เสนอระบบการเรียกเก็บเงินทางเลือกให้แก่ผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA)

ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2024 เป็นต้นไป นักพัฒนาแอปที่เสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับผู้ใช้ใน EEA ต้องใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น โปรดดูรายละเอียดด้านล่างและไปที่คู่มือการผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นเพื่อเริ่มต้นใช้งาน

เราพยายามที่จะปฏิบัติตามกฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act หรือ DMA) เราจึงอนุญาตให้นักพัฒนาแอปที่ขายเนื้อหาหรือบริการดิจิทัลสามารถเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) เพิ่มเติมจากระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เราจะเรียกเก็บค่าบริการซึ่งช่วยสนับสนุนการลงทุนใน Play และ Android ต่อไปและนักพัฒนาแอปจะต้องชำระค่าบริการที่เกี่ยวข้องให้ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความในบล็อกโพสต์

การมีสิทธิ์

คุณสมบัติในการเข้าร่วมโปรแกรมมีดังต่อไปนี้

  • แอปของคุณต้องเป็นแอปหรือเกมในรูปแบบของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ใน EEA
  • นักพัฒนาแอปต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียน

ข้อกำหนด

นักพัฒนาแอปที่เข้าร่วมโปรแกรมต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้

  • ต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียน
  • เสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ในประเทศ EEA เท่านั้น
  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดการปกป้องผู้ใช้ที่เหมาะสม
  • เสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นภายในแอปเท่านั้น
  • ต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI-DSS) (หากจัดการกับข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต)
  • ให้การสนับสนุนลูกค้าสำหรับผู้ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น (ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ขายโดยใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น) และระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นดังกล่าวต้องมีขั้นตอนให้โต้แย้งธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • ชำระค่าบริการที่เกี่ยวข้องให้แก่ Google เมื่อผู้บริโภคซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแแบบไม่ให้ผู้ใช้ตัดสินใจ ค่าบริการมาตรฐานที่นักพัฒนาแอปจะต้องชำระจะลดลง 3%
  • ผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการใช้ข้อกำหนดและการรายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้ นักพัฒนาแอปที่ยังไม่พร้อมผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นจะมีตัวเลือกในการแสดงหน้าจอข้อมูลและรายงานธุรกรรมด้วยตนเองได้จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2024
  • ก่อนที่จะผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น นักพัฒนาแอปต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ประสบการณ์ของผู้ใช้ฉบับชั่วคราวของเรา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่สอดคล้องกันและช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
  • โปรดแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าหากจะทำการเปลี่ยนแปลงกับการตั้งค่าการลงทะเบียนแอป เช่น การปิดหรือเปิดใช้การเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจในแอปหรือตลาดใดๆ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีส่งการเปลี่ยนแปลงในคำถามที่พบบ่อย

โปรดทราบว่าคุณสมบัติและข้อกําหนดต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

การผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น

หากต้องการเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นและจะใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นนับตั้งแต่วันที่ที่คุณเสนอ คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. อ่านข้อกำหนดในหน้านี้เพื่อระบุว่าแอปของคุณเป็นไปตามเกณฑ์การมีสิทธิ์หรือไม่
  2. กรอกแบบฟอร์มประกาศการเรียกเก็บเงิน ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ และทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานที่จำเป็นเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมผ่านทีมสนับสนุนของ Google (เช่น ตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินตามที่จำเป็น)
  3. ผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นตามที่อธิบายไว้ในคู่มือการผสานรวม API นี้
  4. จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console เพื่อเลือกใช้/ไม่ใช้สำหรับแต่ละแอป อัปโหลดโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
  5. รายงานธุรกรรมที่ได้รับอนุญาตทั้งหมดจากผู้ใช้ใน EEA ไปยัง Google Play ภายใน 24 ชั่วโมงโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น
  6. สำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มต้นขณะที่คุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยไม่ใช้การทำงานอัตโนมัติ คุณจะต้องย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการเหล่านี้ผ่าน ExternalTransactions API ก่อนที่จะรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API การย้ายข้อมูลแบบครั้งเดียวนี้ต้องดำเนินการก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2024 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาการย้ายข้อมูล API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คำถามที่พบบ่อย

หากเข้าร่วมโปรแกรมอยู่แล้วและจะเปลี่ยนไปใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ให้ข้ามขั้นตอนที่ 1 และ 2 ด้านบน เมื่อทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ข้างต้นเสร็จสมบูรณ์แล้วและเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป

การผสานรวมแบบไม่ใช้การทำงานอัตโนมัติ

หากต้องการเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่น แต่ยังไม่พร้อมผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อลงทะเบียนด้วยตนเอง

  1. อ่านข้อกำหนดในหน้านี้เพื่อระบุว่าแอปของคุณเป็นไปตามเกณฑ์การมีสิทธิ์หรือไม่
  2. กรอกแบบฟอร์มประกาศการเรียกเก็บเงิน ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ และทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานที่จำเป็นเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมผ่านทีมสนับสนุนของ Google (เช่น ตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินตามที่จำเป็น)
  3. ระบุแอปและตลาดที่มีสิทธิ์ซึ่งคุณจะนำเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่น โดยใช้แบบฟอร์มลงทะเบียนที่คุณจะได้รับทางอีเมลหลังจากที่กรอกแบบฟอร์มประกาศการเรียกเก็บเงินเรียบร้อยแล้ว
  4. ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามที่อธิบายไว้ในหน้านี้
  5. รับผิดชอบและรายงานให้ Google Play ทราบเกี่ยวกับจำนวนเงินของธุรกรรมการชำระเงินทั้งหมดจากระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับการแจ้งหนี้ โดยจะมีการแจ้งนักพัฒนาแอปที่กรอกแบบฟอร์มประกาศและเข้าร่วมโปรแกรมเรียบร้อยแล้วให้ทราบวิธีการรายงานรายเดือน
  6. ก่อนถึงวันครบกำหนดเวลาการย้ายข้อมูล ให้ผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มต้นขณะที่คุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่ใช้การทำงานอัตโนมัติ และอัปเดตการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console เมื่อย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่และเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป การย้ายข้อมูลแบบครั้งเดียวนี้ต้องดำเนินการก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2024 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาการย้ายข้อมูล API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คำถามที่พบบ่อย

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราที่นี่

คำถามที่พบบ่อย

เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ประกอบด้วยประเทศใดบ้าง
ปัจจุบัน EEA ประกอบด้วยประเทศกรีซ โครเอเชีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ บัลแกเรีย เบลเยียม โปรตุเกส โปแลนด์ ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ มอลตา เยอรมนี โรมาเนีย ลักเซมเบิร์ก ลัตเวีย ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย สเปน สโลวาเกีย สโลวีเนีย สวีเดน สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐไซปรัส ออสเตรีย อิตาลี เอสโตเนีย ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ และฮังการี
เมื่อเร็วๆ นี้ แอปของฉันถูกปฏิเสธเนื่องจากไม่เป็นไปตามนโยบายการชำระเงินของ Google Play ฉันควรทำอย่างไร

Google จะไม่นำออกหรือปฏิเสธ (หรือปฏิเสธการอัปเดตของ) แอปจากนักพัฒนาแอปที่เข้าร่วมโปรแกรมเนื่องจากเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ใน EEA โดยคุณจะยังคงต้องใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ต่อไปสำหรับแอปและเกมที่จัดจำหน่ายผ่าน Play ให้แก่ผู้ใช้นอก EEA ยกเว้นในกรณีที่มีสิทธิ์ใช้การเรียกเก็บเงินระบบอื่น

หากแอปเป็นไปตามเกณฑ์การมีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรมและข้อกำหนดอื่นๆ คุณต้องกรอกแบบฟอร์มประกาศให้เรียบร้อยและส่งอัปเดตแอป โปรดทราบว่าเราอาจใช้เวลาสักระยะในการประมวลผลแอปพลิเคชันของคุณ หากไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมโปรแกรม คุณจะต้องอัปเดตแอปให้เป็นไปตามนโยบายการชำระเงินของ Google Play และส่งแอปอีกครั้ง

ปัจจุบันฉันเสนอระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play อยู่ ตอนนี้ฉันสามารถเสนอทั้งระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ควบคู่ไปกับระบบอื่นให้ผู้ใช้ใน EEA ได้ไหม

หากคุณต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินทางเลือกควบคู่ไปกับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ให้ลงทะเบียนในการนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจเพื่อเสนอตัวเลือกให้ผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมการนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจที่นี่

ฉันจะส่งธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้อย่างไร

ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2023 เป็นต้นไป คุณจะสามารถรายงานธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นและต้องรายงานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการชำระเงินได้รับอนุมัติ API เหล่านี้ช่วยลดความซับซ้อนในการรายงานให้แก่นักพัฒนาแอป และทำให้ธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play ด้วย

หากยังไม่ได้ผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณจะรายงานธุรกรรมด้วยตนเองได้จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2024 หากรายงานด้วยตนเอง คุณจะต้องรายงานจำนวนเงินของธุรกรรมการชำระเงินด้วยตนเองเดือนละครั้งภายในวันทำการที่ 5 ของแต่ละเดือน เช่น รายงานสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 จะต้องส่งภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 เมื่อกรอกแบบฟอร์มประกาศเรียบร้อยแล้ว เราจะตรวจสอบข้อมูลและส่งวิธีการรายงานธุรกรรมการชำระเงิน ตลอดจนประเภทการชำระเงินที่คุณต้องนำส่งค่าบริการและภาษีที่เกี่ยวข้องไปให้คุณ

