การแจ้งเตือน

คุณจะดูเนื้อหาสำหรับทั้งประสบการณ์การใช้งาน Merchant Center Next และ Merchant Center แบบคลาสสิกได้ในศูนย์ช่วยเหลือนี้ โปรดมองหาโลโก้ที่ด้านบนของแต่ละบทความ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้บทความ Merchant Center เวอร์ชันที่เหมาะกับคุณ 

ตั้งค่าการจัดส่ง

ไอคอนที่กำหนดเองสำหรับส่วนหัวของบทความ Merchant Center แบบคลาสสิก

หากกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าการจัดส่งใน Merchant Center Next ให้คลิกที่นี่

กำหนดค่าจัดส่งตามวิธีการเรียกเก็บค่าจัดส่ง โดยค่าจัดส่งที่คุณส่งไปยัง Merchant Center จะต้องตรงกับค่าจัดส่งที่เรียกเก็บในเว็บไซต์ หากระบุค่าจัดส่งให้ตรงกันไม่ได้ ให้ประเมินตัวเลขที่ส่งไปยัง Merchant Center ให้สูงไว้ก่อน โปรดทราบว่าลูกค้าจะพิจารณาค่าใช้จ่ายเหล่านี้และความเร็วในการนำส่งเมื่อตัดสินใจว่าจะคลิกผลิตภัณฑ์หรือไม่

การอัปเดตล่าสุดสำหรับการตั้งค่าการจัดส่งจะช่วยให้คุณเรียกเก็บค่าจัดส่งตามมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมดได้ แต่ระบบจะย้ายตารางย่อยและค่าจัดส่งหลายรายการต่อบริการจัดส่งไปยังเส้นทาง API

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของการตั้งค่าการจัดส่งและกรณีที่ควรใช้การตั้งค่านี้

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา



ในบทความนี้


กรณีที่ควรใช้

ใช้การตั้งค่าการจัดส่งใน Merchant Center เพื่อกำหนดค่าบริการจัดส่งระดับบัญชีด้วยตนเอง หากต้องการกำหนดค่าจัดส่งและเวลาจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ ให้ใช้แอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping] แทน

หมายเหตุ
  • ราคาและเวลานำส่งที่กำหนดค่าโดยใช้แอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping] จะลบล้างการตั้งค่าระดับบัญชี (รวมถึงเวลานำส่งของบริการจัดส่งและมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ) สำหรับสถานที่ตั้งที่ตรงกันของผลิตภัณฑ์นั้น

วิธีการทำงาน

หากต้องการตั้งค่าการจัดส่งระดับบัญชี คุณจะต้องกำหนดค่าบริการจัดส่งใน Merchant Center หรือผ่าน Shipping Settings API โดยจะเลือกเชื่อมโยงบริการจัดส่งกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ก็ได้ ในกรณีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ คุณจะใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label] เพื่อระบุค่าได้ นอกจากนี้ คุณยังกำหนดค่าการตั้งค่าต่างๆ เช่น ค่าจัดส่งและเวลานำส่ง สำหรับบริการจัดส่งแต่ละรายการได้ด้วย

ระบุบริการจัดส่งและอัตราค่าจัดส่งทั้งหมดที่มีสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการใน Merchant Center แม้จะเลือกไม่แสดงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในโฆษณาก็ตาม เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะเห็นตัวเลือกการจัดส่งที่เกี่ยวข้องที่สุดเมื่อชำระเงินและอาจช่วยเพิ่มอัตรา Conversion ได้ ข้อมูลที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้เราสามารถนำเสนอตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าแต่ละรายได้ ซึ่งอาจทำให้อัตรา Conversion ของคุณสูงขึ้น

หากมีบริการจัดส่งหลายแบบสำหรับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ เราจะเลือกตัวเลือกการจัดส่งที่เกี่ยวข้องที่สุดโดยอัตโนมัติซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เวลานำส่ง ความชอบของลูกค้า และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระบบจะใช้และแสดงตัวเลือกที่เลือกนี้โดยอัตโนมัติตามความจำเป็น

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบริการหนึ่งที่ระบุว่าจัดส่งฟรีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงกว่า 1,500 THB และมีอีกบริการหนึ่งซึ่งระบุอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่งสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ระบบจะแสดง "จัดส่งฟรี" สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีราคาสูงกว่า 1,500 THB

