เมื่อใช้หน้า Deep Link (เพิ่มผู้ใช้ > Deep Link) ใน Play Console คุณจะสามารถดำเนินการต่อไปนี้
- จัดการการตั้งค่าของ Deep Link และขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาในแอปแบบลงลึกยิ่งขึ้น
- ตรวจสอบสถานะของการแมปเว็บไซต์กับแอปเพื่อดูว่าควรปรับปรุงตำแหน่งใดด้วยการทำ Deep Link ให้แก่ URL ที่มีการเข้าชมมากที่สุดของคุณ
- คุณใช้แพตช์เพื่อเพิ่ม ปิด และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Deep Link ได้โดยไม่ต้องเผยแพร่แอปเวอร์ชันใหม่
หากมีบัญชี Google Ads ที่ลิงก์ไว้ คุณสามารถตรวจสอบว่าแคมเปญโฆษณาใดที่ทำ Deep Link ไว้ รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าถึงผู้ใช้ และแสดงตัวอย่างหน้า Landing Page เวอร์ชันที่ทำ Deep Link ไว้
ภาพรวมของ Deep Link
Deep Link คือ URL รูปแบบใดก็ตามที่นำผู้ใช้ไปยังส่วนที่เจาะจงของแอปโดยตรงแทนที่จะนำไปยังเว็บไซต์ นักพัฒนาแอปสามารถสร้าง Deep Link ด้วยการเพิ่มตัวกรอง Intent เพื่อส่งผู้ใช้ไปยังกิจกรรมที่เหมาะสมในแอป
หน้า Deep Link ทำให้กระบวนการสร้าง ดูแลรักษา และตรวจสอบ Deep Link ทำได้ง่ายขึ้น โดยหน้านี้จะมี 2 แท็บ ได้แก่ การกำหนดค่าแอปและ URL ของเว็บ แท็บการกำหนดค่าแอปจะให้ภาพรวมเกี่ยวกับการตั้งค่าของเวอร์ชันแอปและ Deep Link ที่เชื่อมโยง คุณใช้แท็บนี้เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ดูภาพรวมที่เข้าใจง่ายแต่ครอบคลุมเกี่ยวกับการกำหนดค่า Deep Link ที่คุณมีอยู่สำหรับเวอร์ชันแอปที่เลือก
- ระบุปัญหาการตั้งค่า Deep Link ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คุณแก้ปัญหาเหล่านั้นได้เร็วขึ้น
- สร้างและเผยแพร่แพตช์เพื่อเพิ่ม ปิด และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Deep Link โดยไม่ต้องเผยแพร่แอปเวอร์ชันใหม่
แท็บ URL ของเว็บแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของแอปบนเว็บ เช่น URL ที่ Crawl มาจากเว็บซึ่งมีความสำคัญที่สุดและโดเมนที่มีการคลิกมากที่สุดจากแคมเปญ Google Ads ที่ลิงก์ไว้ ตลอดจนข้อมูลสถานะ คุณใช้แท็บนี้เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ดูว่าแคมเปญโฆษณาใดที่ทำ Deep Link ไว้และรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าถึงผู้ใช้ของ Deep Link (หากคุณมีบัญชี Google Ads ที่ลิงก์ไว้)
- แสดงตัวอย่างหน้า Landing Page เวอร์ชันที่ทำ Deep Link ซึ่งแสดงเปรียบเทียบคู่กันกับเวอร์ชันเว็บได้
- ดูรายการ URL ของเว็บที่มีความสำคัญมากที่สุดรวมถึงสถานะการทำ Deep Link ของ URL เหล่านั้น
- ค้นพบโอกาสที่พลาดไปในการทำ Deep Link เนื้อหาและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ในหน้า Deep Link
ส่วนต่อไปนี้อธิบายถึงฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานของหน้า Deep Link
ฟีเจอร์ทั่วไป
ฟีเจอร์เหล่านี้คือฟีเจอร์สากลที่คุณมองเห็นและใช้ได้ในทั้ง 2 แท็บของหน้า Deep Link คลิกแต่ละส่วนเพื่อขยายหรือยุบ
เครื่องมือเลือกแอปคุณเลือกเวอร์ชันของแอปที่ต้องการตรวจสอบ Deep Link ได้โดยใช้เครื่องมือเลือกเวอร์ชันแอปที่ด้านขวาบนของหน้า โดยสามารถเลือกแอปเวอร์ชันใดก็ได้ที่ใช้งานอยู่ในแทร็กใดก็ได้ (เวอร์ชันที่ใช้งานจริง การทดสอบแบบเปิดหรือแบบปิด หรือการทดสอบภายใน) ตารางจะแสดงข้อมูล Deep Link โดยอิงตามเวอร์ชันแอปที่คุณเลือก
