ตั้งค่าหรือจัดการกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

คุณล็อก ปลดล็อก และสตาร์ทรถจากโทรศัพท์ Android ด้วยกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลได้

จับคู่โทรศัพท์กับรถของคุณ

สำคัญ: กุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลใช้ได้กับรถยนต์บางรุ่นในบางประเทศเท่านั้น

  • โดยสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ต่อไปนี้
    • Pixel 6 ขึ้นไป รวมถึง Pixel Fold และ Pixel 8 Pro
    • Samsung Galaxy S21 ขึ้นไป
    • อุปกรณ์ Android บางรุ่นที่ใช้ Android 12 ขึ้นไป

หากต้องการตั้งค่ากุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล คุณจะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หากมีโทรศัพท์ Samsung คุณสามารถตั้งค่ากุญแจดิจิทัลใน Samsung Wallet ได้

ใช้แอปของผู้ผลิตรถยนต์
  1. หากต้องการตั้งค่าบัญชี ให้เปิดแอปของผู้ผลิตรถยนต์
  2. หากต้องการจับคู่รถยนต์กับบัญชี ให้ค้นหา "กุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล" แล้วทำตามวิธีการ
  3. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ในหน้าจอต้อนรับ
  4. อ่านข้อกำหนดในการให้บริการ
  5. แตะยอมรับและดำเนินการต่อ
    เคล็ดลับ: คุณแก้ไขชื่อกุญแจรถยนต์ได้ในขั้นตอนนี้ แต่จะเปลี่ยนแปลงชื่อในภายหลังไม่ได้ โดยค่าเริ่มต้นชื่อจะเป็น [รุ่นของโทรศัพท์] + [ชื่อของคุณ] เช่น "Pixel 6 Pro ของเอก"
  6. แตะเริ่มจับคู่ แล้วรอให้โทรศัพท์กับรถยนต์จับคู่กัน
  7. เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว ระบบจะเพิ่มกุญแจดิจิทัลลงใน Google Wallet
    • หากไม่มีแอป Google Wallet ให้ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อดาวน์โหลด
ใช้ลิงก์ในอีเมลที่ได้รับจากผู้ผลิตรถยนต์
  1. ในโทรศัพท์ ให้เปิดอีเมลกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลที่ได้รับจากผู้ผลิตรถยนต์
  2. ในอีเมล ให้แตะ เพิ่มไปยัง Android หากเพิ่มกุญแจในอุปกรณ์เป็นครั้งแรก ระบบจะขอให้คุณอัปเดตอุปกรณ์ก่อนที่จะเริ่มจับคู่
  3. เคล็ดลับ: หากเลิกจับคู่โทรศัพท์หรือนำกุญแจดิจิทัลออก คุณจะต้องจับคู่รถยนต์ด้วยลิงก์ในอีเมลอีกครั้ง นอกจากนี้ คุณจะต้องได้รับอีเมลและลิงก์ใหม่ หากอีเมลที่คุณได้รับไม่มีลิงก์ "Add to Android" ให้ติดต่อผู้ผลิตรถยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือ
  4. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ในหน้าจอต้อนรับ
  5. อ่านข้อกำหนดในการให้บริการ
  6. แตะยอมรับและดำเนินการต่อ
  7. เคล็ดลับ: คุณแก้ไขชื่อกุญแจรถยนต์ได้ในขั้นตอนนี้ แต่จะเปลี่ยนแปลงชื่อในภายหลังไม่ได้ โดยค่าเริ่มต้นชื่อจะเป็น [รุ่นของโทรศัพท์] + [ชื่อของคุณ] เช่น "Erik’s Pixel 6 Pro"
  8. วางโทรศัพท์บนที่อ่านกุญแจรถยนต์ แล้วรอให้โทรศัพท์กับรถยนต์จับคู่กัน
  9. เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว ระบบจะเพิ่มกุญแจดิจิทัลลงใน Google Wallet
  10. หากไม่มีแอป Google Wallet ระบบจะขอให้คุณดาวน์โหลดแอป ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
ใช้เครื่องเล่นวิทยุของรถยนต์
สำคัญ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับรถบางรุ่นเท่านั้น โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตรถยนต์
  1. ในเครื่องเล่นวิทยุของรถยนต์ ให้เลือกการตั้งค่ากุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล ดูคู่มือของผู้ผลิตหรือติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ผลิตหากคุณไม่พบตัวเลือกนี้
    • หากหน้าจอโทรศัพท์ล็อกอยู่ ให้ป้อนรหัสผ่าน
  2. วางโทรศัพท์บนที่อ่านกุญแจรถยนต์
  3. ทำตามวิธีการบนหน้าจอของเครื่องเล่นวิทยุ หากเพิ่มกุญแจในอุปกรณ์เป็นครั้งแรก ระบบจะขอให้คุณอัปเดตอุปกรณ์ก่อนที่จะเริ่มจับคู่
  4. เมื่อการอัปเดตเสร็จสมบูรณ์ ให้แตะตั้งค่ากุญแจรถยนต์ของคุณ
  5. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ในหน้าจอต้อนรับ
  6. อ่านข้อกำหนดในการให้บริการ
  7. แตะยอมรับและดำเนินการต่อ
  8. ป้อนรหัสเปิดใช้งาน
  9. คุณแก้ไขชื่อกุญแจรถยนต์ได้ในขั้นตอนนี้ แต่จะเปลี่ยนแปลงชื่อในภายหลังไม่ได้ โดยค่าเริ่มต้นชื่อจะเป็น [รุ่นของโทรศัพท์] + [ชื่อผู้ใช้] เช่น "Erik’s Pixel 6 Pro"
  10. วางโทรศัพท์บนที่อ่านกุญแจรถยนต์ แล้วรอให้โทรศัพท์กับรถยนต์จับคู่กัน
  11. เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว ระบบจะเพิ่มกุญแจดิจิทัลลงใน Google Wallet
    • หากไม่มีแอป Google Wallet ระบบจะขอให้คุณดาวน์โหลดแอป ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

