใส่ซิมการ์ด Verizon มาล่วงหน้า หากคุณใช้บริการเครือข่ายมือถือของ Verizon ให้เปิดใช้งานซิมการ์ดในเว็บไซต์ของ Verizon
- ในประเทศอื่นๆ โทรศัพท์จะไม่มีซิมการ์ดให้มาด้วย
ใช้นาโนซิมการ์ด
- หากต้องการขอนาโนซิมการ์ด ให้ติดต่อผู้ให้บริการมือถือของคุณ หากต้องแจ้งหมายเลข IMEI ของโทรศัพท์ ให้ดูวิธีหาหมายเลข IMEI
- คุณถอดนาโนซิมการ์ดออกจากโทรศัพท์เครื่องเก่าไปใส่ในโทรศัพท์ได้เลยโดยไม่ต้องขอซิมการ์ดใหม่
ใช้ eSIM
โทรศัพท์บางรุ่นจะใช้ eSIM ได้โดยขึ้นอยู่กับโทรศัพท์และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ โปรดตรวจสอบรายละเอียดกับผู้ให้บริการ
- Pixel 4 ขึ้นไป: ทุกรุ่นใช้กับ eSIM ได้
- Pixel 3a: เครื่องที่ซื้อพร้อมบริการของ Verizon หรือซื้อในญี่ปุ่นใช้กับ eSIM ไม่ได้
- Pixel 3: เครื่องที่ซื้อพร้อมบริการของผู้ให้บริการในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาที่ไม่ใช่ Sprint และ Google Fi ใช้กับ eSIM ไม่ได้ เครื่องที่ซื้อในออสเตรเลีย ไต้หวัน และญี่ปุ่นก็ใช้กับ eSIM ไม่ได้เช่นกัน
- Pixel 2: เฉพาะเครื่องที่ซื้อพร้อมบริการ Google Fi เท่านั้นที่ใช้กับ eSIM ได้
- Pixel (2016): ทุกเครื่องใช้กับ eSIM ไม่ได้
ใส่ซิมการ์ด
เมื่อโทรศัพท์ปิดอยู่
- เสียบเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดลงในรูเล็กๆ ที่ขอบซ้ายของโทรศัพท์
เคล็ดลับ: ใน Pixel 3 (2018) ช่องซิมการ์ดอยู่ที่ขอบล่างของโทรศัพท์ - ค่อยๆ ดันเข็มเข้าไปให้แน่นจนกว่าถาดซิมการ์ดจะเปิดออกมา
- นำถาดออกมาและใส่นาโนซิมการ์ดในถาด
- ค่อยๆ ดันถาดกลับเข้าไปในช่อง
คุณอาจต้องรีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่อใช้บริการมือถือ กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทโทรศัพท์ที่เปิดอยู่ จากนั้นแตะ "รีสตาร์ท"
ค้นหาหมายเลขประจำตัวของโทรศัพท์
เมื่อติดต่อผู้ให้บริการ คุณอาจต้องแจ้งหมายเลขรหัสต่างๆ ของ Pixel เช่น หมายเลข IMEI 1, IMEI 2 หรือ EID ดูวิธีหาหมายเลขรหัสต่างๆ ของโทรศัพท์ Pixel