หมายเหตุ: เนื้อหาส่งเสริมการขายใช้ได้กับแอปที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ในการใช้เครื่องมือสร้างการเติบโตแบบพรีเมียม
คุณสร้างเนื้อหาส่งเสริมการขายเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องส่งภายใน 60 วันนับจากวันที่เริ่มต้นกิจกรรม ขั้นตอนการอนุมัติกิจกรรมอาจใช้เวลาสูงสุด 4 วัน ดังนั้นควรส่งกิจกรรมอย่างน้อย 4 วันก่อนวันที่เริ่มต้นเพื่อให้เผยแพร่ได้ทันเวลา
หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ Google Play สำหรับเกมต้องส่งเนื้อหาส่งเสริมการขายล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่เริ่มต้นกิจกรรมเพื่อรับประโยชน์จากความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพ
วิธีสร้างกิจกรรมในเนื้อหาส่งเสริมการขาย
1. ไปที่หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เติบโต > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
2. คลิกสร้างกิจกรรม
3. เพิ่มข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อกิจกรรม: ชื่อกิจกรรมภายในที่แสดงใน Play Console เท่านั้น
- ประเภทกิจกรรม: เลือกประเภทกิจกรรม (ดูประเภทของเนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- ประเภทข้อเสนอ: หากเนื้อหาส่งเสริมการขายเป็นข้อเสนอ ให้ระบุประเภทข้อเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ Google Play แสดงข้อเสนอได้อย่างถูกต้อง และยังช่วยให้ทีมตรวจสอบของเราประเมินข้อเสนอดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงทำให้ผู้ใช้เห็นข้อเสนอที่มีประเภทคล้ายกันด้วย
- หมายเหตุ: คุณต้องเลือกประเภทข้อเสนอที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นและได้รับในแอป โดยประเภทที่มีให้เลือก ได้แก่
- ส่วนลด: ข้อเสนอที่มอบส่วนลดให้ผู้ใช้สำหรับไอเทมอย่างน้อย 1 รายการ หรือสำหรับการดำเนินการบางอย่าง เช่น "รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อเพชร" "รับส่วนลด 150 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 750 บาท" หรือ "ลดราคา 15% ทั้งร้าน"
- การเพิ่มมูลค่า: ข้อเสนอที่แถมไอเทมฟรีไปกับรายการอื่นๆ หรือเพิ่มมูลค่าโดยรวม เช่น "ซื้อ 1 แถม 1" "ซื้อ 1,800 บาทในราคา 1,200 บาท" "ซื้อลาเต้แถมมัฟฟิน" หรือ "แพ็กเกจแพ็กเริ่มต้นราคา 150 บาท จากปกติ 600 บาท"
- ไอเทม 0 บาท หรือรางวัลฟรี: ข้อเสนอที่แจกไอเทม 0 บาทแก่ผู้ใช้สำหรับการดำเนินการบางอย่าง เช่น "เข้าร่วมการแข่งขันในสัปดาห์นี้และรับเพชร 100 เม็ดในราคา 0 บาท" "จัดส่งในราคา 0 บาทเฉพาะสัปดาห์นี้เท่านั้น" "เปิดเกมวันนี้รับไอเทมโบนัสโดยไม่มีค่าใช้จ่าย"
- ช่วงทดลองสมัครใช้บริการ: ช่วงทดลองสมัครใช้บริการในราคา 0 บาท หรือช่วงทดลองสมัครใช้บริการแบบลดราคา เช่น "ลด 50% สำหรับ 2 เดือนแรก"
- หมายเหตุ: คุณต้องเลือกประเภทข้อเสนอที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นและได้รับในแอป โดยประเภทที่มีให้เลือก ได้แก่
- ประเทศ/ภูมิภาค: ประเทศ/ภูมิภาคอย่างน้อย 1 แห่งที่กิจกรรมนี้จะแสดง
- วันที่และเวลาเริ่มต้นกับวันที่และเวลาสิ้นสุด: วันที่และเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของกิจกรรม ซึ่งมีระยะเวลาสูงสุด 4 สัปดาห์ ข้อควรทราบมีดังนี้