หมายเหตุ: ก่อนที่จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการจัดส่ง ให้ตรวจสอบว่าคุณใช้ API, การตั้งค่าด้วยตนเอง หรือแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม การตั้งค่าการจัดส่งอาจถูกเขียนทับตามวิธีที่คุณเลือกใช้ ตัวอย่างเช่น ระบบจะให้ความสำคัญแก่การอัปเดตการตั้งค่าการจัดส่งที่ดำเนินการโดยใช้ API อัตโนมัติหรือแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามมากกว่าการตั้งค่าที่สร้างด้วยตนเอง ระบบจะให้ความสำคัญแก่การตั้งค่าการจัดส่งระดับสินค้ามากกว่าการตั้งค่าระดับบัญชี เราขอแนะนำให้คุณเลือกการตั้งค่าระดับบัญชีเพื่อรับประสบการณ์ที่ครบวงจร

วิธีการ

สร้างบริการจัดส่งใหม่

ขั้นตอนแรกในการตั้งค่าการจัดส่งคือการสร้างบริการจัดส่งใหม่ เมื่อสร้างบริการจัดส่ง คุณจะต้องอธิบายและกำหนดผลิตภัณฑ์ที่จะใช้บริการจัดส่งนั้นๆ รวมทั้งระบุความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่ง

หมายเหตุ: คุณกำหนดค่าบริการจัดส่งได้สูงสุด 20 รายการต่อประเทศ หากบัญชีย่อยไม่มีการกำหนดค่าการจัดส่งของตัวเอง ระบบจะรับนโยบายการจัดส่งมาจากบัญชีหลัก

วิธีสร้างบริการจัดส่งใหม่มีดังนี้

  1. ในบัญชี Merchant Center ให้คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า ไอคอนเมนูการตั้งค่าและเครื่องมือ [Gear]
  2. เลือกการจัดส่งและการคืนสินค้าในส่วน "เครื่องมือ" แล้วระบบจะนำคุณไปยังแท็บ "บริการจัดส่ง"
  3. คลิกปุ่มบวก เพื่อสร้างบริการจัดส่ง

ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่าบริการ

  1. ตั้งชื่อบริการ ใช้ชื่อที่สื่อความหมายเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างบริการจัดส่งใหม่ของคุณกับบริการอื่นๆ โดยชื่อบริการแต่ละชื่อต้องไม่ซ้ำกันภายในพื้นที่ให้บริการและจะไม่มีการแชร์กับลูกค้า
  2. เลือกพื้นที่ให้บริการหรือโซนที่นำส่งผลิตภัณฑ์ได้ คุณจะเพิ่มข้อมูลต่างๆ เช่น ความเร็วในการนำส่งและค่าจัดส่ง ได้ในขั้นตอนถัดไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศต้นทางที่จัดส่งสินค้าหรือประเทศที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ พื้นที่ให้บริการควรมีอย่างน้อย 1 ประเทศ แต่จะระบุหลายประเทศสำหรับพื้นที่ให้บริการก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดส่งหลายประเทศ
  3. เลือกสกุลเงินที่ใช้ในพื้นที่ให้บริการและตรวจสอบว่าตรงกับสกุลเงินที่แสดงในฟีด หากสกุลเงินต่างกัน สินค้าอาจไม่ได้รับอนุมัติ
  4. ใน "สถานที่นำส่ง" ให้ระบุสถานที่ที่ลูกค้าสามารถรับสินค้าที่สั่งซื้อ ซึ่งได้แก่ ที่อยู่ของลูกค้าหรือนำส่งไปยังจุดรับสินค้า โปรดทราบว่าจุดรับสินค้ามีให้บริการในบางประเทศเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศที่มีสิทธิ์เป็นจุดรับสินค้า

