Google Play ไม่อนุญาตให้แอปติดตามบุคคลอื่นโดยการรวบรวมและส่งข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของผู้ใช้ เว้นแต่ว่าแอปพลิเคชันได้รับการออกแบบและทำการตลาดโดยเฉพาะสำหรับผู้ปกครองเพื่อใช้ติดตามบุตรหลานหรือสำหรับฝ่ายบริหารขององค์กรเพื่อใช้ติดตามพนักงานแต่ละคน โดยแอปดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมดที่อธิบายไว้ในนโยบายสตอล์กเกอร์แวร์และแอปพลิเคชันเฝ้าติดตาม
หนึ่งในข้อกำหนดหลักที่ระบุไว้ในนโยบายคือการใช้แฟล็กข้อมูลเมตา "isMonitoringTool" ในไฟล์ Manifest ของทุกรหัสเวอร์ชัน (ในแทร็กทั้งหมด) ของแอปพลิเคชันเฝ้าติดตาม วิธีนี้จะช่วยให้ทีมตรวจสอบของ Google Play ระบุแอปพลิเคชันเหล่านี้เป็นแอปเฝ้าติดตามที่เรายอมรับ
การประกาศในไฟล์ Manifest ควรเขียนดังนี้
<manifest
<meta-data android:name="isMonitoringTool" android:value="child_monitoring" />
…
</manifest>
ค่าสำหรับแฟล็ก isMonitoringTool ควรเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ โดยขึ้นอยู่กับว่าแอปพลิเคชันมีฟังก์ชันหลักเป็นการเฝ้าติดตามเด็กหรือการเฝ้าติดตามจากฝ่ายบริหารขององค์กร
child_monitoring
= แอปที่รองรับการควบคุมโดยผู้ปกครองและกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ปกครองที่ต้องการดูแลบุตรหลานให้ปลอดภัยโดยเฉพาะenterprise_management
= แอปที่รองรับองค์กรที่ต้องการจัดการและเฝ้าติดตามพนักงานother
= แอปที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่ใดๆ ข้างต้น ทีมตรวจสอบของ Google Play จะประเมินแอปที่เป็นค่านี้ว่าอยู่ในหมวดหมู่ที่มีการยกเว้นใดๆ หรือไม่
การประกาศเป็นพื้นฐานของการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอปเฝ้าติดตามลงในอุปกรณ์ Android โดยในขั้นตอนการตรวจสอบ Google Play จะประเมินว่าไฟล์ Manifest ของแอปพลิเคชันนั้นมีการประกาศสตริงที่ตรงตามการจัดหมวดหมู่ที่ระบุในคำอธิบายแอปหรือไม่ (กล่าวคือ แอปประเภทการควบคุมโดยผู้ปกครองต้องมีการประกาศฟังก์ชันการเฝ้าติดตามเป็น android:value=" child_Monitoring"
) หลังจากนั้น Google Play จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบผ่าน Google Play Protect ว่ามีแอปพลิเคชันเฝ้าติดตามอยู่บนอุปกรณ์ด้วยสตริงคำเตือน
ดูข้อกำหนดและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปพลิเคชันเฝ้าติดตามได้ที่ลิงก์ส่วนเฉพาะของสตอล์กเกอร์แวร์ในนโยบายมัลแวร์