- คุณตั้งค่าข้อเสนอให้ไม่มีเวลาสิ้นสุดได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์เวลาที่คุณมีข้อเสนอมาตรฐานสำหรับผู้ใช้บางประเภท เช่น ข้อเสนอสำหรับผู้ใช้มือใหม่ การเลือกตัวเลือกนี้จะกำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอของคุณต้องเป็นผู้ใช้ใหม่เท่านั้นโดยอัตโนมัติ เรามีแผนที่จะเปิดตัวเกณฑ์การมีสิทธิ์อื่นๆ ในอนาคต เช่น สถานะของผู้ซื้อ ระยะเวลานับตั้งแต่การมีส่วนร่วมครั้งล่าสุด และผู้ใช้ที่เลิกใช้งาน
- การอัปเดตสำคัญมีกำหนดระยะเวลาอยู่ที่ 28 วัน และประกาศการลงทะเบียนล่วงหน้ามีกำหนดระยะเวลาอยู่ที่ 1 สัปดาห์
- แสดงตัวอย่างกิจกรรม: เลือกว่าต้องการแสดงกิจกรรมใน Google Play ก่อนเวลาเริ่มต้นหรือไม่ แล้วจึงระบุวันที่และเวลา "แสดงตัวอย่างกิจกรรม" จะมีการเลือกไว้โดยค่าเริ่มต้น ดังนั้นอย่าลืมเปลี่ยนหากไม่ต้องการให้กิจกรรมแสดงขึ้นก่อนวันที่เริ่มต้น คุณแสดงตัวอย่างข้อเสนอไม่ได้
- ควบคุมกลุ่มเป้าหมายของข้อเสนอ: สำหรับเนื้อหาส่งเสริมการขายประเภทข้อเสนอ คุณเลือกได้ว่าจะให้ข้อเสนอมีสิทธิ์แสดงต่อทุกคนในประเทศ/ภูมิภาคที่เลือกหรือแสดงแก่ผู้ใช้ใหม่หรือไม่ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่า Google Play จะแนะนำข้อเสนอให้กับผู้ใช้ที่จะได้รับประโยชน์จากข้อเสนอดังกล่าวจริงๆ เท่านั้น
- ขอให้แนะนำ: โดยค่าเริ่มต้น กิจกรรมของคุณจะปรากฏบนข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store นอกจากนี้ กิจกรรมที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพของเรายังอาจแสดงขึ้นในพื้นที่ที่มีระดับการเข้าถึงสูงของ Google Play ด้วย ซึ่งรวมถึงหน้าแรกและผลการค้นหา คุณสร้างกิจกรรมได้มากเท่าที่ต้องการในแต่ละไตรมาสโดยไม่ต้องขอให้แนะนำ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอให้แนะนำเนื้อหาได้เพื่อบอก Google ว่าคุณต้องการให้กิจกรรมนี้โดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถทำแบบนี้ได้แบบจำกัดจำนวนครั้งในแต่ละไตรมาสโดยมีรายละเอียดดังนี้- 4 ครั้งสำหรับกิจกรรมประเภทใดก็ตามที่กำหนดเป้าหมายเป็นทุกคนในประเทศที่เลือก และ
- 2 ครั้งสำหรับกิจกรรมประเภทข้อเสนอที่กำหนดเป้าหมายเป็นผู้ใช้ใหม่
สำคัญ: คุณต้องส่งกิจกรรมที่ขอให้แนะนำล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่เริ่มต้นกิจกรรม
กิจกรรมที่ขอให้แนะนำมีโอกาสที่จะแสดงอย่างเด่นชัดมากขึ้นในแพลตฟอร์มสำคัญๆ เช่น ด้านบนของหน้าแรก ในการค้นหา รวมถึงบน Google Play และแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต วิธีนี้จะเพิ่มโอกาสในการรับรู้ ระดับการเข้าถึง และมูลค่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
4. ระบุข้อความและเนื้อหากราฟิกของกิจกรรม ดังนี้
- แท็กไลน์ (จำเป็น): แท็กไลน์ควรสื่อความหมายและเกี่ยวกับกิจกรรมโดยเฉพาะ อย่าใช้แท็กไลน์ทั่วไปที่นํามาใช้ซ้ำกับกิจกรรม แอป หรือเกมอื่นๆ ได้ หากคุณกำลังกำหนดค่าข้อเสนอ ให้ระบุไอเทมที่จะลดราคารวมถึงจำนวนส่วนลด ตัวอย่างเช่น "ลดราคาช่วงเทศกาลวันหยุด! รับส่วนลด 25% เมื่อใช้จ่ายมากกว่า 1,500 บาทขึ้นไป" "เส้นทางใหม่: ลองแข่งบนถนน Prince’s Highway ช่วงสุดสัปดาห์นี้และปลดล็อกรถในตำนานสุดเอ็กคลูซีฟ" หรือ "หนังสือซื้อ 4 จ่าย 3"