ขั้นตอนที่ 2: เวลานำส่ง

  1. ตัดสินใจว่าคุณต้องการ (ก) แสดงเวลานำส่งที่กำหนดเองตามผู้ให้บริการขนส่งที่มีอยู่หรือพาร์ทเนอร์ที่คุณร่วมงานด้วย หรือ (ข) กำหนดช่วงเวลานำส่ง หากคุณเลือกที่จะแสดงเวลานำส่งที่กำหนดเอง Google จะประเมินเวลานำส่งในนามของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่ง
  2. สำหรับ "เวลาปิดรับคำสั่งซื้อ" ให้เลือกเวลาของวันที่ตัดรอบคำสั่งซื้อเพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อในวันเดียวกัน รวมถึงเลือกเขตเวลาที่ใช้คำนวณ เช่น เวลาปิดรับคำสั่งซื้อที่ 15:00 น. (EST) หมายความว่าคำสั่งซื้อหลังจากเวลาดังกล่าวจะไม่ประมวลผลจนกว่าจะถึงวันทำการถัดไป
  3. สำหรับ "วันทำการก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อ" ให้ป้อนจำนวนวันขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการประมวลผลคำสั่งซื้อตามด้วยจำนวนวันสูงสุดที่ต้องใช้ในการประมวลผล
    • หมายเหตุ: หากประมวลผลสินค้าในวันเดียวกันกับวันที่สั่งซื้อ วันทำการขั้นต่ำก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อจะเท่ากับ "0" หากต้องการเลือกว่าจะประมวลผลคำสั่งซื้อในวันใด ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงและเลือกช่วงวัน (เช่น จันทร์ - ศุกร์, จันทร์ - เสาร์) เลือกวันที่กำหนดเองเพื่อสร้างช่วงวันที่กำหนดเองสำหรับการประมวลผล
  4. สำหรับ "เวลาขนส่ง" ให้เพิ่มช่วงวันทำการที่คาดว่าบริการนี้จะใช้ในการขนส่ง (เช่น 1-5 วันทำการ) แม้ว่าช่วงเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์หรือสถานที่ตั้งของลูกค้า แต่ข้อมูลนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้ระยะเวลาขนส่งคร่าวๆ หากต้องการเลือกว่าบริการจัดส่งนี้จะพร้อมให้บริการในวันใด ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกช่วงวัน (เช่น จันทร์ - ศุกร์, จันทร์ - เสาร์) เลือกวันที่กำหนดเองเพื่อเลือกจำนวนวันที่ใช้ขนส่งสำหรับบริการจัดส่งนี้ด้วยตนเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่ง (ไม่บังคับ) ในแคนาดา นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย คุณจะกำหนดเวลาขนส่งตามปลายทางการนำส่ง (ภูมิภาค) ได้ คลิกเวลาขนส่งเพิ่มเติม เลือกหรือสร้างปลายทาง จากนั้นป้อนความเร็วในการขนส่งให้แก่ปลายทางนั้น ดูวิธีตั้งค่าภูมิภาค
  5. (ไม่บังคับ) คุณจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลาขนส่งเท่ากันได้โดยใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับเวลาขนส่ง [transit_time_label] กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ วิธีนี้ช่วยให้ระบุเวลานำส่งที่แม่นยำมากขึ้นให้แก่ลูกค้าได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าป้ายกำกับเวลาขนส่ง

ขั้นตอนที่ 3: วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด (มีให้บริการในสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส และเฉพาะวันหยุดของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น)

ตั้งค่าวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด หากต้องการให้มีการสั่งซื้อภายในวันที่ที่กำหนดเพื่อให้คำสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการนำส่งภายในวันหยุดที่กำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด

หมายเหตุ: สำหรับฝรั่งเศส วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุดจะพร้อมให้ใช้งานสำหรับวันวาเลนไทน์และวันคริสต์มาสเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 4: ค่าจัดส่ง

กำหนดค่าจัดส่งโดยเลือกจากตัวเลือกต่างๆ ได้ เช่น จัดส่งฟรี อัตราคงที่ หรือจัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อมากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด นอกจากนี้ คุณยังเปลี่ยนไปใช้การตั้งค่าขั้นสูงเพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย

การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน

จัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อมากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด
รูปภาพที่แสดงการแจ้งเตือนว่าคําสั่งซื้อต้องมีมูลค่าถึง $35 USD จึงจะมีสิทธิ์จัดส่งฟรี

ใช้ตัวเลือกนี้เพื่อมอบสิทธิ์จัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่ามากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. ป้อนมูลค่าการสั่งซื้อในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่า"
  2. ป้อนค่าจัดส่งสำหรับมูลค่าการสั่งซื้อนี้ในส่วน "เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
จัดส่งฟรี
รูปภาพที่แสดงถึงสินค้าที่ได้รับสิทธิ์จัดส่งฟรี

เลือกตัวเลือกนี้เพื่อมอบสิทธิ์จัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ

อิงตามช่วง

ใช้การตั้งค่านี้เพื่อระบุค่าจัดส่งสำหรับช่วงมูลค่าการสั่งซื้อที่ระบุ เช่น กำหนดค่าจัดส่ง $5 USD ให้กับคำสั่งซื้อทุกรายการที่ราคาต่ำกว่า $60 USD และกำหนดค่าจัดส่ง $10 USD ให้กับคำสั่งซื้อที่ราคาเกิน $60 USD

  1. ป้อนจำนวนเงินในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่า"
  2. ป้อนค่าจัดส่งในส่วน "เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
  3. ป้อนค่าจัดส่งในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาเกิน - เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
  4. คลิกปุ่มบวก เพิ่มช่วงอื่นเพื่อระบุค่าจัดส่งสำหรับช่วงราคาอื่น
อัตราคงที่

ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งในอัตราคงที่สำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ป้อนจำนวนเงินใน "คำสั่งซื้อทั้งหมดจัดส่งในราคา"

อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง (เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียเท่านั้น)

ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่ง ลูกค้าจะได้รับอัตราค่าจัดส่งตามขนาด น้ำหนักของกล่องจัดส่ง สถานที่ตั้งของลูกค้า และรหัสไปรษณีย์ต้นทาง เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบว่าได้ส่งน้ำหนักของกล่องจัดส่ง [shipping_weight] และขนาด (ความยาวของกล่องจัดส่ง [shipping_length], ความกว้างของกล่องจัดส่ง [shipping_width], ความสูงของกล่องจัดส่ง [shipping_height]) ในข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว

โปรดทราบว่าอัตราของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามอัตรามาตรฐานเชิงพาณิชย์ ดังนั้นหากคุณคิดค่าบริการต่ำกว่านั้น (เช่น เนื่องจากคุณทำสัญญาไว้กับผู้ให้บริการขนส่งรายนั้น) ให้เพิ่มจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่เป็นค่าลบ (เช่น -10%) ในกรณีที่ใช้อัตราที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ (มักเรียกว่า "ธุรกิจค้าปลีก") คุณอาจต้องปรับราคาขึ้น 50-60%

เมื่อเลือกคิดค่าบริการตามอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง โปรดตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จัดส่งโดยผู้ให้บริการขนส่งและใช้บริการจัดส่งนั้นได้จริง (เช่น ผลิตภัณฑ์ไม่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด) มิฉะนั้นอัตราที่ลูกค้าเห็นจะไม่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้รับอนุมัติ โปรดตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักกับผู้ให้บริการขนส่ง

หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. สำหรับ "บริการของผู้ให้บริการขนส่ง" ให้เลือกผู้ให้บริการขนส่งรายใดรายหนึ่งที่รองรับพร้อมกับบริการ (เช่น UPS Ground) ผู้ให้บริการขนส่งจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ให้บริการ
  2. ป้อน "รหัสไปรษณีย์ต้นทาง" ที่จะจัดส่งสินค้า (เช่น "94043")
  3. ในกรณีที่จำเป็น โปรดปรับคำสั่งซื้อเป็นเปอร์เซ็นต์หรือค่าคงที่ในรูปแบบดังนี้ (เช่น "$10" หรือ "-5%")
หมายเหตุ: หากคุณเลือก FedEx เป็นผู้ให้บริการขนส่ง Google จะใช้บริการ FedEx ที่มีค่านำส่งต่ำที่สุดของวันที่นำส่ง เช่น FedEx Standard Overnight® (ไม่ใช่ FedEx First Overnight® หรือ FedEx Priority Overnight®) หรือ FedEx 2Day® (ไม่ใช่ FedEx 2Day® AM)

การตั้งค่าขั้นสูง

เปลี่ยนไปใช้การตั้งค่าขั้นสูงหากต้องการตัวเลือกเพิ่มเติม

มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ

หากต้องการระบุมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับบริการจัดส่งหนึ่งๆ (เช่น หากกำหนดให้ลูกค้าต้องสั่งซื้อครบ 300 THB จึงจะใช้บริการจัดส่งนั้นได้) ให้ป้อนจำนวนเงินนั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำจะยังแสดงอยู่พร้อมมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ หากไม่มีมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ ให้เว้นช่องนี้ว่างไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ

ตารางอัตราค่าจัดส่งและป้ายกำกับการจัดส่ง

สร้างตารางอัตราค่าจัดส่งเพื่อกำหนดให้คำสั่งซื้อทั้งหมดมีอัตราค่าจัดส่งเพียงอัตราเดียวหรือสร้างกฎตามมิติข้อมูล 1-2 รายการ นอกจากนี้ คุณยังกำหนดแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label] ให้แก่อัตราค่าจัดส่งตามประเภทของผลิตภัณฑ์ที่จัดส่ง (เกินขนาด เน่าเสียง่าย หรือแตกง่าย) ได้ด้วย จากนั้นกำหนดค่าจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

