ในแอป Gmail คุณจะเพิ่มสิ่งต่อไปนี้ได้
- บัญชี Gmail อื่น
- บัญชีที่ไม่ใช่ Gmail เช่น Outlook, iCloud Mail หรือ Yahoo
คุณสามารถเพิ่มอีเมลได้สูงสุด 5 รายการในบัญชี Gmail
คุณยังเพิ่มบัญชีอีเมลอื่นในเบราว์เซอร์ได้ด้วย ดูวิธีเพิ่มบัญชีอีเมลอื่นในคอมพิวเตอร์
สำคัญ: คุณไม่สามารถเพิ่มบัญชี เช่น Exchange และ Post Office Protocol (POP) ในแอป Gmail ได้
- เปิดแอป Gmail
ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะรูปโปรไฟล์
เพิ่มบัญชีอื่น
- เลือกประเภทบัญชีที่ต้องการเพิ่ม
- หากต้องการเพิ่มบัญชี ให้ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ
ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
เพิ่มบัญชีอื่นเคล็ดลับ
- หากต้องการเพิ่มฟีเจอร์ Gmail เช่น การป้องกันจดหมายขยะและหมวดหมู่อีเมล ลงในบัญชี ให้ลิงก์บัญชีกับ Gmailify ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Gmailify
- หากดูอีเมลที่ทำงานหรืออีเมลของโรงเรียนผ่าน Outlook for Windows ให้แตะ Outlook, Hotmail และ Live
- หากไม่พบผู้ให้บริการอีเมล ให้แตะอื่นๆ
- เปิดแอป Gmail
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะรูปโปรไฟล์
- เลือกบัญชีอีเมลที่ต้องการนำออก
- แตะนำบัญชีออก
ค้นหาข้อความจากทุกบัญชี
- เปิดแอป Gmail
- ที่ด้านซ้ายบน ให้แตะเมนู
เปลี่ยนไปใช้บัญชีอีเมลอื่น
สำคัญ: อีเมลแต่ละบัญชีจะแยกกัน
- เปิดแอป Gmail
- แตะรูปโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- เลือกบัญชีที่ต้องการใช้
แก้ไขปัญหาการลงชื่อเข้าใช้ในแอป Gmail
หากเพิ่มบัญชีที่ไม่ใช่ Gmail ในแอปไม่ได้ ให้ทำดังนี้
- ใช้อีเมลและรหัสผ่านที่ถูกต้อง
- ในบัญชีอีเมลอื่น ให้ทำดังนี้
- เปิดการเข้าถึง IMAP
- ตรวจสอบว่าคุณต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยวิธีอื่นที่ปลอดภัยหรือไม่ เช่น รหัสผ่านเฉพาะแอป
- เลือกอื่นๆ แล้วป้อนการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์และพอร์ตของบัญชีอีเมล ดังนี้
- Outlook
- iCloud Mail
- Yahoo
- สำหรับผู้ให้บริการอีเมลที่ไม่ได้ระบุไว้ ให้ไปที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์และพอร์ต
แก้ไขคำเตือนด้านความปลอดภัย
สำคัญ: หากใช้การเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัยเพื่อเพิ่มบัญชี การเชื่อมต่อกับบริการอีเมลจะไม่มีการเข้ารหัส ซึ่งหมายความว่าอาจมีคนเห็นชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลในข้อความของบัญชีที่เพิ่มได้
เมื่อบัญชีอีเมลอื่นของคุณไม่รองรับการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดสำหรับข้อความ คุณอาจได้รับคำเตือน "ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของอีเมล"
หากปัญหาไม่ร้ายแรง คุณอาจเลือกเพิ่มบัญชีโดยใช้การเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัยได้โดยทำดังนี้
- เปิดแอป Gmail
- ข้าง "ประเภทความปลอดภัย" ให้เลือกลูกศรลง
แก้ไขข้อผิดพลาดเกี่ยวกับใบรับรอง
หากคุณได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับใบรับรอง อาจเป็นไปได้ว่าบริการอีเมลอื่นของคุณอาจไม่รองรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ตัวอย่างข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับใบรับรองมีดังนี้
- "ใบรับรองไม่น่าเชื่อถือ"
- "ใบรับรองหมดอายุหรือยังไม่ถูกต้อง"
- "มีการเปลี่ยนใบรับรอง"
- "เรื่องในใบรับรองและชื่อโฮสต์ไม่ตรงกัน"
- "ไม่พบใบรับรอง"
หากต้องการแก้ไข คุณอาจรายงานข้อผิดพลาดดังกล่าวไปยังบริการอีเมลอื่นได้โดยทำดังนี้
- ในข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้แตะข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะเพิ่มเติม
- หากจำเป็น คุณต้องค้นหาข้อมูลติดต่อของบริการอีเมลอื่นของคุณ