เคล็ดลับ: คุณสร้างทางลัดสำหรับการเข้าถึงกุญแจดิจิทัลอย่างรวดเร็วได้ในหน้าจอหลักของโทรศัพท์

ล็อก ปลดล็อก และสตาร์ทรถด้วยกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

สำคัญ: หากตั้งค่าการล็อกหน้าจอสำหรับกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลไว้ ให้ป้อนรหัสผ่าน

ล็อกหรือปลดล็อกรถ

หันด้านหลังโทรศัพท์ไว้ใกล้ที่เปิดประตูรถ

สตาร์ทรถ

  1. วางโทรศัพท์ไว้บนที่อ่านกุญแจในรถยนต์
  2. กดปุ่มสตาร์ทรถ

ใช้ระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ

ระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้นเมื่อคุณตั้งค่ากุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล เมื่อใช้ระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ คุณจะไม่ต้องถือโทรศัพท์ไว้ใกล้ที่เปิดประตูเพื่อใช้กุญแจรถยนต์ โทรศัพท์จะปลดล็อกประตูรถโดยอัตโนมัติเมื่อคุณอยู่ใกล้ สตาร์ทรถเมื่อคุณอยู่ในรถ และล็อกประตูรถเมื่อคุณเดินออกไปจากรถ

สำคัญ

  • รถบางรุ่นอาจไม่รองรับระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ โปรดติดต่อผู้ผลิตรถเพื่อขอข้อมูลความเข้ากันได้
  • โทรศัพท์บางรุ่นไม่รองรับระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ โปรดตรวจสอบข้อมูลความเข้ากันได้กับผู้ผลิตโทรศัพท์
  • ในอุปกรณ์บางรุ่น คุณจะใช้งานระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติกับรถยนต์ได้เพียงคันเดียวเท่านั้น
  • ตรวจสอบว่ารถใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดแล้ว
  • หากระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติไม่ทำงาน ให้นำโทรศัพท์ไปแตะที่เปิดประตูรถเพื่อปลดล็อก

ปิดระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ

  1. ​เปิดแอป Google Wallet
  2. เลือกกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล
  3. แตะรายละเอียด
  4. ปิดระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ

เพิ่มหรือเปลี่ยนการตั้งค่าการล็อกหน้าจอสำหรับกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

หากเลือกที่จะให้มีการปลดล็อกโทรศัพท์เพื่อใช้กุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล คุณจะต้องปิดระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติก่อน

สำคัญ: โดยค่าเริ่มต้น คุณไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอก่อนจึงจะใช้กุญแจรถยนต์ได้

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. แตะกุญแจรถยนต์ คุณอาจต้องเลื่อนดูจึงจะเห็น
  3. แตะรายละเอียด จากนั้น กำหนดให้ต้องปลดล็อกโทรศัพท์
  4. เลือกการดำเนินการที่คุณต้องการให้ใช้การล็อกหน้าจอ ซึ่งได้แก่
    • ปลดล็อกรถ
    • สตาร์ทรถ
    • ปลดล็อก ล็อก และสตาร์ทรถ
    • หากไม่ต้องการให้ใช้การล็อกหน้าจอเพื่อใช้กุญแจรถยนต์ ให้แตะปิด
  5. แตะบันทึก

ใช้คำสั่งระยะไกลสำหรับการล็อก การปลุก และการเปิดกระโปรงท้าย

ในรถรุ่นที่รองรับ คุณสามารถล็อกและปลดล็อกรถ เปิดการปลุก และใช้ระบบกระโปรงท้ายไฟฟ้าจาก Google Wallet หรือการตั้งค่าด่วน