  1. ในหน้า "ค่าจัดส่ง" ให้คลิกเปลี่ยนเป็นการตั้งค่าขั้นสูง
  2. คลิกปุ่มบวก เพื่อเพิ่มตารางอัตราค่าจัดส่งใหม่
  3. ในส่วน "ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ" ให้เลือกว่าต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งนี้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหรือเฉพาะผลิตภัณฑ์บางรายการเท่านั้น
    1. เลือกผลิตภัณฑ์ทั้งหมด หากต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งกับผลิตภัณฑ์ทุกรายการ หมายเหตุ: หากสร้างตารางอัตราค่าจัดส่งที่ใช้ป้ายกำกับการจัดส่งแล้ว คุณอาจเห็นตัวเลือก "ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมด" แทน "ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด" เนื่องจากมีการกรองผลิตภัณฑ์บางรายการแล้ว
    2. หรือหากต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น ให้ทำดังนี้
      1. เลือกกรองผลิตภัณฑ์ตามป้ายกำกับการจัดส่ง
      2. ในช่องป้อนข้อมูล ให้พิมพ์ค่าที่คุณส่งสำหรับแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label] แล้วคลิก Enter นอกจากนี้คุณอาจเพิ่มป้ายกำกับที่ยังไม่มีในฟีดได้ด้วย
  4. ในส่วน "ชื่ออัตราค่าจัดส่ง" ให้ตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำให้ตาราง
  5. สร้างตาราง ใช้ตารางเพื่อกำหนดให้คำสั่งซื้อทั้งหมดมีอัตราค่าจัดส่งเพียงอัตราเดียวหรือสร้างกฎตามมิติข้อมูล 1-2 รายการ ได้แก่ ราคา ปลายทาง (แคนาคา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย) น้ำหนัก หรือจำนวนสินค้า เช่น หากจะส่งผลิตภัณฑ์ไปยังออสเตรเลีย คุณอาจกำหนดค่าจัดส่งตามรัฐและตามน้ำหนัก ซึ่งหมายความว่าคุณจะคิดอัตราค่าจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำหนัก 10 กก. ไปยังรัฐแทสเมเนียคนละอัตรากับการจัดส่งผลิตภัณฑ์เดียวกันนี้ไปยังรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม หากส่วนใหญ่จัดส่งไปยังประเทศอื่นๆ คุณจะระบุอัตราค่าจัดส่งตามสถานที่ตั้งไม่ได้
    1. ขั้นแรกให้คลิกมิติข้อมูล เช่น น้ำหนักของคำสั่งซื้อ > น้ำหนักในหน่วยกิโลกรัม คุณจะเห็นแถวที่ป้อนค่าแบบเป็นช่วงได้
    2. ป้อนค่าแบบช่วง เช่น 0.0001 กก. ถึง 2 กก.
    3. เลือกตัวเลือกการจัดส่งในแต่ละแถว เช่น "อัตราคงที่" ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกการจัดส่ง
    4. ป้อนราคา เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ ตามตัวเลือกการจัดส่ง
    5. หากต้องการเพิ่มช่วง ให้คลิก + แถว
    6. หากต้องการเพิ่มมิติข้อมูลที่ 2 ให้คลิกเพิ่มมิติข้อมูล แล้วเลือกตัวเลือก เช่น "ราคาของคำสั่งซื้อ"
    7. จากนั้นกำหนดค่าสำหรับคอลัมน์ใหม่แต่ละคอลัมน์ โดยเลือกตัวเลือกการจัดส่ง เช่นเดียวกับขั้นตอนที่ทำก่อนหน้านี้
    8. หากต้องการเพิ่มช่วง ให้คลิก + คอลัมน์
    9. คลิกต่อไปเพื่อกลับไปยังระดับบริการ จากนั้นเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่หรือบันทึกบริการจัดส่ง

ตัวเลือกการจัดส่งสำหรับตารางอัตราค่าจัดส่ง

คุณตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่งโดยเลือกจากตัวเลือกหลายรายการได้

อัตราคงที่

ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งในอัตราคงที่ รวมถึงการจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดที่อยู่ในช่วงที่กำหนด ลูกค้าจะเห็นราคาเดียวกันสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ในช่วงนี้

หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกอัตราคงที่
  2. จากนั้นป้อนจำนวนเงิน หากจัดส่งฟรี ให้ป้อน "0"

เปอร์เซ็นต์ยอดรวมคำสั่งซื้อ

ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า ลูกค้าจะเห็นค่าจัดส่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมด สำหรับโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี เราจะใช้ราคาผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่าการสั่งซื้อ

หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกเปอร์เซ็นต์ยอดรวมคำสั่งซื้อ
  2. ป้อนเปอร์เซ็นต์
หมายเหตุ: คุณจะดูเปอร์เซ็นต์คำสั่งซื้อทั้งหมดได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ตั้งค่าไว้ในบัญชี Merchant Center แล้ว ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานใน Merchant Center Next โดยมีชื่อใหม่ว่า "เปอร์เซ็นต์ราคาผลิตภัณฑ์" หากต้องการสร้างบริการจัดส่งใหม่โดยใช้ฟีเจอร์นี้ เราขอแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ Merchant Center Next

อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง (เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียเท่านั้น)

ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่ง ลูกค้าจะได้รับอัตราค่าจัดส่งตามขนาด น้ำหนักของกล่องจัดส่ง สถานที่ตั้งของลูกค้า และรหัสไปรษณีย์ต้นทาง เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบว่าได้ส่งน้ำหนักของกล่องจัดส่ง [shipping_weight] และขนาด (ความยาวของกล่องจัดส่ง [shipping_length], ความกว้างของกล่องจัดส่ง [shipping_width], ความสูงของกล่องจัดส่ง [shipping_height]) ในข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว

โปรดทราบว่าอัตราค่าจัดส่งของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามอัตรามาตรฐานเชิงพาณิชย์ ดังนั้นหากคุณคิดค่าบริการต่ำกว่านั้น (เช่น เนื่องจากทำสัญญาไว้กับผู้ให้บริการขนส่งรายนั้น) ให้เพิ่มจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่เป็นค่าลบ (เช่น -10) ในกรณีที่ใช้อัตราที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ (มักเรียกว่า "ธุรกิจค้าปลีก") คุณอาจต้องปรับราคาขึ้น 50–60%

เมื่อเลือกคิดค่าบริการตามอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง โปรดตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จัดส่งโดยผู้ให้บริการขนส่งและใช้บริการจัดส่งนั้นได้จริง (เช่น ผลิตภัณฑ์ไม่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด) มิฉะนั้นอัตราที่ลูกค้าเห็นจะไม่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้รับอนุมัติ โปรดตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักกับผู้ให้บริการขนส่ง

หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง
  2. จากนั้นเลือกตารางอัตราของผู้ให้บริการขนส่งที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้หรือเลือกอัตราของผู้ให้บริการขนส่งใหม่ หากสร้างตารางอัตราใหม่ คุณจะเห็นกล่องโต้ตอบการสร้าง
  3. สำหรับ "บริการของผู้ให้บริการขนส่ง" ให้เลือกผู้ให้บริการขนส่งรายใดรายหนึ่งที่รองรับพร้อมกับบริการ (เช่น UPS Ground) ผู้ให้บริการขนส่งจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ให้บริการ
  4. ป้อน "รหัสไปรษณีย์ต้นทาง" ที่จะจัดส่งสินค้า (เช่น "94043")
  5. ในกรณีที่จำเป็น โปรดปรับคำสั่งซื้อเป็นเปอร์เซ็นต์หรือค่าคงที่ในรูปแบบดังนี้ ได้แก่ ปรับขึ้น (โดยใช้จำนวนที่เป็นบวก เช่น "10") หรือปรับลง (โดยใช้จำนวนที่เป็นลบ เช่น "-10")
  6. ชื่ออัตราของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามบริการของผู้ให้บริการขนส่ง แต่หากจำเป็น คุณจะระบุชื่อที่กำหนดเองได้ (เช่น "UPS แบบธรรมดา - Mountain View")
  7. อัตราของผู้ให้บริการขนส่งใหม่จะพร้อมให้เลือกและแสดงอยู่ในตาราง "อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง" ที่ด้านล่างของหน้า
หมายเหตุ: หากคุณเลือก FedEx เป็นผู้ให้บริการขนส่ง Google จะใช้บริการ FedEx ที่มีค่านำส่งต่ำที่สุดของวันที่นำส่ง เช่น FedEx Standard Overnight® (ไม่ใช่ FedEx First Overnight® หรือ FedEx Priority Overnight®) หรือ FedEx 2Day® (ไม่ใช่ FedEx 2Day® AM)
ลิงก์ตารางย่อย (เพิ่มมิติข้อมูลอย่างน้อย 3 รายการ)

หากคิดค่าบริการตามมิติข้อมูลตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป คุณจะเพิ่มตารางย่อยสำหรับแต่ละเซลล์ได้ โดยต้องเลือกจากตัวเลือกที่แตกต่างกันตามบริการ

เช่น ในกรณีที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปออสเตรเลียและคิดค่าจัดส่งแตกต่างกันไปตามราคาของผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนัก 1-5 กก. ซึ่งจัดส่งไปยังรัฐควีนส์แลนด์ ให้เพิ่มอัตราเหล่านั้นพร้อมตารางย่อย

หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้

  1. เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือก "ตารางย่อย"
  2. เลือกตารางที่คุณสร้างไว้หรือเลือกตารางย่อยใหม่ เมื่อสร้างตารางใหม่ คุณจะเห็นตารางนั้นแสดงที่ด้านล่างใน "ตารางย่อยที่ลิงก์"
  3. ตั้ง "ชื่อตาราง" ใหม่ที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้คุณแยกตารางแต่ละรายการได้
  4. คลิกมิติข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งที่พร้อมใช้งาน จากนั้นเพิ่มตัวเลือกการจัดส่งและช่วงต่างๆ แบบเดียวกับที่ทำเมื่อกำหนดค่าจัดส่ง
  5. คลิกต่อไปเพื่อกลับไปยังระดับบริการ จากนั้นเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่หรือบันทึกบริการจัดส่ง
หมายเหตุ: เราจะนำฟีเจอร์นี้ออกจากค่าจัดส่งขั้นสูงและเปลี่ยนเป็นแบบ API เท่านั้น เมื่อได้รับการแจ้งเตือน คุณจะต้องนำตารางย่อยที่กำหนดให้กับบริการจัดส่งออก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการจัดส่งผ่าน Content API
ผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งไม่ได้