มีผลิตภัณฑ์ประเภทใดบ้างที่ฉันสามารถเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ใน EEA

คุณสามารถใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับเนื้อหาและบริการดิจิทัล เช่น การซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการในแอป

ทำไมถึงยังต้องมีค่าบริการอยู่

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ค่าบริการของ Google Play ไม่ได้เป็นเพียงค่าธรรมเนียมในการประมวลผลการชำระเงิน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ Android และ Play มีให้ ตลอดจนช่วยให้เราลงทุนใน Android และ Google Play ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดเป็นฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้และนักพัฒนาแอปที่ทุกคนต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าบริการได้ที่บทความนี้

โปรแกรมนี้อนุญาตให้มีลิงก์สำหรับการซื้อเนื้อหาดิจิทัลสำหรับผู้ใช้ใน EEA ไหม

ใช่ โปรแกรมนี้อนุญาตให้นักพัฒนาแอปใช้การชำระเงินบนเว็บเป็นวิธีการชำระเงินทางเลือกใน WebView ที่ฝังไว้ในแอป และเช่นเดียวกับวิธีการชำระเงินทางเลือกอื่นๆ วิธีการชำระเงินเหล่านี้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของโปรแกรมที่ระบุไว้ในหน้านี้ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดทั้งหมดด้านความเชื่อมั่นของผู้ใช้และความปลอดภัย ตลอดจนค่าบริการ

โปรแกรมนี้จำเป็นต้องเข้าร่วมไหม

ไม่จำเป็น โปรแกรมนี้เป็นแบบเลือกเข้าร่วม หากคุณไม่ต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินทางเลือกนอกเหนือจากระบบของ Google Play ให้แก่ผู้ใช้ใน EEA ก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ

ฉันลงทะเบียนในโปรแกรม EEA สำหรับระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่ให้ผู้ใช้ตัดสินใจไปแล้ว ฉันจะสมัครเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจด้วยได้ไหม

หากคุณสมัครเข้าร่วมโปรแกรม EEA ก่อนวันที่ 1 กันยายน 2022 และต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ควบคู่ไปกับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play คุณจะต้องส่งแบบฟอร์มประกาศอีกครั้งเพื่อลงทะเบียนในโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจ

หากคุณสมัครเข้าร่วมโปรแกรม EEA หลังวันที่ 1 กันยายน 2022 คุณไม่จำเป็นต้องส่งแบบฟอร์มประกาศอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องแจ้งให้เราทราบด้วยการส่งแบบฟอร์มลงทะเบียนของแพ็กเกจแอปที่อัปเดตแล้ว ไม่ว่าคุณจะเสนอการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจสำหรับแต่ละประเทศใน EEA หรือไม่ก็ตาม

หากฉันวางแผนจะเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นหรือได้ดำเนินการไปแล้ว ฉันต้องทำตามข้อกำหนดด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ระบุในหน้านี้เมื่อใด

หากคุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นด้วยระบบอัตโนมัติ การผสานรวมและใช้ API ฝั่งไคลเอ็นต์จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2023 นักพัฒนาแอปทุกรายที่เข้าร่วมจะต้องผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นเพื่อแสดงผลหน้าจอข้อมูลและรายงานธุรกรรม

หากยังไม่พร้อมผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณจะต้องใช้หลักเกณฑ์ด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ชั่วคราวด้วยตนเอง

ฉันได้ส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนแพ็กเกจแอปเพื่อระบุตลาดที่จะใช้การเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่ให้ผู้ใช้ตัดสินใจสําหรับแอปแล้ว ฉันจะแจ้งให้ Google ทราบการเปลี่ยนแปลงในตัวเลือกลงทะเบียนแพ็กเกจแอปได้อย่างไร

หากคุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่อัตโนมัติ คุณจะต้องส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนแพ็กเกจแอปที่อัปเดตใหม่ หากเปลี่ยนข้อเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นในตลาดสำหรับแพ็กเกจแอปหนึ่งๆ โปรดทราบว่าการอัปเดตทั้งหมดจะมีผลในวันแรกของเดือนถัดไปตามเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงค่าบริการที่เกี่ยวข้อง

หากคุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณสามารถเปลี่ยนข้อเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นในตลาดสำหรับแพ็กเกจแอปหนึ่งๆ ได้ผ่านการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console การอัปเดตทั้งหมดจะมีผลทันที รวมถึงการเปลี่ยนแปลงค่าบริการที่เกี่ยวข้องด้วย

