สร้างและจัดการการสมัครใช้บริการ

ในเดือนพฤษภาคม 2022 เราได้เปิดตัวการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีกำหนดและจัดการผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการใน Play Console หากคุณมีการสมัครใช้บริการอยู่แล้วและต้องการทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลอย่างไร โปรดดูการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในการสมัครใช้บริการใน Play Console

หน้านี้อธิบายวิธีสร้างและจัดการการสมัครใช้บริการใน Play Console เราขอแนะนําให้คุณอ่านบทความนี้เพื่อทําความคุ้นเคยกับแนวคิด วัตถุประสงค์ และฟังก์ชันการทำงานของการสมัครใช้บริการก่อนที่จะดําเนินการต่อ

เมื่อใช้ Play Console คุณจะต้องกําหนดค่าและจัดการการสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอแยกจากกันตามลําดับ

ความพร้อมให้บริการ

หากคุณอยู่ในประเทศที่ลงทะเบียนผู้ขายได้ ก็สามารถใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ได้

หากคุณอยู่ในประเทศที่รองรับและต้องการเริ่มใช้ฟีเจอร์ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ในแอปของคุณ ให้ตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินและอ่านเอกสารประกอบของ Google Play Billing System API

สร้างและจัดการการสมัครใช้บริการ

คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยายหรือยุบ

สร้างการสมัครใช้บริการใหม่

โปรดวางแผนรหัสผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนที่จะสร้างการสมัครใช้บริการ รหัสผลิตภัณฑ์ในแอปของคุณจะต้องไม่ซ้ำกัน และหลังจากที่สร้างขึ้นแล้วจะเปลี่ยนแปลงหรือนำมาใช้ใหม่ไม่ได้

  • รหัสผลิตภัณฑ์ต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือตัวพิมพ์เล็ก มีได้เฉพาะขีดล่าง (_), จุด (.) และมีอักขระไม่เกิน 40 ตัว
  • หมายเหตุ: รหัสผลิตภัณฑ์ android.test และรหัสผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ขึ้นต้นด้วย android.test จะไม่พร้อมใช้งาน

ทำความเข้าใจความรับผิดชอบของคุณ

ก่อนสร้างการสมัครใช้บริการ โปรดอ่าน นโยบายการสมัครใช้บริการ คุณต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายนี้อย่างครบถ้วน ตลอดจนต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอให้ผู้ใช้ทราบอย่างโปร่งใส ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับข้อกำหนดของข้อเสนอ ค่าสมัครใช้บริการ ความถี่ของรอบการเรียกเก็บเงิน ตลอดจนระบุว่าการสมัครใช้บริการจำเป็นต่อการใช้แอปหรือไม่ ผู้ใช้ไม่ควรต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว

นอกจากนี้ แอปที่มีบริการหรือเนื้อหาที่ต้องสมัครใช้งานต้องมี UI/UX ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาและเลือกตัวเลือกที่ต้องการได้โดยง่าย เช่น หากขายการสมัครใช้บริการในแอป คุณต้องตรวจสอบว่าแอปเปิดเผยวิธีการจัดการหรือยกเลิกการสมัครใช้บริการให้ผู้ใช้ทราบอย่างชัดเจน คุณต้องรวมการเข้าถึงวิธีการยกเลิกการสมัครใช้บริการทางออนไลน์ที่ดำเนินการได้ง่ายไว้ในแอปด้วย