แม้ว่าตัวกรอง "ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ" จะทำให้คุณยกเว้นการกำหนดค่าการจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์บางรายการได้อย่างสมบูรณ์ แต่คุณอาจต้องการระบุให้เจาะจงมากขึ้น ตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" จะช่วยให้ผู้ซื้อทราบว่าผลิตภัณฑ์บางรายการจัดส่งไม่ได้ในสถานการณ์บางอย่างหรือจัดส่งไปสถานที่บางแห่งไม่ได้

หากต้องการใช้ตัวเลือกดังกล่าว โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกไม่มีการจัดส่ง

ยกเว้นผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อ

คุณอาจเพิ่มตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อยกเว้นการจัดส่งตามน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อได้ เช่น หากมีการจำกัดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์สำหรับบริการจัดส่งด่วน คุณอาจใช้มิติข้อมูลด้านน้ำหนักในการตั้งค่าคำสั่งซื้อทั้งหมดที่มีน้ำหนักเกินกำหนดให้เป็น "ไม่มีการจัดส่ง" หากคุณกำหนดมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับบริการจัดส่ง โปรดเพิ่มลงในรายละเอียดของบริการ

หากมีการยกเว้นผลิตภัณฑ์จากบริการจัดส่งนี้เนื่องจากน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้

  • หากผลิตภัณฑ์ไม่ได้เชื่อมโยงกับบริการจัดส่งอื่นๆ ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับอนุมัติ เช่น หากผลิตภัณฑ์หนัก 100 ปอนด์ และคุณได้กำหนดไว้ว่า "ไม่มีการจัดส่ง" สำหรับคำสั่งซื้อที่หนักเกิน 70 ปอนด์
  • หากผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงกับบริการจัดส่งอื่นที่คุณสร้างไว้ ลูกค้าจะเห็นค่าจัดส่งที่ถูกที่สุดที่มีให้บริการ เช่น ในกรณีที่ยกเว้นผลิตภัณฑ์จากบริการขนส่งด่วนแล้ว แต่บริการขนส่งทางบกยังครอบคลุมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่

วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักของคำสั่งซื้อมีดังนี้

  1. เมื่อกำหนดค่าจัดส่ง ให้คลิกมิติข้อมูลด้านน้ำหนัก เช่น น้ำหนักของคำสั่งซื้อ > น้ำหนักในหน่วยกิโลกรัม
  2. ป้อนค่าแบบเป็นช่วง เช่น 0.0001-10 กก.
  3. จากนั้นเลือกไม่มีการจัดส่งเป็นตัวเลือกการจัดส่ง
  4. หากต้องการเพิ่มน้ำหนัก ให้คลิก + แถว

ยกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทาง (แคนาคา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย)

หากต้องการยกเว้นภูมิภาค โปรดตั้งค่าตารางการจัดส่งโดยใช้ "ปลายทาง" เป็นมิติข้อมูลที่ต้องการ

คุณยังเลือกตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อระบุว่าไม่มีบริการจัดส่งไปยังทั้งภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจงและมิติข้อมูลอื่น เช่น ในกรณีที่คุณไม่มีบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักมากไปยังฮาวาย

หากบริการจัดส่งเป็นแหล่งที่มาเพียงอย่างเดียวของความเร็วในการจัดส่งรวมถึงค่าจัดส่ง และคุณยกเว้นผลิตภัณฑ์ในบางพื้นที่ ลูกค้าในภูมิภาคนั้นจะไม่เห็นความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่ง

วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทางมีดังนี้

  1. เมื่อตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่ง ให้คลิกปลายทาง
  2. เลือกภูมิภาคที่คุณจัดส่งหรือสร้างภูมิภาคใหม่
  3. หากต้องการเพิ่มภูมิภาค ให้คลิก + แถว

วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทางและมิติข้อมูลมีดังนี้

  1. เมื่อตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่ง ให้คลิกปลายทาง
  2. คลิกเพิ่มมิติข้อมูลเพื่อเพิ่มราคาคำสั่งซื้อ น้ำหนัก หรือจำนวนสินค้าลงในตาราง
  3. เลือกไม่มีการจัดส่งเป็นตัวเลือกการจัดส่งตามต้องการ

ตัวเลือกอื่นๆ สำหรับการจัดส่ง

ภูมิภาค

กำหนดอัตราค่าจัดส่งและความเร็วในการจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับพื้นที่หนึ่งๆ ภายในประเทศตามรหัสไปรษณีย์หรือภูมิภาคบริหาร ดังนี้

