ทำความเข้าใจนโยบาย VpnService ของ Google Play

VpnService เป็นคลาสพื้นฐานเพื่อให้แอปพลิเคชันนำไปต่อยอดและสร้างโซลูชัน VPN ของตนเอง หากแอปต้องใช้ VpnService คุณต้องส่งแบบฟอร์มประกาศภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2023 เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้เพิ่มเติม โดยตอนนี้แบบฟอร์มประกาศพร้อมให้ดำเนินการใน Play Console แล้ว

บทความนี้จะกล่าวถึงภาพรวมของนโยบาย ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจน และตัวอย่างคำถามที่เกี่ยวข้องกับการประกาศ บทความนี้ไม่ได้ใช้แทนนโยบาย โปรดอ่านนโยบายฉบับเต็มเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณเข้าใจและได้ปฏิบัติตามเนื้อหาของนโยบาย แอปทั้งหมดที่ใช้ VpnService ต้องกรอกแบบฟอร์มประกาศเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดนโยบายซึ่งอาจส่งผลให้มีการดำเนินการบังคับใช้

การใช้ VpnService

แอปต้องใช้ VpnService และมี VPN เป็นฟังก์ชันหลักเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างอุโมงค์เสมือนที่ปลอดภัยระดับอุปกรณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลได้ ข้อยกเว้นแอปรวมถึงแอปที่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลสำหรับฟังก์ชันหลัก เช่น

  • การควบคุมโดยผู้ปกครองและแอปการจัดการขององค์กร
  • การติดตามการใช้งานแอป
  • แอปรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ (เช่น ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไฟร์วอลล์)
  • เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย (เช่น การเข้าถึงจากระยะไกล)
  • แอปท่องเว็บ
  • แอปผู้ให้บริการที่จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันการทำงานของ VPN เพื่อให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือการเชื่อมต่อ

ไม่สามารถใช้ VpnService เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

  • เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลและขอความยินยอมอย่างชัดเจน
  • เปลี่ยนเส้นทางหรือแทรกแซงการเข้าชมของผู้ใช้จากแอปอื่นๆ ในอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างรายได้ (เช่น การเปลี่ยนเส้นทางการเข้าชมจากโฆษณาผ่านประเทศที่ผู้ใช้ไม่ได้พำนักอาศัยอยู่)

แอปที่ใช้ VpnService ต้องปฏิบัติดังนี้

ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจน

แอปที่มีสิทธิ์ใช้ VpnService ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนที่อธิบายไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้ของ Google Play หากแอปเข้าถึงหรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ แอปดังกล่าวต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนซึ่งมีลักษณะต่อไปนี้

  • ต้องอยู่ในตัวแอปและต้องไม่อยู่เฉพาะในคำอธิบายแอปหรือในเว็บไซต์
  • ต้องแสดงในการใช้งานปกติของแอปโดยผู้ใช้ไม่ต้องเลื่อนหาตามเมนูหรือการตั้งค่าต่างๆ
  • ต้องอธิบายข้อมูลที่เข้าถึงหรือเก็บรวบรวมผ่าน VpnService API
  • ต้องอธิบายว่าจะนำข้อมูลไปใช้งานและ/หรือแชร์อย่างไร
  • ต้องมีการดำเนินการยอมรับที่แสดงการให้ความยินยอมจากผู้ใช้ (เช่น แตะเพื่อยอมรับหรือเลือกช่องทำเครื่องหมาย)
  • ต้องไม่ใส่ไว้เฉพาะในนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือข้อกำหนดในการให้บริการ
  • ต้องไม่รวมอยู่กับการเปิดเผยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โดยต้องแยกออกจากการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ และระบุว่าเหตุใดแอปจึงต้องใช้ VpnService API รวมถึง Use Case ที่เป็นไปได้
สำคัญ: หากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีที่แอปใช้ API นี้ คุณต้องส่งแบบฟอร์มซึ่งมีข้อมูลที่อัปเดตและถูกต้องอีกครั้ง การใช้ API เหล่านี้โดยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือใช้โดยไม่ได้ประกาศให้ทราบอาจส่งผลให้แอปของคุณถูกระงับและ/หรือบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณถูกปิดใช้งาน

การประกาศบริการ VPN

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป แอปที่ใช้ VpnService จะสามารถส่งประกาศของนโยบายใหม่ใน Play Console ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติของ Google Play

ต่อไปนี้คือตัวอย่างคําถามเกี่ยวกับการประกาศดังกล่าว

1. การให้บริการ VPN เป็นฟังก์ชันหลักของแอปพลิเคชันของคุณใช่ไหม

  • ใช่
  • ไม่

[หากตอบว่าไม่ในข้อ 1.]

2. แอปของคุณมีฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับอนุญาตฟังก์ชันใดบ้าง เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

  • การติดตามการใช้งานแอป
  • แอปของผู้ให้บริการที่จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันการทำงานของ VPN เพื่อให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือการเชื่อมต่อ
  • การรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ (รวมถึงการป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์)
  • แอปการจัดการสําหรับองค์กร
  • เครื่องมือเกี่ยวกับเครือข่าย (รวมถึงการเข้าถึงระยะไกล)
  • การควบคุมโดยผู้ปกครอง
  • เบราว์เซอร์
  • ไม่ตรงกับข้อใดเลย

หมายเหตุ: การเลือกหมวดหมู่ที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของแอปอาจทำให้แอปถูกปฏิเสธ การอยู่ในหมวดหมู่เหล่านี้ถือว่าไม่เพียงพอ แอปพลิเคชันของคุณต้องมีฟังก์ชันต่อไปนี้ด้วย

  • ระบุการใช้งาน VpnService ไว้ในข้อมูล Google Play
  • เข้ารหัสข้อมูลจากอุปกรณ์ไปยังปลายทางของอุโมงค์เสมือน VPN

[หากตอบว่าไม่ตรงกับข้อใดเลยในข้อ 2.]

2 (ก).

คุณแจ้งว่าวัตถุประสงค์หลักของแอปไม่อยู่ในรายการฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับอนุญาต แอปที่ใช้ VpnService นอกเหนือจากฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับอนุญาตจะถูกปฏิเสธ หากคิดว่าจําเป็นต้องใช้ VpnService โปรดอธิบายรายละเอียดว่าฟังก์ชันการทํางานของแอปคุณเป็นไปตามเกณฑ์อย่างไร

ไม่เช่นนั้น ให้นําบริการ VPN ทั้งหมดออกจากทุกอาร์ติแฟกต์ที่มีการใช้งานในการติดตามการเผยแพร่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ Google Play

3. เพื่อช่วยให้เราตรวจสอบแอปของคุณได้ คุณต้องระบุลิงก์ไปยังวิดีโอสั้นๆ (ไม่เกิน 90 วินาที) วิดีโอดังกล่าวต้องแสดงการเปิดแอปของคุณและการใช้ VPN หากไม่แน่ชัดว่ามีการใช้งานบริการ VPN อย่างไร โปรดใส่เสียงหรือคําบรรยายวิดีโอเพื่อช่วยอธิบาย ป้อน URL ของ YouTube หรือพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์ไปยัง MP4 หรือรูปแบบไฟล์วิดีโออื่นๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไป

4. (ก). บริการ VPN ของคุณเก็บรวบรวมหรือแชร์ข้อมูลอะไรบ้าง เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ใช่
  • ไม่

[หากตอบว่าใช่ในข้อ 4. (ก).]

