การแจ้งเตือน

This article is about Looker Studio. For Looker documentation, visit https://cloud.google.com/looker/docs/intro.

ข้อกำหนดในการให้บริการของ Looker Studio

ฉบับ: 30 พฤศจิกายน 2023

ข้อกำหนดในการให้บริการของ Looker Studio เหล่านี้ ("ข้อตกลง") จัดทำขึ้นระหว่าง Google กับนิติบุคลหรือบุคคลที่ยินยอมตามข้อกำหนดดังกล่าว ("ลูกค้า") ข้อตกลงนี้มีผล ณ วันที่คุณคลิกเพื่อยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้
("วันที่มีผล")

หากคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของลูกค้า ถือว่าคุณรับรองและรับประกันว่า (1) คุณมีอำนาจตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ในการลงนามผูกพันลูกค้ากับข้อตกลงนี้ (2) คุณอ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงนี้แล้ว และ
(3) คุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของลูกค้า

ลูกค้าบางรายอาจเลือกให้การใช้บริการของตอนอยู่ในบังคับของข้อตกลง Google Cloud Platform ของลูกค้า ตามที่อธิบายไว้ในข้อตกลง Google Cloud Platform ตัวเลือกดังกล่าวที่ลูกค้าเลือกจะมีผลแทนการยอมรับ
ข้อตกลงนี้ก่อนหน้านี้ของลูกค้า หากคุณเป็นผู้ใช้ปลายทางที่ผู้ดูแลระบบจัดการให้กับลูกค้าที่เลือกตัวเลือก
ดังกล่าว ข้อตกลงนี้จะไม่มีผลบังคับใช้กับคุณและการใช้งานบริการนี้ของคุณจะอยู่ภายใต้ข้อตกลง
Google Cloud Platform

ข้อตกลงนี้ไม่มีผลกับการใช้งาน Looker Studio Pro ที่มีให้ใช้งานภายใต้ข้อตกลง Google Cloud Platform

1. บริการ

1.1 สถานประกอบการและการโอนข้อมูล สถานประกอบการทั้งหมดที่ใช้เพื่อเก็บและประมวลผลข้อมูลลูกค้าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งไม่ด้อยกว่ามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของสถานประกอบการที่ Google ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลประเภทคล้ายกันของตนเอง Google จะใช้ระบบและกระบวนการที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นอย่างน้อยเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูลลูกค้า ป้องกันภัยคุกคามหรืออันตรายที่คาดไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูลลูกค้า และป้องกันการเข้าถึงหรือการใช้งานข้อมูลลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในฐานะส่วนหนึ่งของการให้บริการ Google อาจทำการโอน จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลลูกค้าของคุณในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นใดก็ตามที่ Google หรือตัวแทนมีสถานประกอบการตั้งอยู่ เมื่อใช้บริการนี้ ถือว่าคุณยินยอมให้มีการถ่ายโอน ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลลูกค้าดังกล่าว เพื่อความชัดเจน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะ (ในกรณีที่เกี่ยวข้อง) ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่ระบุไว้ในข้อตกลงการประมวลผลข้อมูล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอน การจัดเก็บ และการประมวลผลข้อมูลลูกค้าในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นใดก็ตามที่ Google หรือตัวแทนของ Google มีสถานประกอบการตั้งอยู่

1.2 ฟีเจอร์รุ่นเบต้า ตามส่วนที่ 10 ทาง Google จะไม่มีความรับผิดภายใต้ข้อตกลงนี้ (รวมถึงภาระหน้าที่ใดๆ
ในการชดใช้ค่าเสียหาย) ซึ่งเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการใช้ฟีเจอร์รุ่นเบต้าโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางของลูกค้า การใช้ฟีเจอร์รุ่นเบต้าใดๆ เป็นไปโดยสมัครใจและเป็นความเสี่ยงของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และอาจอยู่
ภายใต้ข้อกำหนดเพิ่มเติมตามที่ Google ระบุไว้ Google อาจหยุดให้บริการฟีเจอร์รุ่นเบต้าในฐานะส่วนหนึ่งของบริการ ลูกค้าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ จากฟีเจอร์รุ่นเบต้าหรือข้อกำหนดหรือการมีอยู่ของฟีเจอร์รุ่นเบต้าที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ

2. ภาระหน้าที่ของลูกค้า

2.1 การปฏิบัติตามข้อกำหนด ลูกค้าต้องตรวจสอบว่าการใช้บริการทั้งหมดโดยลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าจะเป็นไปตามข้อตกลงนี้และนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ลูกค้ารับประกันว่าตนได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ
ในนามของผู้ใช้ปลายทางของตน และลูกค้าจะรับผิดชอบการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของผู้ใช้ปลายทางของตน