หมายเหตุ: คุณเลือกได้จากเวอร์ชันทั้งหมดที่มีการใช้งานของแอป (ซึ่งก็คือเวอร์ชันของแอปที่ยังคงให้บริการแก่ผู้ใช้อยู่) คุณอาจมีผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่ได้ให้บริการแล้ว Google Play จะถือว่าแอปเวอร์ชันเหล่านี้มีเวอร์ชันอื่นสำหรับใช้งานแทนไปแล้ว คุณจึงเลือกเวอร์ชันดังกล่าวไม่ได้
คุณสามารถสร้างและเผยแพร่แพตช์เพื่อเพิ่ม ปิด และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Deep Link โดยไม่ต้องเผยแพร่แอปเวอร์ชันใหม่ หลังจากสร้างแพตช์แล้ว คุณจะเลือกเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ของแอปที่จะใช้กับแพตช์นั้นได้ ปุ่มสร้างแพตช์อยู่ข้างเครื่องมือเลือกเวอร์ชันแอปที่ด้านขวาบนของหน้า
ไปที่แพตช์การตั้งค่า Deep Link ของคุณเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ด้านบนของหน้า คุณอาจเห็นการ์ดไฮไลต์บางส่วนที่มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ Deep Link การ์ดเหล่านี้จะไฮไลต์ปัญหาสำคัญในการตั้งค่า Deep Link เพื่อให้คุณระบุรายการที่ต้องดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว การ์ดไฮไลต์อาจมีข้อความแจ้งและการดำเนินการที่ต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับเนื้อหา ตัวอย่างเช่น การคลิกดูโดเมนจะกรองตารางในหน้าให้แสดงเฉพาะบางส่วน ขณะที่การคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมจะนำคุณไปยังเนื้อหาที่เจาะจงในเอกสารประกอบที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์มากขึ้นจาก Deep Link
ตารางทั้งหมดในหน้า Deep Link เป็นแบบค้นหาและจัดเรียงได้ คุณสามารถใช้ฟังก์ชันค้นหาเพื่อดูผลลัพธ์เกี่ยวกับเส้นทาง โดเมน และรูปแบบที่กำหนดเองทั้งหมดที่เชื่อมโยงอยู่กับเวอร์ชันของแอป ฟังก์ชันจัดเรียงจะจัดเรียงเฉพาะข้อมูลที่โหลดไว้ในขณะนั้น (โดยค่าเริ่มต้นหรืออิงตามผลการค้นหา)
ในตารางโดเมน คุณสามารถค้นหาโดเมน (การค้นหาสตริงย่อย) และกรองตามสถานะ (ดี ไม่ดี) คุณยังค้นหาเส้นทางและรูปแบบที่กำหนดเองในลักษณะต่อไปนี้ได้ด้วย
- ค้นหารูปแบบ (การค้นหาสตริงย่อย)
- ค้นหาโดเมน (การค้นหาสตริงย่อย)
- ค้นหาเส้นทาง (การค้นหาสตริงย่อย)
- ค้นหากิจกรรม (การค้นหาสตริงย่อย)
หมายเหตุ: สำหรับตารางเส้นทาง หากคุณป้อน URL แบบเต็ม (ตัวอย่างเช่น http://example.com/someStrangePattern) หน้าแดชบอร์ดจะพยายามจับคู่รูปแบบตามประเภทของเส้นทาง ลองดูตัวอย่างนี้
เส้นทางที่กำหนดไว้ในไฟล์ Manifest เป็นรูปแบบหนึ่ง (https://example.com/Some.*Pattern)
ในกรณีนี้ หากคุณพิมพ์ URL แบบเต็ม เส้นทางนี้จะแสดงขึ้นมา คุณสามารถใช้ฟังก์ชันการทำงานนี้เพื่อดูว่าตัวกรอง Intent และเส้นทางใดจะรับผิดชอบต่อการจัดการ URL ที่ป้อนในช่องค้นหา
ฟังก์ชันการค้นหาจะไม่สนใจพารามิเตอร์การค้นหา คุณจึงวาง URL แบบเต็มลงในช่องค้นหาได้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหา
การกำหนดค่าแอป
แท็บการกำหนดค่าแอปให้ภาพรวมเกี่ยวกับการตั้งค่าของเวอร์ชันแอปและ Deep Link ที่เชื่อมโยง ส่วนต่อไปนี้อธิบายตาราง 2 รายการที่คุณมองเห็นและใช้งานได้ในแท็บนี้ คลิกแต่ละส่วนเพื่อขยายหรือยุบ