- คำอธิบาย (จำเป็น): อย่าคัดลอกข้อความแท็กไลน์มาใช้ในคำอธิบายของกิจกรรม เนื่องจากคําอธิบายจะแสดงพร้อมกับแท็กไลน์ใน Google Play ตรวจสอบว่าคําอธิบายเกี่ยวข้องกับกิจกรรม หากคุณกำลังกำหนดค่าข้อเสนอ ให้ระบุข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เช่น การมีสิทธิ์ จำนวนทั้งหมดที่มีให้บริการ จำนวนต่อผู้ใช้ หรือวิธีรับข้อเสนอ คำอธิบายต้องลงรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อให้เข้าใจได้แม้จะเป็นผู้ใช้ที่อาจไม่รู้จักแอปหรือเกมของคุณ ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับคำอธิบาย
- รูปภาพหลัก (จำเป็น): ตรวจสอบว่ารูปภาพเกี่ยวข้องกับกิจกรรมและช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพกิจกรรม อย่าใส่ข้อความในรูปภาพ (รวมถึงโลโก้ของแบรนด์ สโลแกน หรือชื่อแอป/เกม) และอย่าใส่องค์ประกอบภาพที่สำคัญลงในส่วนที่จะถูกตัดออก ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปภาพ
- รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส (จำเป็น): ต้องใช้เพื่อแสดงในแพลตฟอร์มและรายการต่างๆ ของ Google Play ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปภาพ
- วิดีโอ (แนะนำอย่างยิ่ง): ต้องเป็นวิดีโอ YouTube แบบสาธารณะที่ปิดการสร้างรายได้ไว้ ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับวิดีโอ
สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ทีมตรวจสอบของเราต้องปฏิเสธกิจกรรมและข้อเสนอคือการป้อนข้อมูลเป็นภาษาที่ไม่ถูกต้อง โปรดตรวจดูว่าคุณได้ป้อนแท็กไลน์และคำอธิบายเป็นภาษาที่ถูกต้องหมายเหตุ: ภาษาเริ่มต้นคือภาษาที่นักพัฒนาแอปกำหนดไว้เมื่อสร้างแอป
5. คำแนะนำ: คุณจะแปลกิจกรรมเป็นภาษาอื่นเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในประเทศต่างๆ ด้วยก็ได้ ซึ่งคล้ายกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง เลือกจัดการคําแปล > จัดการคําแปลของตัวเอง แล้วเลือกภาษาอื่นที่ต้องการแปลสําหรับกิจกรรมของคุณ
หมายเหตุ: ภาษาอื่นจะใช้เนื้อหากราฟิกที่คุณอัปโหลดในขั้นตอนที่ 6 โดยค่าเริ่มต้น คุณให้เนื้อหาเฉพาะสำหรับภาษาหนึ่งๆ ด้วยตนเองได้โดยเลือกภาษาและอัปโหลดเนื้อหากราฟิกที่จําเป็นสําหรับแต่ละภาษา
6. คลิกส่งกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ใน Google Play คุณคลิกบันทึกเป็นฉบับร่างเพื่อบันทึกงานโดยไม่ส่งไปยัง Google Play ได้
สำคัญ: คุณจะแก้ไขกิจกรรมหลังจากที่ส่งไปแล้วไม่ได้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบงานอีกครั้งก่อนส่ง
ดูกิจกรรม
หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขายมีตารางหลายตารางที่แสดงภาพรวมของกิจกรรมทั้งหมด คุณจึงดูสถานะของกิจกรรมและข้อมูลสําคัญ เช่น ประเทศ วันที่เริ่มต้น/สิ้นสุด และระดับความสําคัญ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีรายการต่อไปนี้
- กิจกรรมเนื้อหาส่งเสริมการขาย: มีกิจกรรมฉบับร่างและกิจกรรมที่เผยแพร่แล้ว
- ตารางกิจกรรมที่ถูกปฏิเสธ: มีกิจกรรมที่ได้รับการตรวจสอบและถูกปฏิเสธ
- หากกิจกรรมถูกปฏิเสธ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนการปฏิเสธและเหตุผลของการปฏิเสธใน Play Console
- กิจกรรมก่อนหน้า: มีกิจกรรมที่หมดอายุหรือยกเลิกไปแล้ว
คัดลอกกิจกรรม
คุณสามารถคัดลอกข้อมูลจากกิจกรรมที่ผ่านมาเพื่อช่วยให้สร้างกิจกรรมที่คล้ายกันได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ต้องทำก่อน: โปรดอ่านหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพของเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมนี้แตกต่างจากกิจกรรมเดิมมากพอ คุณไม่สามารถเผยแพร่กิจกรรมที่เหมือนหรือคล้ายกันอย่างมากในเวลาเดียวกัน