วิธีสร้างการสมัครใช้บริการ

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกสร้างการสมัครใช้บริการ
  3. ป้อนรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
    • รหัสผลิตภัณฑ์: รหัสผลิตภัณฑ์ต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือตัวพิมพ์เล็ก มีได้เฉพาะขีดล่าง (_), จุด (.) และมีอักขระไม่เกิน 40 ตัว
    • ชื่อ: ชื่อย่อสำหรับการสมัครใช้บริการที่มีอักขระไม่เกิน 55 ตัว ผู้ใช้จะเห็นชื่อนี้ในอีเมลและศูนย์การสมัครใช้บริการ
      • ในฐานะนักพัฒนาแอป คุณต้องแสดงความโปร่งใสเกี่ยวกับบริการที่ต้องสมัครใช้งานหรือเนื้อหาที่เสนอในแอป
      • ชื่อการสมัครใช้บริการต้องแสดงถึงข้อเสนออย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น อย่าตั้งชื่อการสมัครใช้บริการว่า "ช่วงทดลองใช้ฟรี"
  4. คลิกสร้าง
  5. คลิกแก้ไขรายละเอียดการสมัครใช้บริการเพื่อดูและแก้ไขหน้า "รายละเอียดการสมัครใช้บริการ" คุณจะมีตัวเลือกในการเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
  6. คลิก + เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านข้าง "สิทธิประโยชน์" แล้วป้อนคำอธิบายฟีเจอร์ของการสมัครใช้บริการ คุณเพิ่มสิทธิประโยชน์ได้สูงสุด 4 รายการ (แต่ละรายการมีอักขระได้ไม่เกิน 40 ตัว)
    • สิทธิประโยชน์ควรไฮไลต์ฟีเจอร์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่าการสมัครใช้บริการของคุณเสนออะไรบ้าง เช่น "แคตตาล็อกรายการทีวีและภาพยนตร์ทั้งหมด"
    • เนื่องจากผู้ใช้บางคนจะไม่มีสิทธิ์รับราคาโปรโมชันหรือช่วงทดลองใช้ฟรี สิทธิประโยชน์จึงไม่ควรพูดถึงช่วงทดลองใช้ฟรีหรือราคา เช่น ไม่อนุญาตให้ระบุว่า "ทดลองใช้ฟรี 7 วัน"
  7. ป้อนคำอธิบาย (ไม่บังคับ) สำหรับการสมัครใช้บริการของคุณด้านข้าง "คำอธิบาย" คำอธิบายนี้มีไว้สำหรับการใช้งานภายในของคุณเอง โดยที่ผู้ใช้จะไม่เห็นข้อมูลส่วนนี้ใน Google Play
  8. คุณอาจต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหรือด้านภาษี ในกรณีนี้ ให้เลื่อนไปที่ส่วน "ภาษีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด" แล้วคลิกจัดการการตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าภาษีและการปฏิบัติตามข้อกําหนด
  9. คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง

เพื่อให้การสมัครใช้บริการพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ Google Play คุณต้องสร้างและเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นอย่างน้อย 1 แพ็กเกจ โปรดทราบว่าเมื่อสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นแล้ว คุณจะลบการสมัครใช้บริการไม่ได้อีกต่อไป แต่คุณต้องเก็บการสมัครใช้บริการดังกล่าวไว้เมื่อหยุดขาย

แก้ไขการสมัครใช้บริการที่มีอยู่
  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกแก้ไขรายละเอียดการสมัครใช้บริการแล้วทําการเปลี่ยนแปลง
  4. คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง

สร้างและจัดการแพ็กเกจเริ่มต้น

คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยายหรือยุบ

สร้างและเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้น

โปรดวางแผนรหัสแพ็กเกจเริ่มต้นอย่างรอบคอบก่อนที่จะสร้างแพ็กเกจเริ่มต้น รหัสแพ็กเกจเริ่มต้นในการสมัครใช้บริการของแอปจะต้องไม่ซ้ำกัน และคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือนำรหัสเหล่านั้นมาใช้ซ้ำไม่ได้หลังจากเปิดใช้งานข้อเสนอแล้ว

รหัสแพ็กเกจเริ่มต้นต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือตัวพิมพ์เล็ก คุณสามารถใช้ตัวเลข (0-9) ตัวพิมพ์เล็ก (a-z) และขีดกลางได้

