เมื่อมีการสมัครใช้บริการ Nest Aware ลำโพงหรือจอแสดงผล Google ของคุณ (Google Home Mini, Google Nest Hub และอื่นๆ) อาจจับเสียงสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์และส่งการแจ้งเตือนให้คุณจากแอป Home นอกจากนี้ลำโพงหรือจอแสดงผลอาจแจ้งให้คุณทราบเมื่อตรวจพบเสียงกระจกแตก (เช่น หน้าต่าง) ในบ้านด้วย วิธีนี้ช่วยให้ลำโพงหรือจอแสดงผลแจ้งเตือนคุณได้เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น แม้คุณจะอยู่ที่อื่น
How to turn on Sound Detection
สิ่งสำคัญที่ควรทราบ
-
การตรวจจับเสียงไม่ได้ทำให้ลำโพงหรือจอแสดงผลสามารถตรวจจับควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ แต่จะตรวจจับได้เฉพาะเสียงของสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ การตรวจจับเสียงไม่ได้มีไว้แทนที่ระบบสัญญาณเตือนและไม่สามารถติดต่อบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น ตำรวจหรือสถานีดับเพลิง แทนคุณได้
-
คุณต้องมีการสมัครใช้บริการ Nest Aware และที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งบันทึกไว้ในแอป Home จึงจะใช้การตรวจจับเสียงในลำโพงหรือจอแสดงผลได้
-
การตรวจจับสัญญาณเตือนควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ตลอดจนเสียงกระจกแตกไม่มีให้ใช้งานในการสมัครใช้บริการ Nest Aware รุ่นที่ 1
-
คุณต้องใช้แอป Home เพื่อเปิดการตรวจจับเสียงสำหรับลำโพงหรือจอแสดงผลและเปลี่ยนการตั้งค่า
อุปกรณ์อื่นๆ
กล้อง Nest ยังตรวจจับเสียงและแจ้งเตือนคุณได้ด้วย หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม ให้อ่านบทความเกี่ยวกับการตรวจจับการเคลื่อนไหวและเสียงของกล้อง Nest
Nest Secure ตรวจจับเสียงกระจกแตกได้ด้วย อ่านบทความการตรวจจับกระจกแตกของ Secure เพื่อดูวิธีการทำงานของฟีเจอร์นี้และวิธีตั้งค่าในแอป Nest
วิธีการทำงานของการตรวจจับเสียง
การตรวจจับเสียงช่วยให้ลำโพงหรือจอแสดงผลแจ้งเตือนคุณได้เมื่อตรวจพบเสียงสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ตลอดจนเสียงกระจกแตก แม้ในขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน
ตัวอย่างเช่น หากคุณออกจากบ้านไปแล้วแต่ทิ้งบางอย่างไว้บนเตา สัญญาณเตือนควันในบ้านจะส่งเสียงเมื่อตรวจพบควัน การสมัครใช้บริการ Nest Aware ช่วยให้ลำโพงที่อยู่ในห้องเดียวกับสัญญาณเตือนควันสามารถตรวจจับเสียงที่มาจากสัญญาณเตือนควัน
อุปกรณ์จะอัดเสียงสัญญาณเตือนและบันทึกคลิปเสียงไว้ในแอป Home หากคุณเปิดการแจ้งเตือนไว้ ก็จะได้รับการแจ้งเตือนจากแอป Home
คุณใช้การแจ้งเตือนเพื่อไปยังเหตุการณ์การตรวจจับเสียงในฟีดได้โดยตรง จากตรงนั้น เพียงแตะเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อตรวจสอบคลิปเสียงในแอป Home และคุณยังฟังเสียงแบบสดเพื่อพยายามยืนยันเสียงของสัญญาณเตือนในบ้านได้ด้วย
หากจำเป็น คุณสามารถใช้การโทรหาหมายเลขฉุกเฉินในแอป Home เพื่อติดต่อศูนย์ให้บริการทางโทรศัพท์ของ 911 ใกล้บ้านคุณ แม้ว่าคุณจะอยู่ที่อื่น
ลำโพงสามารถทำงานในลักษณะเดียวกันหากตรวจพบเสียงกระจกหน้าต่างแตกในบ้าน วิธีนี้ช่วยให้คุณติดต่อบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้ส่งความช่วยเหลือไปที่บ้านได้หากมีผู้บุกรุก
ข้อกำหนดในการใช้การตรวจจับเสียง
-
การสมัครใช้บริการ Nest Aware การตรวจจับเสียงไม่มีให้ใช้งานในการสมัครใช้บริการ Nest Aware รุ่นที่ 1
-
แอป Home
-
ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
-
ลำโพงหรือจอแสดงผลรุ่นใดก็ได้ต่อไปนี้
-
Google Home
