กระบวนการบังคับใช้

เมื่อตรวจสอบเนื้อหาหรือบัญชีเพื่อดูว่าผิดกฎหมายหรือละเมิดนโยบายหรือไม่ เราจะตัดสินโดยพิจารณาจากข้อมูลหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลเมตาของแอป (เช่น ชื่อและคำอธิบายแอป) ประสบการณ์การใช้งานในแอป ข้อมูลบัญชี (เช่น ประวัติการละเมิดนโยบายที่ผ่านมา) และข้อมูลอื่นๆ ที่ได้รับผ่านกลไกการรายงาน (หากมี) ตลอดจนการตรวจสอบที่เราเป็นผู้เริ่มดำเนินการเอง

หากแอปหรือบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณละเมิดนโยบายใดๆ เราจะดำเนินการตามความเหมาะสมดังที่ระบุไว้ด้านล่าง นอกจากนี้ เราจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการที่ได้ทำไปให้คุณทราบผ่านทางอีเมลพร้อมด้วยวิธีการยื่นอุทธรณ์หากคุณเชื่อว่าเราดำเนินการด้วยความผิดพลาด

โปรดทราบว่าประกาศการนำออกหรือประกาศของผู้ดูแลระบบอาจไม่ระบุการละเมิดนโยบายแต่ละรายการหรือครบทุกรายการที่ปรากฏในบัญชีหรือแอปของคุณ หรือแคตตาล็อกแอปซึ่งมีขอบเขตที่กว้างขึ้น นักพัฒนาแอปมีหน้าที่แก้ไขปัญหาด้านนโยบายทั้งหมดที่เกิดขึ้นและทำการสอบทานเพิ่มเติมให้แน่ใจว่าส่วนที่เหลือของแอปหรือบัญชีเป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบายโดยสมบูรณ์ การไม่แก้ไขการละเมิดนโยบายในบัญชีและแอปทั้งหมดอาจส่งผลให้มีการดำเนินการบังคับใช้เพิ่มเติม

การละเมิดนโยบายเหล่านี้ (เช่น มัลแวร์ การประพฤติมิชอบ และแอปที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้หรืออุปกรณ์) หรือข้อตกลงการจัดจำหน่ายของนักพัฒนาแอป (DDA) อย่างร้ายแรงหรือซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะส่งผลให้มีการสิ้นสุดบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play นั้นๆ หรือบัญชีที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการบังคับใช้ 

การดำเนินการบังคับใช้แบบต่างๆ อาจส่งผลต่อแอปในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน เราใช้การประเมินโดยเจ้าหน้าที่และระบบอัตโนมัติร่วมกันในการตรวจสอบแอปและเนื้อหาในแอป เพื่อสืบหาและประเมินเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายของเราและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และระบบนิเวศของ Google Play โดยรวม การใช้โมเดลอัตโนมัติช่วยให้เราตรวจพบการละเมิดได้มากขึ้นและประเมินสิ่งที่อาจเป็นปัญหาได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยดูแล Google Play ให้ปลอดภัยสำหรับทุกคน เนื้อหาที่ละเมิดนโยบายจะถูกนำออกโดยโมเดลอัตโนมัติ หรือในกรณีที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดยิ่งขึ้นเนื่องจากจะต้องอาศัยความเข้าใจในบริบทของเนื้อหา เป็นต้น จะมีการแจ้งว่าเนื้อหาดังกล่าวไม่เหมาะสมเพื่อรับการตรวจสอบเพิ่มเติมและการประเมินเนื้อหาจากผู้ปฏิบัติงานและนักวิเคราะห์ที่ผ่านการฝึกอบรม จากนั้นเราจะนำผลการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่นี้ไปช่วยสร้างข้อมูลการฝึกฝนเพื่อปรับปรุงโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงต่อไป

ส่วนต่อไปนี้จะอธิบายการดำเนินการต่างๆ ที่ Google Play อาจใช้ และผลกระทบที่มีต่อแอปและ/หรือบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณ

การดำเนินการเหล่านี้จะมีผลในทุกภูมิภาค เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในการสื่อสารเกี่ยวกับการบังคับใช้ ตัวอย่างเช่น หากแอปของคุณถูกระงับ ก็จะใช้แอปนั้นไม่ได้ในทุกภูมิภาค นอกจากนี้ การดำเนินการเหล่านี้จะมีผลไปตลอด เว้นแต่คุณจะอุทธรณ์การดำเนินการและการอุทธรณ์ได้รับอนุมัติ ทั้งนี้ยกเว้นกรณีที่มีการระบุไว้เป็นอย่างอื่น

