หากต้องการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest คุณต้องยอมรับ (1) ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google และ (2) ข้อกำหนดเพิ่มเติมเหล่านี้ในการให้บริการของ Nest
โปรดอ่านเอกสารทุกฉบับอย่างละเอียด เอกสารเหล่านี้เรียกรวมกันว่า "ข้อกำหนด" โดยจะระบุถึงสิ่งที่คุณคาดหวังจากเราได้เมื่อใช้บริการของเรา และสิ่งที่เราคาดหวังจากคุณ
หากข้อกำหนดเพิ่มเติมเหล่านี้ขัดแย้งกับข้อกำหนดในการให้บริการของ Google ข้อกำหนดเพิ่มเติมเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้กับบริการของ Nest
"อุปกรณ์และบริการ Nest" ที่ข้อกำหนดเพิ่มเติมเหล่านี้มีผลครอบคลุมประกอบด้วย
- อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์แบรนด์ Nest และฟีเจอร์ต่างๆ (รวมเรียกว่า "อุปกรณ์ Nest") ซึ่งได้แก่ ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest, Nest Cam, อุปกรณ์จออัจฉริยะแบรนด์ Nest ที่มีฟีเจอร์ "Nest Cam", กริ่งประตูแบบบันทึกวิดีโอได้ Nest, ระบบสัญญาณกันขโมย Nest, ล็อกประตู Nest และสัญญาณเตือนควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ Nest รวมถึง
- Nest Aware (หรือบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อที่คล้ายกันจาก Google Nest) และบริการที่เรามีให้เพื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Nest เช่น เว็บแอป Nest, แอป Nest บนอุปกรณ์เคลื่อนที่, แอป Google Home เฉพาะเมื่อใช้เพื่อจัดการอุปกรณ์และบริการ Nest เหล่านี้เท่านั้น ตลอดจนบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่ออื่นๆ ที่เรามีให้ซึ่งสร้างมาเพื่ออุปกรณ์เหล่านี้โดยเฉพาะ (รวมถึงบริการแบบสมัครใช้งาน เช่น โปรแกรมด้านพลังงาน) แต่ไม่รวมบริการของ Google (เช่น Google Assistant, YouTube, Google Maps, Google Duo และบริการอื่นที่คล้ายกัน) ที่ใช้ได้กับอุปกรณ์ Nest และกับผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ของ Google ด้วย
ข้อกำหนดด้านอายุ
คุณต้องมีอายุอย่างน้อย 13 ปีจึงจะใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ได้ (หรืออายุมากกว่านี้ตามที่ประเทศของคุณระบุว่ามีสิทธิ์ใช้อุปกรณ์และบริการ Nest โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ปกครอง) อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดด้านอายุนี้ไม่ได้จำกัดการใช้งานบัญชี Google ที่มีการจัดการด้วย Family Link ซึ่งอนุญาตให้ใช้กับอุปกรณ์และบริการ Nest ทั้งหมด
การใช้บริการ Nest
บริการ Nest เมื่อคุณใช้บัญชี Google กับอุปกรณ์และบริการ Nest (1) Google จะจัดหาอุปกรณ์และบริการ Nest ให้แก่คุณ แต่ก็อาจว่าจ้าง Nest Labs, Inc. และบริษัทในเครือหรือบริษัทอื่นๆ เป็นผู้ให้บริการเพื่อจัดหาอุปกรณ์และบริการ Nest บางอย่างหรือทั้งหมดแก่คุณ โดยดำเนินการในนามของ Google และปฏิบัติตามวิธีการของ Google และ (2) ในขอบเขตที่คุณตกลงยอมรับข้อกำหนดของโปรแกรมใดๆ กับพาร์ทเนอร์บุคคลที่สามสำหรับโปรแกรมที่ผสานรวมกับอุปกรณ์และบริการ Nest (เช่น โปรแกรมด้านพลังงาน) การอ้างอิงถึงข้อกำหนดในการให้บริการของ Nest ในข้อกำหนดของโปรแกรมเหล่านั้นจะหมายถึงข้อกำหนดนี้ และการอ้างอิงถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Nest จะหมายถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google
การรับประกันตามกฎหมาย นิติบัญญัติในเขตอำนาจศาลบางแห่งอาจบอกเป็นนัยเกี่ยวกับการรับรอง เงื่อนไข หรือการรับประกัน หรือกำหนดภาระหน้าที่ซึ่งให้สิทธิบางอย่างของผู้บริโภคแก่คุณภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในเขตอำนาจศาลบางแห่ง บทบัญญัติเช่นนี้ไม่อาจยกเว้น จำกัด หรือแก้ไขได้ ยกเว้นในขอบเขตที่จำกัดและต้องมีการอ่านข้อกำหนดเหล่านี้ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว
การอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ เราอาจพัฒนาแพตช์ แก้ไขข้อบกพร่อง อัปเดต อัปเกรด และทำการแก้ไขอื่นๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์และบริการ Nest เป็นครั้งคราว ซึ่งอาจมีการติดตั้งโดยอัตโนมัติโดยไม่แจ้งให้ทราบเพิ่มเติมหรือต้องได้รับสิทธิ์เพิ่มเติมจากคุณ คุณตกลงที่จะรับอัปเดตอัตโนมัติเหล่านี้ หากไม่ต้องการอัปเดตดังกล่าว คุณควรหยุดใช้อุปกรณ์และบริการ Nest
ในบางภูมิภาค (เช่น เขตเศรษฐกิจยุโรป) คุณอาจเข้าถึงการตั้งค่าได้เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ได้รับการอัปเดตบางอย่าง หากกฎหมายกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนําอย่างยิ่งว่าคุณควรอนุญาตให้อุปกรณ์ได้รับการอัปเดตทั้งหมดเพื่อดูแลให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ Nest มีประสิทธิภาพสูงสุด หากมีการระบุแล้วว่าการอัปเดตจะช่วยแก้ไขช่องโหว่ที่ร้ายแรงด้านกฎหมาย ความปลอดภัย หรือการรักษาความปลอดภัย ระบบอาจทำการอัปเดตไม่ว่าคุณจะตั้งค่าการอัปเดตไว้อย่างไร
บริการของบุคคลที่สาม อุปกรณ์และบริการ Nest อาจอนุญาตให้คุณเข้าถึง ใช้งาน หรือโต้ตอบกับเว็บไซต์ แอป เนื้อหา ผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ ของบุคคลที่สามโดยตรง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ (ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง) โปรดทราบว่าเมื่อคุณใช้บริการของบุคคลที่สาม ข้อกำหนดและนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามจะมีผลบังคับใช้กับการใช้บริการดังกล่าว นอกเหนือจากข้อกำหนดนี้ตามที่เกี่ยวข้อง
ข้อจำกัดบางประการในการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest อุปกรณ์และบริการ Nest ไม่ได้รับการรับรองให้เป็นส่วนประสานงานกับหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉิน เว้นแต่จะได้รับการอนุมัติและการรับรองอย่างชัดแจ้งว่ามีการเปิดใช้สำหรับการตรวจสอบจากสถานีกลางผ่านสถานที่ตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ (อุปกรณ์และบริการ Nest ที่ได้รับการอนุมัติและการรับรองอย่างชัดแจ้งดังกล่าวคือ "อุปกรณ์ Nest ที่มีการสมัครรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ") Google จะไม่ส่งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไปที่บ้านของคุณเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (แต่อยู่ภายใต้บทบัญญัติเกี่ยวกับ "การรับประกันตามกฎหมาย" ข้างต้น) Google ไม่รับประกันหรือรับรองว่าการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest (รวมถึงอุปกรณ์ Nest ที่มีการสมัครรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญหรือบริการตรวจสอบจากบุคคลที่สามที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์และบริการ Nest) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย
การตรวจสอบจากสถานีกลางสำหรับอุปกรณ์ Nest ที่มีการเปิดใช้งานการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้ให้บริการตรวจสอบส่วนกลางจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ("ผู้ให้บริการตรวจสอบ") อาจให้บริการที่มอบการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ("การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ") ร่วมกับอุปกรณ์ Nest ที่มีการเปิดใช้งานการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หากคุณสมัครแพ็กเกจการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ คุณจะทำสัญญากับผู้ให้บริการตรวจสอบโดยตรง (ไม่ใช่ Google) เพื่อรับบริการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ผู้ให้บริการตรวจสอบและ Google เป็นบริษัทที่เป็นอิสระต่อกันและไม่ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างกันในฐานะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วง การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญได้รับการออกแบบให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Nest ที่มีการเปิดใช้งานการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อย่าพยายามใช้การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญกับอุปกรณ์และบริการอื่นของ Nest ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ Nest ที่มีการเปิดใช้งานการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
ใบอนุญาตและการลงทะเบียนรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งมีข้อกำหนดเกี่ยวกับใบอนุญาตหรือการลงทะเบียนสำหรับการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ร่วมกับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หากไม่มีใบอนุญาตหรือการลงทะเบียนที่จำเป็น หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินอาจไม่ตอบรับคำขอจากผู้ให้บริการตรวจสอบ หรือคุณอาจต้องเสียค่าปรับหรือได้รับบทลงโทษอื่นๆ คุณเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการได้มาซึ่งใบอนุญาตหรือการลงทะเบียนที่จำเป็นสำหรับการใช้การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญกับอุปกรณ์และบริการ Nest ตลอดจนการเสียค่าปรับและการรับบทลงโทษที่เกี่ยวข้องตามระดับที่กำหนดไว้
ไม่มีการคืนเงินเนื่องจากบริการหยุดชะงัก อุปกรณ์และบริการ Nest อาจถูกระงับเป็นการชั่วคราวเนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ระบบล้มเหลว การบำรุงรักษาและการซ่อมแซม หรือกรณีอื่นๆ โดยไม่แจ้งให้ทราบ ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (แต่อยู่ภายใต้บทบัญญัติเกี่ยวกับ "การรับประกันตามกฎหมาย" ข้างต้น) คุณจะไม่มีสิทธิ์รับเงินคืนเนื่องจากการหยุดบริการชั่วคราวในกรณีดังกล่าว
ข้อกำหนดของระบบ อุปกรณ์และบริการ Nest อาจทำงานไม่ถูกต้องหากไม่มีบัญชี Google และเครือข่าย Wi-Fi ที่ใช้งานได้ในบ้านซึ่งเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและมีแบนด์วิดท์เพียงพอ นอกจากนี้ยังอาจต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ของระบบเพื่อใช้อุปกรณ์และบริการ Nest บางอย่างหรือทั้งหมดด้วย เช่น อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีแอป Nest และ/หรือ Google Home คุณมีหน้าที่ตรวจสอบว่าตนเองมีองค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหมดของระบบ และองค์ประกอบเหล่านั้นใช้งานร่วมกันได้และมีการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง Google อาจเปิดใช้งานบลูทูธในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ เพื่อช่วยให้อุปกรณ์และบริการ Nest ทำงานได้อย่างถูกต้อง และเปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง (เช่น การปิดเสียงสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ใน Nest Protect จากระยะไกล)
อินเทอร์เน็ตสำรองสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ในกรณีที่สัญญาณ Wi-Fi ขาดหาย ในกรณีที่เครือข่าย Wi-Fi ของบ้านหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่มีสัญญาณ อุปกรณ์และบริการ Nest รวมถึงการแจ้งเตือนของแอปและของกล้องจากระยะไกล อาจไม่ทำงานอย่างที่ควรหรือไม่พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ปัญหานี้อาจส่งผลให้ผู้ให้บริการตรวจสอบไม่ได้รับสัญญาณเตือนภัยและไม่สามารถส่งหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินไปที่บ้านคุณได้ คุณอาจมีตัวเลือกในการเลือกแพ็กเกจการสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตสำรองสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ("อินเทอร์เน็ตสำรองสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่") เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อในกรณีที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบ้านขัดข้องและลดโอกาสที่อุปกรณ์และบริการ Nest จะหยุดชะงัก
การประหยัดพลังงานและประโยชน์อื่นๆ Google ไม่รับประกันหรือรับรองการประหยัดพลังงานระดับใดก็ตาม หรือประโยชน์อื่นใดจากการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest เว้นแต่ว่าเราจะรับรองว่ามี "การรับประกัน" อย่างชัดแจ้ง การประหยัดพลังงานและประโยชน์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมหรือการรับรู้ของ Google คุณรับทราบว่าคำแนะนำหรือโปรโมชันที่ Google เสนอให้ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์และบริการ Nest (รวมถึงคำแนะนำหรือโปรโมชันสำหรับบ้านของคุณโดยเฉพาะซึ่งอิงจากข้อมูลที่คุณให้เรา) ไม่ได้รับประกันว่าจะประหยัดพลังงานได้จริง
การติดตั้ง ทดสอบ และใช้งาน คุณมีหน้าที่ติดตั้งและใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ตามคู่มือและวิธีการที่เกี่ยวข้อง หากติดตั้งอุปกรณ์ไม่ถูกต้อง หรือหากอุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์อยู่นอกขอบเขตการตรวจจับหรือมีผนัง เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของส่วนตัว หรือสิ่งอื่นๆ กีดขวางหรือขวางทางอยู่ คุณอาจได้รับสัญญาณเตือนที่ผิดพลาด หรืออุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์นั้นตรวจจับไม่ได้ คุณมีหน้าที่ทดสอบอุปกรณ์และบริการ Nest หลังจากที่ติดตั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และบริการ Nest (รวมถึงเซ็นเซอร์ ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวข้อง) ทำงานและสื่อสารได้ตามที่ต้องการและตามที่ได้รับการออกแบบมา จากนั้นคุณต้องทดสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์และบริการ Nest เป็นประจำหลังการติดตั้ง
ตรวจสอบแบตเตอรี่อยู่เสมอ คุณมีหน้าที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ของอุปกรณ์และบริการ Nest เมื่อจำเป็น อุปกรณ์และบริการ Nest อาจทำงานไม่ถูกต้องหากแบตเตอรี่จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนใหม่ โปรดตรวจสอบแบตเตอรี่อยู่เสมอ
เครื่องตรวจจับควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ Google ไม่รับประกันหรือรับรองว่าเครื่องตรวจจับควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ผลิตหรือจำหน่ายโดย Google ประกอบด้วยระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยหรือเป็นไปตามข้อกำหนดของข้อบังคับ กฎหมายของรัฐ ของจังหวัด หรือของท้องถิ่นใดๆ มาตรการ เทศบัญญัติ เจ้าหน้าที่ผู้มีอํานาจตัดสินใจ หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมใดๆ อย่างเช่น NFPA 72 คุณเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือมาตรฐานอุตสาหกรรมใดๆ ที่อาจมีผลกับการติดตั้ง ใช้งาน และซ่อมบำรุงเครื่องตรวจจับควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์
มาตรฐานอุปกรณ์อัจฉริยะ อุปกรณ์และบริการ Nest อาจใช้มาตรฐานหรือวิธีการต่างๆ แบบเปิดหรือที่มีอยู่ทั่วไปในการสื่อสารและทำงานกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อซึ่งระบบหรือบริการอื่นที่ไม่ได้ผลิตโดย Google ก็ใช้ในลักษณะเดียวกัน อย่างเช่น Wi-Fi บลูทูธ และอุปกรณ์ IP บริการของบุคคลที่สามซึ่ง Google ไม่ได้ระบุว่าใช้งานได้กับอุปกรณ์และบริการ Nest อาจทำงานกับอุปกรณ์และบริการ Nest อย่างไม่ถูกต้อง คุณตกลงที่จะใช้เฉพาะบริการของบุคคลที่สามซึ่ง Google ระบุว่าใช้งานได้กับอุปกรณ์และบริการ Nest เท่านั้น
การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
- คำอธิบายของบริการโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน ผู้สมัครใช้บริการ Nest Aware ในสหรัฐอเมริกาอาจโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉินได้จากแอป Google Home ("ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉิน") ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิศาสตร์และการซื้อการสมัครใช้บริการ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ เมื่อผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Google จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ของหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินทราบหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ซึ่งผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินได้ให้ Google ในขั้นตอนการตั้งค่าฟีเจอร์การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน
- ข้อจำกัดเกี่ยวกับบริการโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน ข้อจำกัดที่มีผลต่อความพร้อมใช้งานของบริการโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่ (1) บริการอาจไม่พร้อมใช้งานหากไม่มีสัญญาณมือถือ (2) การโทรหาหมายเลขฉุกเฉินอาจต่อสายไม่ถึงผู้มอบหมายงานที่เกี่ยวข้อง หรืออาจต่อสายถึงฝ่ายดำเนินการของผู้มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลหลังเวลาทำการหรือไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินที่ผ่านการฝึกอบรมคอยรับสายอยู่ (3) การโทรหาหมายเลขฉุกเฉินอาจต่อสายถึงผู้มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง แต่ระบบอาจไม่ส่งหมายเลขโทรศัพท์หรือตำแหน่งของผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ (4) หากโทรหาหมายเลขฉุกเฉินในระหว่างเดินทาง ระบบอาจกำหนดเส้นทางการโทรดังกล่าวไปยังผู้มอบหมายงานที่เชื่อมโยงกับหมายเลขที่ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินลงทะเบียนไว้ ไม่ใช่ผู้มอบหมายงานในพื้นที่ (5) ในบางกรณี เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอาจไม่เห็นหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินและโทรกลับไม่ได้ (6) ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินที่หูหนวก มีปัญหาในการได้ยิน หรือมีความบกพร่องทางการพูดควรโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในพื้นที่โดยตรงโดยใช้ TTY หรือบริการถ่ายทอดการสื่อสารแทนการโทรหา 711 หรือหมายเลขที่เทียบเท่าในพื้นที่ (7) หากผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินเชื่อมโยงอุปกรณ์หลายเครื่องไว้กับบัญชี (ก) การโทรกลับของผู้มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องอาจไม่ทำให้อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงแต่ละเครื่องส่งเสียง (ข) หากผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินปิดใช้สายเรียกเข้า ผู้มอบหมายงานอาจโทรกลับไม่ได้ และ (ค) หากใช้แอป Google Home โทรไม่สำเร็จ ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดและอาจต้องใช้วิธีอื่นในการโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
- ภาระหน้าที่ของลูกค้า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบว่าที่อยู่ที่ลงทะเบียนในแอป Google Home เป็นที่อยู่จริงในปัจจุบันซึ่งผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินจะใช้ฟีเจอร์การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน (การไม่ระบุที่อยู่ปัจจุบันอาจทำให้ระบบติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินผิดที่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้หมายเลขฉุกเฉินได้รับการช่วยเหลือล่าช้า)
- ข้อจำกัดความรับผิดด้านความรับผิดของบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด Google และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดใดๆ ภายใต้ข้อกำหนดเพิ่มเติม (ไม่ว่าในรูปแบบสัญญา การละเมิด (ซึ่งรวมถึงความประมาท) ในกรณีอื่นใด) สำหรับความเสียหายทุกประเภท (ซึ่งรวมถึงความเสียหายโดยตรงและโดยอ้อม) อันเกิดขึ้นจากหรือเกิดขึ้นโดยเกี่ยวข้องกับการใช้งานหรือการพยายามใช้งานฟีเจอร์การโทรหาหมายเลขฉุกเฉินเพื่อเข้าถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการไม่สามารถเข้าถึงบริการดังกล่าว ความล่าช้าในการตอบสนองของบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน การจัดการของศูนย์บริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ หรือความไม่ถูกต้องของข้อมูลที่บริการช่วยเหลือฉุกเฉินได้รับจากบุคคลที่สามซึ่ง Google หรือบริษัทในเครือได้ว่าจ้างเพื่อให้อํานวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
- นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้มีผลบังคับกับการใช้ฟีเจอร์การโทรหาหมายเลขฉุกเฉินของ Nest Aware โปรดปฏิบัติตามนโยบายเหล่านี้เมื่อใช้ฟีเจอร์การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน หากพบพฤติกรรมที่อาจละเมิดนโยบาย เราอาจตรวจสอบและดำเนินการ เช่น จำกัดหรือสิ้นสุดการให้บริการ Nest Aware สำหรับบ้านหลังนั้นๆ
การตรวจจับเสียง (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
ฟีเจอร์การตรวจจับเสียงของ Nest Aware ตรวจจับได้เฉพาะเสียงสัญญาณเตือน (เช่น สัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์) หรือเสียงอื่นๆ ที่ระบุไว้ (เช่น เสียงกระจกแตก) ลำโพงและจอแสดงผลในบ้านและของ Google Nest ไม่สามารถตรวจจับอันตรายที่กำลังเกิดขึ้น (เช่น ควัน) ในบ้าน
การสมัครใช้บริการที่ซื้อผ่านบุคคลที่สาม
คุณสามารถซื้อการสมัครใช้บริการ Nest Aware ผ่านบุคคลที่สามที่ไม่ใช่ Google ("พาร์ทเนอร์") ได้ หากทำเช่นนั้น พาร์ทเนอร์จะเป็นผู้กำหนดค่าธรรมเนียมการสมัครใช้บริการ Nest Aware และคุณควรอ้างอิงข้อกำหนดของพาร์ทเนอร์เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับราคา ฟีเจอร์ของ Nest Aware ที่คุณใช้ได้ ขั้นตอนการยกเลิก และรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับการสมัครใช้บริการดังกล่าว
โปรดทราบว่าฟีเจอร์ของ Nest Aware ที่คุณใช้ได้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพาร์ทเนอร์ที่คุณซื้อการสมัครใช้บริการ นอกจากนี้ แพ็กเกจการสมัครใช้บริการบางแพ็กเกจยังอาจมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่พาร์ทเนอร์กำหนดไว้ต่างกันด้วย พาร์ทเนอร์ที่คุณซื้อการสมัครใช้บริการอาจกำหนดการมีสิทธิ์ใช้งานและการเข้าถึง Nest Aware ต่อไปของคุณ รวมถึงอาจระงับหรือสิ้นสุดการสมัครใช้บริการของคุณได้ทุกเมื่อ
การสื่อสาร
เราจะไม่รับผิดชอบต่อการกรองอัตโนมัติที่คุณหรือผู้ให้บริการเครือข่ายอาจใช้กับการแจ้งเตือนทางอีเมลของอุปกรณ์และบริการ Nest ซึ่งคุณขอรับ
การเปิดเผยข้อมูลสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย
หากคุณอาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย คุณอาจยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานให้ความช่วยเหลือด้านการร้องเรียนของแผนกบริการผู้บริโภคของกรมกิจการผู้บริโภคแห่งแคลิฟอร์เนียโดยติดต่อเป็นลายลักษณ์อักษรไปที่ 400 R Street, Sacramento, CA 95814, USA หรือทางโทรศัพท์ที่หมายเลข (800) 952-5210
บริการลูกค้า
หากมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์และบริการ Nest คุณติดต่อเราได้ ฝ่ายบริการลูกค้ารวมถึงทีมดูแลและสนับสนุนลูกค้าที่เสนอและจัดหาให้คุณไม่ใช่บริการหรือศูนย์ประสานงานฉุกเฉินหมายเลข 191 ไม่ใช่ผู้ให้บริการหรือศูนย์ประสานงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และไม่ใช่วิธีที่จะช่วยชีวิตผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงในบ้านของตนหรือที่อื่น โปรดอย่าติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหรือทีมดูแลและสนับสนุนลูกค้าที่ Google เสนอให้หากมีเหตุฉุกเฉินด้านชีวิต/ความปลอดภัย เหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ หรือเหตุฉุกเฉินอื่นใดก็ตาม หากคุณอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว ควรติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยดับเพลิง หรือรถพยาบาลทันทีด้วยการโทรไปที่หมายเลข 191 หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่เหมาะสม
ข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam
ส่วนนี้ใช้กับเนื้อหาวิดีโอ เนื้อหาเสียง และข้อมูลการจดจำใบหน้าที่ได้จากรูปภาพในวิดีโอซึ่งรวบรวมจาก Nest Cam, Nest Cam IQ, ผลิตภัณฑ์กริ่งประตูแบบบันทึกวิดีโอได้จากแบรนด์ Nest หรือการใช้ฟีเจอร์ "Nest Cam" ในผลิตภัณฑ์จออัจฉริยะแบรนด์ Nest (รวมเรียกว่าฟีเจอร์ "Nest Cam" และข้อมูลที่กล่าวถึงอยู่นี้เรียกว่า "ข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam") โดยทั่วไปแล้ว ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (เช่น GDPR) คุณจะยังเป็นผู้ควบคุมข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam อยู่ Google เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลของคุณ และ Nest Labs, Inc. เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยของ Google หากคุณย้ายข้อมูลในบัญชี Nest ไปยังบัญชี Google จะถือว่าคุณแจ้งให้ Nest Labs, Inc. เปิดเผยข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ที่เก็บไว้ในฐานะที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลของคุณกับ Google ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลแทน Nest Labs, Inc.
คุณ (และไม่ใช่ Google) มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเมื่อใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ซึ่งรวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับการบันทึกวิดีโอ ข้อมูลไบโอเมตริก หรือการบันทึกเสียงที่กำหนดให้คุณต้องบอกกล่าวหรือได้รับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ไม่รวมข้อมูลการใช้งานอื่นๆ และไม่รวมข้อมูลเมตาที่ไม่ได้บันทึกไว้ภายในตัววิดีโอเอง เช่น เวลา/วันที่ของวิดีโอ การกำหนดค่ากล้อง และข้อมูลเมตาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในที่ที่ GDPR หรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของญี่ปุ่น ("กฎหมายคุ้มครองของญี่ปุ่น") มีผลกับการประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam นั้น Google จะ
- ประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ตามวิธีการที่คุณระบุเท่านั้น ซึ่งรวมถึงจัดหาฟีเจอร์และบริการ Nest Cam ที่คุณขอ เว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป รัฐสมาชิกสหภาพยุโรป หรือกฎหมายคุ้มครองของญี่ปุ่นจะกำหนดเป็นอย่างอื่น โดยในกรณีนี้ เราจะดำเนินการเพื่อแจ้งให้คุณทราบข้อกำหนดดังกล่าว (เว้นแต่ว่ากฎหมายนั้นจะไม่อนุญาตด้วยเหตุผลสำคัญอย่างสาธารณประโยชน์)
- ตรวจสอบว่าบุคลากรของ Google ที่ได้รับอนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam มุ่งมั่นที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ
- ช่วยเหลือคุณในการขอสิทธิส่วนบุคคลที่คุณจำเป็นต้องทำ (และทำเองไม่ได้) ในขอบเขตที่เกี่ยวข้องและเป็นไปได้ หรือช่วยเหลือคุณเรื่องภาระหน้าที่อื่นๆ ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ใน GDPR มาตราที่ 32 ถึง 36 หรือกฎหมายคุ้มครองของญี่ปุ่น ในแต่ละกรณีจะคำนึงถึงลักษณะของการประมวลผลข้อมูลและข้อมูลที่เราได้รับ
- ดำเนินการตามที่คุณเลือกซึ่งอาจเป็นการลบหรือส่งคืนข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ตามคำขอหรือเมื่อคุณยกเลิกบัญชี (และลบสำเนาที่มีอยู่ เว้นแต่ว่า Google จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของเขตเศรษฐกิจยุโรป สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ หรือญี่ปุ่น)
- หากคุณขอเป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เกิน 1 ครั้งต่อปี Google จะให้สำเนารายงานการตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคุณจะต้องลงนามในข้อตกลงไม่เปิดเผยความลับหรือข้อตกลงในการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับกับ Google และ
- ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ภายใต้ GDPR มาตราที่ 32 หรือกฎหมายคุ้มครองของญี่ปุ่น
คุณให้สิทธิ์ Google ในการทำสัญญาเหมาช่วงการประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam กับผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยที่ยอมรับภาระหน้าที่เดียวกันหรือคล้ายกันตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้ ปัจจุบันรายชื่อผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยประกอบด้วย Nest Labs, Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (หาก Nest Labs, Inc. ใช้บริการ Google Cloud Platform ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่ระบุไว้ที่นี่) เราจะแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า 10 วันในกรณีที่มีผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยรายใหม่หรือผู้ประมวลผลข้อมูลย่อยทดแทนโดยการโพสต์การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเพิ่มเติมนี้ ในระหว่างระยะเวลาการแจ้งให้ทราบนั้น คุณจะคัดค้านการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรได้ หากเรายังแก้ไขข้อกังวลของคุณก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งให้ทราบดังกล่าวไม่ได้ คุณจะสิ้นสุดการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ได้โดยไม่มีค่าปรับ คุณมีหน้าที่ตรวจสอบข้อกำหนดเพิ่มเติมนี้เป็นประจำเพื่อให้ทราบข้อมูลที่ปรับปรุง
เรื่องการประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam ของ Google มีจุดประสงค์เพื่อจัดหาฟีเจอร์และบริการ Nest Cam ที่คุณขอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและการกำหนดค่าของคุณ การประมวลผลข้อมูลจะยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่คุณเข้าถึงและใช้ฟีเจอร์และบริการ Nest Cam Google จะประมวลผลข้อมูลเสียง/วิดีโอจาก Nest Cam เพื่อจัดหาฟีเจอร์และบริการ Nest Cam รวมถึงฟีเจอร์การแจ้งเตือนใบหน้าที่คุ้นเคย ข้อมูลส่วนตัวคือรูปภาพของบุคคลที่ระบุตัวตนได้ในวิดีโอ เสียงของบุคคลที่ระบุตัวตนได้ซึ่งได้ยินในวิดีโอ และข้อมูลการจดจำใบหน้าของบุคคลที่ปรากฏในวิดีโอ หมวดหมู่เจ้าของข้อมูลคือบุคคลที่อยู่ในสถานที่และรอบบริเวณที่ผู้ใช้ติดตั้ง Nest Cam ในพื้นที่ที่บังคับใช้ GDPR การใช้ Nest Cam มีไว้สำหรับการใช้งานส่วนตัวและในครัวเรือนเท่านั้น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลและกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่อาจกำหนดความรับผิดชอบเพิ่มเติมบางอย่างให้คุณและการใช้อุปกรณ์และบริการ Nest ของคุณ