2.2 การดูแลระบบบริการของลูกค้า ลูกค้า (และผู้ดูแลระบบของลูกค้า หากมี) จะมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าทั้งหมด ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้ แก้ไข ระงับ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีให้กับ
ผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าจะต้องได้รับและคงไว้ซึ่งความยินยอมที่จำเป็นทั้งหมดจากผู้ใช้ปลายทางของตนเพื่อให้
(ก) ลูกค้าสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลนี้ และ (ข) Google สามารถให้บริการและใช้ข้อมูลลูกค้าตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ายอมรับว่าความรับผิดชอบของ Google ไม่รวมถึงการจัดการภายในหรือการดูแล
ระบบของบริการให้กับลูกค้า และ Google เป็นเพียงผู้ประมวลผลข้อมูลเท่านั้น

2.3 การใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google Google อาจกำหนดให้คุณและ/หรือผู้ใช้ปลายทางของคุณ
ในบริการสามารถเข้าถึงหรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ที่ไม่ได้เสนอให้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ (หรือข้อมูลหรือเนื้อหาที่เก็บรวบรวมหรือได้รับมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ดังกล่าว) ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google จะยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องซึ่งทำกับ Google สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการดังกล่าวต่อไป เว้นแต่จะระบุเป็นอื่น ฟังก์ชันการจัดการข้อมูลบางอย่างภายในบริการอาจจำเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าใน Google Cloud Storage ("GCS") ในกรณีนี้ ลูกค้าตกลงให้ใช้ GCS ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บดังกล่าว หากคุณลบข้อมูลลูกค้าที่จัดเก็บไว้ใน GCS ระบบจะลบข้อมูลลูกค้าดังกล่าว
ในบริการภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ ในส่วนของข้อมูลลูกค้าดังกล่าวใน GCS นั้น Google ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาตามที่เห็นสมควรของตนแต่เพียงผู้เดียวในการ (ก) จำกัดขนาดของพื้นที่เก็บข้อมูล (เช่น ขีดจำกัดขนาดไฟล์) และ (ข) ระงับหรือสิ้นสุดการใช้ฟังก์ชันการจัดการข้อมูลดังกล่าวและ GCS ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของคุณ ลูกค้ามีสิทธิที่จำเป็นทั้งหมดในการ (1) ส่ง ใช้ และประมวลผลข้อมูลลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้ และ (2) อนุญาตให้มีการใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับ GCS ตามที่เกี่ยวข้อง

2.4 การใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันการใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและเพื่อสิ้นสุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะแจ้งให้ Google ทราบโดยทันทีถึงการใช้หรือการเข้าถึงบริการที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งตนรับทราบ ยกเว้นกรณีที่ Google ยอมรับอย่างเจาะจงเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกค้าจะไม่ดำเนินการต่อไปนี้ และจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อ
ไม่ให้ผู้ใช้ปลายทางและ/หรือบุคคลที่สามดำเนินการต่อไปนี้ (ก) จำหน่าย เป็นตัวแทนจำหน่าย ให้เช่าบริการนี้
แก่บุคคลที่สาม หรือดำเนินการใดๆ ที่มีผลเทียบเท่ากัน (ยกเว้นที่อนุญาตอย่างชัดเจนในข้อตกลงนี้) (ข) พยายามทำกระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับต่อบริการหรือองค์ประกอบใดๆ (ค) พยายามสร้างบริการทดแทนหรือบริการ
ที่คล้ายกันผ่านการใช้หรือการเข้าถึงบริการ (ง) ใช้บริการเพื่อทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (จ) ใช้บริการเพื่อ
จัดเก็บหรือโอนข้อมูลลูกค้าที่มีการควบคุมการส่งออกตามกฎหมายควบคุมการส่งออก หรือ (ฉ) ใช้บริการในนามหรือเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคลหรือบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลเข้าสู่ระบบ (เช่น รหัสผ่าน คีย์ และรหัสไคลเอ็นต์) ที่ใช้เข้าถึงบริการมีไว้เพื่อการใช้งานโดยบุคคลที่ออกข้อมูลเข้าสู่ระบบดังกล่าวเท่านั้น ลูกค้าจะรักษาข้อมูลเข้าสู่ระบบไว้เป็นความลับและใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อป้องกันและขัดขวางการใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะตรวจสอบว่าผู้ใช้ปลายทางและ/หรือบุคคลที่สามทั้งหมดดำเนินการเช่นนั้น ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิบัติตาม HIPAA หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งคล้ายคลึงกันในเขตอำนาจศาลของคุณ ลูกค้าจะไม่ส่ง จัดเก็บ หรือประมวลผลข้อมูลด้านสุขภาพที่อยู่ภายใต้กฎระเบียบ HIPAA ของสหรัฐอเมริกา และจะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ปลายทางหรือบุคคลที่สามซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของลูกค้าดำเนินการเช่นนั้น เว้นแต่ลูกค้าจะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
ล่วงหน้าจาก Google (รวมถึงตามที่ตกลงไว้และได้รับอนุญาตโดยข้อตกลงสำหรับผู้ร่วมธุรกิจของ HIPAA ที่มี
การลงนามซึ่งครอบคลุมบริการนี้) ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2022 เป็นต้นไป ลูกค้าจะไม่สามารถลงนามในข้อตกลงสำหรับผู้ร่วมธุรกิจของ HIPAA ซึ่งครอบคลุมบริการที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ (ข้อตกลงสำหรับผู้ร่วมธุรกิจของ HIPAA ที่ลงนามโดยลูกค้าและ Google ไปแล้วก่อนหน้านั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ) และจะสามารถลงนามใน
ข้อตกลงสำหรับผู้ร่วมธุรกิจของ HIPAA ซึ่งครอบคลุมบริการที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง Google Cloud Platform ของลูกค้าเท่านั้น

