ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2023 เป็นต้นไป นักพัฒนาแอปที่เสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ในเกาหลีใต้ต้องใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น โปรดดูรายละเอียดต่อไปนี้และไปที่คู่มือการผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
ผลจากการออกกฎหมายล่าสุดนี้ เราให้นักพัฒนาแอปทุกรายสามารถเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นควบคู่ไปกับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play สำหรับผู้ใช้ในเกาหลีใต้ที่ดำเนินการผ่านมือถือและแท็บเล็ต หากผู้ใช้ชำระเงินผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น ค่าบริการ Google Play จะลดลง 4% ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นโยบายการชำระเงิน
หากไม่ต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณก็ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
การผสานรวมระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น
นักพัฒนาแอปจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดหลายข้อเพื่อรักษาประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยและสอดคล้องกันสำหรับผู้ใช้
หากต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นควบคู่ไปกับระบบของ Google Play เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้ในเกาหลีใต้ คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- กรอกแบบฟอร์มประกาศการเรียกเก็บเงิน ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ และทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานที่จำเป็นเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมผ่านทีมสนับสนุนของ Google (เช่น ตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินตามที่จำเป็น)
- ทำตามข้อกำหนดด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัยโดยรับการรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI DSS และให้วิธีการรายงานธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงแก่ผู้ใช้
- ผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นตามที่อธิบายไว้ในคู่มือการผสานรวม API นี้
- อัปเดตการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console เพื่อเลือกใช้หรือไม่ใช้สำหรับแต่ละแอป จัดการโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
- รายงานธุรกรรมที่ได้รับอนุญาตทั้งหมดจากผู้ใช้ในเกาหลีใต้ไปยัง Google Play ภายใน 24 ชั่วโมงโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น
- ชำระค่าบริการ Google Play ที่ปรับค่าใช้จ่ายแล้วสำหรับธุรกรรมที่มีการออกใบแจ้งหนี้ซึ่งใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่ไม่ใช่ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play
หากกรอกแบบฟอร์มประกาศและทำขั้นตอนการลงทะเบียนเสร็จสิ้น รวมถึงย้ายข้อมูลไปยัง API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นแล้ว คุณจะต้องทำตามขั้นตอนที่ 3 และ 4 ในส่วนก่อนหน้านี้ เมื่อเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเรา
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมถึงยังกำหนดให้ต้องมีระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play คู่กับระบบของนักพัฒนาแอปGoogle Play เชื่อว่าผู้ใช้ควรมีตัวเลือกในการใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Play เมื่อซื้อสินค้าดิจิทัลจากแอปที่ติดตั้งใน Google Play เราสร้างระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ภายใต้มาตรฐานสูงสุดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจเมื่อทำการสั่งซื้อในแอป ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นอาจไม่มีฟีเจอร์และตัวเลือกการคุ้มครองหรือการชำระเงินแบบเดียวกับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เช่น การควบคุมโดยผู้ปกครอง วิธีการชำระเงินของครอบครัว การจัดการการสมัครใช้บริการ บัตรของขวัญ Google Play และ Play Points
ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสามารถใช้กับการซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการที่ขายให้แก่ผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ต ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นโยบายการชำระเงินฉบับปรับปรุง
สำหรับผู้ใช้ที่เลือกระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น ค่าบริการจะลดลงจากค่าบริการปัจจุบัน 4% สำหรับผู้ใช้ที่เลือกระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ค่าบริการจะยังคงเท่ากับในปัจจุบัน ค่าบริการสำหรับนักพัฒนาแอปที่ยังคงใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play อยู่ต่อไปจะยังคงเหมือนเดิม โดยนักพัฒนาแอป 99% มีคุณสมบัติตรงกับการชำระค่าบริการไม่เกิน 15%
ค่าบริการจะคำนวณตามธุรกรรมที่มีการชำระเงินจากผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตในเกาหลีใต้ คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ที่มีวันที่ครบกำหนดและวิธีการชำระเงิน
ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2023 เป็นต้นไป คุณจะสามารถรายงานธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นและต้องรายงานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการชำระเงินได้รับอนุมัติ API เหล่านี้ช่วยลดความซับซ้อนในการรายงานให้แก่นักพัฒนาแอป และทำให้ธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play ด้วย