วิธีสร้างแพ็กเกจเริ่มต้น

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นในนั้นเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการดังกล่าว
  3. คลิกเพิ่มแพ็กเกจเริ่มต้น
  4. ป้อนรหัสแพ็กเกจเริ่มต้น รหัสแพ็กเกจเริ่มต้นในการสมัครใช้บริการจะต้องไม่ซ้ำกัน และหลังจากเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นแล้ว รหัสนั้นจะเปลี่ยนแปลงหรือนำมาใช้ซ้ำไม่ได้
  5. เลือกประเภท ดังนี้
    • การต่ออายุใหม่อัตโนมัติ: ต่ออายุใหม่โดยอัตโนมัติเว้นแต่ผู้ใช้จะยกเลิก
    • ชำระล่วงหน้า: ผู้ใช้จะต้องชำระเงินด้วยตนเองเพื่อต่อเวลาแพ็กเกจ
    • การผ่อนชำระ (พร้อมใช้งานในบางประเทศ/ภูมิภาค): ผู้ใช้ชำระเงินเป็นรายเดือนแบบคงที่ตลอดระยะเวลาผูกมัดที่กำหนดไว้เพื่อรับสิทธิ์การสมัครใช้บริการตามระยะเวลาผูกมัด ปัจจุบันแพ็กเกจเริ่มต้นนี้พร้อมให้บริการเฉพาะในประเทศบราซิล ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน
  6. (แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติเท่านั้น) หากสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติ ให้กําหนดสิ่งต่อไปนี้
    • ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน: เลือกระยะเวลาของการให้สิทธิ์การสมัครใช้บริการ ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินที่ใช้ได้มีดังนี้
      • รายสัปดาห์
      • ทุก 4 สัปดาห์
      • รายเดือน
      • ทุก 2 เดือน
      • ทุก 3 เดือน
      • ทุก 4 เดือน
      • ทุก 6 เดือน
      • ทุก 8 เดือน
      • รายปี
    • ระยะเวลาผ่อนผัน: เลือกระยะเวลาสูงสุดที่ผู้ใช้จะยังคงมีสิทธิ์เข้าถึงการสมัครใช้บริการ ขณะที่การชำระเงินสำหรับการต่ออายุที่ถูกปฏิเสธยังไม่ได้รับการแก้ไข
    • การระงับบัญชี: เลือกระยะเวลาสูงสุดก่อนที่ปัญหาการชำระเงินสำหรับการต่ออายุที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลให้การสมัครใช้บริการหมดอายุ ช่วงการระงับบัญชีนี้จะเริ่มขึ้นหลังจากระยะเวลาผ่อนผันสิ้นสุดลง ผู้ใช้ไม่ควรเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ของการสมัครใช้บริการได้ในระหว่างการระงับบัญชี
    • การเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจการเรียกเก็บเงินและข้อเสนอ: เลือกวิธีจัดการกับวันที่ชำระเงินแล้วที่เหลืออยู่เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนข้อเสนอ
    • สมัครอีกครั้ง: หากยังมีการใช้งาน ผู้ใช้สามารถซื้อการสมัครใช้บริการแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติที่หมดอายุไปแล้วได้อีกครั้งใน Play Store
  7. (แพ็กเกจเริ่มต้นแบบชำระล่วงหน้าเท่านั้น) หากสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นแบบชำระล่วงหน้า ให้กำหนดสิ่งต่อไปนี้
    • ระยะเวลา: เลือกระยะเวลาให้สิทธิ์ของการสมัครใช้บริการ ตัวเลือกระยะเวลาที่ใช้ได้มีดังนี้
      • 1 วัน
      • 3 วัน
      • 1 สัปดาห์
      • 4 สัปดาห์
      • 1 เดือน
      • 2 เดือน
      • 3 เดือน
      • 4 เดือน
      • 6 เดือน
      • 8 เดือน
      • 1 ปี
    • อนุญาตการขยายระยะเวลา: หากยังมีการใช้งาน ผู้ใช้สามารถขยายระยะเวลาของการสมัครใช้บริการแบบชำระล่วงหน้าที่ใช้งานอยู่ได้ใน Play Store
  8. (แพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระเท่านั้น) หากสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ ให้กำหนดสิ่งต่อไปนี้
    • ระยะเวลาผูกมัด: ป้อนระยะเวลาผูกมัดเป็นจำนวนเดือน (ต้องอยู่ระหว่าง 3 ถึง 24 เดือน)
    • ประเภทการต่ออายุ: เลือกต่ออายุใหม่อัตโนมัติแบบรายเดือน หรือต่ออายุใหม่อัตโนมัติในระยะเวลาเดิม
    • ระยะเวลาผ่อนผัน: เลือกระยะเวลาสูงสุดที่ผู้ใช้จะยังคงมีสิทธิ์เข้าถึงการสมัครใช้บริการ ขณะที่การชำระเงินสำหรับการต่ออายุที่ถูกปฏิเสธยังไม่ได้รับการแก้ไข
    • การระงับบัญชี: เลือกระยะเวลาสูงสุดก่อนที่ปัญหาการชำระเงินสำหรับการต่ออายุที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลให้การสมัครใช้บริการหมดอายุ ช่วงการระงับบัญชีนี้จะเริ่มขึ้นหลังจากระยะเวลาผ่อนผันสิ้นสุดลง ผู้ใช้ไม่ควรเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ของการสมัครใช้บริการได้ในระหว่างการระงับบัญชี
    • การเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจการเรียกเก็บเงินและข้อเสนอ: เลือกวิธีจัดการกับวันที่ชำระเงินแล้วที่เหลืออยู่เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนแพ็กเกจ หากคุณกำลังดำเนินการดังกล่าวสำหรับแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android
    • สมัครอีกครั้ง: หากยังมีการใช้งาน ผู้ใช้สามารถซื้อการสมัครใช้บริการแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติที่หมดอายุไปแล้วได้อีกครั้งใน Play Store
  9. (ไม่บังคับ) เพิ่มแท็กเพื่อระบุแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอใน API แท็กเหล่านี้ใช้เพื่อเลือกว่าจะแสดงข้อเสนอใดหากผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับมากกว่า 1 ข้อเสนอ คุณเพิ่มได้สูงสุด 20 แท็ก
  10. คลิกจัดการความพร้อมให้บริการของประเทศ/ภูมิภาคที่ด้านขวาบนของส่วน "ราคาและความพร้อมให้บริการ" วิธีเลือกสถานที่ที่จะให้ใช้บริการแพ็กเกจเริ่มต้นของคุณได้มีดังนี้
    • ผู้ใช้จะซื้อการสมัครใช้บริการของคุณได้ในภูมิภาคที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นของคุณให้บริการเท่านั้น ประเทศใน Google Play ของผู้ใช้จะใช้เพื่อกำหนดว่าแพ็กเกจเริ่มต้นใดจะพร้อมให้บริการในประเทศเหล่านั้นบ้าง
    • หากเลือกทำให้แพ็กเกจเริ่มต้นของการสมัครใช้บริการพร้อมใช้งานใน "ประเทศ/ภูมิภาคใหม่" เมื่อ Google เพิ่มการรองรับสกุลเงินใหม่ของผู้ซื้อในประเทศที่คุณจัดจำหน่ายแอปอยู่แล้ว เราจะทำให้แพ็กเกจเริ่มต้นของคุณพร้อมให้บริการโดยอัตโนมัติเช่นกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอแอปในหลายสกุลเงิน
    • หากเลือกแพ็กเกจเริ่มต้นประเภทที่มีให้บริการสำหรับผู้ใช้ในบางประเทศ/ภูมิภาคเท่านั้น เช่น แพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ คุณจะเลือกได้เฉพาะประเทศ/ภูมิภาคเหล่านั้นเท่านั้น
  11. หลังจากเลือกแล้ว ให้คลิกใช้

วิธีกำหนดราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นในหลายประเทศ/ภูมิภาคพร้อมกัน

  1. คลิกอัปเดตราคาแล้วเลือกประเทศ/ภูมิภาคที่ต้องการกําหนดราคาจำนวนมาก
  2. คลิกกําหนดราคา
  3. ป้อนราคาที่ไม่รวมภาษีและสกุลเงินที่ต้องการใช้
    • ระบบจะแปลงราคานี้เป็นสกุลเงินที่เหมาะสมสําหรับแต่ละประเทศ/ภูมิภาค และจะเพิ่มภาษีสําหรับเขตอํานาจศาลที่รวมภาษีแล้ว และจากนั้นระบบจะกําหนดราคาให้เป็นไปตามศุลกากรในท้องถิ่น
  4. คลิกอัปเดต
  5. คลิกบันทึก

วิธีกำหนดราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นในประเทศ/ภูมิภาคเดียว

  1. คลิกไอคอนดินสอในคอลัมน์ "ราคา" ของตารางเพื่อป้อนราคาในประเทศ/ภูมิภาคนั้น
    • จะมีการคิดภาษีโดยอัตโนมัติหลังจากป้อนราคา
    • คุณระบุความพร้อมให้บริการของราคาแพ็กเกจเริ่มต้นเป็นสกุลเงิน USD หรือ EUR ได้ในภูมิภาคที่ Google Play ไม่รองรับสกุลเงินท้องถิ่น
  2. คลิกบันทึก

วิธีเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้น

  1. คลิกบันทึก
  2. คลิกเปิดใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ใช้แพ็กเกจเริ่มต้นนั้นได้
แก้ไขแพ็กเกจเริ่มต้นที่มีอยู่

หากต้องการเปลี่ยนราคาของแพ็กเกจเริ่มต้น โปรดอ่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอก่อน