4. (ข). ข้อมูลที่คุณเก็บรวบรวมหรือแชร์โดยใช้ VpnService มีอะไรบ้าง

  • ตำแหน่ง
    • ตำแหน่งโดยประมาณ
    • ตำแหน่งที่แน่นอน
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
    • ชื่อ
    • อีเมล
    • รหัสระบุตัวบุคคล
    • ที่อยู่
    • หมายเลขโทรศัพท์
    • เชื้อชาติและชาติกำเนิด
    • ความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนา
    • รสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ
    • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ
  • ข้อมูลทางการเงิน
    • บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือหมายเลขบัญชีธนาคาร
    • ประวัติการซื้อ
    • ข้อมูลเครดิต
    • ข้อมูลอื่นๆ ทางการเงิน
  • สุขภาพและการออกกำลังกาย
    • ข้อมูลด้านสุขภาพ
    • ข้อมูลการออกกำลังกาย
  • ข้อความ
    • อีเมล
    • ข้อความ SMS หรือ MMS
    • ข้อความอื่นๆ ในแอป
  • รูปภาพหรือวิดีโอ
    • รูปภาพ
    • วิดีโอ
  • ไฟล์เสียง
    • การบันทึกเสียง
    • ไฟล์เพลง
    • ไฟล์เสียงอื่นๆ
  • ไฟล์และเอกสาร
    • ไฟล์และเอกสาร
  • ปฏิทิน
    • กิจกรรมในปฏิทิน
  • รายชื่อติดต่อ
    • รายชื่อติดต่อ
  • กิจกรรมบนแอป
    • การดูหน้าเว็บและการแตะในแอป
    • ประวัติการค้นหาในแอป
    • แอปที่ติดตั้ง
    • เนื้อหาอื่นๆ ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น
    • การดำเนินการอื่นๆ
  • การท่องเว็บ
    • ประวัติการท่องเว็บ
  • ข้อมูลและประสิทธิภาพของแอป
    • บันทึกข้อขัดข้อง
    • การวินิจฉัย
    • ข้อมูลประสิทธิภาพอื่นๆ ของแอป
  • อุปกรณ์หรือตัวระบุอื่นๆ
    • อุปกรณ์หรือตัวระบุอื่นๆ

5. เพื่อช่วยให้เราตรวจสอบแอปของคุณได้ คุณต้องระบุลิงก์ไปยังวิดีโอสั้นๆ (ไม่เกิน 90 วินาที) วิดีโอต้องแสดงการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนต่อผู้ใช้ในแอป การเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนในแอปของคุณต้องอธิบายเหตุผลที่แอปต้องใช้ VpnService รวมถึงวิธีการใช้งาน หากมีการเก็บรวบรวมและ/หรือแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ด้วย VpnService คุณก็ต้องประกาศให้ผู้ใช้ทราบรวมถึงอธิบายวัตถุประสงค์ที่กำหนด ป้อน URL ของ YouTube หรือพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์ไปยัง MP4 หรือรูปแบบไฟล์วิดีโออื่นๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไป

คำแนะนำสำหรับวิดีโอที่แสดงการเปิดเผยข้อมูลของแอปอย่างชัดเจน

วิดีโอที่คุณจัดเตรียมไว้เพื่อใช้ในการประกาศต้องมีข้อมูลต่อไปนี้

  • การเปิดแอปของคุณในอุปกรณ์
  • โฟลว์ผู้ใช้เพื่อไปยังหน้าจอการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนสำหรับ VpnService
    • ตรวจสอบว่าวิดีโอมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด หากต้องเลื่อน ให้ตรวจสอบว่าภาพเลื่อนอย่างช้าๆ เพื่อให้มองเห็นข้อความทั้งหมดในวิดีโอ
  • โฟลว์ผู้ใช้เมื่อผู้ใช้ให้ความยินยอม ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้แอปใช้ VpnService
  • โฟลว์ผู้ใช้เมื่อผู้ใช้ไม่ให้ความยินยอม ซึ่งรวมถึงขั้นตอนเมื่อผู้ใช้ทำให้หน้าจอการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนแสดงขึ้นมาอีกครั้ง


5. (ก). แอปพลิเคชันของคุณเปลี่ยนเส้นทางหรือแทรกแซงการเข้าชมของผู้ใช้จากแอปอื่นๆ ในอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างรายได้หรือไม่

  • ใช่
  • ไม่

[หากตอบว่าใช่ในข้อ 5. (ก).]

5. (ข). แอปของคุณไม่ตรงตามหมวดหมู่ที่อนุญาตสำหรับการใช้งาน VpnService หากเชื่อว่า Use Case การสร้างรายได้ของคุณตรงตามหมวดหมู่สำหรับการใช้งานที่สอดคล้องกับนโยบาย โปรดอธิบาย

หมายเหตุ: การแทรกแซงโฆษณาที่สามารถส่งผลต่อการสร้างรายได้จะทำให้ถูกปฏิเสธ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
15403200483623982005
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false