-
Google Home Max
-
Google Nest Mini
-
Google Home Mini
-
Google Nest Audio
-
Google Nest Hub
-
Google Nest Hub Max
-
Google Nest Wifi Point
-
หลักเกณฑ์เกี่ยวกับตำแหน่งสำหรับการตรวจจับเสียง
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการตรวจจับเสียง ควรติดตั้งอุปกรณ์ไว้ในห้องเดียวกับสัญญาณเตือนควัน สัญญาณเตือนคาร์บอนมอนอกไซด์ หรือหน้าต่าง
หากทำไม่ได้ อุปกรณ์ควรมีเส้นทางที่ปราศจากสิ่งกีดขวางไปยังสัญญาณเตือนหรือหน้าต่าง ซึ่งหมายความว่าไม่ควรมีผนัง ประตู และเฟอร์นิเจอร์ปิดกั้นเสียงจากสัญญาณเตือนหรือหน้าต่างที่จะส่งถึงอุปกรณ์
ดูเหตุการณ์การตรวจจับเสียงในแอป Home
ในแอป Home คุณสามารถดูและเลือกเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อตรวจสอบคลิปเสียงที่ลำโพงหรือจอแสดงผลบันทึกไว้
จากการแจ้งเตือน
ในฟีด
ฟีดคือส่วนหนึ่งในแอป Home ซึ่งแสดงเหตุการณ์ที่ผลิตภัณฑ์ Nest ที่รองรับตรวจจับได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีดได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือ
-
หากต้องการไปที่ฟีด ให้แตะ ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
-
ค้นหาและเลือกเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อเปิดคลิปเสียง คุณอาจต้องเลื่อนลงเพื่อหาเหตุการณ์การตรวจจับเสียงที่ต้องการ
-
เหตุการณ์สัญญาณเตือนควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ตลอดจนกระจกแตกจะแสดงโดยอัตโนมัติในส่วนเหตุการณ์สำคัญที่ด้านบนของฟีด
-
เหตุการณ์สัญญาณเตือนควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ตลอดจนกระจกแตกเก่าๆ จะย้ายไปอยู่ในส่วนเหตุการณ์ล่าสุดในฟีด
-
สัญญาณเตือนที่ดำเนินอยู่
หากจอแสดงผลหรือลำโพงตรวจพบสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์และเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวจะแสดงที่ด้านบนของแอป Home โดยเหตุการณ์การตรวจจับเสียงที่กำลังดำเนินอยู่จะอยู่ที่ด้านบนของฟีด
ปิดเหตุการณ์การตรวจจับเสียง
เมื่อปิดเหตุการณ์การตรวจจับเสียงในฟีด เหตุการณ์ดังกล่าวจะย้ายไปอยู่ที่ด้านบนของเหตุการณ์ล่าสุด
-
หากเหตุการณ์การตรวจจับเสียงอยู่ในส่วนเหตุการณ์สำคัญในฟีด ให้แตะปิด
-
หากลำโพงหรือจอแสดงผลตรวจพบสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์และเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวจะแสดงที่ด้านบนของฟีด ไปที่ฟีด แตะปิด ที่เหตุการณ์
ดูประวัติของ Home
คุณไปที่ประวัติของบ้านเพื่อดูและกรองเหตุการณ์การตรวจจับเสียงได้ วิธีนี้เป็นประโยชน์หากคุณต้องการดูเหตุการณ์ที่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นและจะไม่ปรากฏในส่วน "เหตุการณ์สำคัญ" หรือ "เหตุการณ์ล่าสุด"
-
ไปที่ฟีด
-
เลือกไปที่ประวัติที่ด้านบนของหน้าจอ
-
ใช้ตัวกรองต่อไปนี้ในประวัติของ Home เพื่อระบุประเภทของกิจกรรมที่ต้องการตรวจสอบ
-
อุปกรณ์
-
ประเภทของกิจกรรม
-
-
ค้นหาและเลือกเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อเปิดคลิปเสียง คุณอาจต้องเลื่อนลงเพื่อหาเหตุการณ์ที่ต้องการ
คลิปเสียง
เลือกเหตุการณ์การตรวจจับเสียงในแอป Home เพื่อเปิดคลิปเสียงที่ลำโพงหรือจอแสดงผลจับได้
ลบคลิปเสียง
-
แตะเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อเปิดคลิปเสียงของเหตุการณ์
-
แตะตัวเลือกที่มุมขวาบนของหน้าจอ
-
เลือกลบคลิปเสียง
ฟังเสียงแบบสด
หากเกิดเหตุการณ์สัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ หรือกระจกแตกเมื่อเร็วๆ นี้ คุณสามารถฟังสดว่าลำโพงหรือจอแสดงผลกำลังตรวจพบเสียงอะไร