วิธีแก้ไขแพ็กเกจเริ่มต้น

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกลูกศรขวาข้างแพ็กเกจเริ่มต้นที่ต้องการแก้ไขในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. เมื่อเปลี่ยนแปลงเสร็จแล้ว ให้คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง

หมายเหตุ: เมื่อนำภูมิภาคใดออกจากแพ็กเกจเริ่มต้น ผู้ใช้ในภูมิภาคนั้นจะไม่สามารถเลือกแพ็กเกจเริ่มต้นดังกล่าวได้สำหรับการซื้อใหม่ แต่สมาชิกเดิมที่ใช้แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติจะยังคงต่ออายุได้ แม้ว่าจะมีการนําภูมิภาคของสมาชิกนั้นออกจากแพ็กเกจเริ่มต้นแล้วก็ตาม

ปิดใช้งานหรือเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นอีกครั้ง

คุณสามารถปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นได้เพื่อป้องกันการซื้อใหม่ การดําเนินการนี้จะไม่ส่งผลต่อการสมัครใช้บริการที่มีอยู่ วิธีปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้น

ข้อสําคัญ: การปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นจะปิดใช้งานข้อเสนอทั้งหมดของแพ็กเกจนั้นด้วย

วิธีปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้น

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. ด้านข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไข ให้คลิกลูกศรขวาข้างแพ็กเกจเริ่มต้นที่ต้องการปิดใช้งาน
  3. คลิกลูกศรขวาเพื่อดูรายละเอียดแพ็กเกจเริ่มต้นในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. คลิกปิดใช้งานที่ด้านขวาบนของหน้า

หากต้องการเปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นและอนุญาตให้ซื้อใหม่อีกครั้ง ให้ทําดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกลูกศรขวาข้างแพ็กเกจเริ่มต้นที่ต้องการเปิดใช้งานอีกครั้งในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. คลิกเปิดใช้งานที่ด้านล่างของหน้า

สร้างและจัดการข้อเสนอ

คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยายหรือยุบ

สร้างและเปิดใช้งานข้อเสนอ

โปรดวางแผนรหัสข้อเสนออย่างรอบคอบก่อนที่จะสร้างข้อเสนอ รหัสข้อเสนอในแพ็กเกจเริ่มต้นจะต้องไม่ซ้ำกัน และคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือนำรหัสเหล่านั้นมาใช้ซ้ำไม่ได้หลังจากเปิดใช้งานข้อเสนอแล้ว

รหัสข้อเสนอต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือตัวพิมพ์เล็ก คุณสามารถใช้ตัวเลข (0-9) ตัวพิมพ์เล็ก (a-z) และขีดกลางได้

โปรดทราบข้อมูลต่อไปนี้ก่อนที่จะเริ่มสร้างข้อเสนอ

  • คุณต้องสื่อสารเกี่ยวกับข้อเสนอให้ชัดเจนสำหรับโปรโมชันในแอปหรือหน้าจอเริ่มต้น (Splash Screen)
  • คุณต้องระบุข้อกำหนดและการสิ้นสุดลงของข้อเสนอไว้อย่างชัดแจ้ง รวมถึงราคาที่จะเรียกเก็บจากผู้ใช้ ความถี่ของรอบการเรียกเก็บเงิน วิธียกเลิก และอธิบายว่าต้องมีการสมัครใช้บริการเพื่อใช้แอปหรือไม่ ผู้ใช้ไม่ควรต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมเพื่อดูข้อมูลดังกล่าว
  • ข้อเสนอเป็นทางเลือก คุณไม่จําเป็นต้องสร้างข้อเสนอเพื่อทำให้แพ็กเกจเริ่มต้นพร้อมให้บริการ
  • คุณต้องมีแพ็กเกจเริ่มต้นที่บันทึกไว้ (ฉบับร่างหรือที่ใช้งานอยู่) เพื่อสร้างข้อเสนอ ข้อเสนอจะลิงก์กับแพ็กเกจเริ่มต้นรายการเดียวเสมอ
  • โดยค่าเริ่มต้น ข้อเสนอจะพร้อมให้บริการสําหรับภูมิภาคเดียวกับแพ็กเกจเริ่มต้นที่เกี่ยวข้อง ภายในข้อเสนอ คุณเลือกที่จะจํากัดความพร้อมให้บริการให้อยู่ภายในภูมิภาคย่อยของแพ็กเกจเริ่มต้นได้