2.5 คำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการตอบสนองคำขอของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการภายในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตและตามข้อกำหนดของคำขอบุคคลที่สามเพื่อ (ก) แจ้งให้ลูกค้าทราบ
โดยทันทีเมื่อได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขออันสมเหตุสมผลของลูกค้าในการพยายามคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) ให้ข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลต่อลูกค้าเพื่อตอบสนองคำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้าจะพยายามหาข้อมูลที่จำเป็นเพื่อตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามด้วยตัวเองเป็นลำดับแรก และจะติดต่อ Google เฉพาะในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถหาข้อมูลดังกล่าวได้ตามสมควรเท่านั้น

2.6 การประมวลผลข้อมูล คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงว่าการให้และการใช้บริการจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูล และคู่สัญญาจะปฏิบัติตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับบริการดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้อง

3. ข้อมูลที่เป็นความลับ ผู้รับจะไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยต่อพนักงาน บริษัทในเครือ ตัวแทน หรือที่ปรึกษามืออาชีพซึ่งจำเป็นต้องทราบข้อมูลดังกล่าวและได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร (หรือมีข้อผูกพัน ในกรณีของที่ปรึกษามืออาชีพ) ที่จะรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับ ผู้รับจะต้องมั่นใจว่าบุคคลและหน่วยงานเหล่านั้นอาจใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวตามสิทธิและเพื่อดำเนินงานตามภาระหน้าที่ให้เสร็จสิ้นตามที่ข้อตกลงนี้กำหนดไว้ และรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลที่กลายเป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่ใช่ความผิดของผู้รับ (ข) ข้อมูลที่ผู้รับพัฒนาขึ้นอย่างอิสระ หรือ
(ค) ข้อมูลที่บุคคลอื่นมอบให้แก่ผู้รับอย่างถูกต้องโดยปราศจากภาระหน้าที่ในการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ
ผู้รับยังสามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามคำสั่งศาล กฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล (หากได้รับอนุญาต หลังจากแจ้งให้ลูกค้าทราบตามสมควรและใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อให้โอกาสลูกค้าในการขอให้มีคำสั่งคุ้มครองหรือคำสั่งที่เทียบเท่ากัน
(โดยลูกค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง))

4. ข้อมูลลูกค้า ตามส่วนที่ 1.2 (ฟีเจอร์รุ่นเบต้า) และส่วนที่ 2.1 (การปฏิบัติตามข้อกำหนด) Google จะไม่เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลลูกค้า เว้นแต่ (ก) ตามที่จำเป็นเพื่อให้บริการ (ข) ในกรณีและตามที่กำหนดโดยคำสั่งศาล กฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล (หากได้รับอนุญาต หลังจากแจ้งให้ลูกค้าทราบตามสมควรและใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อให้โอกาสแก่ลูกค้าในการขอให้มีคำสั่งคุ้มครองหรือคำสั่งที่เทียบเท่ากัน (โดยลูกค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง)) หรือ (ค) ตามที่ลูกค้ากำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หากลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าร้องขอ Google ยังสามารถเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อให้การสนับสนุนด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้ได้ ลูกค้าจะได้รับ และจะตรวจสอบว่าผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าได้รับความยินยอมที่จำเป็นซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ทั้งหมดในการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัวไปยังบริการและอนุญาตให้มีการประมวลผลข้อมูลที่ให้ไว้กับ Google ผ่านบริการภายใต้ข้อตกลงนี้ ข้อมูลลูกค้าจะไม่รวมข้อมูลบริการที่ Google เก็บรวบรวมหรือจัดทำขึ้นในระหว่างการให้หรือการดูแลระบบบริการ เช่น การตั้งค่าทางเทคนิคหรือด้านการปฏิบัติการ การใช้งานหรือ
การกำหนดค่า หรือข้อมูลเมตาอื่นๆ

5. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ข้อตกลงนี้ไม่ได้ให้สิทธิในเนื้อหาของบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ของบุคคลอื่นแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยนัยหรือโดยทางอื่นๆ เว้นแต่จะระบุไว้อย่างชัดเจน ระหว่างคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ลูกค้าจะเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในข้อมูลลูกค้า และ Google จะเป็นเจ้าของสิทธิ
ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในบริการตามส่วนที่ 2.1 (การปฏิบัติตามข้อกำหนด)

6. การรับรองและการรับประกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองว่าตนมีอำนาจและสิทธิโดยสมบูรณ์ในการทำข้อตกลง
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการให้หรือใช้บริการ
ตามแต่ละกรณี (รวมถึงกฎหมายการแจ้งเหตุการละเมิดด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง)

7. การสิ้นสุด

7.1 โดยลูกค้า ลูกค้าสามารถยุติการใช้บริการได้ตลอดเวลา

7.2 โดย Google ลูกค้ายอมรับว่า Google สามารถสิ้นสุดข้อตกลงนี้และ/หรือสิ้นสุดการให้บริการทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดได้ทุกเมื่อและด้วยสาเหตุใดก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดที่กล่าวมา Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อยสามสิบ (30) วันก่อนการสิ้นสุดบริการ ซึ่งอาจมีการสิ้นสุดบริการทันทีหาก (ก) ลูกค้าได้ละเมิดข้อตกลงนี้ หรือ (ข) Google พิจารณาตามสมควรว่าการให้บริการต่อไปอาจเป็นการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7.3 ผลของการสิ้นสุดข้อตกลง หากข้อตกลงนี้สิ้นสุดลง (ก) สิทธิที่ให้แก่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะหยุดลงโดยทันที
(ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้) (ข) หลังจากระยะเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Google จะลบข้อมูลลูกค้าโดยลบ Pointer ไปยังข้อมูลลูกค้าในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานอยู่ของ Google และเขียนทับเมื่อเวลาผ่านไป
(ค) Google จะลบข้อมูลลูกค้าที่จัดเก็บไว้ใน GCS หลังจากระยะเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ (ง) คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะใช้ความพยายามอันสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อส่งคืนหรือทำลายข้อมูลที่เป็นความลับอื่นๆ ทั้งหมดของอีกฝ่ายทันทีที่ได้รับคำขอ

7.4 การระงับ Google อาจระงับบริการหรือสิ้นสุดข้อตกลงนี้โดยอัตโนมัติในกรณีที่การใช้บริการของลูกค้าทำให้โครงสร้างพื้นฐานของ Google ทำงานหนักอย่างไม่สมเหตุสมผลหรือมากเกินไป (ตามที่ Google พิจารณาตามสมควร)

8. การเปลี่ยนแปลงบริการหรือข้อกำหนด Google อาจแก้ไขข้อกำหนดเหล่านี้ (รวมถึง URL ที่อ้างอิงอยู่ในข้อกำหนดเหล่านี้และเนื้อหาภายใน URL ดังกล่าว) เป็นครั้งคราว ประกาศการแก้ไขดังกล่าวจะอยู่ใน URL ที่เกี่ยวข้อง (หรือ URL อื่นที่ Google อาจระบุไว้เป็นครั้งคราว) อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของบริการ หรือส่งไปยังอีเมลของลูกค้าที่ให้ไว้ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการ การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเหล่านี้ (รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาภายใน URL) จะไม่มีผลย้อนหลัง และจะมีผลภายใน 14 วันหลังจากการประกาศ เว้นแต่ว่าการเปลี่ยนแปลงการอ้างอิง URL จะมีผลในทันที Google สามารถทำการเปลี่ยนแปลงบริการอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ได้เป็นครั้งคราว แอปพลิเคชัน ฟีเจอร์ หรือฟังก์ชันใหม่อาจมีให้ใช้งานเพิ่มเติมเป็นครั้งคราวในฐานะส่วนหนึ่งของบริการ และอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติมตามข้อตกลงของคุณ หากลูกค้าไม่ได้ยอมรับข้อกำหนดที่มีการแก้ไขสำหรับบริการนี้ ลูกค้าควรหยุดการใช้บริการของตน การแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้จะมีผลผูกพันก็ต่อเมื่อ (ก) เป็นลายลักษณ์อักษรและลงชื่อโดยตัวแทนที่ได้รับอนุญาตของ Google (ข) ลูกค้ายอมรับข้อกำหนดที่ปรับปรุงผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ (ค) ลูกค้าใช้บริการต่อหลังจาก Google ได้ประกาศการปรับปรุงข้อตกลงนี้หรือนโยบายใดๆ
ที่ควบคุมการใช้บริการนี้