ตารางโดเมนตารางโดเมนอยู่ในแท็บการกำหนดค่าแอปและแสดงโดเมนทั้งหมดที่ประกาศไว้ในไฟล์ Manifest ของแอป ซึ่งช่วยให้คุณยืนยันการเชื่อมโยงระหว่าง URL กับแอปของคุณในการสร้าง App Link หากแอปตั้งใจไม่ใช้ประโยชน์จาก App Link แต่คุณยังคงต้องการใช้ Web Link โดยให้ผู้ใช้ระบุความต้องการของตนในการตั้งค่า ส่วนนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคุณ เนื่องจากโดเมนของคุณจะเชื่อมโยงกับแอปไม่ได้อยู่แล้วโดยตั้งใจ
หากพบปัญหาเกี่ยวกับโดเมน คุณสามารถวางเคอร์เซอร์เหนือคอลัมน์สถานะเพื่อดูว่าการตรวจสอบใดที่ดำเนินการไม่สำเร็จ คุณคลิกแถวเพื่อดูปัญหาอย่างละเอียดได้
หากพบปัญหาในตารางโดเมน คุณจะแก้ไขได้ดังนี้
- ใช้เครื่องมือสร้าง JSON ในการวางซ้อนเพื่อคัดลอกเนื้อหาของไฟล์ assetlinks ไปยังโดเมนโดยตรง ซึ่งจะมีข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นในการทำให้ App Link ใช้งานได้ โดยมีข้อควรทราบดังนี้
- หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในไฟล์ assetlinks และอัปโหลดไฟล์ไปยังโดเมนแล้ว ให้กลับไปที่หน้า Deep Link และตรวจสอบว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือยัง
- เครื่องมือสร้างเป็นแบบบวกเพิ่ม ซึ่งหมายความว่าเครื่องมือจะพิจารณาทุกอย่างที่อยู่ในโดเมนอยู่แล้ว การนำเนื้อหาทั้งหมดไปวางตามแบบที่เป็น (หรือดาวน์โหลดไฟล์) นั้นทำได้อย่างปลอดภัย โดยจะไม่ทำลายความเข้ากันได้กับแอปอื่นๆ ที่คุณมี เราจะไฮไลต์การเปลี่ยนแปลงที่เสนอเป็นสีเขียว
- การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโดเมนไม่ได้รับประกันว่าผู้ใช้ทั้งหมดจะมี App Link ที่ตรวจสอบแล้ว ในเวอร์ชันต่างๆ ส่วนใหญ่ของ Android (ก่อน Android 12) การยืนยันโดเมนจะเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง คุณจึงต้องเผยแพร่เวอร์ชันใหม่ของแอปหากต้องการให้การติดตั้งเก่าๆ เริ่มได้รับ App Link
ตารางลิงก์ไฟล์ Manifest ของแอปอยู่ในแท็บการกำหนดค่าแอปและแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับไฟล์ Manifest ของแอป Google Play จะตรวจสอบตัวกรอง Intent ต่างๆ ของแอปและจัดกลุ่มตามเส้นทาง (สำหรับ Web Link) หากพบปัญหา คุณสามารถคลิกแถวใดก็ได้เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีแก้ไขแอป การคลิกเส้นทางจะแสดงลิงก์ทั้งหมดที่รองรับภายใต้เส้นทางนี้ด้วย โดยจะเป็นรูปแบบที่ผสมผสานกัน (http/https) และโดเมนที่ประกาศไว้สำหรับตัวกรอง Intent ที่มีเส้นทางและกิจกรรมนี้
หมายเหตุ: หากต้องการแก้ไขปัญหาที่แสดงอยู่ในตารางลิงก์ไฟล์ Manifest ของแอป คุณต้องแก้ไขไฟล์ AppManifest.xml และเผยแพร่แอปเวอร์ชันใหม่ ปัญหาของแอปเวอร์ชันปัจจุบันจะยังคงอยู่ เนื่องจากเป็นปัญหาที่ผูกอยู่กับแอปเวอร์ชันที่เผยแพร่ไปแล้ว
<data>
แต่ละแท็ก อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้เก็บ Web Link ทั้งหมดที่จะบันทึกไว้นั้นแยกตามเส้นทาง/กิจกรรมเดียวกันภายใต้ตัวกรอง Intent เดียวกันเพื่อให้จัดการไฟล์ Manifest ได้สะดวก การมีแท็ก <data>
