สำคัญ: บทความนี้เป็นข้อมูลสำหรับ Google Maps ที่ติดตั้งมาพร้อมรถยนต์เท่านั้น ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์หรือฟังก์ชันต่างๆ อาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตรถยนต์หรือภูมิภาคที่คุณอยู่และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต
แชร์ข้อมูลรถยนต์ เลือกวิธีดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ และทำความเข้าใจว่าข้อมูลใดบ้างที่ Maps แชร์กับ Google ในศูนย์ความเป็นส่วนตัว
เคล็ดลับ: ฟีเจอร์นี้อาจไม่มีให้บริการในบางภาษาและประเทศ/ภูมิภาค ดูวิธีการใช้ Assistant ในแพลตฟอร์มอื่นๆ
ไปที่ศูนย์ความเป็นส่วนตัว
- เปิดแอป Google Maps
ในหน้าจอหลักของรถยนต์
- แตะการตั้งค่า
ที่ด้านล่าง
- แตะศูนย์ความเป็นส่วนตัว
ที่ด้านล่างแชร์ข้อมูลรถยนต์กับ Google
แชร์ข้อมูลการเดินทางและเซ็นเซอร์ขณะที่คุณขับรถ Google จะรวบรวมข้อมูล เช่น
- ตำแหน่ง GPS
- รายละเอียดการนําทางซึ่งรวมถึงเส้นทางที่ใช้
- คําอธิบายถนน เช่น ข้อมูลจากป้ายจราจรหรือเครื่องหมายจราจรบนผิวทาง
- สถานะเซ็นเซอร์ในรถยนต์ เช่น เมื่อเปิดที่ปัดน้ำฝน
- ข้อมูลเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ทั้งหมด เช่น ค่าบาโรมิเตอร์จากโทรศัพท์และความเร็วล้อของคุณ หากโทรศัพท์เชื่อมต่อกับรถที่เข้ากันได้
Google จะใช้ข้อมูลของคุณด้วยตัวเองหรือใช้ร่วมกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วยให้ Maps ทำงานได้ดีขึ้น เมื่อคุณแชร์ข้อมูลนี้ Google จะนำไปใช้อัปเดตแผนที่และแสดงข้อมูลให้ผู้อื่นเห็น เช่น สภาพการจราจรแบบเรียลไทม์
วิธีที่ Google ปกป้องข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเซ็นเซอร์
- การอัปเดตแผนที่โดยอิงตามข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเซ็นเซอร์ไม่ได้เชื่อมโยงกับบัญชี Google หรือรถของคุณ
- นอกจากนี้ข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเซ็นเซอร์ยังไม่ได้เชื่อมโยงกับบัญชี Google แต่เชื่อมโยงกับตัวระบุที่สร้างขึ้นอย่างปลอดภัยซึ่งจะรีเซ็ตเป็นประจำ ซึ่งหมายความว่า Google ไม่สามารถดูข้อมูลนี้โดยอิงจากบัญชี Google ของคุณ
- ข้อมูลอื่นๆ ที่รวบรวมขณะที่คุณสํารวจโลก เช่น เวลาที่คุณใช้ Google Assistant อาจเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ คุณควบคุมกิจกรรมบนเว็บและแอปได้โดยไปที่ myactivity.google.com
- หากต้องการเปลี่ยนสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งสำหรับ Google Maps ในรถยนต์ ให้ไปที่การตั้งค่า
แอปและการแจ้งเตือน
- Google รวบรวมข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเซ็นเซอร์เฉพาะที่จำเป็นในการมอบประสบการณ์ใช้งาน Maps ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน โดยจะลบข้อมูลดังกล่าวหลังจากประมวลผลแล้ว
แอปและการแจ้งเตือน รถยนต์ไฟฟ้าของคุณแชร์ข้อมูลต่อไปนี้กับ Google ได้
- ระดับประจุ ความจุ และความเร็วในการชาร์จตามสภาพการใช้งานต่างๆ ของแบตเตอรี่
- สถานะเครื่องปรับอากาศ
- ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และการเบรก
- ข้อมูลจำเพาะ เช่น น้ำหนักของรถยนต์
หากแชร์ข้อมูลนี้ ระบบจะบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ Google เราใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
- ระยะวิ่งที่เหลืออยู่ของรถยนต์
- ค่าประมาณของประจุแบตเตอรี่ที่ใช้เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายของคุณ
- ระยะเวลาขั้นต่ำที่ควรใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่
- การแจ้งเตือนต่างๆ เช่น เมื่อมีแบตเตอรีไม่เพียงพอที่จะไปถึงจุดหมายต่อไป หรือเมื่อจะไปถึงจุดหมายโดยที่เหลือแบตเตอรี่ต่ำ
- การจัดการแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของรถยนต์ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น
แผนที่ออฟไลน์รองรับฟีเจอร์ตัวช่วยของผู้ขับที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในรถยนต์และช่วยให้คุณใช้ Maps ได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
หากคุณเลือกดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์โดยอัตโนมัติ
- Maps จะดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์โดยอัตโนมัติเพื่อให้เป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ
- รถยนต์อาจส่งข้อมูล เช่น ตำแหน่งของรถยนต์ ประวัติตำแหน่ง และแผนที่ออฟไลน์ที่ดาวน์โหลดแล้ว กลับไปที่เซิร์ฟเวอร์ของ Google อยู่เป็นระยะๆ
- คุณยังเลือกแผนที่ออฟไลน์ที่ต้องการดาวน์โหลดได้เองอีกด้วย
- การปิดฟีเจอร์นี้จะไม่ลบแผนที่ออฟไลน์ที่ดาวน์โหลดแล้วออก
- หากต้องการลบแผนที่ออฟไลน์ โปรดไปที่การตั้งค่า
หากคุณเลือกดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ด้วยตัวเอง
- คุณเลือกแผนที่ออฟไลน์ที่ต้องการดาวน์โหลด แล้วอัปเดตได้ด้วยตัวเอง โดยไปที่การตั้งค่า
- หากคุณไม่ดาวน์โหลดหรืออัปเดตแผนที่ออฟไลน์ของพื้นที่ที่กำลังจะขับผ่าน ฟีเจอร์ความปลอดภัยบางอย่างของรถยนต์อาจไม่ทำงาน