ประเทศ เวลานำส่ง ค่าจัดส่ง
ออสเตรเลีย รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และรัฐ
บราซิล รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และรัฐ
แคนาดา รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์
ฝรั่งเศส รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และภูมิภาค
เยอรมนี รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และรัฐ
อินเดีย รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์ รัฐ และเขตแดน
ญี่ปุ่น   จังหวัด
นิวซีแลนด์ รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และภูมิภาค
สหราชอาณาจักร รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์
สหรัฐอเมริกา รหัสไปรษณีย์ รหัสไปรษณีย์และรัฐ

ภูมิภาคที่กำหนดเอง

คุณสร้างภูมิภาคที่กำหนดเองได้ แล้วใช้ภูมิภาคเหล่านี้สำหรับตั้งค่าการจัดส่ง ขณะนี้ตัวเลือกการจัดส่งนี้พร้อมให้ใช้งานในแคนาดา นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย ดูวิธีตั้งค่าภูมิภาค

กำหนดเวลาขนส่งสำหรับภูมิภาคต่างๆ

  1. ใต้ตาราง "เวลานำส่ง" ของบริการจัดส่ง ให้คลิกเวลาขนส่งเพิ่มเติม
  2. คลิกเพิ่มปลายทาง
  3. เลือกภูมิภาคและกำหนดเวลาขนส่งขั้นต่ำและสูงสุด
    • หากยังไม่ได้สร้างภูมิภาค คุณสร้างได้จากตารางอัตราค่าจัดส่ง

กำหนดค่าจัดส่งสำหรับภูมิภาคต่างๆ

  1. ใต้ตาราง "อัตราค่าจัดส่ง" ให้คลิกเพิ่มมิติข้อมูล
  2. เลือกปลายทางตามรหัสไปรษณีย์
  3. เลือกภูมิภาคและกำหนดค่าจัดส่งสำหรับพื้นที่นั้น
    • หากยังไม่ได้สร้างภูมิภาค คุณก็สร้างได้จากตาราง "อัตราค่าจัดส่ง"
การจัดส่งไปยังหลายประเทศ

บริการจัดส่งอาจครอบคลุมได้หลายประเทศ สำหรับการจัดส่งหลายประเทศ ค่าจัดส่งจะเป็นสกุลเงินเดียวกันสำหรับทุกประเทศที่เพิ่มลงในบริการ หากคุณเลือกปลายทางที่มีสกุลเงินต่างจากสกุลเงินที่ระบุในบริการจัดส่ง ระบบจะแปลงสกุลเงินของค่าจัดส่งเป็นสกุลเงินปลายทางโดยอัตโนมัติ

การจัดส่งหลายประเทศไม่รองรับฟีเจอร์ต่อไปนี้

  • เวลาขนส่งขั้นสูง
  • อัตราค่าจัดส่งตามปลายทาง
  • วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด
  • การนำส่งไปยังจุดรับสินค้า

หากคุณแปลงบริการจัดส่งที่มีฟีเจอร์เหล่านี้ไปเป็นการตั้งค่าหลายประเทศ ระบบจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ออก ดูวิธีแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศเป้าหมายหลายประเทศ

ตรวจสอบค่าจัดส่ง

เมื่อป้อนข้อมูลการจัดส่งแล้ว คุณจะตรวจสอบค่าจัดส่ง (และอัตราภาษี) ที่จะแสดงในโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีได้ โดยคุณจะเห็นค่าจัดส่งพร้อมแหล่งที่มาของข้อมูลค่าจัดส่งนั้น (เช่น การตั้งค่าใน Merchant Center หรือแอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping] ในข้อมูลผลิตภัณฑ์)

คุณดูข้อมูลนี้ได้โดยทำดังนี้

  1. คลิกผลิตภัณฑ์ในเมนูการนำทาง จากนั้นคลิกผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
  2. คลิกที่ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น
  3. เลื่อนลงเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการจัดส่ง (และภาษี)

คุณต้องป้อนปลายทางการจัดส่งเพื่อคำนวณค่าบริการสำหรับประเทศที่ระบุอัตราค่าจัดส่งตามปลายทางการจัดส่งได้ (เช่น แคนาดา ญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกา หรือออสเตรเลีย) สำหรับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ คุณจะเห็นอัตราที่ใช้กับทั้งประเทศ

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

โปรดดูบทความช่วยเหลือที่มีขั้นตอนที่แนะนำนี้: ฉันต้องการความช่วยเหลือในการแก้ไขข้อมูลการจัดส่งใน Merchant Center

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
11337697935636321901
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
71525
false
false