วิธีคัดลอกกิจกรรมเนื้อหาส่งเสริมการขาย
- ไปที่หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เติบโต > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- ในหน้าหลัก ให้คลิกคัดลอกไปยังกิจกรรมใหม่
- ระบบจะสร้างสําเนาของกิจกรรมขึ้นมา คุณแก้ไขรายละเอียดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงได้ (รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนนี้มีอธิบายอยู่ในส่วนสร้างเนื้อหาส่งเสริมการขายด้านบน)
นำเข้ากิจกรรม
คุณอัปโหลดกิจกรรมหลายรายการพร้อมกันได้โดยใช้เทมเพลต CSV
วิธีนําเข้ากิจกรรม
- ไปที่หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เติบโต > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- คลิกนําเข้ากิจกรรม
- ในหน้านําเข้ากิจกรรม ให้คลิกดาวน์โหลดเทมเพลต CSV
- กรอกเทมเพลตให้สมบูรณ์โดยใช้เคล็ดลับด้านล่าง
- เมื่อได้เทมเพลตที่สมบูรณ์แล้ว ให้วางไฟล์ .csv ในช่องอัปโหลด หรือคลิกอัปโหลดกิจกรรม
เคล็ดลับ: หากต้องการแก้ไข จะมีตัวเลือกในการดาวน์โหลดฉบับร่างเท่านั้น คลิกเมนูแบบเลื่อนลงดาวน์โหลดกิจกรรม แล้วเลือกว่ากิจกรรมมีรูปภาพหรือไม่ จากนั้นเลือกแอปฉบับร่าง คุณก็จะแก้ไขและอัปโหลดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งได้ อย่าลืมระบุ event_ID เมื่อทําการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ CSV
เคล็ดลับในการกรอกเทมเพลต CSV ให้สมบูรณ์- event_ID: เว้นช่องนี้ว่างไว้หากเป็นกิจกรรมใหม่
- Event_type: ต้องเป็น
OFFER
,TIME-LIMITED_EVENT
หรือMAJOR_UPDATE
- Priority: ต้องเป็น
FEATURING_REQUESTED
หรือFEATURING_NOT_REQUESTED
- submission_state: ต้องเป็น
DRAFT
หรือSUBMITTED
- start_time_utc และ end_time_utc: เวลาอยู่ในเขตเวลา UTC และต้องอยู่ในรูปแบบ YYYY-MM-DD HH:MM
- default_language_code: ป้อนรหัสภาษาที่คั่นด้วย ";"
- countries: ป้อนรหัสประเทศที่คั่นด้วย ";"
- taglines และ long_description: ควรใช้รูปแบบ "รหัสภาษา=แท็กไลน์" และคั่นด้วย ";" สำหรับแต่ละภาษา
- ตัวอย่างเช่น
en-US=testUS;en-GB=testGB
- ตัวอย่างเช่น
- images/video_ids: กําหนดเนื้อหากราฟิกเป้าหมายตามภาษาได้เช่นเดียวกับแท็กไลน์ หากไม่มีเนื้อหาที่แปล ให้ใช้ default_language_code เราจะใช้เนื้อหาเดียวกันสําหรับภาษาอื่นๆ ทั้งหมดที่คุณกําหนดเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น
en-US=testus.jpg;en-GB=testgb.jpg
en-US=YeT0t1C_y20;en-GB=r-ERajkMXw0
- user_eligibility: หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น
EVERYONE
หรือNEW_USERS_ONLY
(โปรดเว้นว่างไว้หาก event_type เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่OFFER
) - preview_opt_in: เป็น
OPT_IN
หรือOPT_OUT
- preview_time_utc: ใช้รูปแบบ YYYY-MM-DD HH:MM
- Event_subtype:
- หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น
DISCOUNT,
VALUE_ADD
,FREE_REWARD
หรือSUBSCRIPTION_TRIAL
- หากประเภทเป็นกิจกรรมที่มีเวลาจํากัด ค่าจะต้องเป็น
COMPETITION_CHALLENGE
,REAL-TIME
หรือSPECIAL
- หากประเภทเป็นการอัปเดตสําคัญ ค่าจะต้องเป็น
FEATURES_&_ANNOUNCEMENTS
,NEW_CONTENT
หรือPRE_REGISTRATION _UPDATE
- หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น