วิธีสร้างข้อเสนอมีดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกเพิ่มข้อเสนอในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. เลือกแพ็กเกจเริ่มต้นที่ต้องการเพิ่มข้อเสนอจากรายการแบบเลื่อนลง แล้วคลิกเพิ่มข้อเสนอ
    • โปรดทราบว่าสามารถเพิ่มข้อเสนอได้ในแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติเท่านั้น
  5. ป้อนรหัสข้อเสนอ รหัสข้อเสนอในแพ็กเกจเริ่มต้นจะต้องไม่ซ้ำกัน และหลังจากเปิดใช้งานข้อเสนอแล้วรหัสนั้นจะเปลี่ยนแปลงหรือนำมาใช้ซ้ำไม่ได้
  6. ข้อเสนอจะมีความพร้อมให้บริการที่ได้มาจากแพ็กเกจเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่านี้ ให้คลิกจัดการความพร้อมให้บริการในประเทศ/ภูมิภาค เลือกได้เฉพาะภูมิภาคที่กำหนดเป้าหมายโดยแพ็กเกจเริ่มต้นของคุณ
  7. เลือกเกณฑ์การมีสิทธิ์ของข้อเสนอเพื่อกําหนดลูกค้าที่จะรับข้อเสนอ การได้ลูกค้าใหม่ การอัปเกรด หรือนักพัฒนาแอปเป็นผู้กําหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีสิทธิ์รับข้อเสนอ
  8. สำหรับข้อเสนอการได้ลูกค้าใหม่ ให้เลือกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้
    • ไม่เคยสมัครใช้บริการนี้: ข้อเสนอนี้มีไว้สำหรับผู้ใช้ที่ไม่เคยสมัครใช้บริการนี้เลย
    • ไม่เคยสมัครใช้บริการใดๆ: ข้อเสนอนี้จะมีไว้สําหรับผู้ใช้ที่ไม่เคยสมัครใช้บริการใดๆ ในแอปของคุณ
  9. สําหรับข้อเสนอการอัปเกรด ให้กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้
    • การสมัครใช้บริการปัจจุบัน: ข้อเสนอนี้มีใว้เฉพาะผู้ใช้ที่สมัครใช้บริการนี้อยู่เท่านั้น
    • ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินเดิม: ข้อเสนอนี้มีไว้เฉพาะผู้ใช้ที่มีช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินนี้เท่านั้น ซึ่งจะมีประโยชน์ เช่น ในการสร้างข้อเสนอการอัปเกรดรายปีให้กับผู้ใช้ที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอรายเดือน
    • จำนวนการแลกสิทธิ์สูงสุด: จำนวนครั้งที่ผู้ใช้สามารถซื้อข้อเสนอนี้ (1 ครั้งหรือไม่จำกัด)
  10. สำหรับข้อเสนอที่นักพัฒนาแอปกำหนด คุณสามารถกำหนดตรรกะของการมีสิทธิ์ในแอปของคุณได้ เช่น ให้มีโอกาสทดลองใช้ฟรีครั้งที่ 2 หรือข้อเสนอดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาสมัครใช้บริการสำหรับสมาชิกเก่า
  11. (ไม่บังคับ) เพิ่มแท็กเพื่อระบุแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอใน API แท็กเหล่านี้ใช้เพื่อเลือกว่าจะแสดงข้อเสนอใดหากผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับมากกว่า 1 ข้อเสนอ คุณเพิ่มได้สูงสุด 20 แท็ก

วิธีเพิ่มเฟสลงในข้อเสนอ

  1. คลิกเพิ่มเฟสในส่วน "เฟส" เพื่อเพิ่มเฟสช่วงทดลองใช้ฟรีและ/หรือเฟสราคาช่วงแนะนำ ข้อเสนอต้องมีเฟสการกำหนดราคาอย่างน้อย 1 เฟส
  2. เลือกประเภทของเฟสการกำหนดราคา ดังนี้
    • ประเภท: เลือกประเภทของเฟสจากรายการต่อไปนี้
      • การชําระเงินครั้งเดียว: สมาชิกชําระเงินล่วงหน้าสําหรับระยะเวลาที่กําหนดไว้
      • การชําระเงินตามรอบ: สมาชิกชําระเงินแต่ละงวดตามจํานวนงวดที่กําหนดไว้
      • ช่วงทดลองใช้ฟรี: สมาชิกจะได้รับจํานวนวัน สัปดาห์ เดือน หรือปีที่ระบุไว้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
        • ช่วงทดลองใช้ฟรีต้องอยู่ระหว่าง 3 วันถึง 3 ปี
    • ระยะเวลา: สําหรับช่วงทดลองใช้ฟรีและการชําระเงินครั้งเดียว ให้ป้อนจํานวนวัน สัปดาห์ หรือเดือน
    • ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน: สำหรับประเภทการชําระเงินตามรอบ ให้เลือกจํานวนรอบของช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน
    • การปรับราคา: สำหรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือแบบตามรอบ ให้เลือกประเภทการปรับราคาจากรายการต่อไปนี้
      • จำนวนเงินที่กำหนดแน่นอน: จำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น $5
      • ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์: ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาฐาน เช่น 50%
      • ส่วนลดสุทธิ: ส่วนลดที่กำหนดไว้จากราคาฐาน เช่น ลด $1