9. ข้อจำกัดความรับผิด คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าตนจะใช้ความระมัดระวังและทักษะอย่างสมเหตุสมผลในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของตนภายใต้ข้อตกลงนี้ ยกเว้นจะระบุไว้ในข้อตกลงนี้อย่างชัดเจน (ก) คู่สัญญาจำกัดความรับผิดต่อเงื่อนไข การรับประกัน และข้อกำหนดอื่นๆ ทั้งหมดซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการรับประกันโดยนัยสำหรับการไม่ละเมิด คุณภาพที่น่าพอใจ คุณค่าความเป็นสินค้า รวมถึงความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ใดๆ และความสอดคล้องกับคำอธิบาย และ (ข) ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด บริการที่จัดหาให้มีลักษณะ "ตามสภาพ"

10. การชดใช้ค่าเสียหายและข้อจำกัดความรับผิด

(ก) เท่าที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้อนุญาต คุณจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับ Google ตลอดจนกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่ พนักงาน และผู้รับจ้างของ Google สำหรับการดำเนินการทางกฎหมายของบุคคลที่สาม (รวมถึงการดำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐ) (1) ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้า หรือ (2) เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการที่ลูกค้า
ใช้บริการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือละเมิดข้อตกลงนี้ การชดใช้ค่าเสียหายนี้ครอบคลุมความรับผิดหรือ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกล่าวอ้าง ความสูญเสีย ความเสียหาย การตัดสิน ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี และค่าธรรมเนียมสำหรับบริการด้านกฎหมาย

(ข) ไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงนี้ที่ละเว้นหรือจำกัดความรับผิดของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายต่อ (1) การประพฤติมิชอบหรือการสื่อให้เข้าใจผิดอันเป็นการฉ้อโกง (2) ภาระหน้าที่ในการชดใช้ค่าเสียหายภายใต้ข้อตกลงนี้ หรือ (3) สิ่งที่
ไม่สามารถละเว้นหรือจำกัดความรับผิดได้ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(ค) คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดภายใต้หรือโดยเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ (ไม่ว่าในสัญญา การละเมิด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความประมาทเลินเล่อ หรืออื่นๆ) จากการสูญเสียผลกำไร รายได้ ค่าใช้จ่ายหรือโอกาสทางธุรกิจที่คาดหมายไว้ การสูญเสียโดยอ้อมหรือโดยเป็นผลสืบเนื่อง หรือค่าเสียหายที่เป็นบทลงโทษซึ่งเกิดขึ้นกับหรือเกิดจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง (ไม่ว่าการสูญเสียดังกล่าวจะอยู่ในดุลยพินิจของคู่สัญญา ณ วันที่ในข้อตกลงนี้หรือไม่ก็ตาม)

(ง) ตามส่วนย่อย (ข) และ (ค) ข้างต้น หากข้อตกลงนี้อยู่ในบังคับของ (1) กฎหมายอังกฤษ ตามส่วนที่ 11.9
ความรับผิดโดยรวมที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้จะไม่มากเกินกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ (2) กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามส่วนที่ 11.9 ความรับผิดโดยรวมของ Google ซึ่งเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้จะไม่มากเกินกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

11. เบ็ดเตล็ด

11.1 การแจ้งให้ทราบ การแจ้งให้ทราบทั้งหมดเกี่ยวกับการสิ้นสุดหรือการละเมิดจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ
เป็นลายลักษณ์อักษร และส่งถึงฝ่ายกฎหมายของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ที่อยู่สำหรับส่งการแจ้งไปยังฝ่ายกฎหมาย
ของ Google คือ legal-notices@google.com การแจ้งให้ทราบอื่นๆ ทั้งหมดจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ
เป็นลายลักษณ์อักษร และส่งถึงผู้ติดต่อหลักของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง (หรืออีเมลที่ระบุผ่านการใช้บริการ
ในกรณีของลูกค้า) การแจ้งให้ทราบจะถือว่าได้รับแล้วเมื่อมีอีเมลตอบรับเป็นลายลักษณ์อักษรหรืออีเมลตอบรับ
แบบอัตโนมัติ หรือโดยการตรวจสอบจากบันทึกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (แล้วแต่กรณี)

11.2 การให้สิทธิ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถให้สิทธิส่วนใดๆ ในข้อตกลงนี้ หากไม่ได้รับความยินยอม
เป็นลายลักษณ์อักษรของอีกฝ่าย ยกเว้นกรณีที่ให้สิทธิแก่บริษัทในเครือที่ (ก) ผู้รับโอนสิทธิได้ยินยอมที่จะมี
ข้อผูกพันตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ข) ผู้ให้สิทธิยังคงมีความรับผิดต่อภาระหน้าที่ตามข้อตกลงนี้ หากผู้รับสิทธิผิดข้อตกลง และ (ค) ผู้ให้สิทธิได้แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบถึงการให้สิทธิแล้ว ความพยายามอื่นใดในการให้สิทธิจะถือว่าเป็นโมฆะ

11.3 การเปลี่ยนการควบคุม หากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงการควบคุมนอก (เช่น ผ่านการซื้อหรือขายหุ้น การควบรวมกิจการ หรือธุรกรรมของบริษัทในรูปแบบอื่น) นอกเหนือจากการปรับโครงสร้างภายในหรือการปรับโครงสร้างองค์กรของ Google และบริษัทในเครือ (ก) คู่สัญญาดังกล่าวจะแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วันหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการควบคุม และ (ข) คู่สัญญาอีกฝ่ายสามารถสิ้นสุดข้อตกลงนี้ได้ตลอดเวลาในทันทีตั้งแต่การเปลี่ยนการควบคุมไปจนครบ 30 วันตามปฏิทิน นับจากได้รับแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

11.4 สิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม คู่สัญญาไม่ต้องรับผิดสำหรับความล้มเหลวหรือความล่าช้าในการปฏิบัติงานในขอบเขตที่เกิดจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอย่างสมเหตุสมผลของคู่สัญญา

11.5 ไม่มีการสละสิทธิ์ การแยกออกจากกันได้ จะไม่มีการถือว่าคู่สัญญาได้สละสิทธิ์ใดๆ จากการไม่ใช้
(หรือความล่าช้าในการใช้) สิทธิใดๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ หากเงื่อนไขใดๆ (หรือส่วนของเงื่อนไข)
ของข้อตกลงนี้ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ ข้อตกลงส่วนที่เหลือจะยังบังคับใช้ต่อไป

11.6 ไม่มีตัวแทน ผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม ข้อตกลงนี้ไม่มีการสร้างตัวแทน พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ
หรือกิจการร่วมค้าระหว่างคู่สัญญา ข้อตกลงนี้ไม่ได้มอบผลประโยชน์ใดๆ แก่บุคคลที่สาม เว้นแต่ว่าข้อตกลงจะระบุไว้เช่นนั้นอย่างชัดเจน สิทธิของคู่สัญญาที่จะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้จะไม่ขึ้นอยู่กับความยินยอมของบุคคลอื่นใด

11.7 การเหมาช่วง คู่สัญญาสามารถเหมาช่วงภาระหน้าที่ใดๆ ของตนภายใต้ข้อตกลงนี้ แต่ยังคงต้องรับผิดจากภาระหน้าที่ที่เหมาช่วงทั้งหมด ตลอดจนการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของผู้ทำสัญญาช่วง

11.8 การเยียวยา ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จำกัดความสามารถของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการพยายามให้ได้มาซึ่งการเยียวยา ยกเว้นในกระบวนพิจารณาที่ยื่นดำเนินการในระหว่างการใช้บริการของคุณหรือในเวลา 1 ปี
หลังจากการใช้บริการดังกล่าว คุณจะไม่ขอให้มีคำสั่งห้ามหรือคำสั่งระงับเกี่ยวกับบริการหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของบริการอันเนื่องมาจากการละเมิดสิทธิบัตร

