ภาพรวม
หากผู้ใช้กำลังใช้แอปเวอร์ชันล้าสมัยหรือใช้งานไม่ได้ คุณจะใช้ Play Console เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดตแอปได้ เครื่องมือการกู้คืนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่คุณพบปัญหาเกี่ยวกับแอปเวอร์ชันก่อนหน้า เช่น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
คุณเริ่มดำเนินการได้โดยเลือกเวอร์ชัน App Bundle ที่ต้องการอัปเกรดผู้ใช้ จากนั้นเลือกเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายของคุณ ซึ่งคุณกำหนดเป้าหมายได้ดังต่อไปนี้
- ผู้ใช้ทั้งหมดในแอปเวอร์ชันที่เลือก
- ตามประเทศ/ภูมิภาค หรือ
- ตามเวอร์ชัน Android
เมื่อผู้ใช้เป้าหมายเปิดแอปของคุณในครั้งถัดไป ก็จะเห็นข้อความแจ้งแบบเต็มหน้าจอว่าต้องอัปเดตแอป ซึ่งผู้ใช้เลือกที่จะอัปเดตหรือปิดก็ได้ หากเลือกปิด ผู้ใช้จะเห็นกล่องโต้ตอบหลังจากการ Cold Restart ของแอปทุกๆ ครั้ง หรือหากเลือกยอมรับ แอปจะได้รับการอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่เข้ากันได้
ตัวอย่างข้อความแจ้งให้อัปเดตที่ผู้ใช้เห็นจะมีลักษณะดังนี้
หมายเหตุ: รูปภาพเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นและอาจมีการเปลี่ยนแปลง
แจ้งเตือนให้ผู้ใช้อัปเดต
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก่อนเริ่มแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดตใน Play Console มีดังนี้
- จะต้องมีเวอร์ชันใหม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ในทุกแทร็กที่มีเวอร์ชันของแอปที่คุณต้องการให้ผู้ใช้อัปเดต
- คุณยกเลิกการดำเนินการกู้คืนนี้ได้ทุกเมื่อ การยกเลิกการอัปเดตจะมีผลกับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้อัปเดตเท่านั้น
- คุณขยายเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายได้ทุกเมื่อ
สิ่งที่ต้องดำเนินการก่อน
ในการแจ้งให้ผู้ใช้ที่ใช้แอปเวอร์ชันล้าสมัยหรือใช้งานไม่ได้อัปเดตแอปของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่เข้ากันได้
- คุณต้องลงทะเบียนแอปใน Play App Signing
- คุณต้องเผยแพร่แอปโดยใช้ Android App Bundle
วิธีแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดต
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า App Bundle Explorer (ทดสอบและเผยแพร่
> App Bundle Explorer)
- หมายเหตุ: คุณเริ่มการกู้คืนจากหน้าภาพรวมของรุ่น (ทดสอบและเผยแพร่ > ภาพรวมของรุ่น) ได้ด้วย ในส่วน "รุ่นล่าสุด" ให้คลิกลูกศรขวาข้างรุ่นที่ต้องการให้ผู้ใช้อัปเดต ซึ่งจะเปิดหน้ารายละเอียดรุ่น
- ที่ด้านขวาบนของหน้า ให้คลิกเครื่องมือการกู้คืน แล้วเลือกแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดตในเมนูแบบเลื่อนลง
- ในส่วน "เลือก Bundle" ให้เลือก App Bundle ที่ต้องการแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดต
- หมายเหตุ: บางแทร็กที่มี App Bundle อาจไม่มีรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งแทร็กเหล่านี้จะแสดงอยู่ในส่วน "ไม่พร้อมใช้งาน" (หากมี) คุณคลิก App Bundle ที่แสดงอยู่ที่นี่ได้เพื่อดูแทร็กที่ App Bundle ใช้งานไม่ได้
- หลังจากเลือก App Bundle แล้ว ให้คลิกถัดไป
- ไม่บังคับ: คุณคลิกแสดงวิธีการเพื่อขยายขั้นตอนบนหน้าจอในการทดสอบข้อความแจ้งได้
- เลือกเกณฑ์การกำหนดเป้าหมาย ซึ่งคุณกำหนดเป้าหมายได้ดังต่อไปนี้