หมายเหตุ: เมื่อเริ่มฟังสด ลำโพงของอุปกรณ์จะประกาศว่ามีคนกำลังฟังสดอยู่
-
เลือกเหตุการณ์การตรวจจับเสียงเพื่อเปิดคลิปเสียงของเหตุการณ์
-
แตะฟังสด คุณจะฟังเสียงแบบสดได้สูงสุด 3 นาที
ใช้ไมโครโฟนของโทรศัพท์เพื่อพูดผ่านอุปกรณ์
ใช้การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน
หากกำลังฟังเสียงแบบสดในแอป Home คุณสามารถแตะการโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน เพื่อโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉินใกล้บ้าน
หมายเหตุ: ตรวจสอบว่าการโทรหาหมายเลขฉุกเฉินในแอป Home เปิดอยู่ หากไม่ได้เปิด คุณจะไม่เห็นตัวเลือกให้ใช้การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน
ดูวิธีใช้การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน
เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับลำโพงหรือจอแสดงผล
ไปที่การตั้งค่าการตรวจจับเสียงในแอป Home โดยทำดังนี้
-
แตะการตั้งค่า ในแอป Home
-
เลือก Nest Aware
-
เลือกการตรวจจับเสียง คุณจะสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการตรวจจับเสียงจากตรงนั้นได้
อ่านส่วนด้านล่างเพื่อดูวิธีเปลี่ยนการตั้งค่าบางอย่าง
เปิดหรือปิดการตรวจจับเสียง
หมายเหตุ: คุณต้องเปิดไมโครโฟนของลำโพงหรือจอแสดงผลจึงจะใช้งานการตรวจจับเสียงได้
เมื่อเปิดการตรวจจับเสียงแล้ว คุณจะทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้
-
เลือกเสียงที่จะให้ตรวจจับ
-
เลือกลำโพงและจอแสดงผลที่จะเข้าร่วมในการตรวจจับเสียง
หมายเหตุ: การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลกับทุกคนในบ้าน สมาชิกในบ้านจะตั้งค่ากำหนดการตรวจจับเสียงของตนเองไม่ได้ แต่สมาชิกในบ้านแต่ละคนสามารถตั้งค่ากำหนดการแจ้งเตือนของตนเองได้
-
แตะการตั้งค่า ในแอป Home
-
เลือก Nest Aware
-
เลือกการตรวจจับเสียง
-
สลับสวิตช์เพื่อเปิดหรือปิดการตรวจจับเสียง
เปลี่ยนเสียงที่ต้องการให้ตรวจจับ
เมื่อเปลี่ยนเสียงที่ต้องการให้ตรวจจับ การตั้งค่าดังกล่าวจะมีผลกับลำโพงและจอแสดงผลทั้งหมดที่คุณได้ตั้งค่าการตรวจจับเสียงไว้
-
แตะการตั้งค่า ในแอป Home
-
เลือก Nest Aware
-
เลือกการตรวจจับเสียง
-
ในส่วน "เสียง" ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกช่องข้างสัญญาณเตือนควัน สัญญาณเตือนคาร์บอนมอนอกไซด์ และกระจกแตกเพื่อตั้งค่าเสียงที่คุณต้องการให้อุปกรณ์ตรวจจับ
ตั้งค่าอุปกรณ์ที่จะเข้าร่วมในการตรวจจับเสียง
เมื่อคุณเปลี่ยนลำโพงและจอแสดงผลที่เข้าร่วมในการตรวจจับเสียง การตั้งค่าจะมีผลกับสมาชิกในบ้านทั้งหมด สมาชิกในบ้านแต่ละคนไม่สามารถตั้งค่าอุปกรณ์ที่จะเข้าร่วมในการตรวจจับเสียง
-
แตะการตั้งค่า ในแอป Home
-
เลือก Nest Aware
-
เลือกการตรวจจับเสียง
-
ในส่วน "อุปกรณ์" ให้สลับสวิตช์เพื่อเปิดหรือปิดการตรวจจับเสียงสำหรับอุปกรณ์แต่ละชิ้น
เปลี่ยนการตั้งค่าการแจ้งเตือน
สมาชิกในบ้านแต่ละคนสามารถเลือกว่าจะรับการแจ้งเตือนหรือไม่เมื่ออุปกรณ์ตรวจพบสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ตลอดจนกระจกแตกในบ้าน
-
แตะการตั้งค่า ในแอป Home
-
เลือก Nest Aware
-
เลือกการตรวจจับเสียง
-
แตะการแจ้งเตือนการตรวจจับเสียง
-
สลับสวิตช์ข้างสัญญาณเตือนควัน สัญญาณเตือนคาร์บอนมอนอกไซด์ และกระจกแตกเพื่อเปิดหรือปิดการแจ้งเตือนเสียงแต่ละประเภท
แก้ปัญหา
หากการตรวจจับเสียงไม่ทำงานในลำโพงหรือจอแสดงผล ให้ไปที่บทความแก้ปัญหาเกี่ยวกับการตรวจจับเสียง