หลายแท็กจะเป็นอันตราย เนื่องจากแท็กเหล่านี้รวมกันอยู่ในการเรียงสับเปลี่ยนรูปแบบ เส้นทาง และโดเมนทั้งหมด แต่หากคุณใช้เส้นทางเดียวกันตลอดสำหรับ Web Link (ซึ่งจะใช้รูปแบบ http/s เสมอ) ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้URL ของเว็บ
แท็บ URL ของเว็บแสดงการครอบคลุมของ Deep Link (จำนวนรวมที่แสดงว่า URL อันดับสูงสุดจากโดเมนที่ได้รับการยืนยันของคุณมีการทำ Deep Link กี่เปอร์เซ็นต์) และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของแอปบนเว็บ เช่น URL ที่ Crawl มาจากเว็บซึ่งมีความสำคัญที่สุดและโดเมนที่มีการคลิกมากที่สุดจากแคมเปญ Google Ads ที่ลิงก์ไว้ ตลอดจนข้อมูลสถานะ ส่วนต่อไปนี้อธิบายตาราง 2 รายการที่คุณมองเห็นและใช้งานได้ในแท็บนี้ คลิกแต่ละส่วนเพื่อขยายหรือยุบ
ตารางการเข้าชมจากโฆษณามากที่สุด (บัญชี Google Ads ที่ลิงก์ไว้เท่านั้น)ตารางการเข้าชมจากโฆษณามากที่สุดอยู่ในแท็บ URL ของเว็บ และหากคุณลิงก์บัญชี Google Ads ไว้ ตารางนี้จะจัดอันดับโดเมนจากแคมเปญโฆษณาของคุณที่ได้รับการคลิกมากที่สุดพร้อมแสดงการเข้าถึงผู้ใช้เป็นเปอร์เซ็นต์ การเข้าถึงผู้ใช้คือ เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณ ซึ่งแก้ปัญหาในแอปเมื่อไปยัง URL ของเว็บ (หรือมีการแสดงเครื่องมือเลือกแอป) เทียบกับผู้ใช้ที่อยู่ในเว็บต่อไป
คุณยังดูสถานะของโดเมนได้ด้วย (ทำ Deep Link, ไม่ได้ทำ Deep Link, พบปัญหา) หากคุณเห็นว่ามีโดเมนที่ยังไม่ได้ทำ Deep Link แต่ได้รับการคลิกจำนวนมาก การทำ Deep Link ให้กับโดเมนเหล่านี้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการนำผู้ใช้มาที่แอปของคุณโดยตรง
คุณคลิกแถวใดก็ได้เพื่อดูข้อมูลอย่างละเอียดของโดเมนใดโดเมนหนึ่ง หาก URL ไม่ได้ทำ Deep Link คุณสามารถทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าแอปและยืนยันการเป็นเจ้าของโดเมน หรือดูคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณยังดูตัวอย่างภาพหน้าจอที่แสดงเปรียบเทียบคู่กันได้ว่าโดเมนที่ทำ Deep Link มีลักษณะอย่างไรบนเว็บและในแอป สุดท้ายคุณสามารถดูรายละเอียดการเข้าถึงผู้ใช้อย่างละเอียด ซึ่งแสดงผลลัพธ์ที่ผู้ใช้คาดหวังดังต่อไปนี้สำหรับ URL ที่คุณเลือกไว้ในเวอร์ชันแอปทั้งหมดโดยแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังแอป
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังเครื่องมือเลือกแอป
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังเว็บเบราว์เซอร์
ตาราง URL ที่ Crawl มาจากเว็บอยู่ในแท็บ URL ของเว็บและแสดง URL ที่ Crawl มาจากเว็บซึ่งมีความสำคัญมากที่สุดพร้อมแสดงการเข้าถึงผู้ใช้เป็นเปอร์เซ็นต์ คุณยังดูสถานะของโดเมนได้ด้วย (ทำ Deep Link, ไม่ได้ทำ Deep Link, พบปัญหา) หากคุณเห็นว่ามีโดเมนที่ยังไม่ได้ทำ Deep Link แต่ได้รับการคลิกจำนวนมาก การทำ Deep Link ให้กับโดเมนเหล่านี้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการนำผู้ใช้มาที่แอปของคุณโดยตรง