วิธีกำหนดราคาหรือส่วนลดในหลายประเทศ/ภูมิภาคพร้อมกัน

  1. คลิกอัปเดตส่วนลดทั้งหมด/อัปเดตราคาทั้งหมด แล้วเลือกประเทศ/ภูมิภาคที่ต้องการกําหนดราคาหลายรายการพร้อมกัน
  2. คลิกกําหนดราคา/กำหนดส่วนลด
  3. ป้อนราคาที่ไม่รวมภาษีและสกุลเงินที่ต้องการใช้
    • ระบบจะแปลงราคานี้เป็นสกุลเงินที่เหมาะสมสําหรับแต่ละประเทศ/ภูมิภาค และจะเพิ่มภาษีสําหรับเขตอํานาจศาลที่รวมภาษีแล้ว และระบบจะกําหนดราคาให้เป็นไปตามศุลกากรในท้องถิ่น (สําหรับข้อเสนอที่กําหนดจํานวนเงินแน่นอนเท่านั้น)
  4. คลิกอัปเดต
  5. คลิกใช้

วิธีตั้งราคาหรือส่วนลดในประเทศ/ภูมิภาคเดียว

  1. คลิกไอคอนดินสอในคอลัมน์ "ราคา" ของตารางเพื่อป้อนราคาในสถานที่ตั้งนั้น
    • จะมีการคิดภาษีโดยอัตโนมัติหลังจากป้อนราคา
    • คุณระบุความพร้อมให้บริการของราคาแพ็กเกจเริ่มต้นเป็นสกุลเงิน USD หรือ EUR ในภูมิภาคที่ Google Play ไม่รองรับสกุลเงินท้องถิ่นได้
  2. คลิกใช้

วิธีเปิดใช้งานข้อเสนอ

  1. หลังเพิ่มเฟสแล้ว ให้คลิกบันทึก
  2. คลิกเปิดใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถใช้ข้อเสนอได้
แก้ไขข้อเสนอที่มีอยู่

หากต้องการเปลี่ยนราคาของข้อเสนอ โปรดอ่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอก่อน

วิธีแก้ไขข้อเสนอ

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกลูกศรขวาข้างข้อเสนอที่ต้องการแก้ไขในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. เมื่อเปลี่ยนแปลงเสร็จแล้ว ให้คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
  5. คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ปิดใช้งานหรือเปิดใช้งานข้อเสนออีกครั้ง

คุณสามารถปิดใช้งานข้อเสนอเพื่อป้องกันการซื้อใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกปัจจุบันจะได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อเสนอนี้ต่อไป

วิธีปิดใช้งานข้อเสนอ

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกลูกศรขวาข้างข้อเสนอที่ต้องการปิดใช้งานในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. คลิกปิดใช้งานที่ด้านขวาบนของหน้า

หากต้องการเปิดใช้งานข้อเสนอและอนุญาตให้ซื้อใหม่อีกครั้ง ให้ทําดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่ต้องการแก้ไขเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. คลิกลูกศรขวาข้างข้อเสนอที่ต้องการเปิดใช้งานอีกครั้งในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ"
  4. คลิกเปิดใช้งานที่ด้านล่างของหน้า

การสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นสำหรับราคาเดิม

สําหรับแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติ คุณสามารถสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นสำหรับราคาเดิมและย้ายผู้ใช้เหล่านั้นไปยังราคาแพ็กเกจเริ่มต้นปัจจุบันได้ คุณควรอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนออย่างละเอียด ก่อนทำการเปลี่ยนแพ็กเกจ

สิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นสำหรับราคาเดิม

วิธีสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นสำหรับราคาเดิม

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ)
  2. คลิกลูกศรขวาข้างการสมัครใช้บริการที่เกี่ยวข้องเพื่อดูรายละเอียดการสมัครใช้บริการ
  3. ในส่วน "แพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ" ให้คลิกไอคอน 3 จุด ด้านข้างแพ็กเกจเริ่มต้นที่มีกลุ่มประชากรตามรุ่นสำหรับราคาเดิมที่ต้องการสิ้นสุด แล้วเลือกดูจุดราคาเดิม
  4. เลือกวันที่เริ่มต้นของกลุ่มประชากรตามรุ่นที่ต้องการสิ้นสุด
  • สำคัญ: การสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นจะทำให้กลุ่มประชากรตามรุ่นก่อนหน้าของแพ็กเกจเริ่มต้นและประเทศ/ภูมิภาคเดียวกันสิ้นสุดลงด้วย เนื่องจากกลุ่มประชากรตามรุ่นแต่ละกลุ่มอาจมีราคาต่างกัน จึงอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงราคาในประเภทที่ต่างกัน (การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอม การขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอม หรือการลดราคา)
  1. เลือกประเทศ/ภูมิภาคที่ต้องการสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่น
  • สำคัญ: หากกลุ่มประชากรตามรุ่นที่มีการขึ้นราคาไม่ตรงตามเกณฑ์ของภูมิภาค ความถี่ หรือจำนวนที่อธิบายไว้ข้างต้น คุณจะเห็นไอคอนคำเตือนที่บ่งชี้ว่าการขึ้นราคาจะเป็นแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอม ซึ่งดูเหตุผลได้โดยวางเมาส์เหนือไอคอนเหล่านี้ คุณสามารถดำเนินการกับการขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอมดังกล่าว หรือจะให้กลุ่มประชากรตามรุ่นเหล่านี้คงราคาปัจจุบันไว้ก็ได้ โดยยกเลิกการเลือกประเทศ/ภูมิภาค หรือเลือกวันที่เริ่มต้นอื่น
  1. คลิกตรวจสอบการย้ายข้อมูลเพื่อดำเนินการต่อ
  2. ตรวจสอบจำนวนประเทศ/ภูมิภาคและข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคา หากกลุ่มประชากรตามรุ่นอย่างน้อย 1 กลุ่มมีสิทธิ์ขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอม และคุณต้องการใช้การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมทุกเมื่อที่สามารถทำได้ คุณต้องตรวจสอบข้อกำหนดต่างๆ และรับรองว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนโดยเลือกตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง โปรดทราบว่าแม้ว่าจะมีการเลือกตัวเลือกไม่ยินยอม กลุ่มประชากรตามรุ่นที่ไม่มีสิทธิ์สำหรับเลือกไม่ยินยอมการขึ้นราคาก็จะได้รับการยินยอมให้ขึ้นราคาโดยอัตโนมัติอยู่ดี
  • หากไม่ตรงตามข้อกำหนดเหล่านี้หรือคุณไม่ต้องการใช้การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอม ให้เลือกการขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอมเสมอ หากไม่ต้องการการขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมในบางภูมิภาค ให้ย้ายข้อมูลแยกต่างหากที่มีเฉพาะภูมิภาคเหล่านั้น
  1. คลิกเริ่มการย้ายข้อมูล

เปิดหรือปิดใช้การหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราว

การเปิดใช้การหยุดชั่วคราวในการตั้งค่าการสมัครใช้บริการช่วยให้ผู้ใช้สามารถหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราวแทนการยกเลิกได้ ข้อควรทราบมีดังนี้

  • การหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราวใช้ไม่ได้กับช่วงทดลองใช้ฟรีหรือการสมัครใช้บริการแบบรายปี
  • ไม่สามารถเปิดใช้การหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราวสำหรับการสมัครใช้บริการที่มีระยะเวลาตามรอบนานกว่า 3 เดือน
  • ขีดจำกัดการหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราว 1 สัปดาห์และ 3 เดือนอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราวและข้อกำหนดในการใช้การหยุดชั่วคราวได้ที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android

วิธีเปิดหรือปิดใช้การหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราว

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่าการสร้างรายได้ (สร้างรายได้ > การตั้งค่าการสร้างรายได้)
  2. ในส่วน "การตั้งค่าการสมัครใช้บริการ" ให้เลือกสร้างหรือปิดใช้ข้าง "หยุดชั่วคราว"
  3. คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก