นักพัฒนาแอปจํานวนมากอาศัยผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลที่สามเพื่อเปิดใช้ฟังก์ชันการทํางานหลักในแอปของตน บริการเหล่านี้มักจะเผยแพร่ผ่านไลบรารีโค้ดอย่างน้อย 1 รายการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเรียกรวมกันว่าชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK)
ดัชนี SDK ของ Google Play ช่วยให้คุณมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDK เชิงพาณิชย์ที่ใช้บ่อยที่สุด โดยจะนำข้อมูลการใช้งานจากแอปของ Google Play มารวมกับข้อมูลที่รวบรวมผ่านการตรวจหาโค้ดเพื่อระบุแอตทริบิวต์และสัญญาณต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าจะใช้ เก็บ หรือนํา SDK ออกจากแอปหรือไม่
การใช้ดัชนี SDK
คุณสามารถค้นหา SDK ตามชื่อ ชื่อบริษัท หรือรหัส Maven ในแถบค้นหา หรือค้นหาภายในหมวดหมู่ที่มี SDK ดังกล่าวอยู่ จากจุดนั้น คุณจะคลิกรายการเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ข้อมูลของ SDK แต่ละรายการรวมข้อมูลการใช้งานจากแอปของ Google Play ที่มีการติดตั้งอย่างน้อย 1,000 ครั้ง (การติดตั้งในอุปกรณ์ที่เปิดอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา) และที่ใช้ทรัพยากร Dependency ของไลบรารีร่วมกับ Google Play
วิธีทําความเข้าใจข้อมูลของ SDK
ภายในหน้าข้อมูลของ SDK คุณจะเห็นชุดสัญญาณและแอตทริบิวต์ของ SDK ต่อไปนี้
- รายละเอียดนักพัฒนาแอป: ชื่อ SDK, โลโก้ และชื่อบริษัทตามที่จดทะเบียนโดยผู้ให้บริการ SDK ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่ได้จดทะเบียน SDK รายละเอียดจะมาจากไฟล์ POM ของ SDK เวอร์ชันล่าสุด หากไฟล์ดังกล่าวไม่พร้อมใช้งาน รหัส Maven ของ SDK จะแสดงแทน พร้อมทั้งชื่อโดเมนและโลโก้ตัวยึดตําแหน่ง
- ป้ายการจดทะเบียน: ระบุว่า SDK นี้จดทะเบียนใน Google Play SDK Console ป้ายจะมีลักษณะดังนี้
ในฐานะนักพัฒนาแอป Google Play คุณมีหน้าที่ตรวจสอบให้แน่ใจว่า SDK ที่ใช้ไม่ได้ทําให้คุณละเมิดนโยบายโปรแกรมสําหรับนักพัฒนาแอปของ Google Play
- รายละเอียด SDK:
- รายการอาร์ติแฟกต์ของ Maven ที่รวมกันเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการเชิงพาณิชย์แต่ละรายการที่ผู้ให้บริการ SDK เสนอให้ รายการนี้อาจไม่ได้ครบถ้วนเสมอไป เนื่องจากอาจมีไลบรารีอื่นๆ ที่ SDK นี้ใช้งานอยู่ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะรวมไลบรารีระดับบนสุดไว้ด้วย
- URL สําหรับผู้ให้บริการ SDK เพื่อลิงก์ไปยังคําแนะนําที่มีไว้ช่วยให้นักพัฒนาแอปกรอกแบบฟอร์มความปลอดภัยของข้อมูลได้
- การผสานรวม Android: ข้อมูลนี้อิงตาม SDK เวอร์ชันล่าสุด:
- เวอร์ชันล่าสุด
- ระดับ API เป้าหมาย
- ระดับ API ขั้นต่ำ
- กฎ Proguard – ตรวจสอบว่ามีไฟล์ Proguard อยู่ใน AAR หรือ JAR ที่เผยแพร่ในที่เก็บ Maven หรือไม่ หากมี ไฟล์ Proguard จะรวมกับไฟล์กฎ ProGuard ของแอปโดยอัตโนมัติ
- หมายเหตุ: ทั้งระดับ API เป้าหมายและระดับ API ขั้นต่ำได้มาจาก AndroidManifest.xml ของไฟล์ AAR เมื่อไฟล์ JAR ได้รับการเผยแพร่ เราไม่มีข้อมูลนี้และจะแสดง "ไม่ได้ระบุ" แทน
- การรับ SDK ใช้งานตามการติดตั้งแอป: แสดงการใช้งาน SDK ตามแอปที่มีขนาดฐานผู้ใช้งานต่างๆ
- การรับเวอร์ชัน SDK ไปใช้งาน: แสดงเวอร์ชัน SDK ที่ใช้บ่อยที่สุด 5 รายการและจํานวนแอปที่ใช้แต่ละเวอร์ชันเหล่านั้น
- สิทธิ์ของ Android: แสดงรายการสิทธิ์ของ Android ที่ป้องกัน API ที่ SDK เวอร์ชันล่าสุดอย่างน้อย 1 รายการใช้อยู่ ระบบจะถือว่า SDK เป็นเวอร์ชันล่าสุดหากเผยแพร่ภายในปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการใช้งานที่ไม่บังคับโดย SDK ในกรณีที่ SDK นี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์นี้ตลอดเวลา และอาจใช้เฉพาะกรณีที่แอปทำให้ SDK พร้อมใช้งานเท่านั้น
- หมายเหตุ: Google Play ไม่อาจตรวจพบสิทธิ์ทั้งหมดที่ SDK ใช้ได้ทุกครั้ง
- การคง SDK ไว้ตามแอป: แสดงความน่าจะเป็น (โดยอิงตามสิ่งที่สังเกตพบในแอปที่เผยแพร่ใน Google Play) ที่แอปจะยังใช้ SDK นี้อยู่หลังเวลาที่ระบุไว้ ระบบจะถือว่าแอปหยุดใช้ SDK แล้วหากไม่มีแอปเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ใช้ SDK ดังกล่าว
- ภาพรวมของเวอร์ชัน: สรุปข้อความเฉพาะเวอร์ชันของผู้ให้บริการ SDK ที่เข้าร่วมใน Play SDK Console
SDK ไหนอยู่ในดัชนีนี้บ้าง
SDK ต้องจัดอยู่ในหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งและต้องผ่านเกณฑ์การติดตั้งแอปที่ใช้งานอยู่และการใช้งานของผู้ใช้ จึงจะมีรายชื่ออยู่ในดัชนี SDK ของ Google Play ได้ นอกจากนั้นยังต้องจัดจำหน่ายผ่านที่เก็บ Maven ด้วย หากคุณเห็นว่า SDK ของคุณควรมีชื่ออยู่ในดัชนี โปรดกรอกแบบฟอร์มคําขอข้อมูลรายชื่อซึ่งอยู่ที่ด้านบนของหน้าดัชนี SDK และระบุรายละเอียด SDK ของคุณ หากพบว่าตรงตามเกณฑ์ของรายชื่อ เราจะติดต่อคุณเพื่อเพิ่ม SDK ดังกล่าวเข้าสู่ดัชนี
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ดูข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ SDK ของบุคคลที่สามในแอป
- หากคุณเป็นผู้ให้บริการ SDK ให้ดูรูปแบบที่ไม่บังคับนี้ ซึ่งสามารถใช้เผยแพร่คําแนะนําสําหรับผู้ใช้ เกี่ยวกับส่วนความปลอดภัยของข้อมูลใน Google Play