11.9 กฎหมายที่ควบคุม (ก) เว้นแต่ที่ระบุไว้ในส่วนที่ 11.9(ข) ด้านล่าง ข้อตกลงนี้จะอยู่ในบังคับและการตีความตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียโดยไม่มีการอ้างอิงถึงหลักการว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย ในกรณีที่มีความขัดแย้งใดระหว่างกฎหมาย กฎ และกฎระเบียบของประเทศอื่นกับกฎหมาย กฎ และกฎระเบียบของรัฐแคลิฟอร์เนีย กฎหมาย กฎ และกฎระเบียบของรัฐแคลิฟอร์เนียจะมีผลควบคุมเหนือกว่า คู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงที่จะยื่นเรื่องต่อเขตอำนาจศาลเฉพาะเหนือบุคคลที่ตั้งอยู่ในซานตาคลาราเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย (ข) หากลูกค้ามีฐานที่ตั้งอยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา ข้อตกลงนี้จะอยู่ในบังคับของกฎหมายอังกฤษและคู่สัญญาจะยื่นฟ้องต่อเขตอำนาจเฉพาะของศาลอังกฤษหากเกิดข้อโต้แย้งใดๆ (ทั้งที่อยู่ในสัญญาและไม่อยู่ในสัญญา) เกี่ยวกับข้อตกลงนี้
(ค) อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศและกฎหมายเอกรูปว่าด้วยธุรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Uniform Computer Information Transactions Act) จะไม่มีผลใช้บังคับกับข้อตกลงนี้ ซอฟต์แวร์จะอยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐอเมริกา และจะไม่สามารถส่งออกไปยังหรือใช้งานโดยประเทศหรือบุคคลที่ถูกห้ามทำการค้า

11.10 การมีผลต่อไป ส่วนที่จะมีผลต่อไปแม้ว่าข้อตกลงนี้หมดอายุหรือสิ้นสุดแล้ว ได้แก่ ส่วนที่ 1.2 (ฟีเจอร์
รุ่นเบต้า) (ประโยคสุดท้ายเท่านั้น), 2.5 (คำขอของบุคคลที่สาม), 3 (ข้อมูลที่เป็นความลับ), 7 (การสิ้นสุด)
และ 11 (เบ็ดเตล็ด)

11.11 ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ ข้อตกลงนี้ รวมถึงข้อกำหนดเหล่านี้และเอกสารทั้งหมดที่อ้างถึงในที่นี้ เป็นข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ของคู่สัญญาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีผลแทนข้อตกลงก่อนหน้าหรือข้อตกลงอื่นใดที่มีอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้อกำหนดใน URL ใดที่อ้างอิงถึงในข้อตกลงนี้จะมีการผนวกรวมไว้ในที่นี่ด้วยการอ้างอิงนี้ ในการทำข้อตกลงนี้
คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้ยึดถือและจะไม่มีสิทธิหรือการชดเชยใดๆ ตามคำแถลง การรับรอง หรือการรับประกัน
(ไม่ว่าจะกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์) ยกเว้นคำแถลง การรับรอง หรือการรับประกันที่ระบุไว้โดยชัดแจ้งในข้อตกลงนี้

11.12 ข้อกำหนดที่ขัดแย้ง หากมีความขัดแย้งกันระหว่างเอกสารที่ประกอบขึ้นเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะมีผลควบคุมตามลำดับ กล่าวคือข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ ตามด้วยนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้

12. คำนิยาม

12.1 "นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้" หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับบริการที่มีให้ที่ support.google.com/looker-studio/answer/7020012 (ตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว) หรือ URL อื่นๆ
ที่ Google อาจมีให้

12.2 "ผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบุคลากรที่ลูกค้ากำหนดไว้ซึ่งได้รับบัญชีผู้ดูแลระบบของ Google เพื่อวัตถุประสงค์
ในการดูแลระบบบริการในนามของลูกค้า

12.3 "บริษัทในเครือ" หมายถึงบุคคลที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ในการควบคุมระดับเดียวกับคู่สัญญา
ทั้งทางตรงและทางอ้อม

12.4 "ฟีเจอร์ของรุ่นเบต้า" หมายถึงฟีเจอร์ของบริการหรือบริการที่ Google ระบุไว้ รวมถึงผ่านทางอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของบริการที่เกี่ยวข้องหรือผ่านการสื่อสารอื่นๆ ไปยังลูกค้าว่าเป็น "รุ่นเบต้า" "รุ่นอัลฟ่า" "รุ่นทดลอง" หรือ
"รุ่นก่อนวางจำหน่าย" หรือมีการระบุไว้โดยชัดแจ้งว่าไม่ได้รับการรองรับ

12.5 "ข้อมูลที่เป็นความลับ" หมายถึงข้อมูลที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเปิดเผยแก่อีกฝ่ายภายใต้ข้อตกลงนี้ และ
มีการกำกับไว้ว่าเป็นความลับ หรือโดยปกติถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับภายใต้สถานการณ์นั้นๆ
ตามส่วนที่ 1.2 (ฟีเจอร์รุ่นเบต้า) และ 4 (ข้อมูลลูกค้า) ข้อมูลลูกค้าก็คือข้อมูลที่เป็นความลับของคุณ