คุณคลิกแถวใดก็ได้เพื่อดูข้อมูลอย่างละเอียดของโดเมนใดโดเมนหนึ่ง หาก URL ไม่ได้ทำ Deep Link คุณสามารถทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าแอปและยืนยันการเป็นเจ้าของโดเมน หรือดูคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณยังดูตัวอย่างภาพหน้าจอที่แสดงเปรียบเทียบคู่กันได้ว่าโดเมนที่ทำ Deep Link มีลักษณะอย่างไรบนเว็บและในแอป สุดท้ายคุณสามารถดูรายละเอียดการเข้าถึงผู้ใช้อย่างละเอียด ซึ่งแสดงผลลัพธ์ที่ผู้ใช้คาดหวังดังต่อไปนี้สำหรับ URL ที่คุณเลือกไว้ในเวอร์ชันแอปทั้งหมดโดยแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังแอป
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังเครื่องมือเลือกแอป
- ผู้ใช้ที่ถูกนำไปยังเว็บเบราว์เซอร์
แพตช์การตั้งค่า Deep Link ของคุณ
คุณสามารถสร้างและเผยแพร่แพตช์เพื่อเพิ่ม ปิด และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Deep Link โดยไม่ต้องเผยแพร่แอปเวอร์ชันใหม่ ระบบจะไม่เก็บแพตช์ไว้สำหรับแอปเวอร์ชันในอนาคต คุณสามารถเก็บการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไว้ในแอปเวอร์ชันในอนาคตได้ด้วยการอัปเดตไฟล์ Manifest ของแอป
หลังจากสร้างแพตช์แล้ว คุณจะเลือกเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ของแอปที่จะใช้กับแพตช์นั้นได้ ปุ่มสร้างแพตช์อยู่ข้างเครื่องมือเลือกเวอร์ชันแอปที่ด้านขวาบนของหน้า
วิธีสร้างแพตช์
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า Deep Link (เพิ่มผู้ใช้ > Deep Link)
- คลิกสร้างแพตช์ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้า
- หมายเหตุ: หลังจากคลิกสร้างแพตช์ คุณจะเห็นข้อความบริเวณด้านล่างของหน้า Deep Link ที่ระบุว่า "โหมดแพตช์เปิดอยู่: ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่รอดำเนินการ" สถานะนี้จะอัปเดตเมื่อคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า Deep Link
- เลือกเพิ่มเว็บลิงก์หากคุณต้องการเพิ่มเส้นทางใหม่ในการกำหนดค่า Deep Link
- หากต้องการใช้โดเมนที่ยังไม่ได้ระบุในไฟล์ Manifest ของแอป คุณต้องคลิกเพิ่มโดเมนในตารางโดเมนก่อน เมื่อโดเมนของคุณได้รับการยืนยันในการวางซ้อนแล้ว โดเมนจะพร้อมใช้งานเมื่อเพิ่มเว็บลิงก์ใหม่ แต่จะไม่แสดงในตารางโดเมนจนกว่าคุณจะเผยแพร่แพตช์ด้วยโดเมนดังกล่าว
- หมายเหตุ: โดเมนที่เพิ่มด้วยเพิ่มโดเมนจะยังคงอยู่ในการตั้งค่าของคุณสำหรับเวอร์ชันในอนาคตทั้งหมด
- หากต้องการใช้โดเมนที่ยังไม่ได้ระบุในไฟล์ Manifest ของแอป คุณต้องคลิกเพิ่มโดเมนในตารางโดเมนก่อน เมื่อโดเมนของคุณได้รับการยืนยันในการวางซ้อนแล้ว โดเมนจะพร้อมใช้งานเมื่อเพิ่มเว็บลิงก์ใหม่ แต่จะไม่แสดงในตารางโดเมนจนกว่าคุณจะเผยแพร่แพตช์ด้วยโดเมนดังกล่าว
- กำหนดพารามิเตอร์ของ URL โดยระบุข้อมูลที่จำเป็น ดังนี้
- กิจกรรม: เลือกกิจกรรมโดยใช้เมนูแบบเลื่อนลง
- รูปแบบและโฮสต์: เลือกรูปแบบและโฮสต์โดยใช้เมนูแบบเลื่อนลง
- เส้นทาง: ป้อน URL แบบเต็มที่คุณต้องการให้ Deep Link ใหม่นำผู้ใช้ไป
- คลิกเพิ่มลงในฉบับร่างของแพตช์ หลังจากเพิ่มลงในฉบับร่างของแพตช์ คุณจะเห็นข้อความบริเวณด้านล่างของหน้าที่ระบุว่า "โหมดแพตช์เปิดอยู่: มีการเปลี่ยนแปลง Deep Link ที่รอดำเนินการ 1 รายการ"
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มแพตช์ไปยัง Deep Link อื่นๆ คุณสามารถทำได้โดยทำตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง
- หากพร้อมที่จะเผยแพร่แพตช์ ให้คลิกตรวจสอบและเผยแพร่