 

การปฏิเสธ

  • แอปใหม่หรือการอัปเดตแอปที่ส่งเข้ารับการตรวจสอบจะไม่มีให้บริการใน Google Play 
  • ถ้าระบบปฏิเสธการอัปเดตสำหรับแอปที่มีอยู่ เวอร์ชันที่เผยแพร่ก่อนการอัปเดตจะยังคงมีให้บริการใน Google Play
  • การปฏิเสธจะไม่ส่งผลต่อสิทธิ์ของคุณในการเข้าถึงข้อมูลการติดตั้งของผู้ใช้ที่มีอยู่ สถิติ และคะแนนของแอปที่ถูกปฏิเสธนั้น 
  • การปฏิเสธจะไม่ส่งผลต่อสถานะของบัญชีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Google Play ของคุณ

หมายเหตุ: อย่าพยายามส่งแอปที่ถูกปฏิเสธมาอีกจนกว่าคุณจะแก้ไขปัญหาการละเมิดนโยบายทั้งหมดแล้ว

 

การนำออก

  • แอปนี้ ตลอดจนแอปเวอร์ชันก่อนหน้าได้ถูกนำออกจาก Google Play แล้ว และจะไม่มีให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดอีกต่อไป
  • เนื่องจากแอปถูกนำออกไปแล้ว ผู้ใช้จะดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปไม่ได้ ข้อมูลนี้จะได้รับการคืนค่าเมื่อคุณส่งการอัปเดตที่สอดคล้องกับนโยบายสำหรับแอปที่นำออกไปแล้วดังกล่าว
  • ผู้ใช้อาจทำการซื้อในแอปหรือใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินสำหรับการซื้อในแอปไม่ได้จนกว่าเวอร์ชันที่สอดคล้องกับนโยบายจะได้รับอนุมัติจาก Google Play
  • การนำออกจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณโดยทันที แต่การนำออกหลายครั้งอาจส่งผลให้บัญชีถูกระงับ

หมายเหตุ: อย่าพยายามเผยแพร่แอปที่ถูกนำออกไปแล้วซ้ำจนกว่าคุณจะแก้ไขปัญหาการละเมิดนโยบายทั้งหมดแล้ว

 

การระงับ

  • แอปนี้ ตลอดจนแอปเวอร์ชันก่อนหน้าได้ถูกนำออกจาก Google Play แล้ว และจะไม่มีให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดอีกต่อไป
  • การระงับอาจเกิดขึ้นจากการละเมิดนโยบายที่ร้ายแรงหรือซ้ำหลายครั้ง รวมถึงการปฏิเสธหรือการนำแอปออกซ้ำๆ
  • เนื่องจากแอปถูกระงับ ผู้ใช้จะดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปไม่ได้ ข้อมูลนี้จะได้รับการคืนค่าเมื่อคุณส่งการอัปเดตที่สอดคล้องกับนโยบาย
  • คุณจะใช้ APK หรือ App Bundle ของแอปที่ถูกระงับไม่ได้อีกต่อไป
  • ผู้ใช้จะทำการซื้อในแอปหรือใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินสำหรับการซื้อในแอปไม่ได้จนกว่าเวอร์ชันที่สอดคล้องกับนโยบายจะได้รับอนุมัติจาก Google Play
  • การระงับถือเป็นประกาศเตือนการไม่รักษาบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ให้อยู่ในสถานะที่ดี การได้รับประกาศเตือนหลายครั้งอาจส่งผลให้มีการสิ้นสุดบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play นั้นๆ และบัญชีที่เกี่ยวข้อง

หมายเหตุ: อย่าพยายามเผยแพร่แอปที่ถูกระงับซ้ำอีกเว้นแต่ Google Play อธิบายไว้ว่าคุณทำได้

 

จำกัดระดับการเข้าถึง

  • การค้นพบแอปของคุณได้ใน Google Play ถูกจำกัด แอปจะยังคงมีให้บริการใน Google Play และผู้ใช้จะเข้าถึงได้ด้วยลิงก์โดยตรงไปยังข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอป 
  • การที่แอปมีสถานะจำกัดระดับการเข้าถึงจะไม่ส่งผลต่อสถานะของบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณ 
  • การที่แอปมีสถานะจำกัดระดับการเข้าถึงจะไม่ส่งผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่มีอยู่ของแอป

 