- ผู้ใช้ทั้งหมดในแอปเวอร์ชันที่เลือก
- ตามประเทศ/ภูมิภาค หรือ
- ตามเวอร์ชัน Android
ข้อควรทราบมีดังนี้
- หากเลือกเวอร์ชัน Android คุณต้องเลือกเวอร์ชัน Android ที่ต้องการรวมไว้ด้วย (หรือจะเลือก Android ทุกเวอร์ชันก็ได้)
- หากเลือกประเทศ/ภูมิภาค คุณต้องเลือกประเทศ/ภูมิภาคที่ต้องการรวมไว้ด้วย (หรือจะเลือกทุกประเทศ/ภูมิภาคก็ได้)
คุณดูจำนวนผู้ใช้ที่ระบบจะแจ้งให้อัปเดตตามเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายที่เลือกไว้ได้
- คลิกเริ่มข้อความแจ้งเพื่อเริ่มแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดต
จัดการการอัปเดต
หลังจากแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดต คุณสามารถใช้เครื่องมือการกู้คืนของ Play Console เพื่อแก้ไขการกำหนดค่าการอัปเดต ดูความคืบหน้า หรือยกเลิกการดำเนินการกู้คืน คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยายหรือยุบ
ดูความคืบหน้าของการกู้คืนคุณดูความคืบหน้าของการกู้คืนได้ทุกเมื่อ วิธีดูความคืบหน้า
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า App Bundle Explorer (ทดสอบและเผยแพร่ > App Bundle Explorer)
- ในตารางเวอร์ชันแอป ให้เลือกลูกศรขวาสำหรับเวอร์ชันที่ต้องการดู
- เลือกแท็บการกู้คืน
- ดูความคืบหน้าผ่านแถบ "ความคืบหน้าในการกู้คืน" คุณสามารถดูจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดที่กำหนดเป้าหมายสำหรับการกู้คืน เปอร์เซ็นต์ของการอัปเดตที่เสร็จสมบูรณ์ และเปอร์เซ็นต์ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
วิธีแก้ไขการกู้คืนที่ดำเนินการอยู่
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า App Bundle Explorer (ทดสอบและเผยแพร่ > App Bundle Explorer)
- ในตารางเวอร์ชันแอป ให้เลือกลูกศรขวาสำหรับเวอร์ชันที่ต้องการดู
- เลือกแท็บการกู้คืน
- คลิกจัดการข้อความแจ้งให้อัปเดต แล้วเลือกแก้ไขจากเมนูแบบเลื่อนลง
- ทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นกับการอัปเดต คุณสามารถปรับเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายที่เลือกไว้เมื่อสร้างข้อความแจ้งให้อัปเดต
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
หมายเหตุ: การแก้ไขการอัปเดตจะมีผลกับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้อัปเดตเท่านั้น
ตัวเลือกการอัปเดตอื่นๆ
การแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดตโดยใช้เครื่องมือการกู้คืนจะมีประโยชน์ในการเรียกให้กล่องโต้ตอบแบบเต็มหน้าจอแสดงเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้อัปเดตเวอร์ชันที่เผยแพร่ไปแล้ว การอัปเดตในแอปอาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า ดังนี้
คุณเลือกได้ว่าจะแสดงกล่องโต้ตอบหรือไม่ และจะแสดงเมื่อใด
คุณสามารถแสดงกล่องโต้ตอบที่รบกวนน้อยกว่า (ไม่ใช่กล่องโต้ตอบแบบเต็มหน้าจอ)
อย่างไรก็ตาม คุณต้องติดตั้งใช้งานในโค้ดด้วยตนเอง และมีเพียงแอปเวอร์ชันในอนาคตเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้
- แอปที่ใช้ความโปร่งใสของโค้ด การปกป้องอัตโนมัติของ Play หรือการอัปเกรดคีย์ หรือ
- รุ่นของแอปที่ใช้รูปแบบของอุปกรณ์ต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ Wear OS, Android TV หรือ Android Automotive OS