คุณยังใช้แพตช์เพื่อปิด Deep Link ได้ด้วย เมื่อปิด Deep Link ผู้ใช้จะไม่ไปยังแอปของคุณโดยตรงจากลิงก์ที่เชื่อมโยงกับเส้นทางนี้ แต่จะเห็นเครื่องมือเลือกแอปหรือถูกนำไปยังเว็บเบราว์เซอร์ วิธีปิด Deep Link
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า Deep Link (เพิ่มผู้ใช้ > Deep Link)
- คลิกสร้างแพตช์ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้า
- หมายเหตุ: หลังจากคลิกสร้างแพตช์ คุณจะเห็นข้อความบริเวณด้านล่างของหน้า Deep Link ที่ระบุว่า "โหมดแพตช์เปิดอยู่: ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่รอดำเนินการ" สถานะนี้จะอัปเดตเมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงกับแพตช์
- คลิกปิดข้างเส้นทางที่ต้องการปิด
- (ไม่บังคับ) หากต้องการปิด Deep Link อื่นๆ คุณสามารถทำได้โดยทำตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง
หากพร้อมที่จะเผยแพร่แพตช์ ให้คลิกตรวจสอบและเผยแพร่ ตรวจสอบและเผยแพร่แพตช์เพื่อใช้การเปลี่ยนแปลงกับเวอร์ชันแอปที่เลือกไว้
ตั้งค่าการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างราบรื่น
คุณสามารถตั้งค่าการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างราบรื่นใน Play Console เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบในแอปหรือเว็บไซต์ของคุณโดยอัตโนมัติด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบที่บันทึกไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google ซึ่งจะลดความซับซ้อนของกระบวนการลงชื่อเข้าใช้
ก่อนตั้งค่าการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างราบรื่น คุณต้องมีสิทธิ์เผยแพร่ไฟล์ในโดเมนที่จะแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบกับแอป
หากต้องการตั้งค่าการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างราบรื่นใน Play Console ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้า Deep Link (เพิ่มผู้ใช้ > Deep Link)
- หากจะเพิ่มโดเมนใหม่ ให้เลือกแท็บการกําหนดค่าแอป ในส่วน "โดเมน" ให้คลิกเพิ่มโดเมน
- กรอกชื่อโดเมนของเว็บไซต์ในช่องโดเมนของหน้าจอเพิ่มโดเมน
- ตรวจสอบว่าปุ่มสลับเปิดใช้การแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบเปิดอยู่
- คัดลอกไฟล์ JSON ที่สร้างขึ้นและเผยแพร่ในตำแหน่งไฟล์ที่ระบุ
- คลิกสร้างการเชื่อมโยงเว็บไซต์ หากเชื่อมโยงสําเร็จ ระบบจะนําคุณไปยังหน้าDeep Link
- สำหรับโดเมนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ให้เลือกแท็บการกำหนดค่าแอป ในส่วน "โดเมน" ให้คลิกเปิดในคอลัมน์ "การแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบ"
- คัดลอกไฟล์ JSON ที่สร้างขึ้นและเผยแพร่ในตำแหน่งไฟล์ที่ระบุ
- คลิกเปิดการแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบ หากเชื่อมโยงสําเร็จ ระบบจะนําคุณไปยังหน้าDeep Link
หลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว แอป Android และเว็บไซต์ของคุณจะเริ่มแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้และป้อนข้อความอัตโนมัติตามนั้น เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google อาจใช้เวลา 2-3 วันจึงจะตรวจพบการเปลี่ยนแปลงนี้