12.6 "ข้อมูลลูกค้า" หมายถึงข้อมูลที่จัดส่ง จัดเก็บ ส่ง หรือได้รับผ่านบริการที่ดำเนินการโดยลูกค้าหรือ
ผู้ใช้ปลายทางของลูกค้า

12.7 "ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูล" หมายถึงข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลที่ https://privacy.google.com/businesses/processorterms(หรือ URL อื่นๆ ตามที่ Google อาจมีให้) ตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว

12.8 "ผู้ใช้ปลายทาง" หมายถึงบุคคลหรือนิติบุคคล รวมถึงบุคคลที่สาม ซึ่งคุณหรือผู้ใช้ปลายทางของคุณอนุญาตให้ใช้หรือเข้าถึงบริการ (หรือรายงานหรือส่วนประกอบใดๆ ในรายงานนั้น)

12.9 "กฎหมายควบคุมการส่งออก" หมายถึงกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการควบคุมการส่งออกและการส่งกลับออกไปที่บังคับใช้ทั้งหมด รวมถึงกฎระเบียบการส่งออก (Export Administration Regulations) ที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้ การคว่ำบาตรทางการค้าและทางเศรษฐกิจที่สำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศของกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้ และกฎระเบียบการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulations) ที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้

12.10 "Google" หมายถึง (ก) Google Ireland Limited ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ Gordon House, Barrow Street, Dublin 4, Ireland ในกรณีที่สถานที่ตั้งธุรกิจหลักของคุณ (สำหรับนิติบุคคล) หรือสถานที่พำนักอาศัย (สำหรับบุคคล) อยู่ในประเทศใดๆ ภายในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา ("EMEA") (ข) Google Asia Pacific Pte Ltd. ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ 70 Pasir Panjang Road, #03-71, Mapletree Business City II Singapore 117371 ในกรณีที่สถานที่ตั้งธุรกิจหลักของคุณ (สำหรับนิติบุคคล) หรือสถานที่พำนักอาศัย (สำหรับบุคคล) อยู่ในประเทศใดๆ ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ("APAC") หรือ (ค) Google LLC ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, California 94043 ในกรณีที่สถานที่ตั้งธุรกิจหลักของคุณ (สำหรับนิติบุคคล) หรือสถานที่พำนักอาศัย (สำหรับบุคคล) อยู่ในประเทศใดๆ ในโลกนอกเหนือไปจากประเทศใน EMEA หรือ APAC

12.11 "ข้อตกลง Google Cloud Platform" หมายถึงข้อตกลงที่กำกับการใช้ Google Cloud Platform ของลูกค้า (ตามที่อธิบายไว้ใน https://cloud.google.com/terms/services)

12.12 "กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง" หมายถึงการใช้งานต่างๆ เช่น เกี่ยวกับสถานประกอบการทางนิวเคลียร์
การควบคุมจราจรทางอากาศ หรือระบบช่วยชีวิต ซึ่งการใช้บริการหรือความล้มเหลวของบริการอาจนำไปสู่
การเสียชีวิต การบาดเจ็บส่วนบุคคล หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

12.13 "HIPAA" หมายถึงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมและการส่งผ่านข้อมูลทางด้านการประกันสุขภาพปี 1996
ซึ่งอาจมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว และกฎระเบียบต่างๆ ที่ออกภายใต้อำนาจของกฎหมายนี้

12.14 "สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคตตามกฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายว่าด้วยความลับทางการค้า กฎหมายเครื่องหมายการค้า กฎหมายว่าด้วยสิทธิโดยชอบธรรม และสิทธิอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

12.15 "บริการ” หมายถึง Looker Studio แต่ไม่รวม Looker Studio Pro

12.16 "ซอฟต์แวร์" หมายถึงเครื่องมือ บริการ ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์อื่นๆ ที่ Google มอบให้โดยเกี่ยวข้องกับบริการ ซึ่งลูกค้าอาจใช้งาน และการอัปเดตใดๆ ที่ Google อาจทำกับซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นครั้งคราว

12.17 "คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามสำหรับบันทึกเกี่ยวกับการใช้บริการของ
ผู้ใช้ปลายทาง คำขอของบุคคลที่สามอาจเป็นหมายค้นตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายเรียก คำสั่งตาม
กฎหมายอื่นๆ ที่มีผลบังคับ หรือคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ปลายทางที่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล

ฉบับก่อนหน้า

22 ธันวาคม 2022

28 มิถุนายน 2022

16 พฤศจิกายน 2020

3 กันยายน 2019

 

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
18251428549351686211
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
102097
false
false