จำกัดภูมิภาค

  • ผู้ใช้จะดาวน์โหลดแอปของคุณได้ผ่านทาง Google Play ในบางภูมิภาคเท่านั้น
  • และผู้ใช้จากภูมิภาคอื่นๆ จะไม่พบแอปดังกล่าวใน Play Store
  • ผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปไว้ก่อนหน้านี้จะยังคงใช้งานต่อไปได้แต่จะไม่ได้รับการอัปเดตอีก
  • การจำกัดภูมิภาคจะไม่ส่งผลต่อสถานะของบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณ

 

สถานะบัญชีถูกจำกัด

  • เมื่อบัญชีนักพัฒนาแอปมีสถานะถูกจำกัด ระบบจะนำแอปทั้งหมดในแคตตาล็อกออกจาก Google Play และคุณจะเผยแพร่แอปใหม่หรือเผยแพร่แอปที่มีอยู่แล้วซ้ำไม่ได้อีก แต่คุณจะยังคงเข้าถึง Play Console ได้
  • เนื่องจากแอปทั้งหมดถูกนำออกไปแล้ว ผู้ใช้จะดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปและโปรไฟล์นักพัฒนาแอปของคุณไม่ได้
  • ผู้ใช้ปัจจุบันจะทำการซื้อในแอปหรือใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินสำหรับการซื้อในแอปบนแอปของคุณไม่ได้
  • คุณจะยังคงสามารถใช้ Play Console เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ Google Play และแก้ไขข้อมูลบัญชีได้อยู่ต่อไป
  • คุณจะเผยแพร่แอปซ้ำได้เมื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดนโยบายทั้งหมดแล้ว

 

การยกเลิกบัญชี

  • เมื่อบัญชีนักพัฒนาแอปสิ้นสุดลง ระบบจะนำแอปทั้งหมดในแคตตาล็อกออกจาก Google Play และคุณจะเผยแพร่แอปใหม่ไม่ได้อีก ซึ่งหมายความว่าบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะถูกระงับอย่างถาวรด้วยเช่นกัน
  • การระงับหลายครั้งหรือการระงับเนื่องจากละเมิดนโยบายอย่างร้ายแรงอาจส่งผลให้มีการสิ้นสุดบัญชี Play Console
  • เนื่องจากมีการนำแอปในบัญชีที่สิ้นสุดการใช้งานไปแล้วออก ผู้ใช้จะดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปและโปรไฟล์นักพัฒนาแอปของคุณไม่ได้
  • ผู้ใช้ปัจจุบันจะทำการซื้อในแอปหรือใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินสำหรับการซื้อในแอปบนแอปของคุณไม่ได้

หมายเหตุ: บัญชีใหม่ที่คุณพยายามเปิดจะสิ้นสุดลงด้วย (โดยไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนของนักพัฒนาแอป) ดังนั้นโปรดอย่าพยายามลงทะเบียนบัญชี Play Console บัญชีใหม่เมื่อบัญชีอื่นๆ ของคุณบัญชีใดบัญชีหนึ่งสิ้นสุดลงแล้ว

 

บัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว

บัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวคือบัญชีนักพัฒนาแอปที่ไม่มีการใช้งานหรือถูกปล่อยทิ้งไว้ บัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวนั้นถือว่าไม่อยู่ในสถานะดีตามข้อกำหนดในข้อตกลงการจัดจำหน่ายของนักพัฒนาแอป

บัญชีนักพัฒนาแอป Google Play มีไว้สำหรับนักพัฒนาที่ยังทำงานอยู่ และมีการเผยแพร่และบำรุงรักษาแอปของตนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการละเมิดข้อตกลง เราจะปิดบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวหรือไม่ได้ใช้งาน หรือมิเช่นนั้นบัญชีต้องมีการใช้งานอย่างมีนัยสำคัญ (ตัวอย่างเช่น เผยแพร่และอัปเดตแอป เข้าไปดูข้อมูลทางสถิติต่างๆ หรือจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store) อยู่เป็นประจำ

การปิดบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวจะเป็นการลบบัญชีของคุณรวมถึงข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนั้น ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนไม่สามารถขอคืนได้ ดังนั้นคุณจึงจะไม่ได้รับเงินคืน ก่อนที่จะปิดบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว เราจะแจ้งให้คุณทราบทางข้อมูลติดต่อที่คุณให้ไว้สำหรับบัญชีนั้น 

การปิดบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวจะไม่เป็นการจำกัดไม่ให้คุณสร้างบัญชีใหม่ในอนาคต หากคุณตัดสินใจที่จะเผยแพร่แอปบน Google Play คุณจะเปิดใช้งานบัญชีที่ปิดไปแล้วอีกไม่ได้ และจะใช้แอปหรือข้อมูลจากบัญชีเก่าในบัญชีใหม่ไม่ได้เช่นกัน  

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17740802482777824040
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false