คำถามที่พบบ่อย
การเข้าถึงผู้ใช้คืออะไรการเข้าถึงผู้ใช้คือ เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณ ซึ่งแก้ปัญหาในแอปเมื่อไปยัง URL ของเว็บ (หรือมีการแสดงเครื่องมือเลือกแอป) เทียบกับผู้ใช้ที่อยู่ในเว็บต่อไป ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูงเท่าใด ผู้ใช้ที่ได้รับประสบการณ์การไปยังหน้า Landing Page ที่ยอดเยี่ยมก็มีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น โดยระบบจะรีเฟรชข้อมูลวันละครั้ง
URL ที่ Crawl มาจากเว็บคือ รายการ URL อันดับสูงสุดที่เราระบุว่ามีความสำคัญมากที่สุดในโดเมนที่ได้รับการยืนยันของคุณ URL เหล่านี้รวมถึงหน้าที่มีการเข้าชมและอ้างอิงสูงสุดที่เราเห็นว่ามีการเข้าชมบนเว็บ การทำ Deep Link ให้กับ URL ของเว็บที่สำคัญที่สุดของคุณจะช่วยดูแลให้มีการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของแอปมากขึ้น โดยระบบจะรีเฟรชรายการ URL วันละครั้ง
หากต้องการดูสถานะการทำ Deep Link ของหน้า Landing Page จากแคมเปญ Google Ads ก่อนอื่นคุณต้องลิงก์บัญชี Google Ads ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เมื่อลิงก์แล้ว URL ของ แคมเปญโฆษณาจะปรากฏในหน้า Deep Link ใน Play Console
การครอบคลุมของ Deep Link คือ จำนวนรวมที่แสดงเปอร์เซ็นต์ของ URL อันดับสูงสุดจากโดเมนที่ได้รับการยืนยันของคุณซึ่งมีการทำ Deep Link การครอบคลุมของ Deep Link ที่สูงขึ้นช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ การครอบคลุมจะคำนวณตามสถานะอุปกรณ์ของผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปและจะรีเฟรชทุกวัน
เมื่อคุณเพิ่มโดเมนที่ได้รับการยืนยัน Play Console จะเริ่มแสดง URL ที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนี้ โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นทันที อาจมีเวลาหน่วงประมาณ 1 วันก่อนคุณจะเห็น URL จากโดเมนที่เพิ่งเพิ่ม โปรดทราบว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีนำโดเมนที่ได้รับการยืนยันออกจากรายการ
การครอบคลุมของ Deep Link ไม่ได้อิงจากสถานะปัจจุบันของแอป แต่จะขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณไว้สามารถเปิด URL หนึ่งๆ ได้หรือไม่ เมื่อคุณเปลี่ยน assetlinks หรือเพิ่มตัวกรอง Intent ใหม่ จะต้องใช้เวลาให้ฐานผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณได้รับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ คุณอาจเห็นตัวเลขการครอบคลุมที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเมื่อผู้ใช้ได้รับอัปเดตของคุณ
ปัจจุบันเราทดสอบชุด URL แบบจำกัดที่พร้อมให้บริการในหน้าสำหรับภาพหน้าจอ หากเห็นข้อความที่ระบุว่าไม่มีตัวอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับแอป ปัจจุบันตัวอย่างพร้อมให้บริการสำหรับชุด URL ที่จำกัด แต่เรากำลังเพิ่มการครอบคลุมของฟีเจอร์นี้ในอนาคต
เราใช้การเรียนรู้เพื่อกำหนดว่าควรจัดกลุ่ม URL รายการใดเข้าด้วยกัน หากแอปมีตัวกรอง Intent อยู่แล้ว ตัวกรองเหล่านี้จะแสดงเป็นกลุ่มใน UI เสมอ อัลกอริทึมของเราจะจัดกลุ่ม URL ที่ไม่ตรงกับตัวกรอง Intent ใดเลยเท่านั้น