สำคัญ

  • คำสั่งบางรายการอาจใช้ไม่ได้กับรถบางรุ่น
  • โปรดติดต่อผู้ผลิตรถเพื่อขอข้อมูลความเข้ากันได้
  • คุณต้องอยู่ในช่วงสัญญาณบลูทูธของรถจึงจะใช้คำสั่งได้
ล็อก ปลดล็อก หรือเปิดการปลุก
จากแอป Google Wallet หรือการตั้งค่าด่วน ให้แตะล็อก ปลดล็อก หรือการปลุก
เปิดกระโปรงท้าย
จากแอป Google Wallet หรือการตั้งค่าด่วน ให้แตะกระโปรงท้ายเพื่อเปิด
เพิ่มคำสั่งลงในการตั้งค่าด่วน
  1. ในแอป Google Wallet ให้แตะ "เพิ่มเติม" เพิ่มเติม ที่ด้านขวาบน
  2. แตะเพิ่มลงในการตั้งค่าด่วน จากนั้น เพิ่มคำสั่ง
ใช้โทรศัพท์ที่แบตเตอรี่หมด
สำคัญ: คุณอาจจะยังปลดล็อกและสตาร์ทรถได้เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงหลังจากที่แบตเตอรี่ของโทรศัพท์หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณจะใช้โทรศัพท์ที่แบตเตอรี่หมดเป็นกุญแจรถยนต์ได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้กำหนดให้โทรศัพท์ต้องปลดล็อกก่อนเพื่อใช้กุญแจ
  • หันด้านหลังโทรศัพท์ไว้ใกล้ที่เปิดประตูรถ
  • วางโทรศัพท์บนที่อ่านกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์
แก้ปัญหาคำสั่งระยะไกลและระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติ
หากระบบล็อก/ปลดล็อกรถอัตโนมัติหรือคำสั่งระยะไกลไม่ทำงานในอุปกรณ์ที่รองรับ คุณอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ของรถ ลบกุญแจ และจับคู่อีกครั้ง

จัดการกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

เพิ่มหรือเปลี่ยนการตั้งค่าการล็อกหน้าจอสำหรับกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

สำคัญ: โดยค่าเริ่มต้น คุณไม่จำเป็นต้องปลดล็อกหน้าจอก่อนจึงจะใช้กุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลได้ คุณจะใช้กุญแจได้เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงหลังจากที่แบตเตอรี่โทรศัพท์หมด หากเลือกที่จะใช้ฟีเจอร์ล็อกหน้าจอ กุญแจจะไม่ทำงานหากโทรศัพท์ไม่มีแบตเตอรี่

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. แตะกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล คุณอาจต้องปัดเพื่อหาตัวเลือกนี้
  3. ที่ด้านล่าง ให้แตะรายละเอียด จากนั้น ต้องปลดล็อกโทรศัพท์
  4. เลือกการดำเนินการที่ต้องการใช้การล็อกหน้าจอ ซึ่งได้แก่
    • ปลดล็อกรถ
    • สตาร์ทรถ
    • ปลดล็อก ล็อก และสตาร์ทรถ
    • หากไม่ใช้การล็อกหน้าจอ ให้แตะปิด
  5. แตะบันทึก
ตั้งค่าทางลัดสำหรับกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล

วิธีเข้าถึงกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลจากหน้าจอหลักของโทรศัพท์

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. แตะกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล คุณอาจต้องปัดเพื่อหาตัวเลือกนี้
  3. แตะเพิ่มเติม More จากนั้น เพิ่มลงในหน้าจอหลัก
ลบกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล
  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. แตะกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัล คุณอาจต้องปัดเพื่อหาตัวเลือกนี้
  3. แตะเพิ่มเติม More จากนั้น ลบกุญแจ จากนั้น ลบ
  4. แตะยืนยันเพื่อยืนยันว่าเป็นคุณ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนว่าระบบลบกุญแจแล้ว
เคล็ดลับ: สําหรับรถบางรุ่น คุณอาจลบกุญแจออกจากหน้าจอของรถยนต์ได้
นําสิทธิ์เข้าถึงกุญแจออกในกรณีที่โทรศัพท์หายหรือถูกขโมย

สำคัญ: หากต้องการลบหรือระงับกุญแจจากระยะไกล โทรศัพท์จะต้องเปิดอยู่และเชื่อมต่อกับเครือข่าย

หากโทรศัพท์หายหรือถูกขโมย คุณนำสิทธิ์เข้าถึงกุญแจออกได้ที่แอป Google หาอุปกรณ์ของฉัน

  • หากต้องการลบโทรศัพท์และกุญแจที่จับคู่ไว้จากระยะไกล ให้แตะลบอุปกรณ์
  • หากต้องการระงับกุญแจและล็อกอุปกรณ์จากระยะไกล ให้แตะรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์
เคล็ดลับ: สําหรับรถบางรุ่น คุณจะทําสิ่งต่อไปนี้ได้
  • ลบกุญแจแม้ว่าโทรศัพท์จะออฟไลน์อยู่ กระบวนการนี้อาจไม่เกิดขึ้นในทันที
  • ลบกุญแจออกจากหน้าจอของรถยนต์
โอนกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่
  1. ลบกุญแจดิจิทัลในโทรศัพท์เครื่องเก่า
  2. จับคู่โทรศัพท์เครื่องใหม่กับรถยนต์

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
12125695344049879808
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
280
false
false