ฉันได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องสำหรับแอปที่ไม่ใช่เกมแล้ว ฉันต้องลงชื่อสมัครใช้อีกครั้งเพื่อให้แอปเกมของฉันเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจหรือไม่

ไม่ต้อง หากตอนนี้คุณอยู่ในโปรแกรมนำร่องแล้ว คุณจะลงทะเบียนแอปเกมในโปรแกรมดังกล่าวผ่าน Play Console และเริ่มเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ใน EEA ได้ ทำตามวิธีการลงทะเบียนแอปจากบทความในศูนย์ช่วยเหลือนี้

ฉันจะผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับรูปแบบของอุปกรณ์ที่นอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตได้อย่างไรเมื่อเสนอการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจแก่ผู้ใช้ใน EEA

คุณสามารถใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นในลักษณะเดียวกันได้ในรูปแบบของอุปกรณ์ที่มีสิทธิ์ทั้งหมด โดยสามารถใช้ประโยชน์จากคู่มือการผสานรวมเดียวกันนี้เพื่อดูหลักเกณฑ์และแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน

หากคุณวางแผนที่จะเสนอการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจใน Android Auto โปรดติดต่อเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน

API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นมีประโยชน์อย่างไร ฉันจะผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นเพื่อแสดงภาพหน้าจอที่มีตัวเลือกแก่ผู้ใช้ก่อนใช้ API ในการรายงานธุรกรรมได้ไหม

API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้รับการออกแบบให้ผสานรวมและใช้งานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสำหรับนักพัฒนาแอป โดย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นมีประโยชน์ดังนี้

  • หน้าจอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่แสดงผลโดย Google Play ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องสร้างและดูแลรักษาหน้าจอข้อมูลด้วยตนเอง
  • การรายงานธุรกรรมที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำจุดสัมผัสต่างๆ ที่ต้องทำด้วยตนเองออกและลดข้อผิดพลาดในการรวมข้อมูลหรือการปรับยอด
  • ธุรกรรมจากระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่รายงานผ่าน API จะแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play

นอกจากนี้ เรายังได้ทำการปรับปรุงต่อไปนี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้ง่ายขึ้น

  • จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นด้วยตนเองผ่าน Play Console เช่น การเปิดหรือปิดใช้การเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจในแอปที่มีสิทธิ์ตามตลาดที่มีสิทธิ์ การจัดการโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
  • รายงานธุรกรรมของระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่สามารถส่งออกได้ ซึ่งรายงานผ่าน API โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ รหัสแพ็กเกจแอปที่เกี่ยวข้อง และอัตราค่าบริการ
ฉันจะดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้ที่ไหน

การขยายการผสานรวมที่มีอยู่กับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เพื่อใช้ประโยชน์จาก API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นนั้นทำได้ง่ายดาย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบและหลักการเดียวกันกับ Play Billing Library และ Play Developer API ซึ่งหมายความว่าจะเข้ากันได้กับรูปแบบที่คุณมีอยู่และเป็นสิ่งที่ทีมคุ้นเคยอยู่แล้วโดยส่วนใหญ่

ในคู่มือการผสานรวม เรามีหลักเกณฑ์และแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งานและจัดการกรณีการใช้งานสำหรับการเรียกเก็บเงินระบบอื่นๆ รวมถึงการซื้อแบบครั้งเดียวและแบบตามรอบ และมีข้อมูลโค้ดตัวอย่างเพื่อให้ติดตั้งใช้งานได้ง่าย เรายินดีรับฟังความคิดเห็นจากนักพัฒนาแอปเกี่ยวกับ API เหล่านี้และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์ หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น โปรดติดต่อเราที่นี่

หากเข้าร่วมการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจอยู่แล้ว ฉันต้องทำอะไรบ้างเพื่อเปลี่ยนไปใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น

ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในการผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นก่อนกำหนดเวลาการย้ายข้อมูลในวันที่ 13 มีนาคม 2024 เมื่อย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่จากระยะเวลาที่กำหนดเอง และเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป

ฉันจะรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อฉันเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่อัตโนมัติได้อย่างไร

สำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มต้นขณะที่คุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยไม่มีการรายงานอัตโนมัติ คุณจะต้องย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการเหล่านี้ผ่าน ExternalTransactions API ก่อนที่จะรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API การย้ายข้อมูลแบบครั้งเดียวนี้ต้องดำเนินการก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2024 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาการย้ายข้อมูล API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น เมื่อย้ายข้อมูลแล้ว คุณจะต้องรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API เท่านั้น และไม่จำเป็นต้องรายงานผ่านการรายงานด้วยตนเองอีกต่อไป

หากยังไม่ได้ย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ คุณยังคงต้องรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำต่อไปผ่านวิธีการรายงานด้วยตนเองที่มีอยู่

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
7376130313629111853
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false