หากยังไม่ได้ผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณจะรายงานธุรกรรมด้วยตนเองได้จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2023 ในกรณีนี้ คุณจะต้องรายงานจำนวนเงินของธุรกรรมการชำระเงินด้วยตนเองเดือนละครั้งภายในวันทำการที่ 5 ของแต่ละเดือน เช่น รายงานสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2021 จะต้องส่งภายในวันที่ 7 มกราคม 2022
API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้รับการออกแบบให้ผสานรวมและใช้งานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสำหรับนักพัฒนาแอป โดย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นมีประโยชน์ดังนี้
- หน้าจอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่แสดงผลโดย Google Play ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องสร้างและดูแลรักษาข้อมูลและ/หรือหน้าจอที่มีตัวเลือกด้วยตนเอง
- การรายงานธุรกรรมที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำจุดสัมผัสต่างๆ ที่ต้องทำด้วยตนเองออกและลดข้อผิดพลาดในการรวมข้อมูลหรือการปรับยอด
- ธุรกรรมจากระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่รายงานผ่าน API จะแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play
นอกจากนี้ เรายังได้ทำการปรับปรุงต่อไปนี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้ง่ายขึ้น
- ปรับปรุงประสบการณ์แบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจ
- จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นด้วยตนเองผ่าน Play Console เช่น การเปิดหรือปิดใช้การเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจในแอปที่มีสิทธิ์ตามตลาดที่มีสิทธิ์ การจัดการโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
- รายงานธุรกรรมของระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่สามารถส่งออกได้ ซึ่งรายงานผ่าน API โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ รหัสแพ็กเกจแอปที่เกี่ยวข้อง และอัตราค่าบริการ
การขยายการผสานรวมที่มีอยู่กับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เพื่อใช้ประโยชน์จาก API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นนั้นทำได้ง่ายดาย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบและหลักการเดียวกันกับ Play Billing Library และ Play Developer API ซึ่งหมายความว่าจะเข้ากันได้กับรูปแบบที่คุณมีอยู่และเป็นสิ่งที่ทีมคุ้นเคยอยู่แล้ว
ในคู่มือการผสานรวม เรามีหลักเกณฑ์และแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งานและจัดการกรณีการใช้งานสำหรับการเรียกเก็บเงินระบบอื่นๆ รวมถึงการซื้อแบบครั้งเดียวและแบบตามรอบ และมีข้อมูลโค้ดตัวอย่างเพื่อให้ติดตั้งใช้งานได้ง่าย เรายินดีรับฟังความคิดเห็นจากนักพัฒนาแอปเกี่ยวกับ API เหล่านี้และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์ หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น โปรดติดต่อเรา
คุณจะต้องผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นและอัปเดตการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console เมื่อเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป
ได้ นักพัฒนาแอปจะแสดงราคาที่แตกต่างกันในระบบการเรียกเก็บเงินแต่ละระบบก็ได้ หากต้องการ
ได้ นักพัฒนาแอปที่ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสามารถโปรโมตระบบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวภายในแอปของตน แต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้าน UX ของเราด้วยเพื่อดูแลให้ผู้ใช้ทราบถึงตัวเลือกที่มีให้และได้รับประสบการณ์ของผู้ใช้ที่สอดคล้องกัน
ใช่ Google Play อนุญาตให้นักพัฒนาแอปใช้การลิงก์ออกนอกแอปเพื่อนำเสนอการชำระเงินบนเว็บเป็นวิธีการชำระเงินทางเลือกสำหรับผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตในเกาหลีใต้ โดยการใช้ลิงก์เหล่านี้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในการผสานรวมระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่เราระบุไว้ในหน้านี้ เช่นเดียวกับวิธีการชำระเงินทางเลือกอื่นๆ
โปรดทราบว่าการชำระเงินผ่านการลิงก์ออกนอกแอปเป็นการชำระเงินบนเว็บที่จัดการผ่านอินเทอร์เฟซเว็บ นักพัฒนาแอปจะต้องแสดงตัวเลือกการลิงก์ออกนอกแอปไว้ในแอปของตนโดยใช้ WebView แบบฝังซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย เข้าใจได้ และสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
เรายังกำหนดให้นักพัฒนาแอปปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และประสบการณ์ของผู้ใช้ตามที่อธิบายไว้เพิ่มเติมในหลักเกณฑ์ด้าน UX ของเราด้วย และตามที่ได้ประกาศไปแล้ว นักพัฒนาแอปจะได้รับส่วนลดค่าบริการ 4% สำหรับธุรกรรมที่ผู้ใช้ในเกาหลีใต้เลือกชำระเงินผ่านการชำระเงินทางเลือกด้วยการลิงก์ออกนอกแอปนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการสื่อสารกับผู้ใช้ในเกาหลีเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินทางเลือกได้ที่นโยบายการชำระเงินของ Google Play
เราไม่รับคำขอขยายเวลาแล้วเนื่องจากพ้นกำหนดในการย้ายข้อมูลแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2023 เป็นต้นไป นักพัฒนาแอปที่เสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้ในเกาหลีใต้ต้องใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น